Crazy Leveling System - ตอนที่ 346
CLS ตอนที่ 346: กลายเป็นราชาภูต!
เรื่องที่เข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงนี้ หลังจากได้รู้ความจริง ทุกคนก็กลายเป็นกระอักกระอ่วน โดยเฉพาะท่านบรรพชนที่เป็นผู้นำเผ่ายิ่งกระอักกระอ่วนกว่าทุกคน ตอนแรกเขาเป็นราชาภูต ดังนั้นจึงเข้าใจกระบวนการทั้งหมด แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นเพียงราชาภูตตัวปลอมเท่านั้น!
ก่อนหน้านี้ก็มีการแต่งตั้งราชาภูตตัวปลอมขึ้น ถ้าประกาศออกไป คงยิ่งกระอักกระอ่วนไปกันใหญ่ โดยเฉพาะคนในเผ่าจำนวนมาก หากพูดออกไป ความเชื่อทั้งหมดของพวกเขาคงได้พังทลายลงแน่ๆ
ก่อนหน้านี้ก็ดี ได้มีการแต่งตั้งราชาภูตตัวปลอมขึ้น ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติ โดยที่ไม่ได้ครอบครองป้ายศิลาทรราช แต่กลับเรียกตัวเองว่าราชาภูต แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รู้สึกอึดอัดได้ยังไง?
“ที่ข้าให้ทุกคนเข้ามาก็เพื่อจะบอกเรื่องนี้ ควรที่จะประกาศออกไปหรือไม่? แต่ข้าแนะนำว่าไม่ควรบอกออกไป เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป บอกไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แน่นอนว่าราชาภูตคนก่อนหน้าล้วนแต่เหมาะสมที่จะนั่งในตำแหน่งอยู่แล้ว อย่างเช่นท่านบรรพชน ตัวท่านเองก็เป็นถึงนักสลักอาคมระดับจงซือ ถ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นราชาภูต คนอื่นก็ยิ่งไม่มีสิทธิ์ไปกันใหญ่”
“ตอนนี้ที่สำคัญก็คือการหาผลึกชีวิต หรือไม่ก็ดินแดนอื่น ทุกคนก็เห็นแล้ว ผลึกชีวิตนี้ใกล้จะหมดพลังลงเต็มทีแล้ว ถ้าในสองสามปีนี้ไม่อาจหาผลึกอื่นมาแทนได้ มันก็จะถูกใช้จนหมดไป เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้รั้งอยู่ที่นี่ต่อไป ก็จะไม่สามารถสืบพันธุ์ได้อยู่ดี!”
อี้เทียนหยุนมองไปยังพวกเขา ทุกคนล้วนแต่มีสีหน้าจริงจังอย่างมาก นี่เป็นเรื่องเป็นตายของเผ่าภูต ดีที่พบแต่เนิ่นๆ ถ้าเกิดไม่เจอเข้าซะก่อน หากผ่านไปเป็นสิบๆ ปี เป็นร้อยปี แล้วยังไม่เจอสาเหตุ ถึงตอนนั้นก็รอเวลาตายได้เลย
“เรื่องนี้ข้าเห็นด้วยกับท่านราชาภูต เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ให้คิดว่าเป็นความผิดพลาดที่งดงามไปซะ ตอนนี้พวกเราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องผลึกชีวิต และก็การต้านทานการรุกรานของอาณาจักรใต้พิภพ!” บรรพชนเผ่าภูตไม่สามารถหลบเลี่ยงความผิดพลาดเมื่อก่อนได้ ทั้งยังเป็นผู้สานต่อเรื่องนี้ต่อมาอีก โดยที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร
เรื่องไหนหนักหรือเบา พวกเขาเข้าใจดี
“ใช่แล้ว ข้าเห็นด้วยกับคำพูดของท่านราชาภูต ไม่คิดเลยว่า จะเกิดการเข้าใจผิดที่มหันต์ขนาดนั้น ช่างคาดไม่ถึงจริงๆ……”
พวกเขาพากันส่ายหัว ในใจยอมรับอี้เทียนหยุนเป็นราชาภูตของพวกเขาแล้ว ไม่เพียงแต่ได้รับป้ายศิลาทรราชเท่านั้น แต่ยังช่วยเผ่าภูตทั้งเผ่าไว้ แค่นี้ก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นราชาของพวกเขาแล้ว
“อืม ตอนนี้พวกเราต้องคิดหาวิธีการรับมือให้ดี ทั้งยังต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับผลึกชีวิตอีก ถ้าหาซื้อมาได้ก็ดี จะได้ขจัดความกังวลข้อนี้ไป” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงตัง “ผลึกชีวิตนี้แม้ว่าจะหายาก แต่ต่อให้หายากยังไงก็ต้องหา เพื่อเผ่าภูตเองแล้ว ผลึกชีวิตนี้นับได้ว่าเป็นแกนชีวิตของพวกเรา ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องได้มา!”
“ใช่แล้ว พวกเราต้องหาผลึกชีวิตให้ได้ ในเมื่อรู้ว่าต้องจัดการยังไงแล้ว เรื่องที่เหลือก็ไม่ยากเท่าไหร่” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมพยักหน้า
สายตาของพวกเขาต่างเป็นประกายเพราะความหวัง ในเมื่อพบต้นตอแล้ว เรื่องที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้อะไร คิดว่าถูกคำสาปเข้า ตอนนี้ดูเหมือนเพียงแค่มีผลึกชีวิตมากพอ เรื่องทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาแล้ว
“ดูเหมือนว่าท่านบรรพบุรุษต้องการให้พวกเราควบคุมป้ายศิลาทรราชนี้ให้ได้ก่อน จากนั้นถึงจะรู้ต้นตอของปัญหา แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะเลินเล่อเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะท่านได้มันมาครอง พวกเราคงถึงคราวแตกดับเข้าจริงๆ?” บรรพชนเผ่าภูตส่ายหัว การควบคุมป้ายศิลาทรราชนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย
“ท่านไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอก ถ้าที่นี่ยังมีปัญหาอยู่ เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว เผ่าภูตก็ต้องตัดสินใจอพยพออกไปจากที่นี่อยู่ดี” อี้เทียนหยุนพูด “สุดท้ายแล้วปัญหานี้ก็เกิดขึ้นเพราะราชาภูตคนก่อนไม่สามารถควบครองป้ายศิลาทรราชได้ คิดว่าหินอักษรรูนที่ได้จากป้ายศิลาทรราชเป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมรับ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ถ้าจะหาคนผิดจริงๆ งั้นคงต้องโทษราชาภูตคนที่สอง เขาต่างหากถึงจะเป็นอาชญากรที่มีความผิดที่สุด!”
นี่ไม่ได้พูดเกินความจริงเลย เพื่อให้ได้เป็นราชาภูตอย่างราบรื่น ดังนั้นจึงได้สร้างเรื่องโกหกขึ้นมา แม้ว่าจะเพื่อให้ได้เป็นราชาภูต แต่จิตใจของเขาก็ชั่วร้ายอยู่ดี ดีที่ราชาภูตคนที่สองตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องถูกสาปแช่งจนตายอย่างแน่นอน
“อืม เอาเป็นว่าพวกเราไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกดีกว่า มาพูดถึงเรื่องผลึกชีวิตกัน จากนั้นก็จัดการประกาศว่าท่านได้เป็นราชาภูตแล้ว!” บรรพชนเผ่าภูตเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา ยิ่งมาเขาก็ยิ่งชื่นชอบอี้เทียนหยุนคนนี้
ไม่คิดเลยว่าคนนอกอย่างเขาจะทำอะไรตั้งหลายอย่างเพื่อพวกเขา ทั้งยังครอบครองป้ายศิลาทรราชได้สำเร็จอีกด้วย! ดีที่พบกับอี้เทียนหยุนเร็ว ไม่อย่างนั้น หากเจอช้าเกินไป กลัวว่าปัญหาของพวกเขาคงไม่ถูกจัดการง่ายขนาดนี้
หลังจากหารือข้อตกลงกันแล้วเสร็จ พวกเขาก็รู้แล้วว่าจะบอกกับคนภายนอกยังไง และในขณะที่พวกเขาเตรียมตัวจะออกไปนั้น อี้เทียนหยุนก็พลันเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา แล้วพูดขึ้นว่า “พวกท่านออกไปก่อนเลย ข้ายังมีเรื่องต้องทำอีก”
พูดจบ ภายใต้สายตาที่สนใจของทุกคน เขาก็ทำการเก็บหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ โดยไม่สนใจสมุนไพรอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เลย เขาให้ความสำคัญกับหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้มาก มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่จะมอบค่าประสบการณ์มหาศาลให้กับเขา แม้สมุนไพรอื่นจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี แต่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณอีกแล้ว
“นายนี่มัน….” เมื่อเย่ชิงเสวียนเห็น ก็อดไม่ได้ต้องกลอกตาใส่เขา เขาสนใจแต่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้เท่านั้น โดยไม่ให้ความสนใจอย่างอื่นเลย
เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่คิดในใจอย่างแปลกๆ เท่านั้น แม้ว่าหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้จะดีก็จริง แต่สำหรับพวกเขาแล้วกลับใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้มาก โดยเฉพาะนักสลักอาคมที่อยู่ช่วงท้ายๆ แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จากหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนั้นมีอยู่จำกัด ดังนั้นมันจึงถูกใช้เป็นรางวัลให้กับศิษย์ที่มีพรสวรรค์ดีบางคน
“ฮี่ฮี่ ข้าชอบก็แต่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี่แหละ ถ้าใครมีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณเก็บไว้ ข้ายินดีรับเสมอ” อี้เทียนหยุนยิ้ม กับค่าประสบการณ์เกือบๆ ร้อยล้านนั้น เขาจะไม่ดีใจได้ยังไง?
หลังจากพวกเขากลับออกมาด้านนอก ก็เห็นคนในเผ่ากำลังพูดคุยกัน คุยกันเรื่องอี้เทียนหยุน
หลังจากพวกเขาออกมา บรรพชนเผ่าภูตก็ทำการประกาศ “ข้าเชื่อว่าทุกคนคงกำลังสงสัยกันมาก แต่ข้าอยากจะขอบอกทุกคนว่า ป้ายศิลาทรราชที่น้องชายอี้ได้มานั้น ก็คือสัญลักษณ์แห่งการยอมรับ เมื่อเทียบกับหินอักษรรูนที่มีอยู่ก่อนหน้า อันหลังเทียบได้กับส่วนประกอบเท่านั้น นี่คือสมบัติที่ท่านบรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ควบคุมมันได้ดั่งใจ ดังนั้น เขาก็คือราชาของเผ่าภูตเราอย่างแท้จริง!”
หลังจากคำประกาศนี้ ผู้คนก็พากันตกตะลึง แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่แค่คำประกาศที่บอกว่าอี้เทียนหยุนคือราชาของพวกเขา เท่านั้นก็พอแล้ว!
“ราชาภูต ราชาภูต ราชาภูต!”
ในตอนนี้เอง ก็มีคนโห่ร้องออกมา อย่างรวดเร็ว ก็มีคนร้องตามกันสนั่น กู่เรียกราชาภูตกันเสียงดัง! โดยไม่ต้องมีงานเลี้ยงฉลอง ตราบเท่าที่นำป้ายศิลาทรราชนี้ออกมาได้ เขาก็คือราชาภูตของพวกเขาแล้ว
คำเรียกราชาภูตนี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ทำให้อี้เทียนหยุนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นหลายเท่า เหมือนกับตัวเองกำลังฝัน ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งนี้ สุดท้ายแล้วก็เข้ามาอยู่ในการปกครองของเขา
“เงียบก่อน ข้ามีอะไรอยากจะพูดกับทุกคน!” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขาเงียบ
ผู้คนพากันหยุดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองมาที่เขา ไม่รู้ว่าเขาต้องการพูดอะไร
“ในเมื่อข้าคือราชาภูตของพวกท่าน ข้าก็มีเรื่องที่ต้องบอกกับทุกคน ถึงตัวตนที่แท้จริงของข้า” อี้เทียนหยุนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ก่อนหน้านี้ข้ามีเรื่องกับอาณาจักรใต้พิภพ ดังนั้นจึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อ แปลงหน้า ในเมื่อตอนนี้ข้าคือราชาภูตของทุกคน ข้าจึงอยากให้ทุกคนได้รู้จักใบหน้าที่แท้จริงของข้า!”
จากนั้น เขาก็ทำการถอดหน้ากากออก เผยใบหน้าที่หล่อเหลาออกมา ซึ่งดูแล้วยังเด็กมาก พริบตาที่ทุกคนได้เห็น นอกจากเย่ชิงเสวียนแล้ว คนอื่นต่างก็พากันนิ่งไป
ราชาภูตคนที่ 88 ไม่คิดว่าจะเด็กขนาดนี้!
“นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของข้า ชื่อของข้าคืออี้เทียนหยุน เป็นคนจากทวีปตี้จิ่ง ผู้อาวุโสของนิกายเทียนเฉวียน และประมุขวังเทียนจี๋! และเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่เมืองจู้หลง ข้าก็เป็นคนทำ” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมกับมองไปที่พวกเขา “ตัวข้าที่เป็นแบบนี้ ไม่ทราบว่าพวกท่านจะยังยอมรับให้ข้าเป็นราชาภูตของพวกท่านอยู่หรือเปล่า!”
ในฐานะที่เป็นราชาของพวกเขา จำเป็นต้องแสดงโฉมหน้าที่แท้จริง เพื่อแสดงความจริงใจต่อพวกเขา
หลังจากเงียบไปสักพัก ผู้คนก็พลันระเบิดเสียงกู่ร้องขึ้นมาอีกครั้ง
“เยี่ยม เป็นราชาทั้งที่ยังหนุ่ม ใครจะกล้าไม่ยอมรับท่าน ท่านคือราชาภูตของพวกเรา!”
“ใช่แล้ว! ท่านช่วยเผ่าภูตของพวกเรา ท่านคือราชาภูตที่แข็งแกร่งที่สุด!”
“ราชาภูต ราชาภูต ราชาภูต!”
พวกเขายังคงให้การสนับสนุนตามเดิม โดยที่ไม่สนใจโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา ที่พวกเขาสนใจก็คือเขา ไม่ใช่ใบหน้าของเขา