Crazy Leveling System - ตอนที่ 304
CLS ตอนที่ 304: ค่าบัญชาการ
คำพูดของอี้เทียนหยุนไม่ได้ทำให้พวกเขาตกใจ กลับกัน เขากลับได้รับการส่ายหัวกลับมาแทน
“ใช่ หากไม่มีกุญแจก็ไม่มีทางช่วย…. อะไรนะ?! เจ้ามีกุญแจอย่างงั้นเหรอ!”
ผู้อาวุโสเยี่ยนกับพวกสงสัยว่าพวกตนเข้าใจผิด คำพูดเมื่อกี้จึงพูดตอบไปโดยไม่คิด แต่เมื่อพวกเธอรู้สึกตัว ก็กลับได้ยินอี้เทียนหยุนบอกว่าเขามีกุญแจอยู่จริงๆ!
“เจ้า เจ้ามีกุญแจจริงๆ เหรอ?” เย่ชิงเสวียนทำสีหน้าแปลกๆ อี้เทียนหยุนคนนี้ราวกับเป็นผู้ปลดปล่อยที่สวรรค์ส่งมา ไม่เพียงแต่จะช่วยกำจัดผู้รุกรานเท่านั้น แต่กระทั่งกุญแจคุกเขาก็ยังมี ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ!
“ข้ามีจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เมืองจู้หลง ข้าได้สังหารเฉิงเฟิงไป ก็เลยได้รับกุญแจนี้มา” อี้เทียนหยุนไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดออกไป จริงอยู่ที่ได้กุญแจนี้มาเพราะฆ่าเฉิงเฟิง แต่นี่เป็นกุญแจที่ได้รับมาจากระบบ ไม่ใช่ว่าค้นได้จากร่างของเขา
“เจ้าสังหารเฉิงเฟิง?” เย่ชิงเสวียนคิด จากนั้นก็พลันร้องออกมาด้วยความตกใจ “เรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองจู้หลงเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งหมดเป็นเจ้าที่ก่อเรื่องขึ้นอย่างงั้นเหรอ?”
“จะเรียกว่าก่อเรื่องได้ยังไง? ข้าก็แค่ช่วยกำจัดคนชั่วก็เท่านั้นเอง” อี้เทียนหยุนยักไหล่
“นี่สหายน้อย ในนั้นมีทั้งสำนักมากมาย รวมถึงต้าเฉินทั้งสอง กระทั่งตำหนักกลางที่ถูกเผาเมื่อก่อนหน้า ทั้งหมดก็เป็นฝีมือเจ้า?” ผู้อาวุโสเยี่ยนถาม
“ใช่แล้ว เป็นฝีมือข้าเอง”
อี้เทียนหยุนไม่มีอะไรให้ปกปิด ที่นี่เหลือแต่คนที่เป็นแกนหลัก เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนทรยศ แต่ต่อให้มีคนทรยศก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะตอนนี้เขาปลอมแปลงใบหน้าอยู่ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น
สีหน้าผู้อาวุโสเยี่ยนกลายเป็นแปลกไป แม้ว่าจะรู้ว่าอี้เทียนหยุนนั้นร้ายกาจมาก แต่เมื่อได้ยินว่าเรื่องใหญ่เมื่อก่อนหน้านั้นเป็นฝีมือของเด็กหนุ่มตรงหน้า ก็อดรู้สึกตกใจขึ้นไปไม่ได้
ถ้ามีใครกล้าบอกว่าเขาเป็นผู้ทรยศอีก ผู้อาวุโสเยี่ยนจะเป็นคนแรกที่จัดการมัน! เผาตำหนักกลางเมืองจู้หลง ทั้งยังกำจัดขุมอำนาจมากมายที่เข้าร่วม ถ้าเกิดว่ายังต้องการแทรกซึมเข้ามาในเผ่าภูตอีก นี่จะเป็นการลงทุนที่ใหญ่เกินไปแล้ว
สีหน้าคนอื่นๆ ที่เหลือก็แปลกไปอย่างมาก นี่ตกลงว่าอาณาจักรใต้พิภพไปหาเรื่องอะไรเขากันแน่ ทำไมถึงได้ทำให้เขาต้องตอบโต้คืนแบบนี้
“แล้วมีเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนถาม
“ไม่มี….. ก็แค่สงสัยเท่านั้น” พวกเธอไม่กล้าถามว่าทำไมอี้เทียนหยุนถึงต้องทำเรื่องแบบนี้ แต่แค่ได้รู้แค่นี้ก็พอแล้ว รู้ว่าเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของอาณาจักรใต้พิภพอย่างแน่นอน!
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นก็มาวางแผนกัน ยิ่งลงมือเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ระหว่างที่พวกเขายังไม่รู้เรื่อง เราต้องรีบลงมือ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
พวกเธอพากันพยักหน้า ก่อนหน้านี้ยังกังวลเรื่องกุญแจอยู่ แต่ตอนนี้เมื่อมีกุญแจแล้ว ฉะนั้นพวกเธอก็สามารถลงมือได้แล้ว
“ใช่แล้ว คุณชายอี้รับประกันได้ไหมว่ากุญแจนี้เป็นกุญแจที่สามารถเปิดคุกได้จริงๆ?” ผู้อาวุโสเยี่ยนถามอย่างสงสัย
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน แต่รู้ว่านี่เป็นกุญแจคุกอย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนคิดแล้วพูดขึ้น “และเพราะความไม่แน่นอนนี้ ข้าจึงอยากให้คนที่ไปด้วยมีน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าเป็นไปได้ ให้ข้ากับชิงเสวียนไปด้วยกันสองคนก็พอ แบบนี้ได้ไหม?”
“นี่….” ผู้อาวุโสเยี่ยนขมวดคิ้ว ถ้าเกิดว่ากุญแจนี้เป็นของปลอมขึ้นมา พวกเธอคงต้องอันตรายแน่ โดยเฉพาะเย่ชิงเสวียน เพราะเธอเป็นดั่งความหวังในอนาคตของเผ่าภูต
“ไม่มีปัญหา ข้าจะไปกับเจ้าเอง” เย่ชิงเสวียนตอบรับอย่างรวดเร็ว การลอบเข้าไปนี่ยิ่งมีคนน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าไปกันเยอะ มันง่ายที่จะถูกพบตัว
ที่จริงอี้เทียนหยุนอยากจะบอกว่าให้เขาไปคนเดียวเลยด้วยซ้ำ ไม่เพียงแต่เขาจะมีพลังเทเลพอร์ทเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย ตราบเท่าที่ไม่ใช่คนระดับวิญญาณเที่ยงแท้มาเอง เขาก็สามารถจัดการได้ ทั้งความสามารถในการปกปิดตัวเองของเขายังเป็นระดับชั้นยอด น้อยคนนักที่จะสัมผัสเขาได้
ยังไงก็ตาม นี่เป็นเรื่องสำคัญของเผ่าภูต จะปล่อยให้เขาไปคนเดียวไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น เขายังต้องการคนนำทางอีก เมื่อเป็นอย่างนี้ ขอแค่เขาคอยป้องกันอยู่ด้านหน้า แค่นี้ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“แต่ว่าเสิ้งหนี่ต้าเหริน…..” ผู้อาวุโสเยี่ยนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เย่ชิงเสวียนส่ายหัว ปฏิเสธคำพูดของผู้อาวุโสเยี่ยน
“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว ถ้าไม่ทำกันตอนนี้ ต่อไปเราจะไม่มีโอกาสอีก” เย่ชิงเสวียนรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เร่งรีบ ยิ่งลากเวลาออกไป พวกเธอจะเสียโอกาสนี้ไปแทน
“ก็ได้ งั้นข้าจะปกป้องที่นี่เอง!” ผู้อาวุโสเยี่ยนกัดฟันพูดขึ้นว่า “ต่อให้ต้องตาย ข้าก็จะปกป้องที่นี่ไว้จนนาทีสุดท้าย!”
“พวกเราก็เช่นกัน ต่อให้ต้องตาย ก็จะปกป้องเผ่าภูตไว้ให้ได้!” เผ่าภูตคนอื่นๆ ก็พูดยืนยันอย่างหนักแน่น
“ดี!” เย่ชิงเสวียนพูด “งั้นก็เตรียมตัว พวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้!”
ผู้คนพากันพยักหน้า จากนั้นก็แยกกันไปเตรียมตัว เย่ชิงเสวียนและอี้เทียนหยุนเป็นตัวแทนในการลงมือครั้งนี้ เย่ชิงเสวียนนั้นไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เธอแค่เตรียมยาและก็อุปกรณ์นิดหน่อย นอกนั้นก็ไม่ได้เตรียมอะไรอีก
“ครั้งนี้ข้าดีใจมากที่เจ้ามาช่วย ก่อนหน้านี้ก็ช่วยข้ามาทีแล้ว ตอนนี้ยังมาช่วยข้าอีก ยิ่งกว่านั้น คราวนี้ยังเป็นการช่วยเหลือเผ่าภูตทั้งเผ่าอีก ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนเจ้ายังไงดี” เย่ชิงเสวียนหลังจากเตรียมตัวเสร็จ นัยน์ตาสีเงินของเธอก็เงาของอี้เทียนหยุนขึ้น
อี้เทียนหยุนเห็นถึงความรู้สึกตื้นตันไม่สิ้นสุดจากนัยน์ตาของเธอ จากที่เขาดู เผ่าภูตดูแล้วไม่มีวิธีที่จะต้านทานจริงๆ นั่นแหละ
อี้เทียนหยุนส่งยิ้มให้เธอ จากนั้นก็เอามือแตะที่หน้าอก แล้วก็ชี้เข้าที่หัวของตัว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรทั้งนั้น ไม่เพียงแต่มอบเนตรสวรรค์ให้กับข้าเท่านั้น แต่เจ้ายังมอบความรู้เรื่องค่ายกลให้ข้าอีก กระทั่งค่ายกลที่เหลยหยุนต้องการอย่างมากก็ยังมอบให้ นี่ยังไม่นับเป็นรางวัลอีกอย่างงั้นเหรอ?”
“นั่นเป็นรางวัลครั้งก่อน แต่ครั้งนี้มันต่างกัน” เย่ชิงเสวียนส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “ข้าคิดว่า ของรางวัลที่เหมาะสำหรับเจ้าคงมีแต่ตำแหน่งราชาภูตเท่านั้น”
“ตำแหน่งราชาภูต…..” อี้เทียนหยุนตกใจ ไม่คิดว่านี่จะเป็นคำพูดที่มาจากปากของเธอ
“ใช่แล้ว เจ้ามีพรสวรรค์ของข้า ทำให้มีความสามารถด้านค่ายกลที่สุดยอด นอกจากนั้นยังมีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังอีก….. ดังนั้น ข้าจึงอยากให้เข้าเป็นราชาภูตของพวกเรา!” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตราบเท่าที่เจ้าช่วยเผ่าภูตทุกคนเอาไว้ได้ ต่อให้เจ้าจะเป็นคนนอก แต่เจ้าก็ยังสามารถเป็นราชาภูตของพวกเราได้อยู่ดี!”
“ทำไมถึงเลือกข้า แล้วเรื่องตำหนักจักรพรรดิล่ะ? ไม่ใช่เพราะว่าเหลยหยุนในตอนแรกชั่วร้ายเกินไป ทำให้ไม่ได้เป็นราชาภูต แล้วข้าที่เป็นคนนอกจะเป็นได้อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนรู้ว่าตัวเขาต้องการตำแหน่งนี้ แต่เขายังอยากจะได้ยินเหตุผลของเย่ชิงเสวียนอยู่ดี
“ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าสามารถปกครองเผ่าภูตของพวกเราได้ ทำให้เผ่าภูตของพวกเรามุ่งไปสู่ความรุ่งโรจน์!” เย่ชิงเสวียนพูดอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าการจะเป็นราชาภูตนั้นไม่ง่าย จะต้องมีคนในเผ่ามากมายต่อต้านอย่างแน่นอน แต่ว่าข้าก็อยากจะช่วยสนับสนุนให้เจ้าได้เป็นราชาของพวกเรา!”
“เพราะค่าบัญชาการอย่างงั้นเหรอ……”
อี้เทียนหยุนนึกได้ว่าตัวเขามีหนังสือบัญชาการอยู่ กระทั่งยังมีภารกิจที่มอบค่าบัญชาการให้ ทำให้คำพูดของเขามีแรงดึงดูดใจที่แข็งแกร่ง
“ค่าบัญชาการอะไร?” เย่ชิงเสวียนสงสัยกับคำพูดของอี้เทียนหยุน
“ไม่มีอะไร ตอนนี้พวกเราต้องรีบไปช่วยคนของเผ่าภูตกลับมาก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “แต่ก่อนหน้านั้น ข้าก็ต้องการรางวัลอย่างอื่นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าพอจะเป็นไปได้ไหม?”
“ถ้าเจ้าสามารถช่วยเหลือคนของเผ่าออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ให้เจ้าได้ทั้งนั้น” เย่ชิงเสวียนพูดอย่างสงสัย “ว่าแต่เจ้าอยากได้อะไรอย่างงั้นเหรอ?”
“หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ!” อี้เทียนหยุนบอกสิ่งที่ต้องการออกไป!