Crazy Leveling System - ตอนที่ 372
CLS ตอนที่ 372: ค้นวิญญาณ
ท่าทางกดขี่ยามเดินมาของอี้เทียนหยุนทำให้พวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไป แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านคลื่นลมมา ทำให้ในที่สุดพวกเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว พวกเขาพากันส่งสัญญาณทางสายตา ก่อนที่จะทำการโอบล้อมรอบๆ ในเมื่อหนีไม่ได้ งั้นก็ล้อมมันไว้แทนแล้วกัน
“เคล็ดวิชาผนึกมังกร!”
พริบตาที่พวกเขาทำการโอบล้อมแล้วเสร็จก็พลันสำแดงเคล็ดวิชาออกมาทันที ร่างของทั้งสามปล่อยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งออกมา จากนั้นก็เชื่อมต่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก่อตัวเป็นโล่คุ้มกันพลังวิญญาณ เหมือนกับหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันโดยสมบูรณ์
โดยทั่วไปแล้ว หากคิดจะหลอมรวมพลังวิญญาณเป็นเนื้อเดียวกัน จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก หากว่าใครปล่อยพลังวิญญาณออกมาน้อยกว่า หรือ มากกว่ากันเพียงนิดเดียว ก็จะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ แม้จะสามารถบังคับให้รวมกันได้ แต่พลังของมันก็จะต้องไม่แข็งแกร่งเพียงพออย่างแน่นอน
แต่ถ้าสามารถรวมเป็นหนึ่งโดยสมบูรณ์เหมือนอย่างตอนนี้ ก็จะทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นไปจนถึงขั้นน่ากลัวเลยทีเดียว และในพริบตานี้ พลังรบของพวกเขาก็พุ่งทะยาน ถึงขนาดว่าแข็งแกร่งขึ้นไปอีก 2 ขั้นในทันใด!
นี่คือพลังที่รวมเข้าด้วยกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว ทำให้ตัวเลขของมันสูงถึงขั้นน่าสะพรึง ถ้าทั้งหกคนรวมเข้าด้วยกัน พลังมันคงจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้ แต่ตอนนี้พวกเขามีคนน้อยลงครึ่งหนึ่ง ทำให้พลังของมันนั้นอ่อนแอลงเป็นธรรมดา
หลังจากเคล็ดวิชาถูกปล่อยออกมา พลังวิญญาณนับไม่ถ้วนก็ถูกปล่อยออกมาจากร่างของพวกเขา ก่อตัวเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ที่แน่นขนัด ครอบลงบนร่างของเขา เทียบกับแส้พันธนาการเทพเมื่อก่อนหน้านี้แล้วแข็งแกร่งกว่า ยิ่งคนมากยิ่งสานต่อเป็นร่างแหได้ถี่กว่า ทรงพลังมากกว่า
ก่อนหน้านี้เฟิงเทียนกับพวกประมาทเกินไป คิดว่าอี้เทียนหยุนไม่มีปัญญาทำอะไรได้ แต่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะถูกสังหารในพริบตา ไม่มีเวลาให้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
แต่สามคนตรงหน้านี้ต่างออกไป แต่ถึงจะเพิ่มพลังขึ้นมากแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจับอี้เทียนหยุนได้
“พลังก็แข็งแกร่งดีอยู่หรอก ถ้าพวกเจ้าอยู่กันครบหกคนล่ะก็ คงจะสามารถสะกดข้าได้บ้าง แต่ว่าน่าเสียดาย ที่ตอนนี้พลังแค่นี้ยังไม่เพียงพอ!”
อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ พร้อมกับเล็งคันศรน้ำค้างแข็งในมือใส่พวกเขา พร้อมกับยิงศรน้ำแข็งออกไปสามดอกอย่างรวดเร็ว ยิ่งพลังของเขาแข็งแกร่งเท่าไหร่ ศรที่ยิงออกไปก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ต่อให้จะไม่ใช้ท่าน้ำค้างแข็งพิโรธ ศรแต่ละดอกที่ยิงออกไปในตอนนี้ก็มีพลังรบถึง 20 ล้าน สามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
“ผนึกมังกร!”
พวกเขากู่ร้องออกมา พลังวิญญาณที่ปลดปล่อยออกมาของคนทั้งสาม รวมถึงแส้พันธนาการเทพระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุดถูกเหวี่ยงออกมา พุ่งเข้ารัดพันร่างของเขา ภายใต้การประสานงานของพวกเขา ทำให้พลังที่แสดงออกมายิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ยังไงก็ตาม ศรทั้งสามที่ได้ยิงออกก่อนหน้าก็พลันระเบิดออก ทำให้คนทั้งสามต้องกระอักเลือดออกมา พร้อมกับถูกแรงอัดระเบิดปลิวกระเด็นออกไป
เพราะคนทั้งสามเชื่อมต่อกัน หากใครคนใดคนหนึ่งในพวกเขาถูกโจมตีจนบาดเจ็บ คนที่เหลืออีกสองคนก็จะบาดเจ็บตามไปด้วย นี่เป็นการรับความเสียหายร่วมกัน ยังไงก็ตาม การรวมพลังกันของพวกเขาก็ทำให้พลังของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่อี้เทียนหยุนแข็งแกร่งกว่าก็เท่านั้นเอง
หลังจากคนทั้งสามปลิวกระเด็นไป ตาข่ายแสงที่ครอบลงมาก็พลันสลายไป อี้เทียนหยุนทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเล็งลูกศรใส่คนทั้งสองที่ตกกระแทกพื้น ยิงปักร่างพวกเขายึดดิน ตายจนไม่สามารถตายได้อีก
จากนั้นเสียงระบบก็รายงานค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับ ทำให้เขารู้ว่าเขาฆ่าพวกเขาสำเร็จ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจดูซ้ำ
ส่วนคนที่เหลืออีกคนนั้นได้ถูกอี้เทียนหยุนจับตัวไว้ โดยการถูกแส้พันธนาการเทพมัดติดกับต้นไม้ใหญ่ ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถขยับได้ ทั้งบาดเจ็บแล้วยังต้องมาถูกมัดติดกับต้นไม้อีก ทำให้เขาไม่สามารถดิ้นหลุดออกไปได้
“เจ้า เจ้าสังหารพี่น้องของข้า!” คนที่เหลือชื่อว่าเฟิงถู่ได้คำรามเข้าใส่อี้เทียนหยุน
“ใช่ ข้าฆ่าพวกนั้น พวกเขาเป็นพี่น้องของเจ้า?” อี้เทียนหยุนมองตอบด้วยสีหน้าเฉยชา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งหกคนเป็นยังไง แต่ดูจากค่าความชั่วที่ได้ เชื่อว่าพวกเขาต้องทำเรื่องชั่วร้ายมามากอย่างแน่นอน
ที่สำคัญคือพวกมันถูกส่งมาเพื่อสังหารพวกเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นคนของอัครเสนาบดีหลงอย่างแน่นอน เพราะว่าเขาไม่เคยปรานีศัตรูหน้าไหน
“ข้าจะฆ่าเจ้า!!” เฟิงถู่คำรามออกมาเป็นครั้งที่สอง ทำให้อาการบาดเจ็บในร่างของเขารุนแรงขึ้น
“พวกเจ้าหกคนมีพลังแข็งแกร่งมาก ใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามาสังหารพวกข้า?” อี้เทียนหยุนถาม
“จะฆ่าก็ฆ่า อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากปากข้า!” เฟิงถู่คำรามออกมาอย่างเดือดดาล เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบอกอีกฝ่าย
“ไม่พูดอย่างงั้นเหรอ งั้นก็ง่ายมาก” อี้เทียนหยุนหยิบเอายาออกมา พร้อมกับยัดเข้าปากอีกฝ่าย จากนั้นอีกฝ่ายก็มีสีหน้าดำคล้ำ เห็นได้ชัดว่าถูกพิษ
“เจ้าเอายาพิษยัดใส่ปากข้า….” สีหน้าเฟิงถู่กลายเป็นซีดในทันใด พิษนี้ออกฤทธิ์เร็วมาก พริบตาก็ส่งผลออกมาแล้ว
“ใช่ ไม่ใช่ว่านี่เป็นพิษของพวกเจ้าหรือไง? เจ้าไม่อยากจะลองดูว่ารสชาดจะเป็นยังไงหรอกเหรอ” อี้เทียนหยุนนั่งลงที่ด้านหน้า รอคอยให้พิษแพร่กระจายออกไป
เฟิงถู่เริ่มดิ้น พร้อมกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พิษนี้มีฤทธิ์แรงมาก ทำให้เขาต้องเจ็บปวดทรมาน ในป่าแห่งนี้ พลันเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของเขาที่ดังก้องกระจายออกไป น้ำเสียงฟังแล้วให้ความรู้สึกสยองอย่างมาก พร้อมๆ กับเวลาที่ล่วงเลยผ่าน เขายิ่งมายิ่งอ่อนแรง ในตอนนี้ พิษได้ซึมลึกลงไปถึงไขกระดูกของเขาเรียบร้อยแล้ว
อี้เทียนหยุนไม่ใจอ่อน บนตัวพวกเขามียาพิษติดตัวจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่ามีไว้จัดการคนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย และแน่นอนว่าพวกเขาพลาดแล้วที่รับงานในคราวนี้มาทำ
เมื่อคิดจะลงมือ ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา
หลังจากที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย อี้เทียนหยุนก็ได้ลุกขึ้น พร้อมกับจับหัวอีกฝ่าย ขณะที่ตาของเขามีประกายเย็นเยียบเปล่งออกมา
“ค้นวิญญาณ!”
เขาใช้วิชาค้นวิญญาณออกมาทันที วิชาค้นวิญญาณนี้ไม่ใช่วิชาหายาก ตอนที่เขาจัดการผู้ฝึกตนเมื่อก่อนหน้าจึงได้รับมา ผลลัพธ์ของมันเป็นตามชื่อ เขาไม่เคยใช้มันมาก่อน แต่ในเมื่อตอนนี้เฟิงถู่ไม่เต็มใจพูดความจริงออกมา งั้นเขาก็คงต้องลองพึ่งวิชาค้นวิญญาณนี้อย่างเดียวเท่านั้น หวังว่าวิชานี้จะทำให้เขาได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พอที่จะใช้วางแผนการต่อไป
ในสภาวะค้นวิญญาณ ร่างของเฟิงถู่ก็สั่นไม่หยุด พร้อมกับพูดเพ้อออกมา “ข้า ครั้งหนึ่งข้าเคยสังหารตระกูลฟาง จากนั้นก็ข่มขืนลูกสาวของพวกเขา…. ข้าเคยสังหารตาแก่ตระกูลหลิว….. ข้าเคยสังหาร…..”
นี่ไม่ใช่ข้อมูลที่เขาต้องการ จากนั้นเขาก็ได้ข้อมูลมานิดหน่อย เริ่นหลงนั้นได้ถูกพวกเขาขังเอาไว้ ยังไงก็ตาม อีกฝ่ายก็หลุดเข้าไปยังพื้นที่ส่วนลึกของถ้ำมังกรขด ส่วนเรื่องชั่วร้ายอื่นๆ ที่เฟิงถู่ทำ เขาไม่สนใจ
ขณะที่เขาต้องการค้นวิญญาณสืบต่อ เฟิงถู่ก็กลายเป็นปัญญาอ่อนโดยสมบูรณ์ แม้คนจะไม่ตาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ข้อมูลจำนวนมากยังไม่ได้ค้น ค้นออกมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น พวกเขาถูกอัครเสนาบดีหลงส่งไปจัดการเริ่นหลง ทำให้เริ่นหลงตกลงไปสู่กับดัง จนสุดท้ายหลุดเข้าไปยังส่วนลึกของถ้ำมังกรขด นี่เป็นข้อมูลที่เขาได้มาเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ได้
ส่วนข้อมูลที่เหลือไม่สามารถค้นออกมาได้ เพราะตัวคนได้กลายเป็นปัญญาอ่อนไปเสียก่อน จิตวิญญาณเสียหาย เป็นไปไม่ได้ที่จะค้นข้อมูลอื่นๆ
“เป็นอัครเสนาบดีหลงส่งมาจริงๆ ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้ยังส่งพวกเขาหกพี่น้องไปจัดการกับเริ่นหลงด้วย ถือว่าให้เกียรติพวกเราจริงๆ…..” อี้เทียนหยุนปล่อยมือ ก่อนที่โบกมือคล้ายลูกศร จัดการเฟิงถู่ให้จบๆ ไป
หลังจากค้นตัวอีกฝ่าย เขาก็หมุนตัวบินไปยังถ้ำมังกรขดต่อ ไม่รั้งอยู่ที่นี่นาน ดูเหมือนว่าเริ่นหลงยังมีหวังที่จะมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ไม่ได้ตายในเงื้อมมือของพวกเขา
อย่างน้อยจากข้อมูลที่เขาค้นได้ เริ่นหลงก็ยังไม่ตาย แต่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนในในถ้ำมังกรขด หวังว่าจะยังมีชีวิตอยู่นะ