Crazy Leveling System - ตอนที่ 386
CLS ตอนที่ 386: ความต่าง
ขณะที่คนทั้งหลายเตรียมตัวที่จะไปอยู่นั้น ก็พลันได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากประตูบานที่เล็กที่สุด ส่งผลให้ทุกคนพากันหันไปให้ความสนใจในทันที หลังจากที่ประตูบานนั้นเปิดออก ก็ได้มีร่างที่คุ้นเคยเดินออกมาจากข้างในอย่างช้าๆ และเมื่อทุกคนได้เห็นร่างนั้นถนัดตา ก็พากันแสดงสีหน้าตกใจออกมา
คนที่ออกมาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่พวกเขาคิดว่าตายไปแล้วอย่างอี้เทียนหยุนนั่นเอง! ร่างของเขาเดินออกมาจากประตูที่ลึกลับที่สุด ด้วยสภาพที่สมบูรณ์แบบ ราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ดูราวกับเดินออกมาจากสวนหลังบ้านของตัวเองอย่างไงอย่างงั้น
ทุกคนพากันมองกันอย่างตกตะลึง ประตูที่มีชื่อเสียงและลึกลับที่สุด กลับถูกอี้เทียนหยุนเปิดออกอย่างไม่คาดฝัน ทำให้พวกเขายากที่จะเชื่อจริงๆ
ในนัยน์ตาที่งดงามของฮัวซีอิ่งเต็มไปด้วยความตกใจ สายตาที่มองไปยังอี้เทียนหยุนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่ออยู่เป็นเวลานาน และไม่ใช่เพียงแค่เธอเท่านั้น คนอื่นๆ ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ต่างก็พากันตกตะลึงกันสุดๆ ผู้ที่เข้าไปยังเส้นทางนั้น จำต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย การที่เขาสามารถผ่านออกมาได้ ตกลงแล้วมันคือเรื่องจริงหรือโกหกกันแน่?
“พะ พี่ใหญ่อี้!!” สวี่เฟยลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาอี้เทียนหยุนอย่างตื่นเต้น “ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่อี้จะต้องออกมาได้อย่างแน่นอน พวกเขาไม่เชื่อว่าท่านจะออกมา แต่ข้าคิดว่าท่านจะต้องออกมาได้แน่ๆ!”
สวี่เฟยตื่นเต้น แทบจะกอดเขาเอาไว้
“ใช่แล้ว อย่างพวกเขาจะมาเข้าใจความสามารถของข้าได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มบางๆ ให้ พร้อมกับเงยหน้ามองผู้คนที่อยู่รอบๆ ตรงหน้าของเขามีคนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในการผ่านประตู ซึ่งผ่านออกมาได้เร็วกว่าเขามาก
เขาไม่รู้ว่าประตูบานอื่นจะยากสักแค่ไหน แต่อย่างน้อยประตูที่ปูลาดไปด้วยหินสีฟ้านั้นจำเป็นต้องเสียเวลานานมาก เทียบกับเส้นทางอื่นแล้วย่อมต้องออกมาช้ากว่า คนอื่นส่วนใหญ่ล้วนต้องเผชิญกับการต่อสู้โดยตรง พวกเขาก็แค่ต้องฝ่าฝันไปทีละด่าน แต่ว่าเขาจำเป็นต้องสร้างทางไปทีละน้อยอย่างช้าๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ช้าได้ยังไง?
“นี่ นี่เป็นไปไม่ได้ ประตูนี้ไม่เคยมีใครผ่านออกมาได้มาก่อน แล้วเขาผ่านออกมาได้ยังไง!” หลังจากหวังเมิ่งหลงได้สติกลับมาอย่างช้าๆ เขาก็ชี้มาที่อี้เทียนหยุนพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง
“นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่ใช่บอกว่าใครที่เข้าไปยังเส้นทางนั้นจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยหรอกเหรอ? แล้วเขาผ่านออกมาได้ยังไง หรือว่าก่อนหน้านั้นจะเป็นแค่ข่าวลือ?”
“มันจะต้องเป็นเพียงข่าวลือแน่ๆ เจ้าหนูที่อยู่ข้างๆ สวี่เฟยจะไปมีความสามารถอะไร? พวกเราก็แค่เชื่อในข่าวลือว่ามันเป็นจริง แต่แท้จริงแล้วมันกลับไม่ได้อันตรายมากขนาดนั้น”
“งั้น พวกเราก็พลาดโอกาสนี้ไปแล้วน่ะสิ?”
ผู้ฝึกตนจำนวนมากพากันรู้สึกเสียใจ คิดว่าตัวเองพลาดที่ไม่เลือกเส้นทางนั้น จึงได้รู้สึกเสียใจอย่างสุดๆ
ฮัวซีอิ่งคิดอย่างไม่อยากจะเชื่อ สังสัยว่าเส้นทางนี้ร้ายกาจอย่างที่ข่าวลือว่าเอาไว้หรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นแค่เส้นทางธรรมดาเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว เธอก็ไม่เห็นท่วงท่าของยอดฝีมือจากอี้เทียนหยุนเลยแม้แต่น้อย
“พวกเจ้าอยากจะพูดยังไงก็พูดไปเถอะ หากคิดว่าข่าวลือไม่เป็นความจริง งั้นก็เข้าไปลองเลยสิ?” สวี่เฟยโบกมือ บอกให้พวกเขาเข้าไปลองดูเองสักครั้ง
เมื่อคำพูดของเขาจบลง หลายคนก็พากันปิดปากเงียบ ก่อนหน้านี้ก็แค่พูดออกไปด้วยความอิจฉาเท่านั้น พวกเขาจะไปกล้าทำจริงได้ยังไง หากว่ายากจริงอย่างที่ว่า ไม่เท่ากับพวกเขาแส่หาที่ตายหรอกเหรอ?
“ลองอย่างงั้นเหรอ? แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องมีการลองอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็มีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เจ้าจะให้พวกเราลองได้ยังไง?” หวังเมิ่งหลงแค่นเสียงออกมา
การทดสอบนี้ทดลองได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ครั้งที่สองจะไม่มีทางเข้าไปได้ ดังนั้นไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ก็มีสิทธิ์แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าหากล้มเหลวก็คือต้องตายอยู่ข้างใน หากสำเร็จก็จะได้รับรางวัล ต่อให้หลังจากนี้จะแข็งแกร่งขึ้น ก็ไม่มีทางที่จะเข้ารับการทดสอบได้อีก
“ไม่จำเป็นต้องไปพูดกับพวกเขา พวกเราไป” อี้เทียนหยุนโบกมือ บอกให้เขาไม่ต้องไปสนใจพวกนั้น เพราะต่อให้ต่อล้อต่อเถียงต่อไปก็เปล่าประโยชน์
“ครับ พี่ใหญ่อี้!” สวี่เฟยพยักหน้า จากนั้นก็ไม่สนใจคนพวกนั้นอีก
อี้เทียนหยุนยกเท้าเดินออกไปโดยไม่สนใจคนอื่นๆ อีก ฮัวซีอิ่งก็มองมาที่นี่ สายตาของเขาเหลือบไปสบตาเธอเข้าครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไร พร้อมกับเดินไปข้างหน้าต่อไป
ที่ตรงหน้าของเขาปรากฏปากมังกรขนาดใหญ่ พร้อมกับเส้นทางที่นำเข้าสู่ข้างใน ซึ่งไม่รู้ว่าเส้นทางนี้จะนำเขาไปยังที่ไหน
“เจ้าเด็กนี่ ช่างเป็นคนที่อวดดีจริงๆ!” หวังเมิ่งหลงแค่นเสียงออกมา “ข้าอยากจะรู้นัก ว่าหลังจากเข้าไปในนั้นแล้ว เจ้ายังจะแสดงท่าทางแบบนี้ได้อยู่หรือเปล่า!”
พูดจบเขาก็เดินตามไป ฮัวซีอิ่งกับพวกก็ตามไปเช่นกัน พวกเธอวางแผนที่จะไปแต่แรกอยู่แล้ว ต่อให้อี้เทียนหยุนไม่ปรากฏตัวขึ้น พวกเธอก็ยังจะเข้าไปสำรวจด้านในอยู่ดี
หลังจากก้าวเข้ามายังด้านในปากมังกรนี้ นอกจากถนนเส้นหลักที่ทอดยาวมาจากข้างนอกแล้ว ในพื้นที่ที่กว้างขวางนี้ ก็ไม่มีเส้นทางอื่นอีก ดูแล้วค่อนข้างปลอดภัยเป็นอย่างมาก ที่นี่ไม่มีของประดับตกแต่งอะไร ใกล้ๆ กันนั้นเป็นกำแพงแข็ง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรอื่นอีก
และเมื่อพวกเขาเดินไปได้อีกช่วงหนึ่ง ใกล้ๆ กันนั้นก็พลันปรากฏเส้นทางสองเส้นขึ้น แต่อี้เทียนหยุนกลับเพิกเฉยต่อเส้นทางทั้งสองนั้น พร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ
ในขณะที่สวี่เฟยกำลังจะพูดอะไรอยู่นั้น เมื่อเห็นว่าอี้เทียนหยุนก้าวเดินต่อ เขาก็ทำการเดินตามอี้เทียนหยุนไป พร้อมกับก้าวข้ามสะพานที่ทอดยาวไปยังอีกฝั่ง และที่ฟากฝั่งนั้นก็ได้ปรากฏม่านแสงสีเขียวขึ้น ราวกับเป็นกำแพงกั้นก็ไม่ปาน
หวังเมิ่งหลงกับพวกมองไปยังเส้นทางรอบๆ พร้อมกับขมวดคิ้ว แต่ก็ยังคงก้าวต่อไป เป็นธรรมดาที่ของดีจะอยู่ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอก
และในขณะที่พวกเขากำลังจะข้ามไปนั้น หลายคนก็ราวกับชนเข้ากับกำแพง ไม่สามารถเดินต่อไปได้
“นี่มันอะไรกัน พวกเราเข้าไปไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?”
หลายคนพยายามฝืนที่จะเข้าไป แต่ก็เหมือนกับมีกำแพงขวางกั้นอยู่ ไม่สามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งทำให้คนจำนวนมากพากันตกใจ และเมื่อคิดดีๆ แล้ว พวกที่ไม่สามารถผ่านไปได้ล้วนแต่เป็นคนที่ผ่านประตูความยากระดับมนุษย์เท่านั้น ในตอนนี้ในใจของหลายคนก็พลันเกิดความคิดขึ้น หรือว่าเส้นทางแต่ละเส้น จำเป็นต้องเป็นผู้ที่ผ่านประตูความยากตามระดับ?
และอย่างรวดเร็วพวกเขาก็ได้คำตอบ เมื่ออี้เทียนหยุนเดินไปเจอเข้ากับทางแยกอีกสองทาง เขาก็หันมาพูดกับสวี่เฟยว่า “เจ้าอยู่สำรวจที่นี่แหละ คว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ดี หลังจากออกมาแล้ว ให้ไปรอข้าข้างนอก”
“เจ้าไปเส้นทางทางซ้ายเถอะ ทางนั้นมีโอกาสรอเจ้าอยู่” นี่เป็นคำพูดที่ส่งผ่านลมปราณบอกกับเขา ไม่ได้พูดกับต่อหน้า
“ครับ!” สวี่เฟยก็ไม่ดื้อดึง หลังจากมองไปทางซ้ายและขวาคราหนึ่ง เหมือนกับกำลังทำการตัดสินใจเลือกเส้นทาง จากนั้นก็ทำการครุ่นคิด แล้วก็เลือกที่จะเดินไปเส้นทางทางซ้าย
อี้เทียนหยุนทำการเดินต่อไป พร้อมกับเดินผ่านม่านแสงสีเขียวเข้าไปอีกชั้น หวังเมิ่งหลงกับพวกก็ผ่านเข้ามาเช่นกัน มีเพียงพวกที่ผ่านประตูความยากระดับปฐพีเท่านั้นที่ไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ เหมือนกับพวกผู้ฝึกตนก่อนหน้านี้ ม่านแสงสีเขียวนี้ราวกับเป็นตัวกั้นกลางระหว่างด่านยังไงอย่างงั้น
ในตอนนี้พวกเขาก็รู้แล้วว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง หากตัดสินตามประตูที่ผ่าน นี่ก็หมายความว่า อี้เทียนหยุนเป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปถึงส่วนที่ลึกที่สุด ส่วนพวกเขากลับไม่สามารถเข้าไปได้ ไม่สามารถได้รับสมบัติที่ดีที่สุด!
ในที่สุดก็เหลือเพียงพวกเขาเท่านั้น และเมื่อก้าวเดินต่อไป ในขณะที่เจอทางแยกอีกสองฝั่ง อี้เทียนหยุนก็ยังคงก้าวเดินต่อไป พร้อมกับเดินทะลุผ่านสีเขียวเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
หวังเมิ่งหลงก็ตามไปติดๆ แต่ก็ชนเข้ากับม่านแสงอย่างแรง จนถูกดีดกระเด็นกลับมา และนี่ก็เป็นการแบ่งแยกระหว่างพวกเขาอย่างชัดเจน สถานที่ที่อี้เทียนหยุนไปได้ แต่พวกเขาไม่สามารถไปได้!