Crazy Leveling System - ตอนที่ 411
CLS ตอนที่ 411: ปะทะ
สองต่อหนึ่ง?
มันก็ไม่ยุติธรรมจริงๆ นั่นล่ะ แต่ใครกันที่จะร้องหาความยุติธรรมท่ามกลางสนามรบ? ผู้ชนะเป็นจ้าว แพ้เป็นโจร ใครชนะคนนั้นก็คือราชา
แต่เมื่อคำพูดนี้พูดออกจากปากของอี้เทียนหยุน มันก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน หากว่าสองต่อหนึ่งแล้วยังฆ่าเขาไม่ได้ งั้นมันก็คงจะน่าผิดหวังมากจริงๆ
หลายคนต่างพากันตกใจ การโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้กลับไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเขาได้แม้แต่น้อย นี่มันจะท้าทายสวรรค์เกินไปหรือเปล่า? พลังที่ใช้ต้านรับการโจมตีนี้ออกจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว มือเปล่าปะทะกับกระบี่โดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร นี่มันพลังป้องกันอะไรกันแน่?
แน่นอนว่าพลังป้องกันของอี้เทียนหยุนย่อมไม่อ่อนแอ เขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใส่ชุดเกราะมังกรมารเรียบร้อยแล้ว ทำให้พลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นอีก 20 เท่า เมื่อรวมกับสายเลือดเทพมังกรที่ยกระดับ กับอะไรอีกหลายๆ อย่าง ทำให้พลังป้องกันของเขาปะทุขึ้นมาในทันที ต้องรู้นะว่าก่อนหน้านี้ ขนาดที่ระดับของเขายังอ่อนแออยู่ เขาก็ยังสามารถต้านรับการโจมตีของแม่ทัพเฟิงได้
แล้วยิ่งแม่ทัพเทพหลงเทียนที่อ่อนแอกว่าแม่ทัพเฟิงอยู่ขั้นหนึ่ง แค่มีดีที่อาวุธดีนิดหน่อย แต่อาวุธนี้ก็ไม่ได้ทำให้ความต่างระหว่างทั้งสองใกล้ขึ้นมา จึงทำให้อี้เทียนหยุนสามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแต่ใช้แม่ทัพเทพหลงเทียนเป็นโล่เนื้อรับการโจมตีของมังกรสวรรค์เท่านั้น แต่ยังสังหารแม่ทัพเทพหลงเทียนอย่างง่ายดาย ราวกับเทพสงครามก็ไม่ปาน!
การต่อสู้นี้น่าตื่นตะลึงอย่างมาก แต่การต่อสู้อื่นก็ยังคงดำเนินต่อไป แม้การต่อสู้นี้จะเขย่าขวัญขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุดมือ ที่ใจกลางยังคงปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้การต่อสู้ได้เข้าสู่สภาพที่ร้อนระอุที่สุดแล้ว
และมังกรของอี้เทียนหยุนก็ยังคงทำการเข่นฆ่าไม่หยุด ทุกที่ที่พวกมันเคลื่อนผ่าน ล้วนแต่มีซากศพกระจัดกระจาย สังหารพวกเขาจนพากันกรีดร้องออกมา กระทั่งมีทหารบางคนทิ้งหมวกและชุดเกราะเพื่อที่จะหลบหนี ขวัญกำลังใจพวกเขาตกใจ เมื่อเห็นว่าแม่ทัพเทพหลงเทียนถูกสังหารในพริบตา พวกเขาก็พากันขวัญกระเจิง
พวกเขาคิดว่ามีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากคอยช่วย ชัยชนะย่อมต้องตกเป็นของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้กลับเหมือนเป็นการบดขยี้อยู่ฝ่ายเดียว หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกเขาจะไม่ต้องพากันตายอยู่ที่นี่อย่างงั้นเหรอ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ขวัญกำลังใจของพวกเขาตกลงได้ยังไง?
แล้วยิ่งกว่านั้น ทั้งค่าประสบการณ์และค่าความชั่วที่ทะลักเข้ามาในร่างของเขาอย่างบ้าคลั่งนี้ก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก พริบตาก็เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่วนพวกมังกรดินและสองมังกรดำแดงนั้น ยามสังหารศัตรูแต่ละครั้ง ราวกับเป็นการเชือดคอหอยอย่างไงอย่างงั้น
ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนไม่สั่งให้พวกมันหยุด พวกมันก็จะไม่หยุด หากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไป ต่อให้ไม่ได้สังหารพวกระดับสูง แต่เพียงแค่พวกระดับก่อแกนวิญญาณพวกนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเลื่อนระดับได้ ค่าประสบการณ์จำนวน 73 เท่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นได้
ภายใต้ค่าประสบการณ์ที่ถั่งโถม การเลื่อนระดับจึงไม่ใช่เรื่องยาก
เริ่นหลงก็เข้าร่วมการต่อสู้เช่นกัน เขาจัดการเข้าสังหารแม่ทัพระดับผันแปรวิญญาณของฝั่งตรงข้าม แม้ว่าเขาจะไม่สามารถปะทะกับพวกอัครเสนาบดีหลงได้ แต่กับพวกระดับผันแปรวิญญาณพวกนี้ การจะสังหารพวกเขาย่อมไม่มีปัญหา
ตัวละครสำคัญก็คือเริ่นหลง ในตอนนี้ทั้งราชครูและอัครเสนาบดีต่างก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นเขา เขาถึงจะเป็นตัวละครสำคัญที่แท้จริง แม้ว่าจะทำลายเมืองหลวงนี้ได้ แต่หากไม่สังหารเขา พวกเขาก็ไม่สามารถปกครองอาณาจักรเทียนหลงนี้ได้
“สองต่อหนึ่งที่ข้าบอกว่าไม่ค่อยยุติธรรมนั้น ไม่ได้หมายถึงข้า แต่เป็นพวกเจ้า….. ด้วยจำนวนที่น้อยขนาดนี้ ก็ออกจะไม่ยุติธรรมต่อพวกเจ้าจริงๆ” อี้เทียนหยุนถือกระบี่มังกรเทวะจ้องไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา
อัครเสนาบดีหลงหน้าซีด ไม่คิดว่าจะมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แม่ทัพเทพหลงเทียนถูกสังหารทิ้งอย่างง่ายดาย นี่คือผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้เชียวนะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกฆ่า! ขนาดอีกฝ่ายมือเปล่า ยังสามารถสังหารลูกน้องมือดีของเขาได้
“จองหอง!”
ในตอนนี้เอง ราชครูก็ได้เข่นฆ่ามาถึง อักษรรูนหลายตัวปรากฏขึ้นในมือเขา ก่อนที่จะถูกปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับก่อตัวเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ขึ้นบนท้องฟ้า ทำการควบรวมเมฆสายฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะผ่าลงมาที่เขาอย่างไม่ปรานี!
พริบตาก็สามารถสร้างค่ายกลขึ้นมาได้ ไม่เสียทีที่เป็นถึงราชครู สมเป็นนักสลักอาคมระดับจงซือ ตัวราชครูนั้นไม่ได้มีการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เป็นกลยุทธ์ของเขาต่างหาก เขามีฉายาว่านักสลักอาคมระดับจงซือ การมาในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำลายค่ายกล ต่อให้เป็นสมบัติลับเทียนหลงเอง หากว่ามีเวลามากพอ เขาก็สามารถทำลายมันได้เช่นเดียวกัน
แต่ว่าน่าเสียดายที่เขาต้องมาพบกับอี้เทียนหยุน คิดจะคุยเรื่องทำลายค่ายกลแข่งกับเขาอย่างงั้นเหรอ?
“สายฟ้า?”
ในมือของอี้เทียนหยุนพลันปรากฏไข่มุกล้ำค่าออกมา พร้อมกันนั้นก็ปรากฏแรงดูดมหาศาล ดูดสายฟ้าทั้งหมดที่ผ่าลงมา ไหลเข้าไปในไข่มุกเทียนเหลย หลังจากที่ค่ายกลสลายไป อี้เทียนหยุนก็ยังคงบินอยู่กลางอากาศโดยที่ไม่เป็นอะไร กลับกัน ไข่มุกเทียนเหลยในมือของเขาตอนนี้กลับสูบสายฟ้าเข้ามาจนเต็ม
พลังโจมตีของสายฟ้านี้ไม่ได้อ่อนแอเลย มันมีพลังรบสูงถึง 50 ล้าน แต่ก็ถูกไข่มุกเทียนเหลยสูบเข้าไปจนหมดอยู่ดี ดีที่สายฟ้านี้ยังอยู่ในระดับที่ไข่มุกเทียนเหลยพอที่จะดูดกลืนได้ ไม่อย่างนั้น ไข่มุกเทียนเหลยคงระเบิดคามือของเขาไปแล้ว
“นี่มัน…..” ลูกตาของราชครูหดลง ค่ายกลที่น่าภาคภูมิใจของเขา กลับดูดกลืนไปทั้งแบบนี้นี่นะ
“สายฟ้านี้ดีจริงๆ แต่ว่าข้าคงต้องขอคืน!”
อี้เทียนหยุนเขวี้ยงไข่มุกเทียนเหลยออกไป ทำให้มีสายฟ้าที่น่าสะพรึงผ่าเปรี้ยงออกมาจากไข่มุกเทียนเหลย ตรงเข้าใส่อัครเสนาบดีหลง พลังนี้หากเทียบกับที่ราชครูใช้ออกมาเมื่อก่อนหน้า ถือว่าน่าสะพรึงกว่า
พวกเขาไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะมาไม้นี้ เขาสามารถปล่อยการโจมตีนี้ออกมาได้ด้วย ทั้งยังโจมตีไปยังอัครเสนาบดีหลงที่มีระดับต่ำกว่า ผลลัพธ์นี้จึงสร้างแรงกดดันให้กับอัครเสนาบดีหลงนิดหน่อย
อัครเสนาบดีหลงไม่ได้ยินเฉย ทั้งร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกร สายเลือดมังกรสวรรค์ในร่างของเขานั้นไม่เลวเลย ทำให้เขาสามารถใช้งานพลังของมังกรสวรรค์ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้
“เคล็ดวิชามังกรสวรรค์!”
อัครเสนาบดีหลงแหงนหน้าคำรามก้อง พลังของเขาระเบิดออกมาในพริบตา พร้อมกับฟาดมือออกมาอย่างโหดเหี้ยม ก่อให้เกิดเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ตกลงมาจากชั้นเมฆ กดทับลงบนสายฟ้าอย่างไม่ปรานี และเมื่อผู้คนพากันเห็นฝ่ามือนี้ สีหน้าก็พากันเปลี่ยนไป เพราะว่านี้คือฝ่ามือเทพใต้พิภพ!
นี่เป็นเคล็ดวิชาที่มีชื่อเสียงของจักรพรรดิใต้พิภพ แต่กลับถูกอัครเสนาบดีหลงใช้ออกมา นั่นหมายความว่าเขาจะต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจักรพรรดิใต้พิภพอย่างมาก ไม่อย่างนั้นเขาย่อมไม่มีทางใช้ฝ่ามือเทพใต้พิภพนี้ออกมาได้
ความอหังการของฝ่ามือนี้เมื่อเทียบกับที่ร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพปล่อยออกมาแล้ว ถือว่าแข็งแกร่งกว่ามาก แม้ว่าอาจจะด้อยกว่าตัวจักรพรรดิใต้พิภพปล่อยออกมา แต่พลังของมันคงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
เมื่อฝ่ามือยักษ์นี้กดทับลงมา มันก็ปลดปล่อยกลิ่นอายของขุมนรกออกมา ราวกับขุมนรกกำลังเปิดออก เตรียมที่จะฉุดกระชากสิ่งมีชีวิตลงไป
“เปรี้ยง!”
พลังทั้งสองปะทะกัน ก่อให้เกิดเป็นเสียงดังสนั่น คลื่นพลังงานที่เจิดจรัสระเบิดออกท่ามกลางท้องฟ้า ม้วนกวาดออกทุกทิศทาง ทหารหลายคนที่มีระดับต่ำ ถูกคลื่นพลังนั้นกดทับจนต้องหมอบลงกับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นได้
“ฝ่ามือเทพใต้พิภพ เจ้าเป็นสายลับของอาณาจักรใต้พิภพจริงๆ!” เมื่อเริ่นหลงได้เห็น เขาก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ ในสายตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล
ตลอดเวลาหลายปีที่อัครเสนาบดีหลงอาศัยอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่เคยทำเรื่องอยุติธรรมกับเขา กระทั่งมอบหน้าที่ที่สำคัญให้ด้วยซ้ำ แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นสายลับจริงๆ เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าตัวการใหญ่จะอยู่ใกล้ตัวเขาขนาดนี้!
คนอื่นๆ ต่างก็พากันเผยสีหน้าโกรธแค้นออกมา แม้ว่าก่อนหน้านี้จะคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่เมื่อความจริงเผยออกมา ในใจพวกเขาก็รู้สึกเดือดดาลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้