Crazy Leveling System - ตอนที่ 581: จากไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 581: จากไปอย่างรวดเร็ว
เป็นแค่ทูตตัวเล็กๆ แต่กล้ามาทําอวดดีต่อหน้าตน! ทั้งยังพูดจาหยาบคาย ก็แค่สุนัขรับใช้ตัวหนึ่งของอาณาจักรชื่อหลง กล้าดียังไงมาพูดจาอวดดีต่อหน้าเขา
พูดได้แค่ว่า การที่ทูตคนหนึ่งจะทําตัวอวดดีได้ถึงขนาดนี้ อาณาจักรชื่อหลงถือว่ามีส่วนรับผิดชอบอย่างมาก! หากไม่ใช่เพราะอาณาจักรชื่อหลงมอบความรับผิดชอบที่ใหญ่ขนาดนี้ให้กับมันแล้วทูตคนนี้จะกล้าพูดคําพูดพวกนี้ออกมาด้วยสีหน้าแบบนี้ได้ยังไง?
ตอนแรกก็ไม่สนใจเขาที่เป็นจักรพรรดิ แล้วแม้กระทั่งออกคําสั่งไม่ให้เขานั่งบัลลังก์ชั่วคราว นี่มันจะอวดดีเกินไปแล้ว
“สุนัขรับใช้ของอาณาจักรชื่อหลง!”
คํานี้ดังสะท้อนไปทั่วท้องพระโรง ทําให้ในใจมหาจักรพรรดิจํานวนมากรู้สึกตกใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแค่ทูต แต่เบื้องหลังของอีกฝ่ายคืออาณาจักรชื่อหลงเชียวนะ! หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคงไม่กล้าทําขนาดนี้ เพราะถึงยังไง การทําอย่างนี้ก็เท่ากับเป็นการตบหน้าอาณาจักรชื่อหลง
เมื่อถึงตอนนั้น การหาเรื่องกับอาณาจักรชื่อหลง ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างแท้จริง
“จะ เจ้า ข้าจะกลับไปรายงานฝ่าบาท เจ้าถึงกับกล้าขัดคําสั่งของมหาจักรพรรดิชื่อหลงอย่างไม่คาดคิด! ก็แค่อาณาจักรเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทั้งขุมอํานาจอะไรก็ไม่มี แต่ยังกล้าทําตัวโอหัง ข้าจะกลับไปรายงานฝ่าบาทอย่างแน่นอน..”
“ตาย!”
อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา พร้อมกับฟาดฝ่ามือลงมาอีกทีหนึ่ง ตบจนทูตจากอาณาจักรชื่อหลง ผู้นี้กลายเป็นเนื้อบด ตายจนไม่สามารถตายได้อีก เหล่ามหาจักรพรรดินับไม่ถ้วนพากันหน้าเปลี่ยนสี พลังของเขาช่างน่าทึ่งอย่างแท้จริง หากเป็นพวกเขาก็ทําได้ ตราบเท่าที่มีพลังระดับราชาวิญญาณ การจะบดขยี้ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ง่ายราวกับดื่มน้ำ
มองดูร่างที่เละเป็นเนื้อบดของทูตจากอาณาจักรชื่อหลงแล้ว มีคํากล่าวที่ว่าไม่สามารถสังหารทูตที่มาได้ แต่ว่าอี้เทียนหยุนกลับทํา
“ใจร้อนเกินไปแล้ว!”
มหาจักรพรรดิเฉียนหยวนส่ายหัว พร้อมกับรําพึงขึ้นว่า “นี่ก็ใจร้อนเกินไป ใจร้อนเกินไปมาก คนหนุ่มที่ประสบความสําเร็จ มักจะมีความทะนงอยู่บ้างเป็นธรรมดา แต่การที่สังหารทูตของอาณาจักรชื่อหลงอย่างนี้ กลัวว่าคงต้องกลายเป็นศัตรูกับอาณาจักรชื่อหลงแล้ว”
“ใช่ คนหนุ่มที่ประสบความสําเร็จ ล้วนแต่พึ่งพาผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหลัง คงจะคิดว่าตัวเองร้ายกาจมากที่สามารถทําลายอาณาจักรทั้งสี่ได้ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณจะมีมาก แต่ก็เป็นแค่ตัวตนเล็กๆ อยู่ดี” ชายชราที่อยู่ใกล้ๆ พูดพลางสายหัว “มหาจักรพรรดิควรจะเป็นสหายที่ดีต่อกัน ไม่ควรที่จะทําอย่างนี้ อาณาจักรที่ผุดขึ้นใหม่นี้ กลัวว่าคงต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายแล้ว”
“อืม หากว่ายอมอดทนอดกลั้นสักหน่อย แล้วไปยังอาณาจักรชื่อหลงพร้อมกับแสดงเจตนาดีก็ยังสามารถกลับมาขึ้นครองราชย์ได้อยู่ดี แต่การที่ระเบิดความโกรธออกมาแล้วลงกับทูตเช่นนี้คงต้องประสบกับความพิโรธของอีกฝ่ายแล้ว” มหาจักรพรรดิเฉียนหยวนพูดพลางส่ายหัว “นี่มีแต่จะนําความพินาศมาสู่ประเทศของตน
“ใช่ ดูสิ มีหลายอาณาจักรพากันเดินออกไปแล้ว…” ชายชราคนนี้ถอนหายใจ จากนั้นก็มองขึ้นไปยังอี้เทียนหยุนคราหนึ่ง พร้อมกับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการแสดงความโหดเหี้ยม แต่จากนี้ไป ตัวเขาก็จะรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าความโหดเหี้ยมที่แท้จริง
“มหาจักรพรรดิเทียนหยุน พวกเราคงต้องขอลาก่อน…”
“ พวกเราก็ด้วย ที่อาณาจักรมีเรื่องนิดหน่อย จําเป็นต้องขอตัวก่อน…”
“พวกข้าก็เช่นกัน”
เหล่าอาณาจักรจํานวนมาก รวมถึงชุมอํานาจชั้น 3 ต่างก็พากันรีบถอยอย่างรวดเร็ว พวกเขากลัวว่าหากยังนั่งอยู่ที่นี่ต่อ ก็จะเท่ากับเป็นการไม่เคารพอาณาจักรชื่อหลง
แต่นี่แน่นอนว่าย่อมเป็นการท้าทายอาณาจักรเทียนหยุน แต่พวกเขายอมท้าทายอาณาจักรเทียนหยุน ดีกว่าที่ต้องท้าทายอาณาจักรชื่อหลง! ทั้งสองต่างอยู่กันคนละชั้น พวกเขาเข้าใจถึงความห่างชั้นนี้ดี
อี้เทียนหยุนก็ไม่โกรธ ทั้งยังไม่สนใจพวกเขาด้วย ว่าจะอยู่หรือไป
“นี่ก็ช่างไม่รู้จักใจเย็นเลยจริงๆ หาเรื่องอาณาจักรชื่อหลงอย่างนี้ ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“ใช่ แม้ว่าสี่อาณาจักรจะร้ายกาจ แต่หากว่าอาณาจักรชื่อหลงต้องการแล้วล่ะก็ การจะทําลายอาณาจักรทั้งสี่ย่อมเป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน!”
“เร็วเข้า ต้องรีบออกไปจากที่นี่แล้ว หากว่าข่าวทูตของอาณาจักรชื่อหลงถูกสังหารแพร่ออกไป วังเทียนหยุนต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน”
หลังจากออกมา พวกเขาก็พากันแอบคุยกัน งานเฉลิมฉลองอะไรนั่น ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจต่างก็พากันรีบออกไปจากเมืองนี้ หากว่าออกไปช้าเกินไป แล้วถูกมองว่าเป็นพันธมิตรกับวังเทียนหยุน อย่างนั้นคงจบสิ้นแล้ว
ในตอนที่ทุกคนพากันรีบจากไป ในท้องพระโรงขนาดใหญ่ก็เหลือเพียงอาณาจักรเทียนหลง มหาจักรพรรดิเฉียนหยวนสายหัว และก็จากไปในที่สุด ถึงกับคร้านที่จะพูดกับอี้เทียนหยุนสักประโยค พร้อมกับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก
เหตุผลก็ง่ายมาก นั่นก็เพราะว่าทุกคนคิดว่าอาณาจักรเทียนหยุนได้จบสิ้นแล้ว!
“น้องอี้ เจ้านี่มัน…” เริ่นหลงยิ้มอย่างขมขึ้น พร้อมกับส่ายหัว ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่อย่างอาณาจักรชื่อหลง นี่มันเท่ากับตนเข้าไปตกอยู่ในโคลนตมที่ยากจะขึ้น
“พี่ใหญ่เริ่น ข้ารู้ว่าท่านอยากจะพูดอะไร คงอยากจะให้ข้ารับปากและไปยังอาณาจักรชื่อหลงสินะ กล้าพูดได้ยังไงว่าจะไม่ให้ข้าขึ้นครองราชย์?” อี้เทียนหยุนหัวเราะอย่างดูถูก “การที่อาณาจักรชื่อหลงทําอย่างนี้ กลัวว่าหากข้าไปจริงๆ ก็คงคิดจะให้ข้าเป็นหุ่นเชิดของพวกเขา จากนี้ไปต้องทําตามคําสั่งของพวกเขา! สู่อาณาจักรที่ข้าทําลายไป คงมีหลายอาณาจักรที่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาอยู่นิดหน่อย หรืออาจจะเป็นอาณาจักรลูกของพวกเขาก็เป็นได้!”
“ไม่อย่างนั้น ทําไมพวกเขาถึงได้มาขู่ข้าอย่างนี้? พวกเขานั่งอยู่บนตําแหน่งนี้มานานมากแล้วคงจะคิดว่าตนนั้นไร้เทียมทานกันจริงๆ สินะ? คิดว่าทุกคนต้องฟังคําสั่งของพวกเขา คิดง่ายเกินไปแล้ว”
ในสายตาของอี้เทียนหยุนเปล่งประกายเย็นเยียบออกมา เขาไม่รังเกียจหากจะมีสงครามเกินขึ้น ขุมอํานาจของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งพอแล้ว ในเมื่อพวกเขามาหาเรื่องตน งั้นก็อย่ามาโทษ หากว่าเขาจะไม่เกรงใจ!
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงจะไม่มีวิธีอื่น” เริ่นหลงส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “พวกเราจะเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของเจ้า จะต่อสู้ร่วมกับเจ้าจนถึงที่สุด!”
“มหาจักรพรรดิเริ่น!?”
ขุนนางทั้งหลายที่อยู่ด้านหลังเริ่นหลงต่างก็พากันมองเขาด้วยสีหน้าแตกตื่น พวกเขาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป นี่คืออาณาจักรชื่อหลงเชียวนะ ไม่ได้ขุมอํานาจชั้น 3 แบบทั่วไป!
“นี่ทําไม่ได้ หากว่าอาณาจักรชื่อหลงโจมตีมา อาณาจักรเทียนหลงของพวกเราคงถึงคราวจบสิ้น…”
เหล่าขุนนางต่างพากันประท้วง คิดว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งกับบ่อน้ำนี้ จําเป็นต้องไตร่ตรองเพื่ออาณาจักรอย่างรอบคอบ
“หากไม่มีองค์ชายอี้ พวกเจ้าคิดว่าตอนนี้ยังจะมีอาณาจักรเทียนหลงอยู่อีกเหรอ?” เริ่นหลงมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ต่อให้จะไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยว แต่ในช่วงที่ต้องเผชิญกับอันตราย กลับไม่คิดให้การช่วยเหลือ แล้วจากนี้ยังจะมีใครยอมเป็นพันธมิตรกับเจ้าอีก?”
“แต่ว่า…”
เหล่าขุนนางต่างก็พากันส่ายหัว การพูดคุยเรื่องความซื่อสัตย์ในตอนนี้เป็นอะไรที่โง่มาก! สถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ใครจะกล้ามาโทษพวกเขา?
พวกเขาพากันก้มหน้าลง ลูกผู้ชายตัวจริงย่อมสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ต่อให้ต้องเป็นหุ่นเชิดแล้วยังไง อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตอยู่
“พวกเราขอน้อมรับทุกคําสั่งของฝาบาท อย่าว่าแต่อาณาจักรชื่อหลงเลย ต่อให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเราก็จะสู้!” เชิงเสวียนที่อยู่อีกด้านร้องตะโกนออกมา และไม่ใช่เพียงแต่เธอเท่านั้น พวกบรรพชนเผ่าภูตเองก็พากันพยักหน้าไปตามๆ กัน
ที่พวกเขามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะอี้เทียนหยุนเป็นคนให้ จะว่าหยาบก็ช่าง หาที่ตายก็ดี พวกเขายินยอมบุกน้ำลุยไฟตามเขาสั่ง
“นี่มันบ้าไปแล้ว ทุกคนเสียสติกันไปหมดแล้ว…”
เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างก็พากันคิดว่าคนพวกนี้ต่างก็พากันเสียสติ ล้วนแต่เป็นคนบ้า เป็นคนบ้ากลุ่มหนึ่ง
“ทําพิธีปราบดาภิเษกต่อ ประกาศต่อผู้คนทั่วหล้า ว่าจากนี้ไป วังเทียนหยุนได้กลายเป็นอาณาจักรเทียนหยุนอย่างเป็นทางการแล้ว!” อี้เทียนหยุนไม่พูดอะไรอีก ในใจของเขาย่อมกระจ่างดี สามารถเห็นอะไรได้มากจากจุดนี้
อาณาจักรเทียนหลงยังคงเป็นพันธมิตรเหมือนก่อนหน้า ผู้คนก็ยังซื่อสัตย์เหมือนกาลก่อน
ยังไงก็ตาม บัญชีในคราวนี้ เขาจะต้องจัดการกับมัน!