Crazy Leveling System - ตอนที่ 477: ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง!
CLS ตอนที่ 477: ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง!
อี้เทียนหยุนไม่มีทางลงไปอีก ดังนั้นคนที่คิดร้ายต่อเขาจึงทำอะไรไม่ได้
เมื่อลู่เฟิงเห็นร่างอี้เทียนหยุนหายไป ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะดูถูกคนอื่นเกินไป เหมือนจะมีหลายสิ่งที่ไม่แน่ชัด ยังมีอีกหลายเส้นทางที่ข้าต้องก้าวผ่าน……”
จากนั้น ลู่เฟิงก็พุ่งออกไปในทันที พร้อมกับไต่ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เพียงกระโดดไม่กี่ครั้ง เขาก็ปีนขึ้นไปถึงระดับที่สูง เหมือนว่าได้ตัดสินใจแล้วว่าจะยังโลกวิญญาณ ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ
พวกเขาจะพากันคิดอะไร อี้เทียนหยุนไม่สน ทั้งไม่คิดจะไปวุ่นวายด้วย
หลังจากขึ้นมา เขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ แต่นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรอีก ที่นี่ถือว่าผ่านยากอย่างมาก หากว่าผ่านไม่ได้ อาจจะต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่จริงๆ
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 5!”
ในที่สุด หลังจากดูดกลืนอย่างบ้าคลั่งเป็นเวลาไม่นาน เขาก็เข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 5 สำเร็จ นี่เป็นเพราะโหมดคลั่งหมวดค่าประสบการณ์ ทำให้เขาเลื่อนระดับได้อย่างเรียบง่าย หากให้ดูดกลืนตามปกติ คงต้องใช้เวลานานมากกว่าจะผ่าน
ที่นี่สำหรับเขาไม่ต่างอะไรไปจากศูนย์รวมค่าประสบการณ์ ที่พร้อมส่งค่าประสบการณ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาอดร้องออกมาไม่ได้เพราะความสุขสบาย หากเป็นอย่างนี้ต่อไป การที่เขาจะเข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุดคงไม่ใช่ปัญหา!
“ค่าประสบการณ์ที่นี่สูงจริงๆ ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มค่าความชำนาญให้กับเปลวเพลิงใต้พิภพได้อีก…. ช่างเป็นที่ที่เหมาะแก่การฝึกฝนจริงๆ” อี้เทียนหยุนเอ่ยชมที่แห่งนี้
ส่วนพวกเริ่นเหลียงเฉินที่พูดห้อยเอาไว้ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวกันอย่างช้าๆ เมื่ออี้เทียนหยุนไต่ขึ้นไปด้านบนด้วยความเร็วไม่เร็วไม่ช้า ก็ทำให้พวกเขารู้สึกกระดากใจอย่างแท้จริง
“น้องอี้ ให้พวกเราปีนขึ้นไปเองเถอะ!”
พวกเขาอยากจะปีนด้วยตัวเองสักระยะ เพื่อจะช่วยผ่อนแรงกดดันให้กับอี้เทียนหยุน พวกเขาไม่อยากเห็นอี้เทียนหยุนต้องแบกรับความเจ็บปวดที่ต้องแบกพวกเขาทั้งสามคน เพราะพวกเขารู้ดีว่าแรงกดดันของที่นี่เจ็บปวดแค่ไหน แค่ตัวคนเดียวพวกเขายังทนแทบไม่ได้
แต่ตอนนี้อี้เทียนหยุนกลับต้องแบกรับแรงกดดันของพวกเขาทั้งสามคนเพิ่มไปด้วย แค่คิดก็รู้สึกขนลุกแล้ว
“พวกท่านอยู่เฉยๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว รีบขจัดพลังงานสีดำที่เข้าไปในร่างให้ดี หากจัดการไม่ดี ท่านอาจจะเป็นอันตรายได้! ข้าไม่ได้ลำบากอะไรนัก สุดท้ายแล้ว ข้าไม่อยากต้องแบกคนพิการขึ้นไป!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
ที่เขาพูดไม่ได้โกหก พวกเขาต่างก็มาถึงขีดจำกัดกันแล้ว แม้ว่าจะขับไล่ไอดำไปได้มาก ทำให้พวกเขาฟื้นตัวกันได้ดี แต่ก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่นี่นั้นรุนแรงเกินไป หากพวกเขายังฝืนออกมาปีนอีก ไม่นานก็ต้องหมดสติลงอีกครั้งอย่างแน่นอน
เขารู้ว่าพวกเริ่นเหลียงเฉินคิดอะไร แต่ว่าเขาอยากจะขึ้นไปให้เร็วขึ้นหน่อย ดังนั้นยังไม่อยากเสียเวลาเพื่อคอยดูแลพวกเขา
พวกเขาพากันเงียบ ทำได้เพียงเชื่อฟังคำพูดของอี้เทียนหยุน พวกเขารู้ดีว่าตนเองได้มาถึงขีดจำกัด จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนานกว่าจะฟื้นตัวดี หมายความว่าอี้เทียนหยุนจำต้องปีนคนเดียว หากให้พวกเขาปีนด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะผ่านไปได้
พวกเขาพากันหน้ากัน จากสายตา ต่างก็เห็นได้ถึงความมุ่งมั่นของแต่ละคน
อี้เทีนหยุนปีนขึ้นไปด้วยความรวดเร็ว หลังจากทะลุผ่านเมฆดำนี้มาได้ ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาก็คือยอดผา ในที่สุดหลังจากปีนมาได้เกือบ 120 จ้าง พวกเขาก็ขึ้นมาถึงยอดผาได้สำเร็จ!
“ถึงแล้ว!”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย หากจะให้พูดก็ไม่ได้ถือว่าสูงนัก แต่ความยาก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย หลังจากขึ้นมาถึงยอด เขาก็ทำการปล่อยพวกเขาลง
เมื่อมาถึงยอดผา ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาก็มหาค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ และนอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรอีก ดูเหมือนว่าหลังจากผ่านมหาค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ไปแล้ว ก็จะไปถึงโลกวิญญาณได้สำเร็จ
มหาค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้อาจจะเป็นค่ายกลนำส่งข้างเดียว ไม่อย่างนั้นแล้ว ที่นี่จะต้องมีคนออกมาด้วยอย่างแน่นอน
“พวกท่านพักกันไปก่อน ข้าจะลงไปก่อน” อี้เทียนหยุนไม่อธิบายอะไร ทันใดนั้นก็ปีนหน้าผาลงไป
นี่ทำให้พวกเขาพากันตกใจ คนอื่นหลังจากขึ้นมาแล้วก็ไม่อยากลงไปอีก แต่อี้เทียนหยุนกลับตรงกันข้าม เขาลงไปข้างล่างอีกจริงๆ!
พวกเขาทำได้เพียงนั่งพักฟื้นอยู่ด้านบน อย่างแรกที่ต้องทำคือการขับไล่ไอดำออกจากร่างก่อน ไม่อย่างนั้นจะทำอะไรก็ไม่สะดวก พวกเขาถูกแบกขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยก็อยากจะเดินเองบ้าง
หลังจากอี้เทียนหยุนลงมา เขาก็ไม่ได้ลงไปจนถึงด้านล่าง เพียงแต่หยุดอยู่ตรงบริเวณเมฆดำ พร้อมกับดูดกลืนพลังงานที่นี่อย่างบ้าคลั่ง ที่นี่ล้วนแต่เป็นค่าประสบการณ์ทั้งนั้น เขาจะพลาดได้ยังไง?
“ปิดใช้งานฉายา!”
ฉายาผู้ส่งวิญญาณนี้สามารถปิดได้ หลังจากปิดใช้งาน เมฆดำรอบๆ ก็ได้ม้วนตัวราวกับน้ำวน พร้อมกับไหลทะลักเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง พยายามทะลวงเข้าไปในร่างของเขา หวังจะกลืนกิน
“พรึบ!”
เปลวเพลิงใต้พิภพทำการดูดกลืนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกลืนกินจนหมด! ไม่ว่าจะมากันมากเท่าไหร่ ก็จะถูกกลืนกินไปมากเท่านั้น นี่สำหรับเขาแล้ว ถือว่าเป็นประโยชน์มหาศาล!
“ค่าความชำนาญของเปลวเพลิงใต้พิภพเพิ่มขึ้น 2,000, 3,000, 3,500….”
ค่าความชำนาญได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเปิดใช้งานโหมดคลั่ง เพราะเมฆดำนี้มอบค่าความชำนาญไม่ใช่ค่าประสบการณ์! แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับเปลวเพลิงใต้พิภพ แต่ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเปลวเพลิงใต้พิภพอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น มันจะเปลี่ยนเป็นค่าความชำนาญได้ยังไง
หลังจากดูดกลืนได้สักพัก เสียงระบบก็ได้ดังขึ้นมา “ติ๊ง ยินดีด้วย เปลวเพลิงใต้พิภพของผู้เล่นอี้เทียนหยุนจากระดับปฐพีขั้นกลาง ได้เข้าสู่ระดับปฐพีขั้นสูง ระดับถัดไป ต้องการค่าความชำนาญ 10 ล้าน!”
หลังจากเลื่อนระดับ แรงดูดก็ได้เพิ่มขึ้นอีกขั้นใหญ่ จนเห็นเมฆดำรอบๆ ม้วนเข้ามาราวกับน้ำวน พร้อมกับเปลี่ยนเป็นค่าความชำนาญมหาศาล ราวกับการระเบิด
“ค่าความชำนาญของเปลวเพลิงใต้พิภพเพิ่มขึ้น 10,000, 20,000, 30,000….”
เพราะระดับที่เพิ่มขึ้น ทำให้แรงดูดได้เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล จนทำให้เมฆดำของที่นี่เบาบางลงในพริบตา! ใช่แล้ว ภายใต้การดูดกลืนอย่างบ้าคลั่งของเขา ทำให้เมฆดำของที่นี่บางลงอย่างไม่คาดคิด
คนอื่นแค่ดูดกลืนเข้ามาเพียงนิดหน่อยก็ทนแทบไม่ไหว แต่ว่าเขากลับดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ที่นี่บางลงได้ยังไง?
ไม่ว่าจะค่าประสบการณ์หรือค่าความชำนาญ สิ่งที่ได้รับมาทั้งสองอย่างนี้ต่างก็ทำให้เขาต้องร้องออกมาด้วยความสดชื่น คราวนี้ไม่ได้มาเสียเที่ยวแล้ว ไม่เพียงแต่เส้นทางนี้จะนำเขาไปยังรังฟีนิกซ์เท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาด้วย
เป้าหมายของเขาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้เท่านั้น แต่เป็นระดับราชาวิญญาณ! ถึงยังไงในขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ น่ากลัวว่าจะมีระดับราชาวิญญาณเดินกันให้พรึบ หากว่าเขายังไม่เลื่อนระดับอีก กลัวว่าคงได้แต่รอความตายเท่านั้น
พลังงานสีดำค่อยๆ เบาบางลงเรื่อยๆ คนที่อยู่ข้างล่างต่างเริ่มเห็นถึงสถานการณ์นี้ พร้อมกับแสดงอาการตกใจออกมา
“ดูเร็ว เหมือนว่าพลังงานสีดำจะเบาบางลงนะ ว่าไหม?”
“ผายลม อยู่ๆ พลังงานสีดำจะเบาบางลงได้ยังไง เจ้าคิดว่านี่เป็นเหมือนหมอกแห่งความตายหรือไง…. หือ บางลงจริงๆ ด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
พวกเขาต่างก็พากันเงยหน้ามองไปยังเมฆดำข้างบน เพราะสิ่งที่แตกต่างที่สุดอยู่ที่นั่น นั่นก็คือเมฆดำ! หากว่าเมฆดำหายไป งั้นพวกเขาก็สามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน!
ไม่มีใครรู้เลยว่าคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจะเป็นอี้เทียนหยุน!