Crazy Leveling System - ตอนที่ 625: แพแล่นไปบนฟื้น!
ตอนที่ 625: แพแล่นไปบนฟื้น!
เผชิญหน้ากับผู้คนที่ดูถูก อี้เทียนหยุนคร้านที่จะสนใจพวกเขาที่พวกเขาคิดอย่างนี้นั้นก็ง่ายมาก เด็กหนุ่มอายุประมาณ 20 ปี กลับบอกว่าจะพาคนข้ามไปยังโลกใต้พิภพ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ตลกได้ยังไง?
ในสิบคนมีเก้าคนที่ไม่เชื่อ ส่วนคนที่เชื่อเขานั้น ก็คือคนที่สมองไม่ปกติ!
“น้องชาย ฟังค่าพี่สาวเถอะ หากเจ้าคิดจะไปยังโลกใต้พิภพ อย่างนั้นระดับของเจ้าจะต้องแข็งแกร่งซะก่อน แม้ว่าความยากในการไปโลกใต้พิภพในตอนนี้จะอันตรายน้อยกว่าแต่ก่อน แต่ว่ายังไงมันก็ยังอันตรายมากอยู่ดี” ติงชิงพยายามหาคําพูดมาอธิบาย เหมือนกับพี่สาวที่กําลังปลอบน้อยชายของตน
ผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่ติดตามติงชิงก็ไม่ได้คิดจริงจัง กระทั่งพากันรู้สึกเบื่อหน่าย การปรากฏตัวของอี้เทียนหยุนนี้ สาหรับพวกเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่เสียเวลา
ที่สําคัญคือหัวหน้าของพวกเขาเอ่ยเดือนด้วยความหวังดี ทั้งยังเป็นผู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ หากว่าเปลี่ยนเป็นคนอื่น พวกเขาคงคร้านที่จะสนใจ แม้ตอนนี้จะไม่ถึงกับหัวเราะออกมา แต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกมาแม้แต่ครึ่งคํา
อี้เทียนหยุนเดินไป พร้อมกับย่างเท้าขึ้นเหยียบแพไม้นี้ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ขึ้นมา ไม่จําเป็นต้องสร้างเรือหรอก แค่นี้ก็พอแล้ว”
การกระทําของเขาทําเอาคนอื่นพากันตกใจ คิดจะไปทั้งๆ อย่างนี้จริงๆ น่ะเหรอ นี่มันเป็นวัวหนุ่มไม่กลัวเสื้อหรือยังไง?
“ติงชิง นี่คือผลลัพธ์ของความใจดีของเจ้า คราวนี้ไม่ใช่ว่าเจอเข้ากับคนปัญญาอ่อนคนหนึ่งแล้วหรอกเหรอ? ทั้งยังมีหน้ามาบอกว่าจะช่วยไปส่งเจ้าอีก? คิดไม่ถึงเลยว่าอย่างเจ้าก็เป็นที่ดึงดูดใจด้วย” หลิวเต๋อพูดอย่างดูถูก
“ไสหัวไป!” ติงชิงตวาดใส่เขาประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นไปบนเรือ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ที่นี่ต่างจากข้างนอก หากว่าคนน้อยเกินไป มันจะอันตรายมาก”
“ไม่ใช่ว่าที่นี่ก็มีกันหลายคนแล้วไม่ใช่เหรอ หากไม่ขึ้นมาข้าก็จะไปก่อนแล้ว ข้าไม่มีเวลาที่จะเอามาทิ้งที่นี่” สีหน้าอี้เทียนหยุนยังคงเฉยชา
“ติงชิง เตะเจ้าหนูนี่ทิ้งซะ ให้มันลงไปอาบน้ําในแม่น้ําใต้พิภพนี้ ไม่อย่างนั้นมันคงจะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน!” หลิวเต๋อพูดหัวเราะอยู่อีกฝั่ง
“เจ้าหนู เจ้ามันไม่รับผิดชอบต่อตัวเอง ทั้งยังไม่รับผิดชอบต่อพวกเราด้วย!” ติงชิงโกรธแล้ว สําหรับท่าทีที่เฉยชาของเทียนหยุนนี้ ทําให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างถึงที่สุด
“ข้าคือมหาจักรพรรดิเทียนหยุน ด้วยฐานะนี้ของข้า เพียงพอที่จะรับผิดชอบต่อเจ้าได้หรือเปล่า?” อี้เทียนหยุนเอ่ยชื่อออกมาราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
แต่หลังจากที่ได้ยินชื่อนี้ ไม่เพียงแต่ผู้คนจะไม่พากันค้อมเอวคารวะเท่านั้น แต่ยังมีบางคนที่หัวเราะออกมาแทน
“ฮ่าๆ หากว่าเจ้าคือมหาจักรพรรดิอย่างที่ว่าจริง งั้นข้าก็คงเป็นอดีตจักรพรรดิแล้ว!” หลิวเต๋อหัวเราะออกมาโดยไม่คิดจะยั้งเอาไว้ ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเข้ากับตัวตลกตัวหนึ่ง นี่ช่างทําให้พวกเขารู้สึกตลกจริงๆ
“น้องชาย ค่าพูดนี้ไม่อาจพูดเหลวไหลได้นะ หากว่าคนของมหาจักรพรรดิเทียนหยนรู้เข้า เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!” ติงชิงหน้าเปลี่ยนสี
เทียนหยุนรู้สึกช่วยไม่ได้ ทําไมเวลาเขาบอกชื่อตัวเองออกไป ถึงได้ไม่มีใครเชื่อเขาเลย?
“ในเมื่อเจ้าคืออดีตจักรพรรดิ งั้นเจ้าก็ไสหัวลงไปว่ายน้ําให้ข้าดู!” อี้เทียนหยุนหน้าเย็นชา พร้อมกับยื่นมือข้างหนึ่งตบฟาดออกไป หลิวเต๋อไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นโจมตีใส่จนต้องตกลงไปในน้ํา
“อ้ากกก….” หลิวเต๋อร้องโหยหวนออกมา พร้อมกับรีบว่ายขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว การที่พิษไหลเข้าร่างไม่หยุดนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าข่าเลยสักนิด “เจ้าหนู ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“ฆ่าข้า?” อี้เทียนหยุนตบออกไปอีกฝ่ามือ ส่งเขาลงไปในน้ําอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้โผล่ขึ้นมาในทันที หลังจากนั้นสักพัก เขาถึงจะโผล่ขึ้นจากน้ําได้
ตอนนี้หลิวเต๋อได้ดื่มน้ําในแม่น้ําใต้พิภพเข้าไปหลายอีก ทําให้สีหน้าของเขาดําปืนไปแถบหนึ่ง ขณะที่ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ข้า ข้าผิดไปแล้ว ให้ข้าขึ้นไปเถอะ ให้ข้าขึ้นไปเถอะ…”
ในตอนนี้สีหน้าของคนอื่นๆ ก็ได้พากันเปลี่ยนไป พร้อมกับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นในใจ แม้ระดับของหลิวเต๋อจะไม่สูงมาก แต่จะดีจะร้ายก็เป็นถึงผู้เชียวชาญระดับผันแปรวิญญาณ ตอนนี้กลับถูกกดอยู่ในน้ํา แม้แต่จะขยับยังทําไม่ได้
นี่หมายความว่าระดับของเด็กหนุ่มคนนี้ต้องเหนือกว่าหลิวเต๋อมากนัก!
“จะไปไหม?” อี้เทียนหยุนหันไปพูดกับพวกเธอ “หากไม่ไป ข้าจะได้ไปก่อน”
ที่นี่ไม่สามารถบินได้ ต่อให้ระดับของเขาในปัจจุบันจะไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ยังไม่สามารถบินได้อยู่ดี กฎที่ราชาศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้น ไม่ง่ายเลยที่จะทําลายมัน ดังนั้น เขาจึงทําได้เพียงล่องเรือไปอย่างเรียบๆ ร้อย เมื่อเห็นว่าติงชิงมีเจตนาดี เขาก็เลยจะช่วยอํานวยความสะดวกให้สักหน่อย
“นะ นี่… ไปสิ!” หลังจากติงชิงได้สติ เธอก็รีบหันไปพูดกับสหายของเธอ “พวกเจ้าจะยืนนิ่งหาอะไร รีบขึ้นไปสิ!”
“อื้อ…”
พวกเขาพากันขึ้นไปบนแพอย่างรวดเร็ว หลังจากเห็นเทียนหยุนแสดงความสามารถออกมาแล้ว จากที่เคยคิดว่าอี้เทียนหยุนเป็นแค่คนบ้าคนหนึ่ง ตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนความคิดไปแล้ว
“ไม่มีคนอื่นแล้ว?” อี้เทียนหยุนถามขึ้นอย่างเฉยชา
“ไม่มี…” ติงชิงพบว่าสีหน้าของตนอ่อนลงหลายส่วน ไม่ได้แข็งเหมือนก่อนหน้า ตอนนี้สัญชาตญาณในใจของเธอเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้วว่า เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ อาจจะเป็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุนจริงๆ
“งั้นก็ไปกัน”
อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไปตบใส่ผิวแม่น้ํา จากนั้นแพก็ได้เปลี่ยนเป็นดั่งลูกศร บินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่เหนือกว่าจะคาดคิด ทันใดนั้นก็หายไปจากสายตาของผู้คนเหลือไว้แต่เสียงแม่น้ําเท่านั้น
“นี่มันความเร็วอะไรกัน ช่างน่ากลัวยิ่งนัก… หรือว่าเขาจะเป็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุนจริงๆ?”
“นี่อาจจะเป็นตัวจริงก็ได้ ได้ยินมาว่ามหาจักรพรรดิเทียนหยุนยังเด็กอยู่ เหมือนว่าจะมีอายุประมาณ 20 ปีเท่านั้น…”
“งั้นไม่ใช่ว่าพวกเราพลาดโอกาสที่จะเป็นมิตรกับเขาแล้วหรอกเหรอ? มารดามันเถอะ สุดท้ายก็เป็นถึงสิ่งที่โชคดี!”
ผู้คนกลุ่มนี้พากันรู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที ส่วนหลิวเต๋อในตอนนี้ก็ได้ว่ายกลับมาถึงท่าเรือแล้ว แต่ทั้งร่างก็เต็มไปด้วยพิษเรียบร้อย แต่ว่าจะมีชีวิตรอดไหมนั้น นั่นต้องดูที่ความสามารถเขาแล้ว ยังไงก็ตาม ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไปช่วยเขา เพราะว่านี่เป็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุนลงโทษเขาด้วยตัวเอง หากว่าเกิดไปช่วยเขา จะไม่เป็นการต่อต้านมหาจักรพรรดิเทียนหยุนหรอกเหรอ?
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอะไรกัน อี้เทียนหยุนก็ไม่ได้สนใจ ขณะนี้เขากําลังพาพวกติงชิงแล่นแพไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วหากเทียบกับครั้งแรกที่มาแล้ว เร็วกว่ากันหลายสิบเท่า!
ซึ่งแพนี้ก็ไม่จําเป็นให้พวกเธอต้องลงมือพาย เพียงแค่พึ่งพลังของอี้เทียนหยุนคอยผลักดันอยู่ด้านหลัง ก็ทําให้แพวิ่งไปข้างหน้าไปหยุดแล้ว ส่วนฉลาดใต้พิภพที่อยู่ในแม่น้ําก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ ภายใต้การแผ่พลังวิญญาณที่น่าสะพรึงออกไปเป็นวงกว้าง แล้วใครมันจะกล้าเข้ามาใกล้กัน?
ติงชิงกับพวกก็ไม่กล้าพูดอะไร ต่างก็พากันนั่งเงียบ พร้อมกับมองดูทิวทัศน์รอบๆ ที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็พากันมาถึงท่าเรือ แต่ในขณะที่กําลังเตรียมตัวจะขึ้นฝังอยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็พลันเอ่ยปากขึ้น “อย่าพึ่งขยับ ยืนอยู่บนนี้ก่อน”
จากนั้น เขาก็ตบฝ่ามือออกไป ทําให้แพทั้งล่าบินไปราวกับลูกกระสุน จนสุดท้ายก็ตกลงที่พื้นดินบนฝั่ง จากนั้นก็แล่นไปข้างหน้าต่อไป! แม้ว่าความเร็วจะช้าลงเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นความเร็วที่เร็วมากอยู่ดี
นี่ทําให้พวกเธอพากันตกใจ นี่คิดจะใช้แพแล่นไปบนพื้นอย่างนั้นเหรอ?
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา ตราบเท่าที่ระดับแข็งแกร่งพอ ก็สามารถดึงพลังวิญญาณออกมาใช้ทําอะไรได้หลายอย่าง อย่างเช่นเขาในนอนนี้ ที่สามารถทําให้แพแล่นต่อไปบนพื้นดินได้ โดยที่ไม่จําเป็นต้องลงจากแพ
หากว่ามีบางคนที่อยู่ใกล้ๆ แล้วเห็นว่าแพแล่นอยู่บนดินอย่างนี้ พวกเขาคงจะคิดว่าเป็นเรื่องที่พูดกันเกินจริง ยิ่งกว่านั้นยังมีคนห้าคนอยู่บนนั้นด้วย ยิ่งเกินจริงขึ้นไปใหญ่
จากนั้น พวกเขาก็แล่นแพต่อไปด้วยความเร็วราวกับพายุ ข้ามเขตอันตรายที่ละเขตละเขต พวกเขากระทั่งสามารถมองเห็นสัตว์อสูรบางตัวที่นั่งมองอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีตัวไหนกล้เข้ามา หากไม่ใช่ว่าที่นี่คือเขตอันตราย พวกเขาคงกําลังคิดว่ากําลังมาเที่ยวอยู่แน่ๆ