Crazy Leveling System - ตอนที่ 531: 1 ต่อ 30!
CLS ตอนที่ 531: 1 ต่อ 30!
จำนวนคนไม่เปลี่ยน และสถานการณ์ก็ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนเช่นกัน ขณะที่ผู้ฝึกตนจำนวนมากเห็นพวกเขา ก็พลันแสดงสีหน้ามีความสุขออกมา อี้เทียนหยุนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ตราบเท่าที่ขึ้นมาข้างบนสำเร็จ เขาก็จะปราศจากการปกป้องจากบททดสอบ กลายเป็นปกติดังเช่นเวลาทั่วๆ ไป
“นั่นคือผู้บุกรุกอย่างงั้นเหรอ? มีผู้บุกรุกแค่คนเดียว เจ้าหมอนั่นมันโง่หรือเปล่า?” ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่บินขึ้นมา มองมายังอี้เทียนหยุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความยั่วยุ
พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาจากเมืองหลวงเพื่อเตรียมเข้ารับการทดสอบ แต่ใครจะรู้ว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้เข้า ทำให้มาไม่ทันการทดสอบ ยิ่งกว่านั้น ที่สำคัญคือปกติแล้วจะมีเงื่อนไขจำกัดอยู่ที่ 30 คน เพื่อที่จะได้รับคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการปีนขึ้นมา แต่ไม่ใช่กับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ
คุณประโยชน์สำหรับระดับวิญญาณเที่ยงแท้หรือสูงกว่านั้นค่อนข้างมีอยู่จำกัด ดังนั้น พวกเขาจึงให้ความสนใจในการฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณเป็นผู้นำมา ที่จริงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่มาเพื่อเข้ารับการทดสอบเท่านั้น
ที่หมิงเฉินกับพวกมาที่นี่ เหตุผลส่วนใหญ่คือเพื่อนำศิษย์ของตนมาเข้ารับการทดสอบโดยเฉพาะ แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น
ดังนั้น ยามเมื่อมองไปยังอี้เทียนหยุน พวกเขาจึงคิดอยากจะให้อี้เทียนหยุนตายมันซะเดี๋ยวนี้เลย แม้ว่าเรื่องที่ทำจะใหญ่มาก แต่อย่างน้อยก็ยังสำเร็จ สามารถจับกุมผู้บุกรุกเอาไว้ได้ ทั้งยังพอจะใช้เป็นคำตอบให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นที่ยอมรับได้ของทุกคน
จะกลัวก็แต่ผู้บุกรุกหนีไปได้ หากเป็นแบบนั้น พวกเขาคงไม่สามารถทนต่อความพิโรธของท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน เพราะถึงยังไง นี่ก็ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการแพ้ชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของหน้าตาด้วย
แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ หลังจากที่ดูแลเลี้ยงดูประคบประหงมสัตว์อสูรมาเป็นเวลานาน สุดท้ายกลับต้องมาถูกผู้บุกรุกขโมยไป ทั้งยังปล่อยให้หนีไปได้อีก! แล้วอย่างนี้ จะให้พวกเขารักษาหน้าตาไว้ได้ยังไง?
ผู้ฝึกตนที่ล้อมอยู่ด้านนอก คิดว่าในที่สุดก็จับได้แล้ว หมิงเฉินกับพวกก็ไม่ได้ใส่ใจ ถึงยังไงก็กลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่มีโล่คุ้มกันที่ไร้เทียมทานอีก
ที่นี่ไม่มีบททดสอบต่อไปแล้ว ดังนั้นอี้เทียนหยุนจึงไม่มีโล่คอยคุ้มกัน สามารถโจมตีได้ตามใจ
ตอนนี้ในขณะที่พวกเขากำลังปีนอยู่ ก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นมาที่นี่โดยไม่คาดคิด และที่สำคัญคือไม่มีอะไรเปลี่ยนไป โล่คุ้มกันยังคงปกคลุมร่างของพวกเขาอยู่ ยังไม่ได้หายไป
ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้พวกเขาพากันตกใจ ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น
“ยินดีต้อนรับผู้มีสิทธิ์เข้าสืบทอด พร้อมเข้าสู่บททดสอบที่ 3! ผู้สืบทอดปะทะฝั่งตรงข้าม หากสามารถขับไล่พวกเขาออกไปจากวิหารเทพนี่ได้ ก็จะชนะ!”
น้ำเสียงเพิ่งจบลง ก็ได้มีแสงเข้ามาคลุมร่างของอี้เทียนหยุน ทำให้ร่างของเขาสว่างไสวเป็นที่สุด ขณะที่คนอื่นนั้นหม่นแสงกว่า แต่ก็ยังมีโล่คุ้มกันอยู่ 1 ชั้น
“ผู้สืบทอด?” อี้เทียนหยุนตกใจ นี่เขากลายเป็นผู้สืบทอดแล้วอย่างงั้นเหรอ?
อย่าว่าแต่เขาเลยที่ตกใจ คนอื่นก็ตกใจเช่นกัน ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ปรากฏผู้สืบทอดขึ้น? ก็ในเมื่อที่นี่ไม่มีผู้สืบทอดอื่น นอกจากอี้เทียนหยุน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงได้มีผู้สืบทอด? มันเป็นผู้สืบทอดอย่างงั้นเหรอ นี่เป็นไปได้ยังไง!?” พวกเขาพากันหน้าดำคล้ำ ปีนก็ปีนขึ้นมาด้วยกัน แต่ทำไมอี้เทียนหยุนถึงได้กลายเป็นผู้สืบทอด?
หรือว่าปีนขึ้นมาถึงยอดก็จะได้เป็นผู้สืบทอด? พวกเขาคิดว่านี่เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด พวกเขาก็เคยมีคนปีนขึ้นมาถึงยอดมาก่อน แต่ทำไมถึงไม่ได้เป็นผู้สืบทอดล่ะ?
แต่ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดก็ช่าง น้ำเสียงทุ้มต่ำก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ฝั่งตรงข้ามจะถูกตัดสินโดยผู้สืบทอด ผ่านการต่อสู้ตัวต่อตัว จนกว่าจะทำการขับไล่ทุกคนออกไปจากวิหารเทพจนหมด นอกจากการยอมแพ้แล้ว อย่างอื่นไม่มีข้อยกเว้น”
ทันใดนั้นอี้เทียนหยุนก็ได้เข้าสู่โหมดเลือกในทันที ไม่ว่าเขาจะเลือกใคร ก็จำเป็นต้องขับไล่ทุกคนออกไป ถึงจะสามารถสิ้นสุดบททดสอบที่สามได้
นี่เท่ากับให้เขาเลือกคนทั้ง 30 คนที่นี่ ความยากของมันนั้น ไม่ยากไปอย่างงั้นเหรอ? ผู้ที่มีระดับแข็งแกร่งที่สุดก็คือหมิงเฉินกับพวก ซึ่งอยู่ในระดับราชาวิญญาณ
นั่นหมายความว่าอี้เทียนหยุนจะต้องจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทั้ง 4 เพื่อที่จะสำเร็จบททดสอบ ซึ่งถือว่าเป็นบททดสอบที่ไม่ง่ายจะจัดการ
“เจ้าคือผู้สืบทอด งั้นก็เลือกข้าซะ!” ป้าหลงเสนอตัว มองมาที่เขาอย่างเย็นชา ไม่มีความกลัวเกรงแม้แต่น้อย
“ใช่ ผู้สืบทอดจงมาสู้กับข้าซะ! หากว่าไม่สามารถขับไล่พวกเราออกไปได้ เจ้าก็ไม่มีทางผ่านบททดสอบนี้ไปได้สำเร็จ!” หมิงเฉินกับพวกรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนทำได้ยังไง แต่ตอนนี้ก็มีแต่ต้องต่อสู้เท่านั้น ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนไม่สามารถขับไล่พวกเขาออกไปได้ ก็จะไม่มีทางได้เป็นผู้สืบทอดที่แท้จริง
ซึ่งนี่ทำให้ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูก มีเพียงแต่จัดการกับพวกเขาเท่านั้น ถึงจะสามารถกลายเป็นผู้สืบทอดได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าขันอย่างมาก มีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณมากขนาดนี้ มันจะไปมีปัญญาทำอะไรได้?
“วางใจเถอะ ข้าจะจัดการกับพวกเจ้าแน่….. แต่ก่อนอื่นข้าขอเริ่มจากเจ้าก่อน!” อี้เทียนหยุนชี้ไปทางผู้ฝึกตนระดับผันแปรวิญญาณคนหนึ่ง ทำให้ลำแสงศักดิ์สิทธิ์เข้าปกคลุมเขา พร้อมกับสลายโล่คุ้มกันไป ก็เหมือนกันกับอี้เทียนหยุน โล่คุ้มกันของเขาก็หายไปเช่นกัน
อึดใจต่อมา ร่างของอี้เทียนหยุนก็หายไป พร้อมกับปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณคนนั้น ก่อนที่จะยกเท้าถีบเข้าไปอย่างแรง
“เปรี้ยง!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณคนนั้นไม่ทันตอบสนอง ก็พลันถูกเท้านั้นถีบกระเด็น ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือวิหาร แหวกทะลุเมฆออกไปเป็นชั้นๆ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าตอนตกลงมานั้นจะเจ็บไหม เพราะในหูของอี้เทียนหยุนนั้นได้มีเสียงระบบดังขึ้นมา
“ติ๊ง ท่านสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 47,000, ค่าความคลั่ง 4,700, ค่าความชั่ว 200, ได้รับวิชายุทธ์…..”
เสียงที่ดังขึ้นมานี้ หมายความว่าผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณนั้นได้ตายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าอี้เทียนหยุนไม่มีการออมมือ ตราบเท่าที่เป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง เขาก็ไม่มีวันอ่อนข้อให้อย่างเด็ดขาด
เพียงแค่เท้าเดียวก็ตายแล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงมาจากอากาศ ก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว
“ท่านขับไล่ผู้ทดสอบได้สำเร็จ โปรดเลือดผู้ทดสอบคนถัดไป” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังมาจากบนฟ้าอีกครั้ง
พริบตา ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณก็ถูกจัดการ ทำให้ผู้คนรอบๆ พากันตกใจ ไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มาถูกถีบจนตายแล้ว เห็นได้ชัดว่าระดับของผู้บุกรุกคนนี้ ไม่ใช่ธรรมดา
“พวกเจ้าหนีไปซะ!” หมิงเฉินร้องตะโกนออกมา บอกให้พวกเขารีบหนีไป ให้พวกเขาออกไปจากการทดสอบนี้ นี่เป็นศิษย์ของเขาที่มีพรสวรรค์ดีมาก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาบอกให้พวกเขาหนีไปก่อนได้ยังไง
“เจ้า!”
อี้เทียนหยุนชี้ไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณคนต่อไป เมื่อโล่คุ้มกันของผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณที่ถูกชี้หายไป เขาก็ไล่เข้าไปในทันที
“อาจารย์ ช่วยข้าด้วย!” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณกรีดร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ราวกับว่าหวาดกลัวจนคิดอะไรไม่ออก พร้อมกับรีบซอยเท้าวิ่งหนีไป แต่ความเร็วของเขาจะมาเทียบกับอี้เทียนหยุนได้ยังไง จริงไหม
“เจ้าหนู หยุดเดี๋ยวนี้!” หมิงเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมกับฟาดฝ่ามือเข้าใส่อี้เทียนหยุน ปลดปล่อยฝ่ามือเทพใต้พิภพออกมา หวังจะใช้มันจัดการกับผู้บุกรุกคนนี้
“เปรี้ยง!”
แต่การโจมตีก็ไม่ทันได้ถูกใช้ออกไป ก็ต้องมาถูกโล่คุ้มกันป้องกันเอาไว้เสียก่อน จนทำให้โล่คุ้มกันของเขาเขย่าอย่างน่ากลัว พร้อมกับกลืนกินฝ่ามือนี้ของเขาเข้าไป
ดูเหมือนว่าโล่คุ้มกันนี้จะไม่เพียงแต่ป้องกันการโจมตีเท่านั้น แต่ยังมีไว้เพื่อป้องกันการลอบโจมตีผู้สืบทอดด้วย!