Crazy Leveling System - ตอนที่ 303
CLS ตอนที่ 303: ข้าว่าข้ามีอยู่นะ
ตลอดทางที่พาตัวเหลยหยุนไปยังสถูปวิญญาณ ล้วนแต่เต็มไปด้วยเสียงสาปแช่งด้วยความโกรธของผู้คนในเผ่า พวกเขาพากันตะโกนด่าเขาอย่างไม่ปรานี ด่าว่าเขาชั่วช้าบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง แม้ว่าเย่ชิงเสวียนจะไม่ลงมือ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะลงมือกับเหลยหยุนได้ทุกเมื่อ!
แม้จะเป็นเผ่าเดียวกัน แต่การที่ทำให้คนในเผ่าต้องพบกับหายนะ เป็นเรื่องที่พวกเขารับไม่ได้อย่างแรง
แม้ว่าทั้งหมดจะเกิดจากอาณาจักรใต้พิภพ แต่หากไม่เป็นเพราะเหลยหยุน เผ่าภูตคงไม่ตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถขนาดนี้ ถ้าพวกเขารวมกำลังกันต่อต้านคนนอกเผ่า ต่อให้เป็นอาณาจักรใต้พิภพเองก็ไม่ลงมือกับพวกเขาโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะพลังของเผ่าภูตเองก็ไม่ได้อ่อนแอ ทั้งยังมีความสัมพันธ์จากขุมอำนาจอื่นอีก
แต่คราวนี้เพราะความสุดยอดของอาณาจักรใต้พิภพทำให้แม้แต่ขุมอำนาจที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าภูตก็ไม่กล้ายื่นมือเข้าช่วย ตอนนี้เผ่าภูตอยู่ในสภาพอเนจอนาถอย่างมาก นอกเสียจากคิดจะทุ่มสุดตัวเข้าช่วยจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความหมาย ที่อี้เทียนหยุนเห็นเมื่อกี้นี้ ถ้าไม่มีเขาช่วย ต่อให้เป็นการลอบโจมตี คิดที่จะขับไล่ผู้รุกรานออกไปให้หมดสิ้น นั่นคงเป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ เหลยหยุนคนนี้ยังถือว่าเป็นดาวข่มของพวกเขา ถ้าเป็นไปตามท้องเรื่อง พวกเขาคงต้องถูกจับไปหมด
ถ้าอี้เทียนหยุนไม่มา ที่นี่คงจะพอต้านรับได้สักครั้ง แต่ไม่มีทางที่จะต้านรับได้นาน
เย่ชิงเสวียนเหวี่ยงแขนสะบัดแส้สีเงินอย่างแรง เหวี่ยงเหลยหยุนจนปลิว ก่อนที่จะตกลงที่โถงหลัก ตอนนี้ผู้อาวุโสเยี่ยนได้ลงมาแล้ว และเมื่อเธอเห็นเหลยหยุน สายตาของเธอก็ปะทุไปด้วยความโกรธ อยากจะฆ่าอีกฝ่ายซะเดี๋ยวนั้นเลย
“เหลยหยุน บอกข้ามา! กุญแจคุกอยู่ที่ไหน ท่านบรรพชนกับพวกผู้อาวุโสด้วย รวมถึงแผนการทั้งหมดของอาณาจักรใต้พิภพ บอกข้ามาให้หมด!” จิตสังหารของผู้อาวุโสเยี่ยนทะลักออก กดลงบนร่างของอีกฝ่ายอย่างไม่ปรานี
เพราะพลังฝึกตนของเหลยหยุนถูกทำลาย ดังนั้น ภายใต้พลังกดทันที่ส่งออกมา จึงทำให้เหลยหยุนต้องคุกเข่าลงกับพื้น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะต้าน แรงกดทับที่ส่งออกมานี้ทำให้เขาถึงกับต้องกระอักเลือดออกมา แต่ว่าเขายังคงไม่ยอมแพ้ ครั้งหนึ่งเขาก็เป็นผู้อาวุโสเหมือนกัน ถือเป็นบุคคลที่มากพรสวรรค์คนหนึ่ง แล้วจะให้เขาต้องยอมแพ้แต่แรงกดดันนี้ได้ยังไง
“ฮ่าๆๆ…. จะให้ข้าบอกอย่างงั้นเหรอ อย่าได้หวัง! แต่ถ้าเรื่องกุญแจล่ะก็ ข้าสามารถบอกเจ้าได้ กุญแจคุกอยู่กับขุนพลมังกร ถ้ามีปัญญาก็ไปแย่งมาสิ!” เหลยหยุนหัวเราะ แม้ว่าพลังของเขาจะถูกทำลาย แต่เขาก็ยังแสดงสายตาเกลียดชังออกมาเหมือนเดิม มองไปที่พวกเธออย่างดูถูก
“ขุนพลมังกร…..”
เย่ชิงเสวียนขมวดคิ้ว พวกเธอเป็นศัตรูกับอาณาจักรใต้พิภพ เป็นธรรมดาที่จะรู้อยู่แล้วว่าขุนพลมังกรเป็นตัวตนเช่นไร แน่นอนว่าต้องเป็นตัวตนระดับผู้คุมกองทัพ ซึ่งตัวตนของคนที่ตำแหน่งระดับนั้น แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา พวกเขาต่างก็มีพลังระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 9 ขึ้นไป กระทั่งบางคนยังไต่ระดับขึ้นไปถึงระดับวิญญาณเที่ยงแท้
ถ้าไม่มีระดับพลังที่แข็งแกร่งพอ ต่อให้มีความสามารถด้านบัญชาการเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถสั่งการผู้คนได้ เพราะต่อให้ความสามารถด้านบัญชาการของเจ้าจะโดดเด่น แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามส่งผู้เชี่ยวชาญมาเด็ดหัวของเขา ความสามารถด้านบัญชาการของเจ้าก็จะเปล่าประโยชน์ไปอยู่ดี! ดังนั้น บางครั้งจึงจำเป็นต้องส่งขุนศึกออกไปเพื่อสังหารผู้รุกรานทั้งหมดด้วยตัวเอง
“ใช่ ขุนพลมังกร ถ้าเจ้ามีความสามารถ งั้นก็ไปแย่งมาเลยสิ จากนั้นก็บุกเข้าไปในคุกเลย!” เหลยหยุนพูดอย่างดูถูก “แต่พวกเจ้าวางใจเถอะ อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะถูกโจมตีและถูกยึดครองอยู่ดี เมื่อได้รับการติดต่อกลับจากพวกข้าเป็นเวลานาน พวกเขาก็จะส่งคนมาโจมตีที่นี่ต่ออย่างรวดเร็ว! ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย ยอมจำนนซะ จากนั้นก็เข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพ นี่จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเจ้า!”
เหลยหยุนรู้ว่าพวกเธอไม่มีทางขโมยกุญแจจากเงื้อมมือคนที่น่าสะพรึงระดับนั้นได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงได้ทำการข่มขู่พวกเธอ
“แล้วก็เจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมากสินะ? แต่ไว้เมื่อไหร่ที่ตัวตนระดับขุนพลมังกรนำทัพผู้เชี่ยวชาญมาด้วยตัวเองเมื่อไหร่ ต่อให้เจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์!” เหลยหยุนหัวเราะเยาะ “ช่วยเหลือเผ่าภูต นี่ถือเป็นการกระทำผิดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเจ้า!”
ผู้คนพากันหน้าเปลี่ยนสี ถ้าขุนพลมังกรมาด้วยตัวเอง น่ากลัวว่าเผ่าภูตของพวกเธอจะต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูแน่นอนแล้ว
“เพี๊ยะ!”
เสียงตบอยู่ๆ ก็ดังขึ้นมา พร้อมกับเหลยหยุนที่ถูกตบปากจนลงไปนอนกับพื้น เมื่อผู้คนได้สติ ก็พบว่าคนที่ตบปากเหลยหยุนไม่ใช่ใครอื่น แต่ว่าคืออี้เทียนหยุน
พวกเขาไม่คิดว่าคนที่ลงมือจะเป็นอี้เทียนหยุน ไม่ใช่เย่ชิงเสวียน
“ข้าว่าการไว้ชีวิตของเจ้าต่างหากถึงจะเป็นการกระทำผิดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าเจ้าหมดเรื่องจะถามแล้ว ให้ข้าจัดการมันแทนไหม ข้าช่วยจัดการมันให้ได้”
ดูๆ แล้ว เขาคิดว่าคนอื่นคงไม่กล้าลงมือ ดังนั้นเขาจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง เพราะสำหรับเขาแล้ว เหลยหยุนถือได้ว่าเป็นค่าประสบการณ์ก้อนโต ไหนจะค่าความชำนาญในการสลักอาคมอีก แล้วเขาจะปล่อยมันไปได้ยังไง?
“ไม่ต้องหรอก พวกเราจะขังมันไว้ในดินแดนภูตเยือกแข็ง ให้มันต้องทนต่อความเจ็บปวดจากการต้องถูกแช่แข็งจนตาย!” สายตาของเย่ชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ต้องการให้อีกฝ่ายได้รับความทรมานถึงขีดสุด
“ดินแดนภูตเยือกแข็ง…..” สีหน้าเหลยหยุนเปลี่ยนไป เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าดินแดนภูตเยือกแข็งคืออะไร อยู่ในนั้นต้องทรมานมาก ร่างกายจะถูกทำให้แข็งทีละน้อย พร้อมกับความรู้สึกที่ราวกับถูกทิ่มแทง ถ้าต้องอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ตัวมันจะต้องถูกแช่แข็งจนตายอย่างแน่นอน
และในระหว่างที่ร่างกายกำลังถูกทำให้แข็งทีละน้อยนั้น ตัวเขาจะยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดอยู่ตลอด ทำให้เขามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย! แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะตาย แต่เขาก็ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเป็นเวลานาน ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากตายมันซะตอนนี้เลย
“ได้” อี้เทียนหยุนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย กับนักสลักอาคมระดับต้าซือนี้ ค่าความชำนาญที่จะได้จากอีกฝ่ายคงไม่ใช่น้อยๆ ถ้าได้มา มันคงทำให้เขาเข้าใกล้ขั้นต่อไปได้ง่ายขึ้น
“เอามันไปขังไว้ในดินแดนภูตเยืองแข็ง!” เย่ชิงเสวียนโบกมือ สั่งให้คนมาลากเหลยหยุนออกไป
“ครับ เสิ้งหนี่ต้าเหริน!” พวกเขาพยักหน้า จากนั้นก็คุมตัวเหลยหยุนที่ถูกมัดอย่างแน่นหนาออกไป เหลยหยุนที่ถูกทำลายพลังก็ไม่ต่างอะไรไปจากเด็ก ไม่มีทางดิ้นหลุดไปได้
“เจ้า เจ้าจะต้องตาย….. เผ่าภูตจะถูกทำลายในเงื้อมมือเจ้า มีแต่ข้าเท่านั้นถึงจะนำเผ่าภูตไปสู่ความรุ่งโรจน์!” เหลยหยุนยังคงดิ้นไม่หยุด ขณะที่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่ยินยอม “ถ้าไม่ปล่อยข้า พวกบรรพชนจะต้องตาย พวกเจ้าก็จะตายด้วย…..”
เย่ชิงเสวียนกับพวกทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจคำขู่ของเหลยหยุน ขอแค่ไม่ใช่คนโง่ก็ต้องรู้อยู่แล้ว ต่อให้ปล่อยเหลยหยุนไป พวกเธอก็ไม่มีทางช่วยพวกบรรพชนออกมาได้อยู่ดี เมื่อเผ่าภูตตกไปอยู่ในเงื้อมมือของอาณาจักรใต้พิภพ เมื่อนั้นก็จะถูกอาณาจักรใต้พิภพจัดการ ต้องถูกเหลยหยุนเล่นงานอยู่ดี
ให้ปล่อยเหลยหยุนออกไปอย่างงั้นเหรอ มันจะไม่กลายเป็นการปล่อยเสือเข้าป่าแทนหรือไง?
“เสิ้งหนี่ต้าเหริน ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เมื่ออาณาจักรใต้พิภพไม่ได้รับข่าวของพวกเขา พวกมันจะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญคนอื่นมาจัดการต่ออย่างแน่นอน!” ผู้อาวุโสเยี่ยนมองมา พร้อมกับเอ่ยถามเย่ชิงเสวียน
เย่ชิงเสวียนยังคงเงียบ เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ การต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรใต้พิภพที่แข็งแกร่งนี้ ทำให้เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน
“ไม่ต้องกังวลไป ระหว่างที่พวกเขายังไม่รู้ข่าว ไม่ใช่ว่าเป็นเวลาที่ดีที่พวกเราจะไปช่วยพวกบรรพชนออกมาหรือไง” ในตอนนี้เอง อี้เทียนหยุนที่เป็นคนนอกกลับสอดปากขึ้นมา
ผู้คนพากันตกใจ จากนั้นก็พากันมองไปที่เขาด้วยสีหน้าแปลกๆ ใครบ้างจะไม่อยากไปช่วยพวกบรรพชนออกมา แต่ถ้าไม่มีกุญแจ แล้วแบบนี้จะไปทำอะไรได้?
“เรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าพวกเราไม่มีกุญแจ ต่อให้ลอบเข้าไปได้ ก็ไม่มีทางเปิดประตูคุกได้อยู่ดี” เย่ชิงเสวียนถอนหายใจ
“กุญแจนั่น….. ข้าคิดว่าข้ามีอยู่นะ” อี้เทียนหยุนเอามือเกาท้ายทอยแล้วพูดอย่างอายๆ