Crazy Leveling System - ตอนที่ 374
CLS ตอนที่ 374: คนโง่
หลังจากอี้เทียนหยุนตกลง ก็ทำให้สวี่เฟยเผยรอยยิ้มพอใจออกมาคราหนึ่ง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มคลุมเครือ
“เอาล่ะ ยินดีต้อนรับสู่กลุ่มพวกข้า ข้ารับประกันว่าจะนำท่านไปถึงถ้ำมังกรขดได้อย่างแน่นอน!” สวี่เฟยยังไม่ขอรับเศษหินวิญญาณในทันที แน่นอนว่าย่อมต้องรอให้ไปถึงถ้ำมังกรขดเสียก่อนถึงจะรับเศษหินวิญญาณ ถ้าเกิดรับเงินไปก่อนแล้วหนีไป ใครจะไปตามกลับมาได้?
แม้ว่า 1 พันเศษหินวิญญาณจะไม่มาก แต่ก็พอตัวอยู่ ที่สำคัญคือ ไม่มีใครชอบที่ตัวเองถูกโกงหรอก
อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นชายหญิงอีกฝั่งก็มองสำรวจอี้เทียนหยุน หลังจากพบว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็หันไปคุยกัน
“พี่ใหญ่เหลียง คราวนี้ที่พวกเรามายังถ้ำมังกรขด พอจะมีโอกาสเจอสมบัติบ้างไหม?” ทางฝั่งหญิงสาวได้ถามขึ้น ระดับของเธอไม่สูงนัก เป็นเพียงผู้มีพลังระดับหลอมรวมขั้นที่ 2 เท่านั้น การที่คิดจะเข้ามาในนี้ ถือว่าไม่เลวร้ายเท่าไหร่
“เรื่องสมบัติคงแล้วแต่โอกาส แต่การมาที่นี่คราวนี้ ใจความหลักคือการทำภารกิจขององค์หญิงให้สำเร็จ หากว่าพบเบาะแสของจักรพรรดิเริ่น หรือว่าโครงกระดูก ก็จะได้รับรางวัลใหญ่! ได้ยินว่ารางวัลนั้นมีค่ามากกว่ากระดูกมังกรเสียอีก” เหลียงหยวนเทียนพูดอย่างดูถูก “กระดูกมังกรอะไรนั่นมีแต่ในตำนานเท่านั้นแหละ คิดจะหามันยากมาก แต่ถึงจะมีก็คงถูกคนอื่นเอาไปแล้ว จะมาถึงตาพวกเราได้ยังไง?”
“ใช่ รางวัลที่องค์หญิงประกาศนั้นมีราคาสูงมาก ได้ยินว่าเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ หากพวกเราหาเบาะแสของจักรพรรดิเริ่นพบ ไม่ใช่ว่าพวกเราจะเป็นเศรษฐีกันหรอกเหรอ?”
“นี่ยังไม่แน่นอนนัก เจ้าคิดว่าที่คนมากมายมาที่นี่เพื่ออะไรกัน ไม่ใช่เพื่อหาเบาะแสของจักรพรรดิเริ่นอย่างงั้นหรอกเหรอ?” เหลียงหยวนเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวถิง หากเจ้าดีต่อข้า ข้าจะรับประกันความปลอดภัยของเจ้าเป็นอย่างดี!”
“ความปลอดภัยของผู้อื่นคงต้องพึ่งพาพี่ใหญ่เหลียงแล้ว….” สีหน้าของหวงถิงผู้นี้เต็มไปด้วยความประจบ ทั้งยังทำตัวแนบชิดกับเหลียงหยวนเทียนคนนี้ เพื่อให้เหลียงหยวนเทียนเป็นผู้คุ้มกันตน
เหลียงหยวนเทียนยื่นมือออกไปโอบหวงถิงเอาไว้ จากนั้นก็มองมาทางอี้เทียนหยุน ขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความชอบใจ
อี้เทียนหยุนมองยังขี้เกียจมอง คนมีตั้งเยอะ อาศัยความสามารถน้อยนิดของตน ก็มั่นใจจนตามืดบอด พร้อมกับทำตัวโม้เหม็น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่มีพลังฝึกตนต่ำล่ะก็อาจจะอิจฉา แต่สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรให้อิจฉา แค่อี้อวี่เหว่ยคนเดียวก็มีความงามเหนือกว่าพวกเขาแล้ว ไม่ต้องพูดถึงชิเสวี่ยอวิ๋นและเย่ชิงเสวียนเลย
ยังไงก็ตาม สิ่งที่พวกเขาคุยกันก็มีเรื่องที่เขาสนใจอยู่ เรื่องที่เริ่นจื่อโหรวทำการประกาศของรางวัลนั้น ก่อนหน้านี้เขาจำได้ ตอนที่อยู่เมืองหลงเหว่ย เขาได้ฟังคนในโรงเตี๊ยมคุยกันถึงเรื่องที่องค์หญิงกำลังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะต้องการส่งพวกเขาเข้ามาค้นหาในเขตอันตรายเทียนหลงแห่งนี้
เริ่นจื่อโหรวไม่ยอมแพ้ เพียงแต่เธอไม่มีเวลามาเอง ดังนั้นจึงต้องให้คนอื่นช่วยหาเบาะแส ตราบเท่าที่พบเบาะแส หรือไม่ก็โครงกระดูก ก็จะสามารถมาขอรับรางวัลได้
อย่างเช่น อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์, วิชายุทธ์ระดับสวรรค์ ของพวกนี้ล้วนแต่ล่อตาล่อใจอย่างมาก ภายใต้ประกาศนี้ จึงทำให้ที่แห่งนี้คึกคักขึ้นมาในทันที
สวี่เฟยยังคงมองรอบๆ หวังว่าจะมีคนมาอีก แต่ถึงจะมีคนมา แต่ก็มากันเป็นกลุ่ม หรือไม่ก็ไม่คิดที่จะเข้าร่วมกับพวกเขา
“เจ้าเร็วหน่อยได้ไหม พวกเรารออยู่ที่นี่มานานแล้วนะ” เหลียงหยวนเทียนพูดอย่างไม่พอใจ
“ใช่แล้ว ข้ารออยู่ที่นี่กับพี่ใหญ่เหลียงมานานแล้ว ตกลงเจ้าจะนำทางหรือจะให้พวกเราเดินไปเอง!” หวงถิงก็มีสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน
“เอาล่ะ เอาล่ะ ดูเหมือนจะไม่มีคนอื่นแล้ว….” สวี่เฟยถอนหายใจ จากนั้นก็ตบมือแล้วพูดขึ้นว่า “ทุกคนตามข้า ระหว่างทางมีเรื่องร้อยล้านอย่าง อย่าได้เดินตามใจ ตามข้ามาให้ดี หากว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าไม่รับผิดชอบ เข้าใจไหม?”
ขณะที่พูด เขาก็ได้เก็บรอยยิ้ม พร้อมกับทำสีหน้าจริงจัง สีหน้าของเขาค่อนข้างจริงจังอย่างมาก เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรื่องที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเรารู้แล้ว ไปกันได้แล้ว!” หวงถิงโบกมือ บอกให้เขารีบนำทาง จากนั้นก็หันไปพูดกับเหลียงหยวนเทียนว่า “หากเกิดอะไรขึ้น มีพี่ใหญ่เหลียงอยู่ ย่อมไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว”
“เรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว” เหลียงหยวนเทียนเต็มไปด้วยความอวดดี ไม่เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจัง
สวี่เฟยมองพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็หันมาพูดกับอี้เทียนหยุนว่า “สหายท่านนี้ ท่านต้องเชื่อคำแนะนำของข้า ในนี้ค่อนข้างอันตรายอย่างมาก!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ที่เหลือฝากเจ้าด้วย” อี้เทียนหยุนมองไปยังคนทั้งสอง พร้อมกับคร้านที่จะสนใจ ถึงยังไงชีวิตของพวกเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่แล้ว
จากนั้น สวี่เฟยก็นำพวกเขาเดินเข้าไปด้านใน เหลียงหยวนเทียนกับหวงถิงก็เดินตามไปติดๆ ส่วนอี้เทียนหยุนนั้นรั้งท้าย เขาไม่ได้ทิ้งระยะเป็นพิเศษ เดินห่างจากพวกเขาแค่ 2 เมตรเท่านั้น
ภายใต้การนำของสวี่เฟย ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ แรงกดดันยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ถ้าใครที่มีระดับต่ำเกินไปล่ะก็ ตอนนี้คงได้เวลาถอนตัวแล้ว ไม่อย่างนั้น ไม่มีทางเดินไปต่อข้างหน้าได้ ยังไงก็ตาม เมื่อกล้าเข้ามา ระดับต้องไม่ต่ำกว่าระดับหลอมรวม ดังนั้นสวี่เฟยจึงได้เข้าไปถามอี้เทียนหยุนว่าจะมาด้วยกันไหม
ในพื้นที่ที่พวกเขายืนอยู่กันตอนนี้ ผู้ฝึกตนระดับปรับแต่งวิญญาณไม่สามารถเข้ามาได้ หากเข้ามามีแต่ต้องตายสถานเดียว ดังนั้นจึงอยู่ได้เพียงด้านนอก
อี้เทียนหยุนทำการสำรวจรอบๆ ตลอดทางที่ผ่าน นอกจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นแล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรเปลี่ยน ดูแล้วไม่ต่างไปจากด้านนอก แต่ยิ่งเดินลึกเข้ามาเท่าไหร่ ก็ยิ่งมืดลงเท่านั้น แถมยังไม่มีผู้คนผ่านมาทางนี้ด้วย
“นี่เจ้าพาพวกเรามาผิดทางหรือเปล่า ทำไมที่นี่ถึงไม่มีคนผ่านมาเลย?” หวงถิงตะโกนอยู่ด้านหลัง
“ชู่ววว!” สวี่เฟยทำสัญญาณบอกให้เงียบ บอกให้เธออย่าพูดเสียงดัง “นี่เป็นทางลัดที่ข้าค้นพบ ทั้งยังปลอดภัยกว่าทางอื่นด้วย ระหว่างทางให้ทำตัวให้เงียบที่สุด ถ้าเกิดว่ามีสัตว์อสูรโผล่ออกมา ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้หรอกนะ!”
เขามีสีหน้าสงบ แต่ในความคิดอยากจะตบหน้าผู้หญิงคนนี้สักที
อย่าว่าแต่เขา กระทั่งอี้เทียนหยุนยังอยากจะตบผู้หญิงคนนี้สักทีเหมือนกัน ตามามาเงียบๆ ไม่เป็นหรือไง ทำไมยังต้องพูดมากด้วย นี่เป็นเขตอันตรายเทียนหลง หากไม่อยากตายก็เชื่อผู้นำทางสิ
“ฮึ่ม!” หวงถิงไม่พอใจสุดๆ แต่ก็ยอมเงียบปากแต่โดยดี
สวี่เฟยปาดเหงื่อ จากนั้นก็มองสำรวจรอบๆ แล้วก็นำพวกเขาเดินไปด้านในต่อ หลังจากเดินมาได้สักพัก ที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ต่างก็มืดและเงียบสงบอย่างมาก รอบๆ เต็มไปด้วยสมุนไพรวิญญาณมากมาย แต่ว่าสวี่เฟยไม่เก็บ ส่วนพวกหวงถิงต่างก็พากันตาเป็นประกาย แต่ในขณะที่พวกเธอคิดจะเก็บอยู่นั้น เสียงของอี้เทียนหยุนก็ดังมาจากด้านหลัง
“หากไม่อยากตายก็อย่าเก็บอะไรมั่วซั่ว หญ้าวิญญาณที่นี่ไม่ได้มีไว้เก็บ ตัวเองหาที่ตายนั้นไม่สำคัญ แต่อย่าลากพวกเราไปด้วย” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่แยแส
“เจ้าหนู ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังรนหาที่สินะ?” เหลียงหยวนเทียนมองมาที่เขาอย่างเย็นชา พร้อมกับชักมีดสั้นออกมา
“เจ้ากำลังทำอะไร ที่นี่อันตรายมาก อย่าได้เก็บสมุนไพรตามใจ หากมีตัวอะไรออกมา ต่อให้อยากหนีก็หนีไม่ได้หรอกนะ!” สวี่เฟยตวาดให้พวกเขาหยุด
“ฮึ่ม เจ้าหนู ถือว่าเจ้าโชคดีไป ถ้าเป็นข้างนอกล่ะก็ เจ้าคงตายไปแล้ว!” เหลียงหยวนเทียนมองมาที่เขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็เก็บมีดสั้นกลับเข้าไป
หวงถิงก็มองมาที่เขาอย่างเย็นชาเช่นกัน เธอไม่พอใจเขาอย่างมาก
อี้เทียนหยุนยักไหล่ ดูเหมือนคำเตือนด้วยเจตนาดีของเขาจะกลายเป็นหาเรื่องใส่ตัวไปแทน ถ้าเป็นอย่างนี้ หากพวกเขาต้องการตาย เขาก็จะไม่ห้ามอีก