Crazy Leveling System - ตอนที่ 351
CLS ตอนที่ 351: มังกรลม
เหมือนว่าอีกฝ่ายจะถูกแรงปะทะจนกระเด็นกลับไป แต่อี้เทียนหยุนรู้ว่าขุนพลฟงผู้นั้นยังไม่ได้ใช้ออกด้วยพลังเต็มที่ พูดอีกอย่างคืออีกฝ่ายแค่ลองเชิงเขาเท่านั้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการใช้พลังออกอย่างเต็มที่ก็คือการผลาญแกนโลหิต ซึ่งถือเป็นการปลดปล่อยพลังที่ซ่อนอยู่ทั้งหมดออกมา เป็นการปลดขีดจำกัดของร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนคนไหนก็ล้วนแต่เหมือนกัน แม้แต่ขุนพลฟงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตอนนี้อีกฝ่ายยังสามารถจัดการกับเขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
“แข็งแกร่งดี ไม่รู้ว่าเจ้ามาจากขุมอำนาจไหน! หรือว่าจะเป็นคนของอาณาจักรเทียนหลง หรือว่าจะเป็นคนที่อาณาจักรอื่นส่งมาเพื่อช่วยเหลือเผ่าภูต?” ขุนพลฟงถือกระบี่เทพเทียนฟงไว้แน่น พร้อมกับมองเข้ามายังป่าอย่างเย็นชา ไม่มีท่าทางที่จะพุ่งเข้ามาข้างในต่อ
ก่อนหน้านี้เพราะเขาสามารถจับตำแหน่งของอี้เทียนหยุนได้ ดังนั้นจึงได้พุ่งเข้าไปโจมตีในพริบตา แต่ตอนนี้สูญเสียตำแหน่งของอีกฝ่ายแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะบุกเข้าไป
อี้เทียนหยุนไม่ตอบเขา พร้อมกับมองไปที่สถานการณ์ภายนอกป่า ตอนนี้ทหารของกองพลวายุกำลังตัดต้นไม้อย่างล้าคลั่ง ตราบเท่าไม่จัดการทหารพวกนี้ อีกฝ่ายก็จะยังคงตัดต้นไม้ต่อไป แต่คิดจะลงมือกับพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าขุนพลฟงกำลังจับตาดูอยู่
นอกจากขุนพลฟงแล้ว ทหารคนอื่นในกองพลวายุล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อแกนวิญญาณขั้นสูงสุด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับพวกเขา
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เต็มใจที่จะออกมาดวลกับข้าตัวต่อตัวสินะ ไอ้คนขี้ขลาดเอ๊ย!” ขุนพลฟงหัวเราะเยาะ “เจ้าจะออกมาหรือไม่ไม่สำคัญ ไว้ข้า เข้าไปข้างในได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็ถึงเวลาที่เผ่าภูตจะต้องถูกทำลาย!”
“คำสั่งที่ข้าได้มาคราวนี้ก็คือทำลายเผ่าภูตให้สิ้นซาก ให้เหลือพยานรู้เห็นไว้ไม่กี่คนเท่านั้น นอกนั้นให้ฆ่าทิ้งให้หมด!”
“กล้ามาเหยียบหน้าอาณาจักรใต้พิภพเรา ไม่ว่าเจ้าจะเป็นคนจากขุมอำนาจไหน หากไม่อยู่ฝ่ายเดียวกับอาณาจักรใต้พิภพเรา ก็ต้องตายสถานเดียว!”
ขุนพลฟงมองเข้าไปในป่าอย่างเย็นชา เขาเป็นพวกบ้าพลัง เป็นเครื่องมือเพื่อใช้แสดงอำนาจของอาณาจักรใต้พิภพ มีหน้าที่สะกดทุกขุมอำนาจที่กล้าลองดีโดยไร้ซึ่งความปรานี
“วางใจเถอะ มีแต่อาณาจักรใต้พิภพของเจ้าเท่านั้นที่จะถูกทำลาย ไม่ใช่พวกเราอย่างแน่นอน เจ้าโง่!” เสียงของอี้เทียนหยุนดังมาจากข้างใน ให้ความสัมผัสล่องลอยยากที่จะจับจุดได้ว่าดังมาจากทางไหน
“ได้ งั้นก็มาดูกัน! เชิญเจ้าซ่อนตัวอยู่ในป่าอย่างพวกขี้ขลาดต่อไปเถอะ หลังจากถูกพวกข้าโจมตีแล้ว มาดูสิว่าคราวนี้เจ้ายังจะพูดคำนี้ออกมาอีกไหม!” ขุนพลฟงหัวเราะเยาะ
กับคำขู่ของขุนพลฟง อี้เทียนหยุนไม่รู้สึกประหลาดใจ แต่ตอนนี้นัยน์ตาของเขากลับมีแสงสีดำค่อยๆ เปล่งออกมา
“ดูเหมือนว่าคงได้แต่ลงมือก่อนเท่านั้น ทำการกำจัดทหารของกองพลวายุนี้ก่อน จากนั้นค่อยเล่นกับขุนพลฟงผู้นี้ทีหลังช้าๆ!” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มแสยะออกมา จากนั้น ร่างกายของเขาก็ปลดปล่อยลำแสงชั่วร้ายออกมา ก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นมังกรมารขนาดร้อยเมตร ทำการกู่คำรามขึ้นฟ้า
พริบตาที่มังกรมารปรากฏตัวออกมา ก็ทำให้หลายคนต้องพากันตกใจ กลุ่มทหารของกองพลวายุต่างพร้อมใจพากันหยุดมือ พร้อมกับแหงนมองมังกรมารที่ปรากฏตัวออกมา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่ชิงเสวียนได้เห็น แต่ต่อให้เป็นครั้งที่สองก็ยังทำให้เธอตกใจมากอยู่ดี ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่กล้าถามว่าเรื่องราวเป็นมายังไง เนื่องเพราะอายเกินกว่าที่จะเปิดปาก แต่แค่เธอรู้ว่าอี้เทียนหยุนคือราชาของพวกเธอเท่านั้นก็พอ!
“นี่ท่านราชาภูตแปลงร่างได้ด้วยเหรอ?” พวกเธอพากันตกตะลึง พลังนี้มันช่างน่าตกใจจริงๆ มังกรมารตนนี้ เกินกว่าที่พวกเธอจะเข้าใจได้
“ใช่แล้ว นี่คือร่างแปลงของราชาภูต” เย่ชิงเสวียนพยักหน้า พวกเธอล้วนเห็นอย่างชัดเจนตอนที่อี้เทียนหยุนเปลี่ยนร่าง ดังนั้นต่อให้อยากจะปิดบังก็ปิดบังไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่สามารถปิดบังได้จริงๆ กระทั่งอี้เทียนหยุนยังไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องแปลงร่าง เนื่องเพราะว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ แต่เพราะศัตรูทรงพลังเกินไป เขาจึงได้แต่ใช้วิธีนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถจัดการกับกองพลวายุต่อหน้าขุนพลฟงได้
“คำราม!”
มังกรมารคำรามออกมา พร้อมกับกระโจนเข้าใส่กองพลวายุในทันที อี้เทียนหยุนในร่างมังกรมารทำการฟาดกรงเล็บออกไป ด้วยพลังที่ป่าเถื่อน ทำให้ภูเขายักษ์ถูกตบจนเหลือแต่ซาก!
“นี่มันอะไรกัน!?” ขุนพลฟงตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้หยุดมือ เขาทำการเคลื่อนไหว กลายร่างเป็นพายุ พร้อมกับแทงกระบี่เทพเทียนฟงออกไป
ในพริบตานี้ กระบี่ในมือของเขาก็เปล่งแสงออกมา ก่อนที่จะยิงลำแสงออกไป
“วงแหวนวายุ!”
“!”
ทันใดนั้น เขาก็ไปโผล่ที่ด้านข้างของอี้เทียนหยุน พร้อมกับแทงกระบี่เข้าใส่เกล็ดมังกรบนร่างของเขาอย่างแรง พูดได้ว่าเป็นการใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด หวังที่จะตัดร่างของมังกรตนนี้ หลังจากวาดกระบี่ออกไป เสียง “เคร้ง” ก็ดังออกมา กลับเป็นฝ่ายของขุนพลฟงเองที่ถูกพลังสะท้อนกลับ จนร่างต้องถอยออกมาเล็กน้อย
ด้วยพลังตัดที่แฝงไปด้วยธาตุลม ได้ทิ้งรอยแผลที่ผิวนอกเอาไว้ แม้ว่าพลังของอีกฝ่ายจะรุนแรง แต่ก็ไม่อาจเหนือไปกว่าอี้เทียนหยุน ส่งผลต่อเขาไม่มากนัก ทั้งยังไม่สามารถทำให้เขากระเด็นออกไปได้
นี่ก็เหมือนกับผายักษ์ ที่ไม่มีอะไรที่จะมาสั่นคลอนมันได้
อี้เทียนหยุนสัมผัสได้ถึงการโจมตีที่รุนแรง แต่ว่าเขากลับเมินเฉยต่อมันโดยสมบูรณ์ พร้อมกับฉวยโอกาสใช้ร่างกายขนาดยักษ์เหยียบย่างลงไปยังกองพลวายุอย่างไม่ปรานี สีหน้าของกองพลวายุซีดขาว พร้อมกับรีบหลบออกไปอย่างไว แต่ไม่ว่าจะหลบไปที่ไหนก็ไม่อาจพ้นไปจากเงื้อมมือของอี้เทียนหยุนได้
อี้เทียนหยุนส่ายร่างกายอันมหึมาของตน พร้อมกับเหวี่ยงกรงเล็บมังกรฟาดลงไปอย่างแรง
“เปรี้ยง!”
ตบจนพื้นที่ขนาดใหญ่กลายเป็นหลุมลึก บดบี้ทหารในกองพลวายุจนบี้แบนภายใต้ฝ่ามือของเขาไปหลายคน
“ติ๊ง ท่านสังหารทหารของกองพลวายุสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 250,000, ค่าความคลั่ง 3,100, ค่าความชั่ว 200, ได้รับวิชายุทธ์ เคล็ดวิชาจี๋ฟง, จี๋ฟงสะบั้น, ได้รับไอเทม กระบี่จี๋ฟง, รองเท้าศึกจี๋ฟง, ชุดเกราะจี๋ฟง!”
“ติ๊ง ท่านสังหารทหารของกองพลวายุสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 380,000, ค่าความคลั่ง 4,300, ค่าความชั่ว 250…..”
“ติ๊ง ท่านสังหาร…..”
เพียงฝ่ามือเดียว ก็สังหารทหารของกองพลวายุไปสามคน ระดับของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอเลย เพียงแต่ว่าอี้เทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งเกินไป ภายใต้ชุดเกราะมังกรมาร ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น 20 เท่า ต่อให้เป็นตัวขุนพลฟงเองก็ไม่สามารถเปรียบกับเขาได้ อย่าว่าแต่ลูกกระจ๊อกพวกนี้เลย
“สารเลวเอ๊ย!”
ขุนพลฟงที่ก่อนหน้ามีสีหน้าไม่แยแส ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวในพริบตา ลูกน้องของตนถูกฆ่าต่อหน้า เป็นใครใครก็โกรธ เขาทำการกุมกระบี่เทพเทียนฟงแน่น พร้อมกับปรากฏร่างเงาขึ้นที่ด้านหลังของเขา ก่อนจะรวมร่างกับเขากลายเป็นมังกรลม
ร่างวิญญาณเที่ยงแท้ของเขาก็คือมังกรลม ไม่แปลกที่จะน่าตกใจอย่างนี้ ที่แท้เขาก็มีเบื้องหลังเป็นมังกรลมนี่เอง
ร่างของเขาเริ่มปรากฏเกล็ดสีฟ้าขึ้นมา ขณะที่ข้างหลังก็มีปีกผุดออกมา ตัวคนในตอนนี้ได้กลายเป็นมังกรลม ที่ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกร เขาในตอนนี้ได้ระเบิดพลังทั้งหมดออกมาแล้ว!