Crazy Leveling System - ตอนที่ 519: ล้างแค้น
CLS ตอนที่ 519: ล้างแค้น
เหมินหู่หวาดกลัวจนขี้หดตดหาย ตำแหน่งของเขาในตอนนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็มีแต่หนทางตายอย่างเดียว ต่อให้ตะโกนจนคอแตกก็ไม่มีประโยชน์ หากว่าเป็นในสถานการณ์ทั่วไป เขาคงจะรวบรวมความกล้าแล้วใช้วิชาพยัคฆ์คำรามออกไป แค่นี้ก็คงจะทำให้โลกภายนอกรู้ตัวได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้เขาถูกกระบี่ปักอยู่ ทั้งกระดูกในร่างยังแตกไปหลายท่อน นี่เป็นสิ่งที่ป้องกันเขาจากการขอความช่วยเหลือ ทั้งยังทำให้เขาไม่สามารถโจมตีตอบโต้กลับไปได้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ทั้งยังเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีหนทางตอบโต้
และในตอนนี้ พวกผู้อาวุโสลั่วก็ได้แอบผลักประตูเข้ามา หากว่าเปิดประตูตามปกติ จะต้องถูกพบตัวอย่างแน่นอน แต่ว่าอี้เทียนหยุนใช้เทเลพอร์ทในขณะที่ล่องหนอยู่ ทำให้สามารถทำแผนการนี้ได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ
ดีที่คูลดาวน์หมดลงพอดี หลังจากที่เลื่อนระดับ ทำให้เวลาคูลดาวน์ลดลง ดังนั้นจึงทำให้กระบวนการแทรกซึมเข้ามานั้น เป็นไปได้อย่างง่ายดาย
และในขณะที่เห็นเหมินหู่ เขาก็ได้คิดแผนการในสมอง หาวิธีจัดการกับอีกฝ่าย และอีกอย่าง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่เมื่อมาเห็นเหตุการณ์แบบนี้ต่อหน้า ไม่ว่ายังไงก็จะต้องจัดการอีกฝ่ายให้ได้!
“เหมินหู่ถูกจัดการในทันที นี่ นี่มันช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ……”
เมื่อพวกเขาเข้ามา ก็พบว่าที่นี่ได้มีค่ายกลกั้นเสียงติดตั้งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นี่เป็นความเร็วที่น่าตกใจจริงๆ พวกเขายังไม่ทันได้ทำอะไร เหมินหู่ก็ถูกจัดการจนสำเร็จ ทำให้พวกเขาพากันไม่อยากจะเชื่อ ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ต่อให้จะเป็นการลอบโจมตี แต่จะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณตามใจได้ยังไง?
ยิ่งกว่านั้น ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของเหมินหู่ แต่ก็ต้องกลายเป็นสาหัสด้วยหมัดเดียว เมื่อดูดีๆ แล้ว ยังมีกระบี่ที่เสียบทะลุร่างของอีกฝ่ายอยู่ ซึ่งไม่น่าใช่ของระดับต่ำ น่าจะอยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ไม่แปลกที่จะสามารถทะลุร่างของเหมินหู่ได้ง่ายขนาดนั้น
แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงอยู่ดี ต่อให้อาวุธจะแข็งแกร่ง ก็ไม่มีทางที่จะน่าสะพรึงขนาดนี้หรอกจริงไหม?
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะว่าอี้เทียนหยุนเปิดใช้งานโหมดคลั่ง โดยที่ไม่มีการกั๊กแม้แต่น้อย ระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมาในพริบตา จนทำให้พลังรบของเขาพุ่งขึ้นสูงกว่า 500 ล้านในทันที ทำให้สามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้ในพริบตา!
เขาต้องการจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด ดังนั้นจึงไม่มีการออมรั้งยั้งแรงแม้แต่น้อย
พวกผู้อาวุโสทั้งสามพากันกลืนน้ำลายเอื้อก รู้สึกเสียวหลังคอวาบ หากว่าอี้เทียนหยุนลงมือกับพวกเขา ผลลัพธ์ก็จะเป็นแบบเดียวกันอย่างแน่นอน เพราะขนาดผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณขั้น 3 ยังถูกจัดการ ต่อให้เป็นพวกเขาเองก็ยังรู้สึกว่าหากต้องลงมือ ก็จำเป็นต้องทุ่มพลังทุกอย่างถึงจะจัดการอีกฝ่ายได้
ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องลงมือ เหลือเพียงแค่ช่วยเหลือคนอื่นเพียงเท่านั้น
“รีบไปช่วยคนอื่นเถอะ!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พวกเขาพากันพยักหน้า จากนั้นก็รีบไปช่วยคนอื่นทันที แต่หลังจากตรวจดูแล้ว พวกเขาก็พากันหน้าถอดสี ยิ่งมายิ่งหดหู่
“ฮ่าๆ ช่วยอย่างงั้นเหรอ….. อย่าได้หวัง พวกมันตายหมดแล้ว ไม่มีทางคืนชีพได้หรอก” เหมินหู่หัวเราะออกมา แต่ก็ไม่นานนัก เพราะว่ามีความเจ็บส่งออกมาจากบริเวณท้องของเขา
เขาเห็นในมือของอี้เทียนหยุนมีมีดอยู่หลายเล่ม พร้อมกับทำการแทงใส่ท้องเขา ทำให้เขารู้สึกปวดอย่างรุนแรง และที่สำคัญ ยังมีเปลวเพลิงถูกส่งออกมาด้วย พร้อมกับกำลังเผาร่างเขาทีละน้อย
สำหรับคนระดับเขาแล้ว ความเจ็บปวดจากบาดแผนไม่นับว่าเป็นอะไร แต่ภายใต้การลุกไหม้ของเปลวเพลิงที่บ้าคลั่งนี้ ทำให้เขารู้สึกเจ็บจนยากจะทนไหวจริงๆ
“วางใจเถอะ อีกไม่นานเจ้าก็จะถูกฝังไปพร้อมกับพวกเธอเร็วๆ นี่แหละ!” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา คนแบบนี้ ฆ่าให้ตายเป็นหมื่นครั้งก็ไม่สาสม
“ฆ่า ฆ่าข้าซะ! หากเก่งจริงก็ฆ่าข้าซะเลยสิ!” เหมินหู่รู้ว่าตนไม่มีทางรอดชีวิตต่อให้จะยอมจำนนก็ตาม ดังนั้นจึงได้ทำให้อีกฝ่ายฆ่าเขาให้เร็วที่สุด จะได้สิ้นสุดความเจ็บปวดนี้สักที
“การจะฆ่าเจ้านั้นง่ายมาก แต่ว่ามันจะทำให้เจ้าตายสบายเกินไป” อี้เทียนหยุนใช้เปลวเพลิงนิรันดร์ค่อยๆ เผาร่างเขาทีละน้อย โดยเริ่มจากขาทั้งสองข้าง
และในขณะเดียวกันก็ทำการดูดกลืนพลังวิญญาณในร่างเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนมันให้เป็นค่าประสบการณ์ของตน
“ทูตศักดิ์สิทธิ์….. มีผู้รอดชีวิตแค่สามคนเท่านั้น” พวกเขาพาผู้หญิงสามคนมา แต่ละคนต่างก็อยู่ในสภาพที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ แต่เมื่อเห็นเหมินหู่ที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ในตาของพวกเธอก็เต็มไปด้วยความพอใจ มีความสุขอย่างล้นปรี่
หลังจากรักษาตัว พวกเธอสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อ แต่ว่าพวกเธอไม่ต้องการ ร่างกายของพวกเธอมีราคีมาเกินพอ ทั้งยังถูกกระทำอย่างแสนสาหัส ตามร่างกายไม่มีส่วนไหนดีเลย ต่างก็เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำดำเขียว
หากก่อนหน้านี้พวกเธอสามารถฆ่าตัวตายได้ พวกเธอก็คงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว ไม่มีทางอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีอย่างนี้หรอก
และก็มีผู้ฝึกตนเผ่าฟีนิกซ์อยู่คนหนึ่งเช่นกัน เธอก็ได้ยิ้มให้กับพวกเขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ ว่า “ขอบคุณท่านมาก เผ่ามนุษย์….. เผ่าฟีนิกซ์ขอขอบคุณท่าน…..”
ผู้อาวุโสลั่วกับพวกรีบถอดหน้ากากอย่างรวดเร็ว เผยใบหน้าที่แท้จริงออกมา แล้วรีบพูดขึ้นว่า “พวกเราเป็นผู้อาวุโส พวกเรามาช่วยเจ้า!”
หลังจากฟีนิกซ์สาวเห็นพวกเขา ก็เผยสีหน้าตกใจออกมา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอบอุ่นอย่างรวดเร็ว “ผู้อาวุโส…. ข้ารู้ว่าท่านจะต้องมาช่วยพวกเรา แต่ว่าข้ามีชีวิตได้อีกไม่นานแล้ว ทั้งยังไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีก ขอโทษด้วย…..”
พูดจบ เธอก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายเช่นเดียวกัน ไม่คิดจะมีชีวิตสืบต่อ ต้องประสบกับการทารุณกรรมแสนสาหัส ทำให้พวกเธอเจ็บปวดเกิดกว่าที่จะทนไหว หากว่ายังมีชีวิตอยู่ต่อ พวกเธอจะต้องนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดในวันนี้อยู่ทุกวันอย่างแน่นอน
แค่รู้ว่าตัวเองได้แก้แค้นก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่จำเป็นต้องคิดต่อ
“บัดซบ!”
พวกเขามองดูคนของตนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ก็ไม่รู้ว่าจะห้ามยังไง อี้เทียนหยุนที่มองอยู่ นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยความเย็นเยียบ เขาสามารถคืนชีพให้พวกเธอได้ แต่ต่อให้มีชีวิตกลับมาก็ไร้ความหมาย ต่อให้ฟื้นกลับมา พวกเธอก็จะยังคงเลือกที่จะฆ่าตัวตายอยู่ดี
ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดแสนสาหัสเป็นเวลานาน จนตอนนี้มันได้ฝังเข้าไปข้างในจิตใจของพวกเธอตลอดกาลแล้ว ด้วยจิตใจที่เปราะบาง ไม่นานก็ต้องพังทลาย เพราะอย่างนี้ จึงได้เลือกที่จะฆ่าตัวตายเพื่อจบทุกอย่าง
พวกผู้อาวุโสลั่วกำหมัดแน่น พร้อมกับมองไปที่เหมินหู่อย่างโกรธแค้น “เจ้าสารเลวเอ๊ย!”
เมื่อเหมินหู่เห็นพวกผู้อาวุโสลั่ว ก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาเช่นกัน “ที่แท้ก็เป็นเจ้า….. พวกเจ้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไง!?”
“วางใจเถอะ พวกเราไม่เพียงแต่จะเข้ามาเท่านั้น แต่ยังจะปลิดชีวิตเจ้าทิ้งด้วย!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างดุร้าย “แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงของพวกเจ้าทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์ ข้าจะขอเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมแทนฟ้า ทำหน้าที่ทำลายพวกเจ้าให้สิ้นซาก!”
“ฮ่าๆๆ…. ผดุงความยุติธรรมแทนฟ้าอย่างงั้นเหรอ? เผ่าฟีนิกซ์ของพวกเจ้าไม่มีทางสำคัญหรอก เพราะอีกไม่นานพวกเจ้าก็ตาย….. ส่วนข้า จะลงไปรอพวกเจ้าข้างล่าง!” เหมินหู่หัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา ในสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“อ๊ากกก……”
โดยไม่ให้เขาต้องรอนาน เขาก็ได้กรีดร้องโหยหวนออกมา อี้เทียนหยุนทำการเพิ่มความรุนแรงของไฟ ทำให้ความเร็วในการเผาไหม้เพิ่มขึ้น สร้างความเจ็บปวดที่ยากจะทนให้กับเขา
“วางใจเถอะ พวกเราจะไม่ลงไปแน่นอน คนที่เจ้าจะเห็น ก็มีแต่พรรคพวกของเจ้าเท่านั้น” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเฉยชา “แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าจงเพลิดเพลินกับทั้งหมดนี้เสียก่อน”
เขาไม่คิดจะสังหารเหมินหู่ให้ตายในทันที เขาจำต้องให้อีกฝ่ายลิ้มรสกับ “ความหรรษา” นี้เสียก่อน ไม่อย่างนั้น หากสังหารอีกฝ่ายไปโดยตรง มันจะเป็นเรื่องที่สบายเกินไป
อย่างรวดเร็ว เขาก็ได้สูบค่าประสบการณ์ของเหมินหู่จนหมด ทำให้เหมินหู่ตอนนี้กลายเป็นแค่คนพิการ ไม่มีทางตอบโต้กลับมาได้ และก็ไม่มีทางฆ่าตัวตายได้เช่นกัน
“พวกท่านไม่อยากจะให้อะไรมันสักหน่อยเหรอ?” อี้เทียนหยุนหันไปมองพวกผู้อาวุโสลั่ว
“แน่นอน!”
สายตาของพวกเขาตอนนี้เต็มไปด้วยจิตสังหาร เมื่อเหมินหู่ได้เห็นในใจก็หวาดกลัวถึงขีดสุด ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่น่าสะพรึงอีกนานแค่ไหน