Crazy Leveling System - ตอนที่ 597: ข้าเป็นผู้กล้าให้คนของข้าเท่านั้น
CLS ตอนที่ 597: ข้าเป็นผู้กล้าให้คนของข้าเท่านั้น
สภาพที่บ้าคลั่งของบรรพชนไท่ซ่างทําเอาทุกคนพากันตกใจ จากจักรพรรดิผู้ใจดี พริบตา ภาพลักษณ์นั้นของบรรพชนไท่ซ่างก็ได้พังทลายลงต่อหน้าพวกเขา
พูดได้ว่าอาณาจักรชื่อหลงนั้น แต่แรกเริ่มเดิมทีก็ปกครองด้วยความเมตตากรุณา แม้แต่ตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรอื่น ก็ยังใช้วิธีเจรจาอย่างเป็นมิตร นอกเสียจากว่าจะไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ ถึงจะใช้สงครามเพื่อจัดการกับอีกฝ่าย
ดังนั้น อาณาจักรชื่อหลงจึงมีชื่อเสียงไปในทางดี เพราะว่ามีจักรพรรดิผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาหลายพระองค์ ทําให้ชื่อเสียงด้านดีของอาณาจักรชื่อหลงขึ้นไปถึงขีดสุด แม้ว่าจะทําเรื่องที่ผิดพลาดไปบ้าง แต่ผู้ฝึกตนหลายคนก็ยังเต็มใจที่จะเข้าร่วม เพราะสําหรับพวกเขาแล้ว ความผิดพลาดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่ตอนนี้สีหน้าที่แท้จริงของเขาได้เปิดเผยออกมาแล้ว บรรพชนไท่ซางผู้นี้ต้องการให้ผู้ฝึกตน ทุกคนในเมืองชื่อหลงสังเวยให้กับเขา เพื่อให้เขาได้ดูดเอาแกนโลหิตของทุกคนไปใช้เพื่อตัวเอง มหาค่ายกลนี้ได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้เมื่อเปิดใช้งาน จึงได้แสดงความน่ากลัวที่แท้จริงของมันออกมา
เพราะอาณาจักรชื่อหลงเป็นเมืองที่ครึกครื้นอย่างมาก ดังนั้น จึงมีเหล่าหัวกะทิจํานวนมากอาศัยอยู่ที่นี่ ตอนนี้หัวกะทิเหล่านี้จึงได้กลายเป็นอาหารอันโอชะไหลเข้าปากของบรรพชนไท่ซ่างไป
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาไม่หยุด คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าบรรพชนไท่ซางจะทําเรื่องที่บ้าคลั่ง เช่นนี้ออกมาได้ แต่ว่าความจริงก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว พร้อมกับแกนโลหิตในร่างพวกเขาที่ถูกดูดออกไปอย่างบ้าคลั่ง ไม่สามารถหยุดได้
มหาค่ายกลที่ใช้ดึงเอาแกนโลหิตของพวกเขาออกไปนี้ พลังของมันยิ่งนานไปยิ่งแข็งแกร่ง หากเป็นอย่างนี้คงอีกไม่นาน แกนโลหิตของพวกเขาคงถูกดูดออกไปจนสมบูรณ์ เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นซากศพที่แห้งกรัง ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังจะไม่ตายในทันทีด้วย แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะตาย!
ซึ่งในกระบวนการนี้เป็นอะไรที่น่าสะพรึงที่สุด เพราะต่อให้อยากจะตายก็ตายไม่ได้ พูดได้ว่าเป็นการมีชีวิตอยู่ที่เหมือนกับตายทั้งเป็น
“มหาจักรพรรดิเทียนหยุน ได้โปรดช่วยพวกเราได้ ได้โปรดเถอะ…”
“ได้โปรดเถอะ ช่วยพวกเราด้วย!”
“บรรพชนไท่ซ่างเป็นคนชั่ว ฝึกวิชามาร ได้โปรดจัดการกับเขาด้วย!”
พวกเขาพากันมองไปที่อี้เทียนหยุน ต้องการให้อี้เทียนหยุนช่วยพวกเขา ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องการให้บรรพชนไท่ซางจัดการอี้เทียนหยุน แต่ตอนนี้กลับต้องการให้อี้เทียนหยุนช่วยตนเอง ช่วยจัดการกับบรรพชนไท่ซาง
การเปลี่ยนแปลงนี้ช่างเกิดขึ้นเร็วจริงๆ เมื่อเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของบรรพชนไท่ซาง พวกเขาก็พากันหน้าเปลี่ยนสี จะไปกล้าสนับสนุนอีกฝ่ายต่อที่ไหน ที่พวกเขาสนับสนุนก่อนหน้านี้ เป็นเพราะผลประโยชน์ ทั้งยังมาจากการกลับดําให้เป็นขาวของอาณาจักรชื่อหลง แต่ไม่ใช่กับปีศาจกระหายเลือดตรงหน้านี้
ฝึกฝนวิชามารเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็พากันรังเกียจ ดังนั้น เมื่อเห็นบรรพชนไท่ซางต้องการสังเวยเลือดพวกเขา พวกเขาจึงพากันกลับลํา เพราะเรื่องนี้มันโหดเหี้ยมเกินไปจริงๆ คิดจะสังเวยเลือดทุกคนจนหมดอย่างนี้
บางคนกลัวตาย แต่บางคนกลับไม่กลัวตาย ก่อนหน้านี้มีผู้ฝึกตนหลายคนช่วยปกป้องบรรพชนไท่ซ่าง คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นพวกไม่กลัวตายด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งยังเป็นพวกภักดีต่อบรรพชนไท่ซางอย่างสุดจิตสุดใจ
แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว สายลมได้ทําการเปลี่ยนทิศ แม้พวกเขาจะไม่กลัวตาย แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะทําอะไรโดยที่ไม่สนวิธีการ
ในขณะที่บรรพชนไท่ซ่างต้องทําการหลบหนี พวกเขาล้วนแต่เต็มใจที่จะเป็นโล่เนื้อเพื่อป้องกันคมดาบ ยินยอมเป็นโล่เพื่อขัดขวางคนดาบที่จะเข้ามาทําร้ายกษัตริย์ของพวกเขา
ขอแค่เพียงมีคําสั่งออกมา ต่อให้ต้องบุกน้ําลุยไฟพวกเขาก็บ่ยั่น แต่กับวิธีที่ชั่วร้ายและไร้เมตตาเช่นนี้ พวกเขาไม่ต้องการเห็น
“ไอ้พวกสวะ ข้าปกป้องพวกเจ้ามาหลายปี นี่คือวิธีที่พวกเจ้าจะได้ตอบแทนแล้ว! วิชามารบ้าอะไร ผู้ชนะต่างหากที่เป็นเจ้า ผู้แพ้เป็นโจร เมื่อข้าได้ปกครองโลกมนุษย์ทั้งหมด ใครมันจะกล้ากล่าวหาว่าวิชาที่ข้าใช้เป็นวิชามาร?”
บรรพชนไท่ซ่างมองไปยังอี้เทียนหยุนด้วยความโกรธ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทําให้ข้าต้องใช้ไพ่ใบสุดท้ายที่เก็บไว้เพื่อใช้ในการฝึกตนออกมาเพื่อจัดการกับเจ้า ข้ารู้ดีว่าพลังของเจ้านั้นแข็งแกร่งมาก แต่ภายใต้มหาค่ายกลปีศาจโลหิตนี้ เจ้าคิดว่าจะจัดการกับข้าได้อย่างงั้นเหรอ?”
พลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง ยิ่งกว่านั้น ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าคงถึงขีดจํากัดแล้ว แต่พลังรบก็ยังเพิ่มขึ้นไม่ยอมหยุด หลังจากที่เลือดฉีจํานวนมากถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าเขาอาจจะไม่มีวิธีที่จะดูดกลืนมันเข้ามาจนหมด แต่หากจะใช้เลือดฉีที่เป็นส่วนเกินพวกนี้เพื่อโจมตี แล้วล่ะก็ย่อมไม่มีปัญหา
โดยเฉพาะภายใต้มหาค่ายกลนี้ที่เตรียมการมาอย่างดี พลังของมันย่อมไม่ง่ายที่จะต่อต้าน
ภายใต้สายตาประเมิน ข้อมูลที่ตัวเลขที่มีอยู่ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากสภาพที่ล่อแลใกล้ตาย ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่น่าเชื่อ พลังรบจากตอนแรก 3.5 พันล้าน ได้กระโดดขึ้นเป็น 4.1 พัน ล้าน
นี่มันโคตรจะบ้าเลย พลังนี้พอๆ กับพลังของอี้เทียนหยุนอย่างไม่คาดคิด! แม้ว่ามหาค่ายกลของอาณาจักรชื่อหลงจะร้ายกาจมาก แต่ก็ไม่ได้เพิ่มพลังให้กับเขามากนัก แต่ตัวเลข 600 ล้านนี้ก็ถือว่าน่าทึ่งมากอยู่ดี
แต่ยังไงก็ตาม ตัวเลขนี้ก็ได้แค่สูสีกับเขา ยิ่งกว่านั้น ยังมีไฟอีกหลายใบที่เขายังไม่ได้แสดงออกมา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนอย่างนี้ เขาก็รังเกียจเกินกว่าที่จะเผยไพ่ในมือมากเกินไป
ดังนั้น ก่อนหน้านี้เขาจึงคร้านที่จะใช้แม้แต่อาวุธ หากจําเป็นต้องใช้อาวุธ งั้นก็หมายความว่าไม่มีวิธีที่จะจัดการอีกฝ่ายจริงๆ
“เจ้านี่มันบ้าจริงๆ ถึงกับต้องสังเวยทุกชีวิตในเมืองชื่อหลง นี่มันช่างน่าสาปแช่งนัก” อี้เทียนหยุนมองกวาดลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว ผู้ฝึกตนบางส่วนที่อยู่ที่นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ทั้งก่อนหน้านี้ยังตะโกนให้ฆ่าเขาด้วยซ้ํา
ยังไงก็ตาม ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ํา ที่พากันซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล
แน่นอนว่าชีวิตของพวกเขานั้น เขาไม่จําเป็นต้องสนใจ เพราะเขาไม่ได้มีหน้าที่ต้องช่วยพวกเขา ทั้งไม่ได้มีสายเลือดเกี่ยวข้องอะไรกัน
แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น เขาก็ไม่อาจจากไปเพียงลําพังได้ พวกเขาต่างก็อาณาจักรชื่อหลงล้างสมอง ทั้งการฝึกวิชามารพวกนี้ยังเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ
ตราบเท่าที่ฝึกวิชาพวกนี้ ก็จําเป็นต้องเสาะหาแกนโลหิตอยู่เป็นประจํา ยิ่งกว่านั้น ยัง เป็นแกนโลหิตของผู้มีพรสวรรค์ด้วย ตราบเท่าที่ในสํานักมีผู้มีพรสวรรค์ ก็จะถูกจับมาดึงเอาแกนโลหิตไป!
เขาคิดว่าคงมีแต่อาณาจักรใต้พิภพและแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเท่านั้นที่ฝึกวิชาชั่วร้ายอย่างนี้ แต่ไม่คิดว่ากระทั่งอาณาจักรชื่อหลงเองก็ด้วย
วิชาประเภทที่ต้องดูดแกนโลหิตเพื่อเอามาฝึกฝนนั้นมีอยู่ ตัวอย่างเช่น การดูดแกนโลหิตเผ่ามังกร หรือว่าการปรุงโอสถบางอย่าง ซึ่งพวกนี้ก็ไม่ได้มีอะไรต่าง
แต่มีข้อยกเว้นอยู่นิดหน่อยคือ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถดูดแกนโลหิตจากเผ่าเดียวกันได้ เพราะเมื่อฝึกวิชายุทธ์ประเภทนี้ ก็มีโอกาสที่จะทําเรื่องโหดเหี้ยมแม้แต่กับฝ่ายเดียวกัน ดังนั้นวิชายุทธ์ประเภทนี้จึงถูกเรียกว่าวิชามาร
แต่แม้จะถูกเรียกว่าวิชามาร แต่ก็มีหลายคนที่ฝึกมัน เพราะถึงยังไงแล้ว วิชาพวกนี้ก็ช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกตนให้พวกเขาอย่างมาก ซึ่งผลลัพธ์นี้เป็นอะไรที่น่าดึงดูด แล้วใครล่ะที่จะสามารถปฏิเสธมันได้?
“สาปแช่งอย่างงั้นเหรอ?” บรรพชนไท่ซางหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดว่า “ช่างเป็นการสาปแช่งที่ไร้สาระ สวรรค์ไม่มีทางมาสนใจเรื่องนี้หรอก เพราะสําหรับสวรรค์แล้ว ผู้คนก็ไม่ต่างอะไรไปจากมดปลวก แล้วใครกันที่จะมาสนใจว่ามดปลวกจะเป็นหรือตาย? นี่เป็นกฎแห่งปาที่แท้จริง เจ้ามันยังเด็กนัก!”
ระหว่างที่พูด บรรพชนไท่ซ่างก็ควบแน่นพลังอย่างไว ใช้โอกาสนี้ยืดเวลาออกไป เพราะเขากลัวว่าอี้เทียนหยุนจะรีบร้อนโจมตีเข้ามา
“ก็จริง แม้สวรรค์อาจจะไม่สนใจเรื่องนี้ แต่วันนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อผดุงความยุติธรรมแทนสวรรค์ แต่ข้ามาเพื่ออาณาจักรของข้า มาเพื่อสังหารเจ้า!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฮ่าๆๆ น้ําหน้าอย่างเจ้าก็คิดจะเป็นผู้กล้า?” บรรพชนไท่ซ่างพูดอย่างดูถูก “ข้าว่าอีกไม่นาน สักวันเจ้าก็จะต้องตายด้วยน้ํามือของคนของเจ้าเอง!”
“ข้าไม่ต้องการเป็นผู้กล้าของใคร ข้าแค่รับผิดชอบต่ออาณาจักรของข้า” เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา ยิ่งกว่านั้นยังเพื่อผู้ที่สนับสนุนเขาอย่างเย่ชิงเสวียนและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลัง เขาไม่สามารถทําให้ทุกคนผิดหวังได้
“แลกเปลี่ยนชุดเทพมาร”
“ติ้ง ท่านสูญเสียค่าความชั่ว 1 ล้าน แลกเปลี่ยนชุดเทพมารสําเร็จ…”