Crazy Leveling System - ตอนที่ 460: พูดคุย
CLS ตอนที่ 460: พูดคุย
การปรากฏตัวของอี้เทียนหยุนไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาอะไร มีสองกลุ่มเข้ามาชวนเขา ส่วนกลุ่มอื่นๆ ล้วนแต่ไม่สนใจ ยังมีผู้ฝึกตนอื่นๆ อีกสองสามกลุ่มที่ไม่เลวเลย ยิ่งกว่านั้นยังดูแล้วเหมือนมาด้วยกัน ดังนั้น การที่ไม่เข้ามาชวนเขาจึงเป็นเรื่องธรรมดา
เริ่นเหลียงเฉินก็เป็นหนึ่งในนั้น เพียงแต่ว่าจำนวนของกลุ่มเขาน้อยเกินไป ดังนั้นจึงต้องการชวนคนอื่น ส่วนทางด้านหลิวหลงนั้น ไม่สนใจว่าจะมีคนใหม่เข้าร่วม จะดีจะแย่ก็ขอให้มีคนมากเข้าไว้เป็นพอ
“มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?” อี้เทียนหยุนคิดว่าการยืนอยู่เฉยๆ ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นจึงถามดูว่ามีอะไรให้เขาช่วยบ้างไหม
“เจ้ารออยู่ที่นั่นก็พอ ที่นี่ปล่อยพวกข้าจัดการเอง เจ้าแค่รักษาพลังเอาไว้ เมื่อถึงเวลาไป ให้เตรียมตัวต่อสู้ ที่นี่ไม่ต้องการคนที่ห่วงชีวิตและกลัวตาย หากกลัวตาย ข้าขอให้เจ้ารีบกลับไปดีกว่า ไม่อย่างนั้น แม่น้ำใต้พิภพนี้จะเป็นหลุมฝังศพของเจ้า!” เสียงของเหลิงหู่ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกไม่ดีอะไร
นี่เป็นแค่คำแนะนำทั่วไป ยิ่งกว่านั้นยังมากไปด้วยความจริง เพียงแต่เป็นความจริงที่ไม่ผ่านการไตร่ตรอง ไม่แปลกที่บอกว่าเหลิงหู่คนนี้พูดไม่เข้าหู การพูดด้วยสีหน้าแบบนั้นของเขา ไม่ว่าใครก็ฟังไม่เข้าหูด้วยกันทั้งนั้น เหมือนกับอีกฝ่ายไม่ชอบตนงั้นแหละ
“เหลิงหู่ หยุดพูดมากได้แล้ว คนที่มาที่นี่ มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าที่นี่อันตราย? หากว่าระดับแย่จริงๆ คงไม่สามารถผ่านด้านนอกนั้นมาได้ การที่มาถึงที่นี่ได้ด้วยตัวคนเดียว ข้าคิดว่าน้องอี้จะต้องมีความสามารถอยู่บ้างอย่างแน่นอน” เริ่นเหลียงเฉินถลึงตาใส่เขา ทำให้เขาตกใจ การพูดแบบนั้นของเขา ง่ายมากที่จะก่อให้เกิดการผิดใจกัน
“พี่ใหญ่เริ่น ข้าก็แค่บอกความจริง เรื่องมันก็แค่นี้ แต่ละคนต่างก็มีความอวดดี หากว่าเขาไม่มีความสามารถอะไร อาจจะก่อให้เกิดความหายนะต่อคนอื่นได้” เหลิงหู่ไม่สนใจคำเตือนของหัวหน้า จากนั้นก็หันมามองอี้เทียนหยุน พร้อมกับพูดขึ้นว่า “หวังว่าเจ้าจะฉลาด ฟังคำเตือนของข้า แม้ว่าเจ้าจะไม่แข็งแกร่งมาก แต่อย่างน้อยก็อย่าถือมีดมาแทงข้างหลัง ลากพวกเราลงไปด้วย อย่างนี้พวกเราถึงจะวางใจให้เจ้าดูหลังให้”
“แม่น้ำใต้พิภพนี้พวกเราไม่เคยไปมาก่อน ดังนั้นตลอดทางล้วนแต่มีอันตรายที่พวกเราไม่รู้ แต่อย่างน้อยพวกเราต้องรู้จักกันเอง ต้องเชื่อใจกัน ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้ามาจากขุมอำนาจไหน แต่อยากให้เจ้าวางความอวดดีและฟังคำแนะนำของพวกเราบ้าง!”
เหลิงหู่พูดขึ้นไม่หยุด พูดไปก็โยนขวดยาให้กับอี้เทียนหยุน แล้วพูดต่อว่า “นี่คือยาถอนพิษ ไว้ใช้ถอนพิษจากแม่น้ำใต้พิภพโดยเฉพาะ หากตัวเจ้าโดนน้ำในแม่น้ำนี้เมื่อไหร่ ให้รีบกินยาถอนพิษนี้ทันที ไม่อย่างนั้น ผลลัพธ์ที่ตามมาจะทำให้เจ้าตายได้”
อี้เทียนหยุนรับยาถอนพิษขวดนี้มา พร้อมกับหรี่ตามองไปที่เหลิงหู่ ไม่คิดว่าเหลิงหู่ที่ปากเสียผู้นี้ จะเป็นคนใจดี เข้าเพิ่งเข้ากลุ่ม ก็แนะนำหลายสิ่ง ทั้งตอนนี้ยังมอบยาถอนพิษให้อีก เห็นได้ชัดว่าคนที่เข้าร่วมก็คือเพื่อนร่วมกลุ่ม ดังนั้นจึงเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
“เหลิงหู่ก็ปากเสียอย่างนี้แหละ น้องอี้อย่าใส่ใจเลย” ชายคนหนึ่งที่กำลังสร้างเรืออยู่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ข้าชื่อ หยางจื้อเหวิน เป็นพี่น้องกับพวกเขา พวกเรากำลังจะไปโลกวิญญาณด้วยกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้มงวดหน่อย”
เขาพูดพลางต่อเรือพลาง เรือที่พวกเขาต่อก็ง่ายมาก เพียงแค่เอาไม้มารวมเข้าด้วยกันก็เป็นเรือแล้ว ง่ายมาก
อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าข้ารู้ว่าพี่ใหญ่เหลิงนั้นหวังดี แค่พวกท่านยอมรับข้า แค่นี้ข้าก็ดีใจแล้ว”
อี้เทียนหยุนไม่ใช่คนที่ไม่ชอบคนพูดขัดหู ยิ่งกว่านั้น เหลิงหู่ยังพูดความจริงด้วย หากว่าเห็นแก่ตัวไม่ยอมฟังคำสั่ง อย่างนั้นจะทำให้การเดินทางยุ่งเหยิงได้
“น้องอี้ เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว” เริ่นเหลียงเฉินยิ้ม จากนั้นก็พูดด้วยเสียงกระซิบว่า “น้องอี้ โชคดีที่เจ้าไม่ได้รวมกลุ่มกับพวกหลิวหลง หลิวหลงผู้นี้ชื่อเสียงแย่มาก ทั้งนิสัยยังชั่วร้าย หักหลังเพื่อนเป็นว่าเล่น คนทางนั้นพวกเราพูดยังไงก็ไม่ฟัง ดูเหมือนจะถูกหลิวหลงผู้นั้นทำให้หลงผิด ข้าเดาว่าเพราะศัตรูของหลิวหลงมีมากเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้ จึงงทำได้เพียงไปยังโลกวิญญาณเท่านั้น”
เริ่นเหลียงเฉินยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาเตือนแล้ว แต่ทางฝั่งนั้นไม่ฟัง พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้
อี้เทียนหยุนพยักหน้า ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เขาคิด หลิวหลงผู้นั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนพวกเสแสร้ง ดีแล้วที่เขาไม่ได้ไปรวมกลุ่มกับฝั่งนั้น
“พี่ใหญ่เริ่น ข้ามีเรื่องอยากจะถาม ไม่รู้ว่าจะถามดีหรือเปล่า” อี้เทียนหยุนคิดแล้วพูดออกมา
“ว่ามาเถอะ เรื่องอะไรล่ะ” เริ่นเหลียงเฉินพูด
“ที่พวกท่านวางแผนจะไปโลกวิญญาณนั้น เป็นเพราะที่นี่ข้อจำกัดเยอะเกินไปอย่างงั้นเหรอ? พวกท่านไม่คิดที่จะเข้าร่วมสำนักหรือว่าอาณาจักรหรือยังไง?” อี้เทียนหยุนถาม
“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง พวกเราก็คิดอยู่ ขุมอำนาจระดับอาณาจักรก็มีดีอยู่หลายสำนัก อย่างเช่นวังเทียนหยุนที่มาใหม่นั่น ได้ยินว่าพวกเขากำลังเตรียมก่อตั้งอาณาจักร และยังมีขุมอำนาจอื่นอีก เพียงแต่พวกเราพี่น้องเป็นผู้ฝึกตนพเนจร ไม่ชอบเข้าร่วมขุมอำนาจพวกนี้ เนื่องเพราะแรงกดดันที่มองไม่เห็นมันมากเกินไป” เริ่นเหลียงเฉินยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่ไปยังโลกวิญญาณที่แสนอันตรายนั่นหรอก แต่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ดังนั้นจึงได้ไปตายเอาดาบหน้า ที่โลกวิญญาณมีขุมอำนาจที่แข็งแกร่ง ทั้งยังมากไปด้วยทรัพยากร!”
“เป็นอย่างที่พี่ใหญ่เริ่นพูด พวกเราสามพี่น้องคุ้นกับการอยู่ข้างนอกอย่างนี้ มันไม่มีปัญหาหากจะให้เข้าสำนัก แต่หากพวกเราเข้าสำนัก แล้วพวกเรายังจะไปโลกวิญญาณได้อยู่หรือเปล่า? คนที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้ฝึกตนพเนจรทั้งนั้น บ้างก็เลือกไปยังโลกวิญญาณ ไม่ก็มาหาเก็บสมุนไพรวิญญาณ หรือไม่ก็เพราะไปตอแยขุมอำนาจอะไรเข้า จึงต้องหนีไปซ่อนตัวยังโลกวิญญาณ” หยางจื้อเหวินพูดแทรกขึ้นมา
อี้เทียนหยุนพยักหน้า คำพูดนี้ก็ถูก พวกเขาอาจไม่ต้องการแสดงตัวหรือไม่ก็กำลังหลบหนีศัตรูอยู่ ไม่แปลกเลยที่คนที่อยู่รอบๆ จะมีสายตาดุร้ายทั้งยังไม่สนใจเขา ตราบเท่าที่ไม่ใช่ศัตรูที่ไล่ตามมา พวกเขาก็คร้านที่จะลงมือ
“น้องอี้ แล้วเจ้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนพเนจรอย่างงั้นเหรอ?” หยางจื้อเหวินถาม
ทั้งสองคนมองมาที่อี้เทียนหยุน ท่าทางสงสัยอย่างมาก
“ข้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนพเนจรหรอก แต่ก็ไม่ต่างเท่าไหร่ ข้าวางแผนว่าจะไปดูสถานการณ์ทางฝั่งโลกวิญญาณสักหน่อย” อี้เทียนหยุนยิ้ม คำพูดนี้เขาไม่ได้โกหก ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากผู้ฝึกตนพเนจร ก็แค่ประมุขที่คอยโบกมือออกคำสั่ง พูดอะไรก็ต้องอย่างนั้น
พวกเขาพากันมองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ นี่ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนพเนจรหรือไม่ เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา พวกเขาก็แค่รวมกลุ่มกันชั่วคราวเฉยๆ ไว้ถึงโลกวิญญาณเมื่อไหร่ก็แยกกัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องรู้เรื่องราวอะไรของอีกฝ่ายมากมายขนาดนั้น
อย่างรวดเร็ว เรือก็สร้างเกือบเสร็จ คนอื่นก็สร้างเสร็จแล้วเหมือนกัน พวกเขาต่างก็พากันเอาเรือลงน้ำ พร้อมกับพาเรือแล่นออกไป ทางฝั่งอี้เทียนหยุนก็เช่นกัน พวกเขาสร้างเรือไว้หลายลำ พร้อมกับเอาเรือลำที่เหลือใส่ไว้ในแหวนเก็บของ
เพราะไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าอันตรายขนาดไหน ดังนั้นจึงต้องเตรียมเรือไว้หลายๆ ลำ ไม่อย่างนั้น หากว่าเรือเสีย พวกเขาคงไม่สามารถว่ายกลับมาได้ พิษในแม่น้ำใต้พิภพนั้นแข็งแกร่งเกินไป หากโดนเข้าไป แน่นอนว่าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“น้องอี้ พวกเราจะไปกันแล้ว เจ้าเตรียมตัวเสร็จหรือยัง?” เริ่นเหลียงเฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“เรียบร้อยแล้ว ไปได้ทุกเมื่อเลย” อี้เทียนหยุนพยักหน้า
“ดี งั้นพวกเราก็ไปกันตอนนี้เลย!” เริ่นเหลียงเฉินนำคนขึ้นเรือ จากนั้นก็เริ่มแล่นเข้าไปยังแม่น้ำใต้พิภพ!