Crazy Leveling System - ตอนที่ 392
CLS ตอนที่ 392: มือข้างไหน
แม้ที่นี่จะเป็นอาณาเขตของตระกูลเริ่น แต่ว่าเริ่นหลงกลับไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ประตูสี่บานด้านนอก หลังจากที่เคยผ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็จะไม่สามารถเข้าไปเป็นครั้งที่สองได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เริ่นหลงมาที่นี่ ฟังดูแล้วช่างเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ
แต่แท้จริงเพราะเป็นคำสั่งของบรรพบุรุษ ที่ว่าไม่ให้มาที่นี่!
“แล้วก่อนที่พี่เริ่นจะเข้ามาที่นี่ ท่านรู้สึกยังไงถึงได้เลือกเส้นทางนี้?” หลังจากอี้เทียนหยุนคิด จึงได้ถามออกมา
“ก่อนที่จะเข้ามา…. ข้ารู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง ที่กำลังดึงดูดข้า” เริ่นหลงคิดแล้วพูดออกมา “จากนั้นข้าจึงตามแรงดึงดูดนั้นมา จนเดินเข้ามายังที่แห่งนี้”
“….” อี้เทียนหยุนสายตาเป็นประกายแห่งความนึกคิด “แล้วเรื่องโครงกระดูกมังกรที่พูดกันภายนอกนั่นล่ะ? ข้าสงสัยว่ามูลเหตุทั้งหมดอาจะเป็นเพราะโครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้ แต่เพราะว่าแกนโลหิตของมันถูกเผ่ามนุษย์ดูดกลืนจนหมด ดังนั้นจึงได้มาตายในที่แห่งนี้”
“คำพูดนี้เชื่อได้เหรอ?” เริ่นหลงถามอย่างสงสัย
“ก่อนหน้านี้บรรพบุรุษมังกรสวรรค์ไม่ได้บอกไว้หรอกเหรอว่าเขาถูกเหล่าทายาทฝืนให้มีชีวิต บางทีหากไม่เป็นเพราะการสังเวยคนในเผ่าเพื่อทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่งั้นก็อาจเป็นการหลอมรวมกับปีศาจ เพื่อต่อชีวิต” อี้เทียนหยุนพูดขึ้น พลางคิดว่าวิธีหลังอาจมีความเป็นไปได้มากกว่า “พี่เริ่น การที่ท่านถูกดึงดูดมาที่นี่ใช่ว่าจะไร้เหตุผลซะทีเดียว อาจเป็นเพราะว่าในร่างของท่านมีสายเลือดของมังกรสวรรค์อยู่ ดังนั้นจิตใต้สำนึกของท่านจึงดึงดูดให้มายังที่แห่งนี้เพื่อดูดกลืนเอาแกนโลหิตของบรรพบุรุษมังกรสวรรค์เพื่อต่อชีวิตก็เป็นได้”
เมื่ออี้เทียนหยุนพูดคำนี้ออกมา ก็ทำให้เริ่นหลงต้องมีสีหน้าตกใจ คำพูดนี้ของเขาไม่ได้หมายความว่าสาเหตุที่ถ้ำมังกรขดถูกทำลายตั้งแต่เริ่ม เป็นเพราะผลลัพธ์ที่ตระกูลมังกรสวรรค์ก่อขึ้นอย่างงั้นเหรอ?
“นี่อาจเป็นเพียงความจริงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ว่าน่าเสียดาย เพราะบรรพชนสั่งห้ามไม่ให้พวกเรามาที่นี่ ทำได้อย่างมากก็แค่สำรวจที่ภายนอก แต่ไม่ให้เข้ามา” เริ่นหลงพูดอย่างจริงจัง พร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด “น้องอี้ การคาดการณ์ของเจ้าอาจมีความเป็นไปได้ แต่อาจเป็นเพราะว่าที่นี่นั้นอันตรายเกินไป ดังนั้นบรรพชนของพวกเราจึงไม่ให้พวกเรามายังที่แห่งนี้ พลังของท่านบรรพบุรุษมังกรสวรรค์แห่งแกร่งมาก แม้ว่าระดับของข้าไม่ใช่น้อยๆ แต่ก็ยังถูกอีกฝ่ายสะกดเอาไว้อยู่ดี”
บรรพบุรุษมังกรสวรรค์ถือว่าเป็นต้นตระกูลของพวกเขา การกดข่มทางสายเลือดแน่นอนว่าย่อมรุนแรงอย่างถึงที่สุด ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะสามารถข่มพลังของพวกเขาได้ นี่ก็เหมือนกับราชาของพวกเขา พวกเขาจะไปกล้ากบฏตามใจได้ยังไง? เมื่อดูจากเหตุนี้ บางทีอาจไม่ใช่เพราะแรงดึงดูดจากแกนโลหิตมังกร แต่อาจจะเป็นการเรียกหาของสายเลือดก็ได้
แผนที่สมบัติมังกรขดชิ้นนี้ ช่างอันตรายถึงชีวิตจริงๆ หากว่าระดับของเขาไม่สูงพอ เขาคงตายอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ ตอนแรกมันบอกว่าระดับก่อแกนวิญญาณถึงค่อยเข้ามาที่นี่ หากว่าตอนนั้นเขามาตามที่แผนที่สมบัติมังกรขดแนะนำ อาจเป็นไปได้ว่าตัวเขาอาจจะถูกขังอยู่ที่นี่เหมือนกับเริ่นหลงก็เป็นได้
จากนั้นก็ทำได้เพียงรอคอยให้สุดยอดผู้เชี่ยวชาญสักคนมา แล้วช่วยพวกเขาจัดการกับโครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าพวกเขาจะออกไปได้เลย
แต่จะยังไงก็ตาม ความจริงพวกเขาไม่รู้แน่ชัดนัก เพราะที่นี่ไม่ใครที่จะอธิบายให้พวกเขาได้ คงได้แต่ออกไปจากที่นี่ก่อน
จากนั้นตรงด้านหน้าไม่ไกลก็ปรากฏเส้นทางขึ้น เป็นเส้นทางที่นำไปสู่ทางออก เมื่อเริ่นหลงได้เห็น ก็พลันแสดงสีหน้าดีใจออกมา
“ในที่สุดก็ออกไปได้สักที พวกเราออกไปกันเลยไหม!” เริ่นหลงถูกขังอยู่ที่นี่มานาน ในที่สุดก็จะได้ออกไปสักที แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไง?
อี้เทียนหยุนพยักหน้า พร้อมกับเดินออกไปด้วยกัน จนในที่สุดก็หายลับไปท่ามกลางเส้นทางนั้น
ขณะเดียวกัน ในตอนที่เขาได้รับสมบัติแล้วกำลังออกมา คนด้านนอกจำนวนมาก บางคนก็แสดงสีหน้าดีใจ ขณะที่บางคนก็แสดงสีหน้าเสียใจ
สวี่เฟยใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข ขณะที่รออยู่ด้านนอกคอยอี้เทียนหยุนออกมา
“ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่ใหญ่อี้ถึงจะออกมา การเก็บเกี่ยวครั้งนี้ไม่ใช่น้อยๆ จริงๆ การที่จะเข้าสู่ระดับก่อแกนวิญญาณไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย!” สีหน้าดีใจของสวี่เฟยยากที่จะปิด เห็นได้ชัดว่าเขาได้สมบัติอย่างดีมา
หลังจากที่หวังเมิ่งหลงออกมา สีหน้าของเขาล้วนเต็มไปด้วยความโกรธ “บัดซบ มีของแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง!”
ดูจากสีหน้านี้ของเขา ดูท่าคงจะไม่ได้รับสมบัติที่เป็นที่น่าพอใจ ดังนั้นจึงได้มีสีหน้าเดือดดาลขนาดนั้น แม้ว่าที่นี่จะมีสมบัติอยู่ แต่สมบัติที่ได้จะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอนั้น ขึ้นอยู่ที่โชคของแต่ละคน
ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแม้แต่น้อย ไม่เหมือนกับอี้เทียนหยุนที่ต้องเผชิญกับโครงกระดูกมังกรสวรรค์ เจ้าสิ่งนี้เป็นของที่เล่นกันถึงตายเลยทีเดียว
“สวี่เฟย เจ้าได้สมบัติอะไรมา เอามาให้ข้าดูสิ!” ภายใต้สีหน้าที่ไม่พอใจของหวังเมิ่งหลง เมื่อเขาเห็นสวี่เฟย จึงได้เดินเข้าไปแล้วพูดขึ้น
“เพราะอะไรข้าถึงต้องให้เจ้าดูด้วย?” สวี่เฟยขมวดคิ้ว เมื่อออกมาจากด้านใน ไม่มีใครหรอกที่จะบอกคนอื่นว่าตัวเองได้อะไรมา หากว่าคนอื่นเห็นว่าตนได้ของดีมา มันจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาหรือยังไง
หวังเมิ่งหลงที่ตั้งใจมาหาเรื่อง เมื่อได้ฟังจึงได้ตอบออกไปทันที
“เพราะว่าข้าคือหวังเมิ่งหลงยังไงล่ะ!” หวังเมิ่งหลงกำหมัดแน่น พร้อมกับมองมาที่เขาอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นว่า “ข้าบอกว่าให้เจ้าเอาของที่ได้ออกมา หากไม่เอาออกมา อย่าโทษข้าหากข้าจะอัดเจ้าแล้วลากเจ้ากลับตระกูลสวี่ ตอนนี้ตระกูลสวี่ใช้เงินจำนวนมากเพียงเพื่อตามหาเจ้า ข้าจะนำเจ้ากลับไปรับรางวัล!”
“ก็ลองดูสิ?”
เผชิญหน้ากับคำขู่ของหวังเมิ่งหลง สวี่เฟยกำหมัดแน่น ไม่ได้ชักกระบี่ออกจากเอว มองเขาอย่างเย็นชา ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย
“กล้าต่อต้านอย่างงั้นเหรอ? ดูท่าเจ้าคงต้องการความเจ็บปวดอย่างนั้นสินะ!” หวังเมิ่งหลงกำลังกังวลที่ไม่มีที่ให้ระบายอยู่พอดี ดังนั้นเขาจึงกำหมัดเตรียมที่จะต่อยสวี่เฟยให้ได้รับความเจ็บปวดสักหน่อย
“ข้าว่าเจ้าต่างหากที่ต้องการความเจ็บปวด?” อยู่ๆ ก็มีน้ำเสียงลอยมาจากด้านหลัง ทำให้หวังเมิ่งหลงต้องหันกลับไปดู และก็พบว่าอี้เทียนหยุนได้เดินออกมาจากข้างในพร้อมกับเริ่นหลง
มีหลายคนที่ไม่เคยเห็นเริ่นหลงมาก่อน ทำให้หลายคนพากันมองไปที่เขา สงสัยว่าคนที่ออกมาพร้อมกับอี้เทียนหยุนนี้เป็นใคร? ก่อนหน้านี้คนๆ นี้ได้เข้าไปด้านในด้วยอย่างงั้นเหรอ? ยังไงก็ตาม พวกเขากลับสัมผัสได้ว่าชายผู้นี้ไม่ใช่ธรรมดา เพียงแค่พลังที่เปล่งออกมาจากร่างของเขาก็แข็งแกร่งกว่าคนจำนวนมากในที่แห่งนี้แล้ว
“พี่ใหญ่อี้ ท่านออกมาแล้ว!” สวี่เฟยร้องออกมาด้วยความดีใจ
“เป็นเจ้า!” ดวงตาของหวังเมิ่งหลงเป็นประกาย “เจ้าออกมาจากข้างใน ได้ของอะไรมา เอาออกมาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้?”
“แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ?” อี้เทียนหยุนมองไปที่เขาอย่างเย็นชา
“ไม่อย่างงั้นเหรอ งั้นข้าก็จะค้นด้วยตัวเอง ดูว่าเจ้านำอะไรออกมาด้วย” คำพูดเพิ่งจะจบ หวังเมิ่งหลงก็ก้าวออกไป พุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุนอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือของเขากลายเป็นกรงเล็บมังกร พร้อมกับปลดปล่อยพลังมังกรจากในร่างออกมา
ดูเหมือนว่าตระกูลของหวังเมิ่งหลงผู้นี้จะไม่ธรรมดา ถึงกับหาแกนโลหิตมังกรจำนวนมากมาให้เขาดูดซับได้ ทำให้เขาสามารถระเบิดพลังระดับนี้ออกมา
อี้เทียนหยุนไม่หลบ แต่เมื่อหวังเมิ่งหลงพุ่งเข้ามา เขาก็ได้คว้าเข้าที่ข้อมือของอีกฝ่ายด้วยความเร็วที่เร็วกว่า พร้อมกับฟาดอีกฝ่ายลงกับพื้นอย่างแรง ทำให้ร่างของเขาถึงกับแน่นิ่งไปพักหนึ่ง
“มือ มือของข้า….”
หวังเมิ่งหลงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช หวังจะดิ้นให้หลุดจากเงื้อมมือของอี้เทียนหยุน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายยกเท้าขึ้นมาเหยียบหน้าอกไว้ ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
“เจ้า เจ้าสารเลว เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?” หวังเมิ่งหลงคำรามอย่างโกรธแค้น หวังจะสะบัดมือให้หลุดจากการจับกุมของอี้เทียนหยุน
“เจ้าคิดจะค้นตัวข้าด้วยมือข้างนี้สินะ?” อี้เทียนหยุนพูดขึ้นอย่างไม่แยแส
จากนั้นเขาก็หักข้อมือของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม “แกรก” แขนของหวังเมิ่งหลงส่งเสียงออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับบิดงออย่างผิดรูป เห็นได้ชัดว่าแขนข้างนี้ของเขาใช้งานไม่ได้แล้ว