Crazy Leveling System - ตอนที่ 311
CLS ตอนที่ 311: สายตาแห่งความหวัง
“ติ๊ง ท่านยินดีจะรับภารกิจรอง “ทำลายคุกใต้พิภพ ช่วยเหลือนักโทษทุกคน” หรือไม่?”
ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินหน้าต่อ ก็พลันมีเสียงระบบดังขึ้นมาจนเขาตกใจ
“มีภารกิจรองด้วยอย่างงั้นเหรอ? รับ!” อี้เทียนหยุนไม่คิดอะไรมาก เลือกรับภารกิจนี้ในทันที
นี่เป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำอยู่แล้ว ยิ่งมีภารกิจขึ้นมายิ่งต้องทำให้ได้ แต่ทำไมถึงปล่อยภารกิจนี้ออกมากัน? โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในปัจจุบัน รางวัลที่ได้ล้วนแต่มากมายมหาศาล เมื่อเป็นอย่างนี้ เขาก็ยิ่งต้องทำให้สำเร็จ
แต่ว่าถ้าไม่สำเร็จล่ะ จะมีบทลงโทษอะไรไหม แล้วถ้าสำเร็จ รางวัลที่ได้จะเป็นอะไร?
“ติ๊ง ท่านรับภารกิจ “ทำลายคุกใต้พิภพ ช่วยเหลือนักโทษทุกคน” สำเร็จ เมื่อสำเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์ 50 ล้าน, ค่าความคลั่ง 100,000, ค่าความชั่ว 10,000, ค่าความดี 200, ค่าบัญชาการ 100!”
เป็นรางวัลที่ไม่ได้ไอเทมเป็นของรางวัล แต่แค่ค่าต่างๆ ที่ได้ก็เพียงพอแล้ว นับได้ว่าใจกว้างสุดๆ ไม่เพียงแต่ค่าประสบการณ์จะมากมาย กระทั่งค่าต่างๆ ก็มากด้วย พูดตรงๆ แล้วก็ทำให้เขาค่อนข้างพอใจเช่นกัน เพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำอยู่แล้ว เมื่อมีของรางวัลให้ด้วย เขาก็ไม่มีอะไรต้องบ่น
“ดีล่ะ ดูเหมือนว่ากระทั่งสวรรค์ยังอยากให้ข้าจัดการพวกเจ้า!” อี้เทียนหยุนยิ้มอย่างเย็นชา
อย่างรวดเร็ว ภายใต้การนำของเย่ชิงเสวียน พวกเขาก็เดินทางเดินยาวอีกครั้ง พร้อมทั้งทำการเก็บกวาดผู้คุ้มกันไปตลอดทาง ทำให้ตลอดเส้นทางกลายเป็นว่างเปล่า โชคดีที่ระหว่างทางไม่เจอระดับขุนพล ไม่อย่างนั้นคงเป็นปัญหาแล้ว
แน่นอนว่าขุนพลมังกรย่อมไม่อยู่ที่นี่ ใครมันจะบ้าส่งตัวตนระดับนั้นมาเดินตรวจตราคุกแห่งนี้กัน?
“ตรงหน้านี้ก็เป็นเขตกักกันวิญญาณแล้ว” น้ำเสียงของเย่ชิงเสวียนกลายเป็นแผ่วเบาและลึกล้ำ
“แล้วเขตกักกันวิญญาณนี้จะไม่ส่งผลต่อพวกเราอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนถาม
“ไม่ มีแต่คนที่ถูกโซ่ล่ามไว้เท่านั้นถึงจะได้รับผลจากเขตกักกันวิญญาณ คนนอกจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร ยิ่งกว่านั้นต้องใช้ร่วมกับโซ่ด้วยถึงจะได้ผล เพราะงั้นจึงไม่ส่งผลอะไรกับพวกเรา” เย่ชิงเสวียนตอบ
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็ตามเธอไป
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงที่มุม อี้เทียนหยุนก็ชะโงกหน้ามองดูเขตกักกันวิญญาณแห่งนี้ ที่นี่ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเขตอื่นเลย ทั้งสี่ทิศแปดทางล้วนแต่เต็มไปด้วยกรงขัง เพียงแต่ที่นี่ล้วนแต่เต็มไปด้วยค่ายกล ที่ทำการจำกัดพลังวิญญาณอยู่ตลอดเวลา
เมื่อไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่ต้องไปพูดถึงการฟื้นฟูพลังวิญญาณเลย แล้วยิ่งไม่ได้รับยาฟื้นฟูด้วยแล้ว จึงไม่มีทางที่จะฟื้นคืนพลังกลับมาได้ ในคุกแห่งนี้เป็นที่ที่ใช้สำหรับกักขังคนของเผ่าภูต พวกเขาล้วนแต่ถูกขังอยู่ข้างใน ใบหน้าของพวกเขาดูซูบตอบและซีดเซียว แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้รับการทรมานอะไร แต่เพราะที่นี่ไม่มีพลังวิญญาณเหลืออยู่ ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว นี่จึงเหมือนกับการทรมานที่ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น
เพราะการมีอยู่ของพลังวิญญาณทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกินต้องดื่มก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้เวลานาน แต่ในเมื่อตอนนี้ไม่มีพลังวิญญาณแล้ว จึงทำให้พวกเขามีสภาพอดอยาก ใบหน้าซูบตอบและซีดเซียว ราวกับไม่ได้กินหรือดื่มอะไรมาหลายวัน
อี้เทียนหยุนกวาดตาดูรอบๆ แล้วก็พบว่าเผ่าภูตที่ถูกขังอยู่ที่นี่มีอยู่มากมายนัก คร่าวๆ มีไม่ต่ำกว่าร้อยคน แต่เดิมแล้วเผ่าภูตก็มีประชากรไม่มากอยู่แล้ว จำนวนร้อยกว่าคนนี้แทบจะนับได้เป็นประชากรส่วนหนึ่งของเผ่าภูตแล้ว ดังนั้นจำนวนนี้จึงไม่ใช่น้อยๆ เลย
ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าจะเด็กหรือคนแก่ล้วนแต่ถูกขังอยู่ในนี้ แต่ทางด้านของเด็กดูเหมือนจะร้ายแรงกว่า พวกเขาเหมือนกับเป็นแขนขาของเผ่า แต่ตอนนี้สภาพของพวกเขากลับเหมือนกับเป็นอัมพาต ไม่สามารถพูดได้แม้แต่ครึ่งคำ ไม่เหมือนเด็กทั่วไปต้องกระโดดโลดเต้น เต็มไปด้วยความสุข
เผ่าภูตที่อยู่ในนี้ดูท่าทางราวกับคนที่หมดหวัง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ซึ่งนี่เป็นผลมาจากการขาดแคลนพลังวิญญาณอย่างสาหัส
“ขอร้องล่ะ ให้เด็กๆ ได้กินอะไรบ้าง พวกเขาจะทนไม่ไหวแล้ว…..” มีคนของเผ่าภูตเริ่มอ้อนวอน พวกเขาไม่ได้ร้องขออาหารเพื่อตัวเอง แต่ร้องขออาหารเพื่อเด็กๆ
พวกเขายังพอที่จะสามารถทนต่อไปได้ แต่กับเด็กๆ พวกเขาไม่สามารถทนต่อไปได้แล้ว ระดับของพวกเขายังต่ำ ทำให้ไม่สามารถทนได้นานเหมือนกับพวกผู้ใหญ่
“ฮ่าๆ อยากจะกินอย่างงั้นเหรอ?” ผู้คุ้มกันเดินเข้ามาพร้อมกับของกิน ขณะที่ส่ายของพวกนั้นต่อหน้าพวกเขา การกระทำนี้ทำให้เด็กๆ ที่อยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่พวกเขาตาเป็นประกาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ขยับ ยังคงนั่งอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่พวกเขาต่อไป
หลังจากนั้น ผู้คุ้มกันที่อยู่หน้าห้องขังก็ทำการกินอาหารพวกนั้น พร้อมกับพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ถ้าอยากจะกินก็เข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพของพวกเราพร้อมกับยอมทำงานให้พวกข้าสิ!”
เผ่าภูตที่อยู่ในกรงขังต่างก็มองดูลูกของพวกเขา แต่ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรนั้น ลูกของพวกเขาก็ได้ดึงพวกเขาไว้ แล้วพูดว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่…. อย่าได้รับปากพวกมัน พวกเราต้องทนไว้ พวกเราเชื่อว่าเสิ้งหนี่ต้าเหรินจะต้องกลับมาช่วยพวกเราอย่างแน่นอน….”
“ลูกเอ๊ย….”
พวกเขาพากันน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ พวกเขาก็ไม่อยากจะทำตามคำสั่งของอาณาจักรใต้พิภพเช่นกัน แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เด็กๆ พวกนี้ก็จะต้องตาย เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้เสิ้งหนี่ต้าเหรินจะมาช่วย ก็คงไม่มีความหมาย
เมื่อผู้คุ้มกันเห็นพวกเขาไม่ยินยอมก็พลันขู่คำรามด้วยความโกรธ “ช่างมีจิตใจที่แข็งแกร่งจริงๆ เลยนะ!”
เขาคำรามออกมาเสียงดัง จากนั้นก็โยนอาหารในมือทิ้ง ขณะที่สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
“ต้าเหริน ได้โปรดใจเย็นก่อน พวกมันจะต้องยอมจำนนในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน!” ผู้คุ้มกันที่อยู่ใกล้ๆ พูดปลอบ
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น!” ต้าเหรินแค่นเสียงออกมา “พวกมันไม่ยอมจำนน ทั้งยังไม่ยอมกินยาพิษนี้อีก เสียดายที่ข้าไม่มีกุญแจ ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องเขาไปอัดพวกมันสักตุ้บ! ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป แล้วเมื่อไหร่พวกมันถึงจะยอมจำนนสักที?”
ใบหน้าของสวี่ชางเต็มไปด้วยความกังวล เขามาที่นี่เพื่อขู่ขวัญพวกมันไม่หยุด แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปจัดการกับพวกมันได้ ไม่มีกุญแจในมือ แล้วจะให้เขาเปิดประตูได้ยังไง?
“ไม่ต้องกลัว เมื่อขุนพลมังกรมาถึง พวกเราก็แค่รายงานเรื่องนี้ตามจริง เมื่อถึงตอนนั้น…. ข้าจะจัดการลากตัวลูกของพวกมันออกมา ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะไม่ยอมจำนน!” บนใบหน้าของพวกเขาล้วนแต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย ตราบเท่าที่ควบคุมลูกของพวกมันได้ พวกเขาก็ไม่กลัวว่าพวกมันจะไม่ยอมจำนน!
“เรื่องนี้เป็นไปได้ พวกมันถูกขังอยู่ในนี้มานานแล้ว ไม่รู้ว่าทางฝั่งพวกใช้พิษได้ข่าวว่ายังไงบ้าง….” สวี่ชางส่ายหัว “ข้าจะไปดูสักหน่อย พวกเจ้าเฝ้าตรงนี้ไว้ให้ดี”
“ครับ ต้าเหริน!”
ขณะที่เขาหมุนตัวเตรียมจากไป ลำแสงเย็นเยียบก็ปรากฏขึ้นข้างหลังพวกเขา พร้อมกับประกายแสงสีแดงและเงินตกลงบนร่างของสวี่ชางและผู้คุ้มกัน ผู้คุ้มกันที่อยู่ใกล้ๆ เบิกตาโพลง ไม่รู้ว่ามีคนสองคนปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆ พวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่!
“เจ้าเป็น…..”
“ฉวะ!”
พูดไม่ทันจบประโยค ประกายแสงสีแดงก็วูบผ่านร่างของพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องตาเบิกโพลง ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จากนั้นก็สติดับวูบไปในทันที
ในตอนนี้เอง คนที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือเย่ชิงเสวียนและอี้เทียนหยุนนั่นเอง ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ! ในขณะที่พวกเขาไม่ได้สนใจ ทั้งสองก็ได้ทำการลอบเข้ามาโจมตีในทันใด พร้อมกับจัดการสังหารพวกมันทั้งสองอย่างสมบูรณ์แบบ
“สะ เสิ้งหนี่ต้าเหริน….” เผ่าภูตที่อยู่ในห้องขังสายตาพลันเป็นประกายขึ้นมา เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง!