Crazy Leveling System - ตอนที่ 344
CLS ตอนที่ 344: ความลับ
“นี่มันคืออะไรกัน ทำไมลำแสงที่ฉายออกมาถึงได้มีพลังชีวิตที่น่าตื่นตะลึงขนาดนี้?”
อี้เทียนหยุนถูกสิ่งตรงหน้าทำให้ตกตะลึง ด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่งขนาดนี้ มันน่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าดอกหญ้าสมุนไพรวิญญาณ หรือกระทั่งโสมพันปีด้วยซ้ำ แต่ผลึกที่ถูกฝังอยู่ที่นี่กลับปล่อยพลังชีวิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ฉาบทับกำแพงหินด้านบน ช่วยฟื้นคืนความสดชื่นให้แก่โลก
รวมถึงพืชหญ้าสมุนไพรที่อยู่รอบๆ ต่างก็ได้รับอานิสงค์ของผลึกนี้ ทำให้มีสมุนไพรทำยาชั้น 4 ชั้น 5 กระทั่งหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณก็ยังมี แต่ก็มีเพียงแค่ต้นเดียว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
ผลึกชีวิต : ผลึกที่กักเก็บพลังชีวิต ผ่านการพัฒนาจากพันปีจนมีอายุหมื่นปี ทำให้ผลึกสามารถมอบพลังชีวิตคืนสู่ธรรมชาติ, ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณให้หนาแน่น, ทำให้สืบพันธุ์ได้ หลังจากปลดปล่อย จะกลายเป็นแค่หินธรรมดา
ข้อมูลที่ได้จากดวงตาประเมินทำให้เขาตกใจ โดยเฉพาะผลที่ทำให้สืบพันธุ์ได้ ทันใดนั้นก็ทำให้เขานึกถึงเผ่าภูตที่สามารถให้กำเนิดเฉพาะที่นี่เท่านั้น ที่แท้เหตุผลก็เป็นเพราะผลึกชีวิตนี้นั่นเอง
ยังไงก็ตาม เผ่าภูตก็ยังยากที่จะให้กำเนิดบุตร ความสามารถในการถือกำเนิดค่อนข้างต่ำ สิ่งนี้สัมพันธ์กับพรสวรรค์ของพวกเขา ยิ่งมีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งให้กำเนิดยากมากเท่านั้น
นี่รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งด้วย ผู้เชี่ยวชาญพวกนี้ก็มีอัตราให้กำเนิดต่ำเช่นกัน ไม่ใช่เพราะการฝึกฝนของพวกเขามีปัญหา แต่เพราะว่าคนธรรมดาไม่สามารถให้กำเนิดร่วมกับพวกเขาได้ ดังนั้น จำเป็นต้องแข็งแกร่งทั้งสองฝ่าย ถึงจะสามารถให้กำเนิดได้
เผ่าภูตเป็นเผ่าที่มากพรสวรรค์ แม้ทั้งสองฝ่ายจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยากที่จะหลอมรวม พูดไปแล้วก็เหมือนกับคำสาปที่แลกมาด้วยพรสวรรค์ ยิ่งมีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะสืบพันธุ์ ซึ่งนี่ก็เป็นแบบเดียวกันกับพวกที่อ่อนแอ เพราะอ่อนแอเกินไป จึงไม่มีพลังพอที่จะสืบพันธุ์
เผ่ามังกรก็เช่นเดียวกัน ความสามารถในการสืบพันธุ์ของเผ่านี้ค่อนข้างต่ำ แต่ทำไมจำนวนของพวกเขาถึงมีมากล่ะ นั่นเพราะว่าเผ่ามังกรได้เลือกดินแดนที่มีพลังชีวิตสูง ดังนั้นทำให้ความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกเขาไม่ย่ำแย่นัก
แต่เผ่าภูตนั้นต่างกัน เพราะผลึกวิญญาณใกล้จะหายไปแล้ว เขาที่เห็นด้วยตาตัวเองจึงเข้าใจ หากเป็นอย่างนี้ต่อไป พลังชีวิตที่อยู่ในผลึกนี้จะต้องหายไปหมดอย่างแน่นอน
เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้จะอยู่ที่ป่าภูตต่อ อัตราการให้กำเนิดของพวกเขาก็ยังคงจะต่ำมากอยู่ดี
“ดูเหมือนว่าข้าจะพบต้นตอของมันแล้ว……”
อี้เทียนหยุนคิดว่าตัวเขาได้เก็บเกี่ยวของชิ้นใหญ่แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้กลายเป็นราชาภูต แต่เขาก็รู้ถึงปัญหาของพวกเขาแล้ว ตราบเท่าที่สามารถหาผลึกวิญญาณแบบนี้ได้ ก็สามารถทำให้พวกเขาอาศัยอยู่ในที่อื่นได้สำเร็จ ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ที่นี่ต่อ
เห็นได้ชัดว่าบรรพบุรุษของเผ่าภูตรู้สึกความสามารถนี้ เพียงแต่ไม่รู้กระจ่างนักว่าทำไม ทำให้พวกเขาคิดว่านี้คือคำสาป ทำให้พวกเขาไม่สามารถไปจากที่นี่ได้
ขณะที่เขาเข้าไปใกล้ ผลึกชีวิตนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ปรากฏร่างเงาขึ้น จากนั้น ร่างของชายชราก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ในสภาพลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกับมองมาที่เขาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
“เด็กเอ๊ย ในที่สุดเจ้าก็เอาป้ายศิลาทรราชมาครอบครองได้ นี่เป็นสมบัติที่ข้าใช้ทั้งชีวิตสร้างออกมา เพื่อใช้ป้องกันที่แห่งนี้ ในเมื่อเจ้าครอบครองป้ายศิลาทรราชแล้ว เจ้าก็คงจะเห็นผลึกชีวิตนี้ นี่เป็นสมบัติที่ข้าบังเอิญได้มา มันสามารถช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนให้พวกเรา ทั้งยังสามารถเพิ่มความสามารถในสืบพันธุ์ให้พวกเราด้วย”
“ตอนนี้ผลึกชีวิตเริ่มร่อยหรอแล้ว เจ้าต้องรีบหาผลึกชีวิตอื่นให้เร็ว หรือหาสถานที่ที่มอบพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ไม่อย่างนั้น มันจะทำให้เผ่าของเราถือกำเนิดได้ยากขึ้นไปอีก ในเมื่อเจ้าครอบครองป้ายศิลาทรราชของข้า เจ้าก็คือราชาภูต! ด้วยความสามารถของป้ายศิลาทรราช มันจะช่วยยกระดับความสามารถในการสลักอาคมของเจ้าเข้าสู่ขอบเขตใหม่ เมื่อถึงตอนนั้น ให้เจ้าค้นหาสถานที่ที่ดีกว่านี้ สถานที่ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผลึกชีวิต ก็สามารถสืบพันธุ์ได้!”
“หรือไม่ก็ให้กลับไปที่ดินแดนบรรพบุรุษที่แท้จริง ที่นี่เป็นบ้านที่ดีที่สุดที่พวกเราควรกลับไป…..”
พูดเสร็จ ร่างของบรรพบุรุษเฒ่าก็หายไปจากตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว นี่ไม่เหมือนกับพ่อบ้านเฒ่าเหล่าเซวียน ที่สร้างขึ้นด้วยสัมผัสวิญญาณ เพื่อให้คนเข้ารับการทดสอบ
ไม่คิดเลยว่าการครอบครองป้ายศิลาทรราชจะเป็นการขึ้นเป็นราชาภูตที่แท้จริง โดยที่ไม่ต้องได้รับอักษรรูน ก็สามารถกลายเป็นราชาภูตได้เช่นกัน คงเพราะว่าหลังจากทดสอบแล้วได้รับอักษรรูนมา ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าสำเร็จแล้ว
แค่หินอักษรรูนตัวเดียวก็เรียกว่าป้ายศิลาทรราชแล้ว?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้นั้นน่าขำสุดๆ แต่เพราะเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ความจริง
“เรื่องนี้สำคัญมาก ดูเหมือนว่าข้าคงต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพวกเขาก่อน” อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็พาพวกบรรพชนเข้ามาดูให้เห็นกับตา นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังทำผิดมาเป็นเวลานาน
นี่คงเพราะราชาภูตคนที่สองที่ไม่สามารถครอบครองป้ายศิลาทรราชนี้ได้ จึงคิดข้ออ้างขึ้นมา พูดว่าป้ายศิลานี้คือสัญลักษณ์ของราชาภูต
จากนั้น หลังจากตรวจสอบที่นี่ เมื่อไม่พบว่ามีของสิ่งอื่นอีก เขาก็เดินออกไป ออกไปบอกข่าวให้กับคนข้างนอกฟัง
ขณะเดียวกัน ด้านนอกกำลังเคร่งเครียดอย่างมาก เผ่าภูตส่วนใหญ่ล้วนรอคอยอี้เทียนหยุนกลับออกมา นอกจากว่าจะมีเรื่องร้ายแรงที่ด้านนอก ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะรออยู่ที่นี่ รอคอยช่วงเวลาแห่งปาฏิหาริย์
“พี่ใหญ่อี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะออกมา?” เย่หว่านเอ๋อรออยู่ด้านนอกด้วยความกังวลอย่างมาก
“อีกไม่นานหรอก ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องทำสำเร็จ….. คนนอกเผ่าก็สามารถทำสำเร็จเช่นกัน เขาแข็งแกร่งกว่าราชาภูตคนก่อนตั้งหลายเท่า ดังนั้นข้าเชื่อว่าเขาจะต้องทำได้” เย่ชิงเสวียนยื่นมือออกไปแตะไหล่น้องสาวเธอ พร้อมกับพูดปลอบ
“ปกติแล้วต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ถึงจะออกมา นี่เพิ่งจะวันเดียวเอง พวกเราใจเย็นๆ แล้วรออย่างสงบเถอะ” บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องออกมาเร็วๆ นี้แน่ ไม่กินสามวัน! รอเพียงสามวัน แล้วพวกเราจะต้องเห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน”
ภายใต้ความหวังของทุกคน อย่างรวดเร็ว ก็ได้มีร่างๆ หนึ่งปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน
“ออกมาแล้ว ออกมาแล้วเหรอ!?”
พวกเขาพากันตกใจ อี้เทียนหยุนเดินออกมาจากข้างใน นี่ยังไม่ถึงวันดีเลย? ตกลงแล้วเขาสำเร็จ หรือว่าล้มเหลวกันแน่?
ในใจหลายคนเต้นตึกตัก กลัวว่าอี้เทียนหยุนจะล้มเหลว ไม่อย่างนั้นคงไม่ออกมาเร็วขนาดนี้?
“ออกมาเร็วจัง นี่เพิ่งจะวันเดียวเอง?” บรรพชนเผ่าภูตเดินเข้าไป พร้อมกับถามอย่างรีบร้อน “เจ้าได้รับการยอมรับหรือเปล่า?”
“การยอมรับที่ท่านพูดถึงนั้น ข้าไม่ได้” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ!?”
ในใจพวกเขาสั่นอย่างรุนแรง แม้ว่าตอนที่เห็นเขาออกมาจะทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินจากปากก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็พูดเสริมขึ้นว่า “แม้ว่าการยอมรับที่ท่านพูดถึงข้าจะไม่ได้มันมา แต่ว่าข้าได้ป้ายศิลาทรราชนี้มาด้วย โปรดดู”
จากนั้น ป้ายศิลายักษ์ลอยออกมาจากร่างของเขา ก่อนที่จะตกลงมาจากชั้นเมฆ พร้อมกับตั้งเด่ลงกับพื้น เมื่อบรรพชนเผ่าภูตเห็นป้ายศิลานี้ สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป สิ่งนี้เขารู้สึกคุ้นเป็นอย่างมาก!