Crazy Leveling System - ตอนที่ 500: วิญญาณร้าย
CLS ตอนที่ 500: วิญญาณร้าย
การดูดกลืนของอี้เทียนหยุนเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่มีความยากอะไร แม้ว่าระดับของเพลิงเทียนหยินจะสูง แต่ความยากในการดูดกลืนก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ โดยเฉพาะเขาที่ถือครองไข่มุกสมบัติใต้พิภพซึ่งเป็นอุปกรณ์ระดับเทวะ ทำให้การดูดกลืนมันเข้าไปจึงไม่เป็นปัญหา
อย่างรวดเร็ว เพลิงเทียนหยินจำนวนมากก็ถูกสูบเข้าไปในร่างของเขา ผู้อาวุโสใหญ่กับพวกที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็มองดูด้วยความหวาดกลัวและชื่นชม พร้อมกับคิดว่าจะไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ?
แน่นอนว่าอี้เทียนหยุนย่อมไม่เป็นอะไร จะมีก็แต่จะแข็งแกร่งขึ้นก็เท่านั้น พร้อมกับค่าประสบการณ์ที่พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว
เขาทำการดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง ภายใต้ทางเดินที่นำไปสู่ข้างใน ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ ความหนาแน่นของเพลิงเทียนหยุนก็ยิ่งมาก จึงทำให้ค่าประสบการณ์ที่ได้มากขึ้นไปด้วยเช่นกัน
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป การจะเข้าสู่ระดับสวรรค์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่าไหร่ เพียงแค่จำเป็นต้องใช้เวลาบ้างเท่านั้น
หลังจากเข้าไปข้างในทีละน้อย สีหน้าของพวกผู้อาวุโสใหญ่ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเขารู่ว่าใกล้จะเข้าสู่พื้นที่ที่ผนึกวิญญาณร้ายไว้แล้ว ดังนั้น จึงต้องเพิ่มการระวังให้มากยิ่งขึ้น
“ใกล้จะถึงพื้นที่ผนึกแล้ว ทุกคนเตรียมตัวไว้!” ผู้อาวุโสใหญ่พูดอย่างจริงจัง
พวกเขาพากันพยักหน้า ในใจอี้เทียนหยุนก็เต้นแรงขึ้นเหมือนกัน ที่จริงแล้วเขาก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าวิญญาณร้ายนั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหน ถึงได้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนเป็นกังวลได้ ดังนั้นท่าทางของเขาจึงได้จริงจังขึ้น
ภายใต้การเปิดทางของอี้เทียนหยุนโดยการดูดกลืนเพลิงเทียนหยินที่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาเดินไปสู่ข้างในได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีสะดุด และเมื่อพวกเขามาถึง ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขานั้น นอกจากเพลิงเทียนหยินที่น่าสะพรึงแล้ว ก็พบว่ามีมหาค่ายกลขนาดใหญ่มากมายเต็มไปหมด ที่ถูกสลักเอาไว้ตามพื้นหรือกำแพงรอบๆ
ตอนนี้ค่ายกลถูกทำลายไปมากแล้ว ขนาดค่ายกลที่อยู่ๆ รอบๆ ก็ยังถูกเพลิงเทียนหยินกำลังเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง ค่ายกลพวกนี้แข็งแกร่งมากพอแล้ว ขนาดภายใต้การเผาไหม้อย่างยาวนาน ก็ยังไม่ถูกทำลายลงจนหมด
ในนั้นมีรูปปั้นฟีนิกซ์ขนาดใหญ่สองตัวตั้งอยู่ ฟีนิกซ์ 1 ตัวเป็นตัวผู้ ขณะที่อีกตัวเป็นตัวเมีย รูปปั้นทั้งสองทำการสะกดผืนดินแถบนี้ แต่แค่ความแข็งแกร่งของทั้งสองยังไม่สามารถสะกดวิญญาณร้ายเอาไว้ได้ จึงทำให้เกิดเปลวเพลิงเทียนหยินที่พวยพุ่งออกมาไม่หยุด จนกระทั่งแพร่กระจายออกไป
ภายใต้การแพร่กระจายนี้ ทำให้เพลิงเทียนหยินเผาผลาญค่ายกลที่อยู่รอบๆ จนเกิดเป็นเส้นทางออกไปข้างนอก
“ใช้รูปปั้นฟีนิกซ์สองอันนั้นสะกดวิญญาณร้ายอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนรู้สึกถึงกลิ่นอายที่อันตรายสุดๆ โหมออกมาจากทางด้านนั้น ดูแล้วให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงเป็นอย่างมาก
“นี่ไม่ใช่รูปปั้น แต่เป็นบรรพบุรุษของพวกเราจริงๆ….. พวกท่านมีหน้าที่สะกดวิญญาณร้ายพวกนี้ จึงได้เปลี่ยนตัวเองเป็นรูปปั้น เพื่อที่จะได้สะกดวิญญาณร้ายพวกนี้ไว้ตลอดกาล” เมื่อผู้อาวุโสใหญ่กับพวกเห็นรูปปั้นนี้ ก็พากันแสดงสีหน้าเลื่อมใสออกมา
จากคำพูดของพวกเขา ที่นี่ได้ตกเป็นของศัตรู พวกเขาจึงต้องอพยพออกไปชั่วคราว พร้อมทั้งสะกดที่แห่งนี้ไว้
อี้เทียนหยุนมองไปยังรูปปั้นทั้งสองนี้ ในใจก็ให้เกิดความรู้สึกเลื่อมใสเหมือนกัน จิตวิญญาณแห่งการเสียสละนี้ ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก
“ฮี่ฮี่ฮี่ พวกเจ้ามาแล้ว พวกเจ้าไม่สามารถสะกดข้าไว้ได้ตลอดหรอก อีกไม่นานข้าก็จะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว…..” ในตอนนี้เอง ก็ได้มีเสียงที่น่าขนลุกส่งออกมาจากพื้นดินที่อยู่ไกลๆ พร้อมกับดังสะท้อนอยู่ในถ้ำ ดังก้องเข้ามาในหูพวกเขาไม่หยุด ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ไม่คิดว่าวิญญาณร้ายตัวนี้นั้นจะพูดได้ด้วย มหาค่ายกลไม่สามารถสะกดมันไว้ได้นานจริงๆ หากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไป วิญญาณร้ายตนนี้จะต้องหลุดออกมาได้อย่างแน่นอน
“เจ้าเดรัจฉาน! คราวนี้พวกเราจะผนึกเจ้า แล้วจะหาทางกำจัดเจ้าให้ได้ในครั้งต่อไป!” ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนอย่างเดือดดาล พร้อมกับกระแทกไม้เท้าในมือลงกับพื้นอย่างแรง ปลดปล่อยลำแสงที่บ้าคลั่งออกไป โจมตีไปยังพื้นดินเบื้องหน้า อย่างรวดเร็วก็โจมตีเข้าใส่พื้นดินด้านล่างรูปปั้น
“เปรี้ยง” มีเสียงระเบิดดังขึ้น เหมือนกับชนเข้ากับอะไรบางอย่าง แต่ดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยน
“กับการโจมตีแค่นี้ คิดจะทำร้ายข้า? หากว่าบรรพบุรุษเฒ่าของพวกเจ้ามาเอง บางทีอาจจะให้ข้าบาดเจ็บได้ แต่กับเด็กน้อยอย่างเจ้า กลับไปฝึกมาใหม่สักสองสามร้อยปีไป!” วิญญาณร้ายหัวเราะ ไม่ให้ความสนใจการโจมตีนี้
“สารเลว!” ผู้อาวุโสใหญ่หน้าดำคล้ำ พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้น “เจ้าเห็นค่ายกลที่นี่แล้วใช่ไหม พอจะซ่อมแซมให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า? ตราบเท่าที่ค่ายกลที่นี่ฟื้นกลับ พลังของมันก็จะตกลงไปขั้นใหญ่!”
“ไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนหยิบพู่กันขนมังกรออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเปิดเนตรสวรรค์ออกมา ทำให้สามารถมองเห็นมหาค่ายกลรอบๆ ได้อย่างชัดเจน
มหาค่ายกลที่นี่เป็นมหาค่ายกลระดับปรมาจารย์ ความยากนับว่าสูงจริงๆ หากมาตรฐานไม่ถึง ก็ยากที่จะซ่อมแซมมันได้สำเร็จ
ยังไงก็ตาม เขาก็ได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีปัญหา หลังจากเก็บกวาดเพลิงเทียนหยินรอบๆ อย่างรวดเร็ว เขาก็เริ่มลงมือซ่อมแซมมหาค่ายกลรอบๆ ด้วยความเร็วที่ไร้ซึ่งตำหนิ
นี่ทำให้พวกเขารู้สึกพอใจอย่างมาก ด้วยความเร็วในการซ่อมแซมนี้ อีกไม่นานคงสามารถฟื้นฟูมหาค่ายกลที่นี่แล้วเสร็จ ตราบเท่าที่ทำสำเร็จ เมื่อยามเข้าไปใกล้วิญญาณร้ายตัวนี้ก็จะไม่มีอันตรายอีกต่อไป
“เจ้าไปหาปรมาจารย์สลักอาคมมาซ่อมแซมค่ายกลอย่างงั้นเหรอ คราวนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าทำได้สำเร็จ!” วิญญาณร้ายหัวเราะออกมา พร้อมกับเพลิงเทียนหยินที่พวยพุ่งออกมาอีกครั้ง ก่อนที่กลายเป็นเงาขนาดใหญ่ โหมเข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว ราวกับค้างคาวยักษ์ ที่กำลังบินมาที่นี่
การโจมตีนี้ แม้วิญญาณร้ายจะถูกผนึกไว้จนทำให้ไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงออกมาได้เหมือนแต่ก่อน แต่พลังที่ปลดปล่อยมาในคราวนี้ก็มีพลังรบมากถึง 500-600 ล้าน! นี่แค่โจมตีออกมาสั่วๆ ยังมีพลังทำลายที่น่าสะพรึงขนาดนี้ พูดได้แค่ว่าวิญญาณร้ายตนนี้ แท้จริงแล้วน่าสะพรึงมาก
หากไม่น่าสะพรึงอย่างถึงที่สุด ป่านนี้ก็คงจะถูกกำจัดไปนานแล้ว
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ขณะที่กำลังจะปลดปล่อยพลังทั่วร่างเพื่อดูดกลืนพลังอยู่นั้น ร่างของผู้อาวุโสใหญ่ก็ได้มาขวางเอาไว้ พร้อมกับกระแทกไม้เท้าในมือลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนที่ร่างจะปรากฏฟีนิกซ์ขนาดใหญ่ กรีดร้องออกไป พร้อมกับปลดปล่อยเปลวเพลิงฟีนิกซ์ที่น่าสะพรึงลงมาจากฟ้า
พริบตา พลังรบก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 700 ล้าน พร้อมกับระเบิดเข้าใส่เงาดำนี้อย่างแรง แต่นี่ก็ไม่สามารถกำจัดเงาดำนี้ได้อย่างเด็ดขาด ทำให้มีพลังที่พุ่งเข้ามาที่นี่ต่อ
“แหลกไปซะ!” ผู้อาวุโสใหญ่คำรามก้อง พร้อมกับกระแทกไม้เท้าในมือลงไปอย่างแรง พร้อมกับปลดปล่อยลำแสงเจิดจ้าออกมาจากตรงกลาง ก่อนที่จะปะทะหักล้างกับเงาดำที่เหลือนี้!
เปลวเพลิงที่น่าสะพรึงที่โหมเข้ามาจากสองฟากฝั่ง พริบตาก็ถูกการโจมตีนี้ทำลายออกไป ในตอนนี้ ไม้เท้าในมือของผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่ใช่ไม้เท้าอีกต่อไป แต่เป็นกระบี่ระดับเทวะ!
“ช่างเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่จะทำให้ข้าไม่สามารถทำลายปรมาจารย์สลักอาคมของเจ้าได้หรือเปล่า? ข้าก็อยากจะรู้นัก ว่าคนที่เจ้าพามา จะถูกข้าทำลายไปก่อน หรือว่าจะซ่อมแซมค่ายกลพวกนี้เสร็จก่อนกันแน่?” วิญญาณร้ายหัวเราะ ทุกสิ่งรอบๆ หม่นแสง ค่ายกลที่อยู่รอบๆ ก็ค่อยๆ หม่นแสงลงทีละน้อย
วิญญาณร้ายเริ่มปลดปล่อยพลังออกมาอีกครั้ง หวังที่จะทำลายการผนึกในครั้งนี้!
“คิดจะแข่งความเร็วกับข้า?” อี้เทียนหยุนหรี่ตาจ้องไปที่วิญญาณร้าย แน่นอนว่าเขาย่อมด้อยกว่าในด้านของพลัง แต่คิดจะมาเทียบกันว่าค่ายกลจะถูกทำลายก่อน หรือเขาจะซ่อมเสร็จก่อน เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจจนต้องเปิดโหมดคลั่งหมวดสลักอาคมออกมา