Crazy Leveling System - ตอนที่ 325
CLS ตอนที่ 325: แอบหนีออกมา
“ดูเหมือนว่าแค่ทำลายที่คุมขังสามส่วนเท่านั้นก็พอ ไม่จำเป็นต้องทำลายจนหมด ถ้าเกิดว่าต้องทำลายจนหมดถึงจะสำเร็จ ถ้าอย่างนั้นคงเป็นปัญหาจริงๆ แล้ว”
ในใจอี้เทียนหยุนรู้สึกมีความสุข ผลลัพธ์นี้เป็นไปตามที่เขาคาด ถ้าให้ทำลายจนหมดโดยที่ไม่มีขุนพลมังกรตามติดอยู่ด้านข้าง อย่างนั้นคงไม่ยากเท่าไหร่ แต่นี่เขาต้องถูกไล่ตามหลังไม่หยุด แล้วจะให้เขาทำลายล้างอย่างวางใจได้ยังไง และเพราะการมาถึงของขุนพลมังกรนี่แหละ ทำให้เขาเลือกที่จะทำลายสามที่นี้เท่านั้น ส่วนที่อื่นเขาไม่สนใจ
ดีที่ระบบยอมรับว่าการทำลายสามแห่งนี้ถือว่าทำภารกิจสำเร็จ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องยอมสูญเสียรางวัลใหญ่นี้ไปแล้ว
“บัดซบ นี่เจ้ากล้าทำลายเขตกักกันวิญญาณอย่างงั้นเหรอ!” ขุนพลมังกรคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ทั่วทั้งร่างเปล่งแสงสีแดงออกมา พร้อมกับบุกเข้ามาที่นี่ด้วยเกรี้ยวกราด ดูแล้วคล้ายกับภาพจำแลงมังกรแดง เขาทำลายบุกเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้พื้นเริ่มสั่นสะเทือน ดูแล้วน่าสะพรึงอย่างมาก
แต่อี้เทียนหยุนตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว ข้าทำลายเขตกักกันวิญญาณแล้วทำไม ข้ายังจะทำลายเจ้าด้วย เจ้าโง่!”
ในมือของเขาในตอนนี้ปรากฏกระบี่หนักชิงเทียนขึ้น พร้อมกับตวัดออกไปอย่างโหดเหี้ยม เล็งไปยังขุนพลมังกร
“ชิงเทียนพิโรธ!”
“เปรี้ยง!”
กระบี่หนักหล่นลงมาจากชั้นเมฆ ปักลงมายังร่างขุนพลมังกรอย่างไร้ปรานี ราวกับจะผ่าเขาออกเป็นสองเสี่ยง
“แหลกไปซะ!”
ขุนพลมังกรไม่สนใจ เขาคำรามเสียงดัง พร้อมกับแทงหอกในมือออกไป โจมตีแบบติดตามตัวใส่อี้เทียนหยุนอีกครั้ง นี่เป็นวิชาลับที่ขุนพลมังกรเคยใช้ออกเมื่อก่อนหน้า แต่ครั้งก่อนเพราะถูกก้อนหินตกใส่ ทำให้ท่านี้ของเขาถูกทำลาย
ตามมาด้วยปราณรูปมังกรกระโจนออกมาจากตัวหอก เปลี่ยนเป็นแสงสีแดงพุ่งตรงมา พริบตาก็มาโผล่ขึ้นตรงหน้าอีกเทียนหยุน การโจมตีนี้เมื่อเทียบกับการโจมตีของเขาแล้ว เร็วกว่ากันหนึ่งขั้น!
ขุนพลมังกรคิดจะปะทะกับเขาแบบแข็งชนแข็ง ดูว่าใครจะถูกจัดการก่อน
“คิดจะเล่นงานข้า ยังอ่อนไป!”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มีผ้าคลุมสีดำปรากฏขึ้นบนตัวอี้เทียนหยุน เขาทำการสะบัดผ้าคลุมมาขวางไว้ด้านหน้า ต้านรับการโจมตีที่พุ่งเข้ามา!
“เปรี้ยง!”
พร้อมกันนั้น กระบี่หนักก็ได้ตกลงมาอย่างแรง ก่อนที่จะตัดผ่านแสงสีแดงออกไปในพริบตา อี้เทียนหยุนรีบบินถอยออกมา ส่วนขุนพลมังกรนั้นถูกพลังโจมตีกระแทกกระเด็นออกไป แม้ว่าพลังรบของขุนพลมังกรจะน่าสะพรึง แต่พลังของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่า ทำให้สามารถโจมตีจนขุนพลมังกรกระเด็นออกไปได้เช่นกัน!
“ฮึ่ม…..”
ร่างขุนพลมังกรที่ปลิวเคว้งกลางอากาศพลันรีบหมุนตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรีบสลายแรงโจมตี ก่อนที่จะม้วนตัวลงกับพื้นอย่างแรง จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่อี้เทียนหยุนอีกครั้ง จากนั้นก็พูดอย่างยิ้มเยาะว่า “หนามมังกรของข้า ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะยังรอดอยู่ได้!”
เมื่อเขาฝ่าฝุ่นควันออกมา เขาก็พบว่าตรงหน้าไม่มีคนอยู่แม้แต่ครึ่งคน อย่าว่าแต่อี้เทียนหยุนเลย กระทั่งขนสักเส้นยังไม่มี
“นี่มันอะไรกัน คนล่ะ!?”
ขุนพลมังกรตกใจ ก่อนหน้านี้เขายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอี้เทียนหยุนอยู่แล้ว อยู่ๆ ทำไมถึงได้หายไปล่ะ?
เขาทำการค้นหารอบๆ อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าจะหายังไง ก็ไม่เจอร่างของอี้เทียนหยุน ทำให้เขารู้สึกตกใจมากๆ คนตัวตั้งใหญ่ตั้งโต กลับมาหนีไปได้ภายใต้จมูกของเขา กระทั่งร่องรอยสักนิดก็ไม่เหลือ
“นี่มันอะไรกัน มันหนีไปได้ยังไง?” ขุนพลมังกรคิดอย่างตื่นตระหนก คนตัวโตๆ คนหนึ่งมาหายไปใต้จมูกของเขา นี่ช่างน่าสงสัยจริงๆ
เขาไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนหนีไปได้ยังไง แต่อี้เทียนหยุนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าตัวเองหนีมาแบบไหน
ในตอนนี้ อี้เทียนหยุนกำลังบินตรงไปยังที่ตั้งของเผ่าภูตผ่านการเทเลพอร์ท หนีออกมาได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย หลังจากเทเลพอร์ทออกมาข้างนอกได้ เขาก็รีบบินออกไปในทันที ทำให้ไม่ว่าขุนพลมังกรจะมองหายังไง ก็ไม่มีทางหาเขาเจอ
มีแต่เขาที่มีความสามารถเทเลพอร์ท แล้วอย่างนี้ขุนพลมังกรจะหาเขาเจอง่ายๆ ได้ยังไง เพียงเวลาสั้นๆ เขาก็มาโผล่อีกที่แล้ว คราวนี้เขาใช้เทเลพอร์ทเพื่อหลบหนี ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถหนีมาได้อย่างสะดวกดายอย่างนี้
ในช่วงที่อี้เทียนหยุนหนีกลับมานี้ ข่าวเรื่องที่คุกใต้พิภพถูกทำลายก็ได้กระจายไปทั่วทั้งทวีปใต้พิภพแล้ว กระทั่งทวีปอื่นยังได้ข่าว นี่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอาณาจักรใต้พิภพ การที่มาถูกทำลายอย่างนี้ ย่อมทำให้ขุมอำนาจอื่นตกใจ ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้?
อย่างรวดเร็ว ข่าวนี้ก็ลอยเข้าหูราชครูและจักรพรรดิใต้พิภพ จักรพรรดิใต้พิภพกริ้วมาก พร้อมกับทำการเรียกทุกคนเข้ามาทันที
“นี่ตกลงว่ามันเรื่องอะไรกัน ทำไมคุกใต้พิภพของพวกเราถึงได้ถูกทำลายอย่างนี้!?” สีหน้าจักรพรรดิใต้พิภพเย็นชา นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เหล่าต้าเฉินที่อยู่ด้านล่างต่างพากันตัวสั่น ไม่กล้าเงยหน้ามองจักรพรรดิใต้พิภพ หรือว่าคนอื่นๆ
จากนั้น จักรพรรดิใต้พิภพก็หันไปมองขุนพลมังกร แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ขุนพลมังกร ได้ยินว่าเจ้าได้ประมือกับผู้ทำลาย ทำไมถึงปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้?”
“ใช่แล้วฝ่ามือ พลังของอีกฝ่ายไม่ได้อ่อนแอเลย น่าจะมีพลังระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด อ่อนกว่ากระหม่อมขั้นหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือมันมีความสามารถพิเศษบางอย่าง สามารถซ่อนกลิ่นอายของตนได้ ทำให้กระหม่อมหาอีกฝ่ายไม่เจอ” ขุนพลมังกรก้มหัวพร้อมกับประสานมือไว้ด้านหน้าแล้วรายงาน “ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของเซี่ยเฉิน(คำเรียกตัวเองของขุนนางว่าผู้ต่ำต้อย)จริงๆ ถ้าครั้งหน้าได้เจอกันอีก กระหม่อมจะต้องจับอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน!”
“ไม่เพียงแต่ทำพลาดเท่านั้น!” จักรพรรดิเจ้าพิภพแค่นเสียงอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าอาณาจักรใต้พิภพของเราด้วย! ผู้คุมถูกฆ่า คุกใต้พิภพถูกทำลาย ยิ่งกว่านั้น เผ่าภูตจำนวนมากก็มาหนีไปได้ รวมถึงผู้ฝึกตนคนอื่นอีก!”
“ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงวางพระทัย กระหม่อมได้ส่งคนไปจับตัวพวกมันมาแล้ว อีกไม่นานจะต้องได้รับข่าวดีอย่างแน่นอน!” ต้าเฉินคนหนึ่งเอ่ยรายงาน
“ไม่ต้อง ถ้าพบตัวให้สังหารทิ้งซะ อย่าให้เหลือ!” จักรพรรดิใต้พิภพพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือเผ่าภูต บรรพชนเผ่าภูตหนีไปได้ ถ้าพลังของมันฟื้นกลับคืนล่ะก็ จะถือว่าเป็นศัตรูที่ยากจะจัดการคนหนึ่ง อย่าได้คิดว่าเจ้านั่นแก่จนใกล้จะลงโลงแล้วจะดูถูกได้ หากมันระเบิดพลังทั้งหมดออกมาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็ไม่รู้ว่าใครจะได้เปรียบใคร!”
“หึหึ ฝ่าบาทวางพระทัย บรรพชนเผ่าภูตคนนั้นถูกพิษร้ายของกระหม่อมเข้าไปแล้ว นอกจากกระหม่อมก็ไม่มีใครสามารถถอนพิษนั้นได้ ดังนั้นขอพระองค์ทรงวางพระทัย” ชายลึกลับที่อยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาขาวจนไร้สีเลือด เขาก็คือราชครูของอาณาจักรใต้พิภพ
“มีพิษร้ายของราชครูอยู่ข้าก็วางใจ แล้วอีกอย่าง ทางฝั่งเผ่าภูตได้เรื่องว่าไงบ้าง ไม่ใช่ว่าเจ้าเหลยหยุนนั่นพาคนไปโจมตีเผ่าภูตไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ได้ข่าวว่าไง?” จักรพรรดิใต้พิภพถามขึ้น
“นี่…. ยังไม่ได้ข่าวเลยกระหม่อม บางทีพวกเขาอาจจะถูกขังอยู่ข้างใน ไม่ก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว” ต้าเฉินคนหนึ่งรายงาน
“ขยะ! ล้วนแต่เป็นขยะทั้งนั้น!” จักรพรรดิใต้พิภพโกรธกริ้ว “ขุนพลมังกร ข้าขอสั่งให้เจ้าพาคนไปจับตัวเผ่าภูตพวกนี้กลับมาทั้งหมด แล้วต้องทำให้สำเร็จด้วย ตอนแรกว่าจะทำอย่างละมุนละม่อม แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ได้แล้ว! เรื่องนี้ข้าให้เจ้ารับผิดชอบ อย่าได้พลาดเด็ดขาด!”
“ขอรับ ฝ่าบาท!” ขุนพลมังกรพูดอย่างจริงจัง “คราวนี้ เซี่ยเฉินจะต้องทำให้ฝ่าบาทพอพระทัยอย่างแน่นอน!”