Crazy Leveling System - ตอนที่ 399
CLS ตอนที่ 399: ต้นฟีนิกซ์เพลิง
“ฟีนิกซ์ตัวนั้นเพิ่งจะเกิด…..”
นัยน์ตาอี้เทียนหยุนเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ตัวเขาต้องการเพียงหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ แต่ใครจะรู้ว่าจะเจอเข้ากับลูกฟีนิกซ์ตัวเป็นๆ นี่ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ว่าฟีนิกซ์อาจจะหนีไปแล้ว แต่ที่ฟีนิกซ์เคยอยู่ตรงนี้ก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องค้นหาอย่างรอบคอบ
หากว่าฟีนิกซ์อยู่ที่นี่จริงๆ แล้วไม่ออกตามหา นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมาก
ที่นี่อยู่หากจากเมืองหลวงโดยใช้เวลากลับไปไม่นานนัก ดังนั้น หากว่ามีศัตรูที่ทรงพลังเข้าโอบล้อม เขาก็ยังสามารถกลับไปได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าไม่มีเรื่องให้ต้องกังวล
หลังจากออกสำรวจหาร่องรอยได้สักพัก เขาก็พลันหยุดลง ตัวเขาได้ค้นพบรอยแตกที่เป็นทางเข้าไปยังปากถ้ำ ในนั้นมีน้ำไหลเข้าไปไม่หยุด ปากถ้ำนั้นไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก เพียงพอให้คนคนหนึ่งเข้าไปได้
ตัวอี้เทียนหยุนเองก็ไม่ได้ใหญ่มาก หรือว่าเล็กเกินไป จึงพอเข้าไปได้ ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่คิดที่จะโดดเข้าไปในทันที แต่เขาค่อยๆ ส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปก่อน พร้อมกับทำการตรวจสอบข้างล่างนั้นอย่างบ้าคลั่ง ด้วยสัมผัสวิญญาณอันน่าตระหนกนี้ เพียงพอที่จะทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ภายในนั้นไม่มากก็น้อย
แม้จะบอกว่าเป็นการตรวจสอบ แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบละเอียดนัก เพียงสำรวจคร่าวๆ เท่านั้น
ภายใต้สัมผัสวิญญาณที่ลอดผ่านปากถ้ำเข้าไป อย่างรวดเร็วก็ตรวจพบทางสายหนึ่ง อย่างน้อยปากถ้ำนี้ก็ไม่ใช่ถ้ำตัน และเมื่อทำการตรวจสอบต่อไป สิ่งที่ปรากฏก็กลายเป็นพร่าเลือน เนื่องเพราะระยะทางที่ไกลเกินไป ดังนั้นจึงสำรวจได้เพียงเส้นทางทั่วไปเท่านั้น
อี้เทียนหยุนมองไปยังทางเบื้องหน้า พบว่ามีภูเขาตั้งอยู่ไม่ไกลนัก แม่น้ำที่นี่ไหลมากจากเขาลูกนั้น เขามองไปยังภูเขาลูกนั้นก่อน จากนั้นก็มองไปยังทางเข้าที่อยู่ด้านใต้แม่น้ำ พร้อมกับทำการตัดสินใจ
“ลงมันที่นี่แหละ”
อี้เทียนหยุนกระโดดลงไป ดำลงไปยังก้นแม่น้ำ พร้อมกับว่ายเข้าไปยังปากถ้ำอย่างรวดเร็ว เหตุผลที่เขาไม่ตรงไปยังเขาลูกนั้นแต่แรก เพราะเขาคิดว่าผลึกภาคีฟีนิกซ์นั้นค้นพบจากที่นี่ หากมันจะไหลตามน้ำมา กระแสนั้นจะต้องแรงมากแน่ๆ
แต่ว่าแม่น้ำสายนี้ไหลไม่เร็วนัก ทั้งยังไหลเข้ามายังปากถ้ำแห่งนี้ค่อนข้างเร็ว เพียงพอที่จะทำให้ผลึกนั้นเคลื่อนตัว ดังนั้นเขาจึงต้องทำการตรวจสอบที่นี่ก่อน หากว่าเขาตัดสินใจผิด เขาก็แค่ตรวจสอบกลับไปยังต้นน้ำก็พอ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
และเมื่อเขายิ่งดำเข้าไปเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ากระแสน้ำเร็วขึ้น ความแรงนี้พอที่จะขับเคลื่อนหินก้อนเล็กๆ ได้อย่างเพียงพอ อย่างรวดเร็ว ภายใต้กระแสน้ำ หลังจากว่ายมาอย่างยาวนาน ในที่สุดเขาก็มองเห็นด้านบน และเมื่อเขาแหงนหน้ามองขึ้นไป เขาก็พบว่าด้านบนมีแสงอ่อนๆ ส่องลอดลงมา
“ถึงสักที…..”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย จากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น ว่ายขึ้นไปยังด้านบน
“ตู้ม!”
และเมื่อเขาโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เขาก็พลันสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนอ่อนๆ ที่ส่งออกมา หากเทียบกับความรู้สึกเมื่อตอนที่ช่วยเย่ชิงเสวียนเมื่อก่อนหน้า ในถ้ำนี้ให้ความรู้สึกที่ร้อนกว่ามาก
และเมื่อเขากวาดสายตามองรอบๆ อย่างระวัง เขาก็พบต้นมะเดื่อขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับใบไม้สีแดงที่ลุกเป็นไฟกำลังโบกสะบัดอยู่ ราวกับการโบกสะบัดแต่ละครั้งจะเป็นการสร้างคลื่นความร้อนขึ้น เหมือนกับต้องการไล่เขาออกไป
ซึ่งใต้ต้นมะเดื่อไฟนี้ได้มีฟีนิกซ์ตัวน้อยอยู่ ฟีนิกซ์ตัวนี้ดูแล้วงดงามอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเพิ่งฟักออกมา ซึ่งดูเหมือนกำลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นมะเดื่อไฟนี้ รอบๆ ตัวมันเต็มไปด้วยเศษผลึกภาคีฟีนิกซ์จำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นส่วนที่ไม่ถูกน้ำพัดออกไป
เป็นไปได้ว่ายามที่ลูกฟีนิกซ์ตัวนี้ฟักออกจากไข่ เศษที่แตกของผลึกภาคีฟีนิกซ์จะกระเด็นออกไป พร้อมกับหล่นลงไปยังปากถ้ำ จนไหลออกไปกับกระแสน้ำ ยิ่งกว่านั้น ที่นี่ยังไม่มีทางออกอื่น ถือว่าเป็นถ้ำปิดโดยสมบูรณ์
ซึ่งแท้จริงแล้วมันยังมีทางออกอยู่ เพียงแต่แค่ถูกปิดผนึกไว้เท่านั้น ด้วยสายตาที่แหลมคมของเขา เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าใกล้ๆ มีค่ายกลสลักอยู่ เป็นค่ายกลเพื่อปิดซ่อนที่แห่งนี้ อย่างน้อยก็ไม่สามารถตรวจสอบที่นี่ได้จากภายนอก มีเพียงแต่ต้องเดินผ่านใต้ดินเข้ามาเท่านั้นถึงจะเจอ
โชคดีที่ก่อนหน้านี้ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นรู้จักแค่หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ ไม่ได้รู้จักผลึกภาคีฟีนิกซ์ พูดได้แค่ว่าเจ้าสิ่งนี้หายากมาก หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณยังพอจะพบเจอที่โลกภายนอก แต่ว่าการจะเจอกับสัตว์เทวะนี้ถือว่าเป็นเรื่องหายากจริงๆ หากไม่เข้ามายังที่ซ่อนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาได้ที่ไหน
„Has only small Phoenix really!” A Yi Tianyun innermost feelings excitement.
และในขณะที่เขาปีนเข้าไปนั้น ต้นมะเดื่อไฟก็พลันเกิดการเขย่าอย่างบ้าคลั่ง ใบไม้หลายใบปลิดปลิวลงจากต้น กลายเป็นดั่งคมดาบที่แหลมคม พุ่งเข้าใส่เขา และเพิ่งจะบินมาได้เพียงครึ่งทาง ก็พลัน “ฟรึบ” กลายเป็นเปลวไฟที่ลุกไหม้คมดาบนั้น
“ฟรึบ!”
อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไปรับเปลวเพลิงนี้ พร้อมกับดูดเข้ามาในร่างอย่างรวดเร็ว
“ติ๊ง ค่าความชำนาญในเปลวเพลิงนิรันดร์เพิ่มขึ้น 50…..”
“หือ หลังจากดูดกลืนเข้ามา ก็กลายเป็นค่าความชำนาญแทน แบบนี้ดีมาก”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ไม่คิดว่าเปลวเพลิงนี้จะเพิ่มค่าความชำนาญให้กับเปลวเพลิงนิรันดร์ของเขา เปลวเพลิงนิรันดร์นี้เลื่อนระดับยากมาก ขนาดปรุงยาจำนวนมหาศาลยังเพิ่มค่าความชำนาญได้แค่หลายร้อยไม่เกินพัน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่ามันเลื่อนระดับได้ยากขนาดไหน
การเลื่อนระดับของเปลวเพลิงนิรันดร์ นอกจากจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเปลวเพลิงของเขาแล้ว มันยังเพิ่มอัตราสำเร็จให้กับการกลั่นโอสถและหลอมศาสตราของเขาด้วย โดยเฉพาะอย่างหลังที่สำคัญเป็นพิเศษ เมื่อได้เห็นว่าค่าความชำนาญได้เพิ่มขึ้น ทันใดนั้นก็ทำให้เขารู้สึกพอใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ไม่คิดเลยว่าการโจมตีของต้นมะเดื่อไฟนี้จะให้ผลดีขนาดนี้ ยิ่งกว่านั้น พลังโจมตีของมันก็มีอยู่อย่างจำกัด ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายอะไร แต่ถ้าระดับของเขาต่ำ แน่นอนว่าต้องถูกเปลวเพลิงนี้เผาจนเป็นเถ้าถ่านอย่างช้าๆ
เขาทำการมองขึ้นไป จากนั้น ข้อมูลของมันก็พลันปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
ต้นฟีนิกซ์เพลิง : ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 8, หลังจากฟีนิกซ์ตายลง ต้นไม้นี้จึงได้ถือกำเนิด แต่ยังมีความทรงจำจากวิญญาณที่ตายไปก่อนหน้า จะทำการโจมตีคนภายนอก, ใช้วิชา เพลิงฟีนิกซ์, เมื่อสังหารจะได้รับเปลวเพลิงนิรันดร์และจิตวิญญาณฟีนิกซ์
ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ต้นมะเดื่อ แต่เป็นต้นฟีนิกซ์เพลิง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นต้นที่เกิดหลังจากฟีนิกซ์ตายด้วย แม้ว่าจะมีคำกล่าวที่ว่าฟีนิกซ์ไม่มีวันตาย แต่หากต้องพบเจอกับความเสียหายอย่างหนัก ก็ยังตายได้อยู่ดี หากบาดเจ็บไม่หนักมาก ตัวมันย่อมสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
“ฟรึบ ฟรึบ ฟรึบ…..”
ใบมีดเปลวเพลิงทั้งหลายรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นกลุ่มความร้อนกลุ่มหนึ่ง โจมตีเข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกเขาดูดเข้ามา กลายเป็นค่าความชำนาญให้กับเปลวเพลิงนิรันดร์ของเขา ยิ่งเขาเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ เปลวเพลิงก็ยิ่งปะทุออกได้รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ใบไม้บนต้นฟีนิกซ์เพลิงยิ่งมายิ่งเหลือน้อยลงทุกที การโจมตีแบบนี้ของมันแน่นอนว่าย่อมมีอย่างจำกัด หากยังโจมตีอย่างนี้ต่อไป ก็จะยิ่งเผาผลาญพลังวิญญาณที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนี้ไปจนหมด จนสุดท้ายก็จะกลายเป็นแห้งเหี่ยวไป
นี่เป็นเพียงการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย เพื่อหวังจะปกป้องลูกของตน เขาคิดว่าหลังจากที่ฟีนิกซ์ตัวนี้ตาย ตัวมันที่กลายเป็นต้นฟีนิกซ์เพลิง ก็ได้เลือกที่จะปกป้องลูกของตน จะปกป้องพิทักษ์มันจนถึงนาทีสุดท้าย
เขาไม่รู้ว่าต้นฟีนิกซ์เพลิงนี้จะยังมีจิตสำนึกอยู่อีกหรือไม่ แต่การกระทำของมันในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจอยู่หลายส่วน แต่หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ลูกฟีนิกซ์ตัวนี้จะต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน เพราะที่นี่ไม่มีซึ่งอาหาร แต่จะตายเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น!