Crazy Leveling System - ตอนที่ 426: ชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่!
CLS ตอนที่ 426: ชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่!
อาณาจักรใต้พิภพตอนนี้ตกต่ำลงอย่างมาก นอกจากราชครูแล้ว ยังมีแม่ทัพปกป้องเมืองมาด้วย ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าอาณาจักรใต้พิภพนั้นตกต่ำลงมากเมื่อเทียบกับในอดีต จักรพรรดิใต้พิภพไม่สามารถออกมาได้ตามใจ แม้จะเหมือนศึกที่เสือกำลังจับกระต่าย แต่เสือก็ยังใช้พลังที่มีทั้งหมดออกมา
แม้นี่จะเหมือนเป็นการลดฐานะของตน แต่ก็ยังดีกว่าที่อาณาจักรใต้พิภพต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ต่อให้ต้องลดฐานะของตนลง แต่ก็ต้องทำลายฝั่งตรงข้ามให้สิ้นซากให้จงได้!
ราชครูนำทัพออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็คาดการไว้อยู่แล้วว่าต้องเผชิญหน้ากับกองทัพที่แข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่ายังไม่ทันจะเข้าไปใกล้เมืองหลวงใต้พิภพ ฝั่งตรงข้ามก็ส่งหัวกะทิออกมา พร้อมกับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
ไม่แปลกที่จะบอกว่าเมืองหลวงใต้พิภพไม่เคยถูกทำลายมาก่อน เพราะก่อนที่จะเข้าใกล้เมืองหลวง ก็มีกองกำลังที่แข็งแกร่งออกมาต้อนรับ พร้อมกับขับไล่ผู้รุกรานออกไปเสียก่อน
“ท่านประมุข ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี?” ทุกคนพากันมองมาที่อี้เทียนหยุน อยากจะดูว่าเขามีความคิดเห็นอะไรบ้าง
อี้เทียนหยุนส่งยิ้มบางๆ ออกมา “ครั้งนี้พวกท่านยังไม่ต้องออกไป จากนี้ไปให้ดูข้าลงมือ การจัดการกับพวกเขา ไม่จำเป็นต้องส่งพวกท่านออกไป”
พวกเขาพากันตกใจ นี่หมายความว่าอี้เทียนหยุนจะออกไปจัดการผู้คนมากกว่าพันด้วยตัวคนเดียว? แม้ว่าทหารที่ขี่อยู่บนเหยี่ยวจะเป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับก่อแกนวิญญาณ แต่ว่าผู้นำทัพมาคือราชครู การจะจัดการกับเขานั้นไม่ง่ายเลย
ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้พูดออกไป ในเมื่ออี้เทียนหยุนบอกพวกเขาว่าจะจัดการคนเดียว ก็ทำได้เพียงเชื่อใจเขาเท่านั้น
เมื่ออี้เทียนหยุนออกมาที่ด้านนอกของวังเทียนหยุน เขาก็หรี่ตามองไปยังกองทัพที่กำลังใกล้เข้ามา พร้อมกับแสดงรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า
เขาจัดการเปิดร้านค้าแห่งบาปขึ้นมา ที่ปรากฏอยู่ในร้านค้ามีเพียงแค่ 3 ชุดเท่านั้น แต่เขาก็เลือกชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่อย่างรวดเร็ว!
ชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่ : ต้องการเลเวล 30, หลังจากสวมใส่จะสามารถเรียนรู้ค่ายกลควบคุมกระบี่ได้, ในระยะสิบลี้ สามารถสัมผัสได้ถึงศาสตราระดับวิญญาณขั้นสูงทุกเล่ม สามารถควบคุมศาสตราพวกนี้เพื่อจัดการศัตรูได้ สูงสุดไม่เกิน 10,000 เล่ม, สามารถใช้วิชาท่องกระบี่ได้ ราคา 100,000 ค่าความชั่ว!
“แลกเปลี่ยนชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่!”
“ติ๊ง เสียค่าความชั่ว 100,000 แต้ม, ได้รับชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่!”
“สวมใส่ชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่!”
เมื่อเขาสวมใส่ชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่ บนร่างของเขาก็ปรากฏอาภรณ์สีขาวสว่างขึ้นในพริบตา เพราะว่ายืนอยู่ทีหน้าทางเข้า ทำให้ชุดของเขากระพือเพราะแรงลมเล็กน้อย ดูแล้วค่อนข้างงดงาม
คนที่อยู่ฝั่งเดียวกับเขาไม่รู้สึกถึงความแตกต่างแม้แต่น้อย เพราะชุดเกราะปรมาจารย์กระบี่นี้ไม่ได้มีพลังธาตุที่แข็งแกร่งอะไร อย่างมากก็พูดได้ว่าไม่สามารถอัดธาตุเข้าไปได้ตามใจ ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางที่แข็งแกร่งเผยออกมา
อย่างดีก็สัมผัสได้เพียงว่ากลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ส่วนที่เปลี่ยนก็มีความคล้ายคลึงกับผู้สวมใส่ ถ้าจะพูดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนก็คงได้
คนอื่นสัมผัสไม่ได้ แต่อี้เทียนหยุนกลับสัมผัสได้ว่าในระยะสิบลี้มีอาวุธระดับวิญญาณขั้นสูงปรากฏขึ้น ทั้งยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอาวุธพวกนั้นหลบอยู่ซอกมุมไหน ตราบเท่าที่อยู่ในระยะ เขาก็สามารถสัมผัสถึงมันได้ในทันที
“รอบๆ นี้มีเมืองอยู่…. อาวุธ อาวุธจำนวนมาก……” อี้เทียนหยุนหลับตาลง พร้อมกับเริ่มควบคุมอาวุธทุกเล่ม
ระยะห่างระหว่างทั้งสองยิ่งมายิ่งใกล้ ทำให้หลายคนรู้สึกกังวล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อี้เทียนหยุนจะลงมือสักที หรือว่าต้องรอให้เข้ามาใกล้เสียก่อนถึงจะลงมือได้? แม้ว่าวังเทียนหยุนจะแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าถูกโจมตีหนักๆ ติดต่อกัน ก็ไม่สามารถต่อต้านได้นานนัก
ทางฝั่งราชครูที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก็มีสีหน้าที่ตรึงเครียด พร้อมกับออกคำสั่งต่อกองทัพเหยี่ยวบินอย่างเย็นชาว่า “เมื่อถึงเวลาให้พวกเจ้ายิงวิหารนั่นลงมาซะ ดูว่าพวกมันจะกล้าบินอยู่บนฟ้าอีกหรือเปล่า!”
“ครับ!”
กองทัพเหยี่ยวบินมากกว่าพันพากันขานรับเป็นเสียงเดียวกัน ดูแล้วฮึกเหิมอย่างมาก ในสายตาของพวกเขาแต่ละคนต่างก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร พวกเขาที่นั่งอยู่บนหลังเหยี่ยว สายตาก็ค่อยๆ ปรากฏแสงวาบออกมา ดูแล้วเหมือนกับตาเหยี่ยว ทั้งคนและสัตว์อสูร ต่างก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในมือของพวกเขาจับธนูยาวเอาไว้แน่น พร้อมกับเตรียมที่จะยิงถล่มวังเทียนหยุนลงมา ตราบเท่าที่วังเทียนหยุนสามารถผุพังได้ มันจะต้องถูกบดขยี้ทีละน้อย จนสุดท้ายก็พังทลายลง ต่อให้ระดับของมันจะสูงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสุดท้ายแล้วก็จะต้องถูกคนระดับต่ำอย่างพวกเขาค่อยๆ บดขยี้ทีละน้อย จนสุดท้ายก็ร่วงลงไปเป็นเนื้อบดอยู่ดี!
ดังนั้น ต่อให้ตำหนักบินจะดูเหมือนกร้าวแกร่ง แต่ก็เทียบได้กับเป้ามีชีวิต ภายใต้การโจมตีที่รุนแรง มันไม่มีทางทนต่อการโจมตีนี้ได้อย่างแน่นอน สุดท้ายแล้วก็ต้องพังทลายลงอย่างรวดเร็ว การต่อสู้ไม่ทันจะเริ่ม อีกฝ่ายก็ตายลงเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าควบคุมตำหนักบินสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะนี่ไม่ต่างจากกระทำที่โง่เขลาเลยสักนิด
ดังนั้น การกระทำของวังเทียนหยุนในปัจจุบัน ในสายตาของพวกเขาแล้ว ล้วนเป็นการกระทำที่โง่เขลาอย่างยิ่ง
ขณะที่หลายคนกำลังเป็นกังวลอยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็ทำการยกมือขึ้นเบาๆ พริบตา ศาสตราวิญญาณนับไม่ถ้วนก็บินขึ้นมาจากพื้น พร้อมกับมารวมตัวกันที่วังเทียนหยุน ไม่ก็ตรงกองทัพเหยี่ยวบิน พริบตาก็รวมกันได้หลายร้อย จนมากกว่าพัน!
2000!
3000!
……
6000!
7000!
……
10,000!
ศาสตราวิญญาณนับหมื่นเล่มบินขึ้นมาจากพื้น โอบล้อมวังเทียนหยุนไว้ในพริบตา ถูกอาวุธนับหมื่นโอบล้อม ทันใดนั้นก็ทำให้ทุกคนตกใจ ทำไมถึงมีศาสตราวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ลอยขึ้นมา ทั้งยังโอบล้อมวังเทียนหยุนไว้อีกด้วย
เมื่อเห็นศาสตราวิญญาณจำนวนมาก นัยน์ตาของราชครูก็จมลง รู้สึกไม่เข้าท่าขึ้นมาทันที ศาสตราวิญญาณสำหรับพวกเขา เป็นไม่ได้แม้แต่ขยะ ต่อให้ตกอยู่บนพื้น พวกเขาก็ไม่มีทางหยิบขึ้นมา
แต่ศาสตราวิญญาณนับหมื่นเล่มตอนนี้นั้นต่างออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังบินอยู่กลางอากาศอีก ทำให้ความสำคัญของมันยิ่งต่างกันออกไปมากกว่าเดิม!
“หมื่นกระบี่รวมศูนย์!”
อี้เทียนหยุนพลันลืมตาขึ้นมา พร้อมกับมีลำแสงยิงออกจากตาของเขา ศาสตราวิญญาณก็พลันพุ่งออกไป ภายใต้การควบคุมของเขา ศาสตราวิญญาณนับหมื่นก็ทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเร็วมาก ทำให้ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ไม่สามารถมองเห็นได้
แม้ว่าชุดปรมาจารย์กระบี่จะไม่ได้มีเอฟเฟ็กอะไรมากนัก แต่ก็ยังสามารถแสดงพลังของผู้สวมใส่ออกมาได้ นั่นหมายความว่า ศาสตราวิญญาณนับหมื่นนี้ เทียบเท่ากับการโผเข้าใส่ของผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ แล้วอย่างนี้จะไม่เร็วได้ยังไง?
“เร็ว หลบเร็วเข้า!” ราชครูคำรามออกมา พร้อมกับรีบยกโล่ขึ้นอย่างรวดเร็ว หวังที่จะต้านทานคลื่นศาสตราวิญญาณพวกนี้ แต่ศาสตราวิญญาณพวกนี้มีมากเกินไปจริงๆ ศาสตราวิญญาณนับหมื่น ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ก็ไม่สามารถต้านรับทั้งหมดได้ในครั้งเดียว
“!”
แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป คลื่นศาสตราวิญญาณที่รุนแรงเสียบแทงเข้ามา ทะลุร่างกองทัพเหยี่ยวบินจนปรากฏหลุมเลือดอย่างรวดเร็ว ทหารที่นั่งอยู่บนนั้นต่างก็พากันร่างแข็งค้าง พร้อมกับเบิกตาโพลง ก่อนที่จะตกลงจากของเหยี่ยวบิน
จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหลือก็เพียงส่วนน้อย กองทัพเหยี่ยวบินส่วนใหญ่ล้วนแต่ตายกันหมด ปรากฏเป็นหยาดเลือดขนาดใหญ่หยดลงมาจากฟ้า ราวกับฝนโลหิตอย่างไงอย่างงั้น
เช่นเดียวกับอี้เทียนหยุนที่ได้รับค่าประสบการณ์มาเป็นกอบเป็นกำ แต่เพราะว่าระดับของพวกนั้นต่ำเกินไป ดังนั้น สำหรับเขาแล้วจึงถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยอย่างมาก แม้ว่าจะมีเอฟเฟ็กเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 16 เท่าก็แล้ว แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้เมื่อเทียบกับความต้องการในปัจจุบันยังถือว่าน้อยมาก แต่จะยังไงก็ตาม สำหรับเขาแล้วก็ดีกว่าไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องเปิดใช้งานโหมดคลั่งอยู่ดี
เมื่อผู้คนได้เห็นฉากนี้ ก็พากันมีท่าทางราวกับเป็นคนปัญญาอ่อน! ดูเหมือนว่าอี้เทียนหยุนจะมีพลังที่สามารถควบคุมศาสตราวิญญาณนับหมื่นได้จริงๆ!