Dawn of a new era รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ - ตอนที่ 72
ตอนที่ 72 โรงงานไอน้ำ
โจวเสวี่ยเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นหยิบนิยายออกมาหนึ่งเล่ม แล้วเริ่มอ่านนิยายโดยไม่สนใจเขา
ในไม่ช้ารถบัสก็ขับออกมา
รถคันนี้เห็นได้ชัดว่าเริ่มเก่ามากแล้ว เสียงเครื่องยนต์ของตัวรถดังราวกับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่หายใจไม่ออก มันส่งเสียง “ครืดๆ” ออกมา เฉินโจวอี้เริ่มเป็นกังวลว่ารถจะพังระหว่างกลางทางหรือเปล่า
ดีที่เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้น
หลังจากเอนตัวลงนอนประมาณครึ่งชั่วโมง เขาลืมตาขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง
ด้านนอกเป็นเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากปล่องควันเป็นจำนวนมากจากด้านบนโรงงาน
เมืองผิงชิวห่างจากเมืองหนิงโจวไม่มากเท่าไร เมื่อมาถึงตรงนี้ถือว่าเข้าเขตเมืองหนิงโจวแล้ว
เมื่อเทียบกับเมืองผิงชิวที่ยังคงเงียบเชียบอ้างว้าง การจราจรบนท้องถนนของเมืองนี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังน้อยกว่าเมื่อก่อนอยู่มาก
“โชเฟอร์ ได้ยินมาว่าโรงงานบางส่วนที่นี่ใช้เครื่องจักรไอน้ำทั้งหมดเลยใช่ไหม? ” ในเวลานี้มีผู้โดยสารบนรถเอ่ยถามพนักงานขับรถ
” ก็ไอ้ที่ควันกำลังพุ่งขึ้นพวกนั้นนั่นแหละ เป็นเครื่องจักรไอน้ำหมดเลย!”
” ที่จริงเครื่องจักรไอน้ำก็ไม่เลวเลยนะ คุณดูสิโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้ขับเคลื่อนโดยกังหันไอน้ำ อีกอย่างในตอนนี้เครื่องจักรไอน้ำของโรงงานไม่ได้เป็นแบบเมื่อก่อนแล้ว “
“อย่างน้อยๆ ก็เป็นเครื่องจักรไอน้ำแบบ subcritical เครื่องจักรไอน้ำเครื่องหนึ่งสามารถขับเคลื่อนเครื่องกลหนักหลายร้อยหลายพันเครื่องได้ ช่วยประหยัดต้นทุนกว่าการปล่อยกระแสไฟฟ้ามาใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องกล”
ในฐานะที่เคยเป็นนักเรียนชั้น ม.6 มาก่อน เฉินโจวอี้ยังพอรู้ว่าเครื่องจักรไอน้ำแบบ subcritical คืออะไร?
ในกระบวนการที่ใช้ความร้อนมาแปรสภาพน้ำให้กลายเป็นแก๊ส เมื่อความดันภายในหม้อไอน้ำเพิ่มขึ้น อุณหภูมิความอิ่มตัวของน้ำจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน จนเกิดการลดประสิทธิภาพการแปรสภาพเป็นแก๊ส เมื่อแรงดันเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง ไอน้ำจะอิ่มตัวและไม่มีการระเหยอีกต่อไป ในเวลานี้ความหนาแน่นของไอน้ำและน้ำจะเท่ากันซึ่งมาถึงระดับสภาวะ subcritical
ถ้าหากแรงดันและอุณหภูมิยังคงเพิ่มสูงขึ้น ในเวลานี้น้ำได้กลายเป็นไอน้ำอย่างสมบูรณ์ ไม่มีความแตกต่างระหว่างไอน้ำและน้ำอีกต่อไป น้ำก็คือไอน้ำ ไอน้ำก็คือน้ำ ซึ่งจะกลายเป็นสภาวะ supercritical
ส่วนสภาวะ subcritical มีสภาวะที่ใกล้เคียงกับสภาวะ supercritical ถือเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน
สำหรับโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนและโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่ใช้ระบบเครื่องจักรชนิด supercritical ที่ทันสมัยกว่า มีแม้กระทั่งระบบเครื่องจักรแบบ ultra – supercritical
อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องจักรไอน้ำแบบ subcritical ก็ยังสูงอยู่มากเมื่อเทียบกับเครื่องจักรไอน้ำเมื่อหลายร้อยปีก่อน
แต่นั่นมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว มองไปยังปล่องควันโรงงานที่อยู่ด้านนอก เฉินโจวอี้ยังคงรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจ
สิ่งนี้แสดงถึงอารยธรรมของมนุษย์กำลังล่าถอยลง
สุดท้ายแล้วพลังงานไฟฟ้าก็เป็นแหล่งพลังงานที่สะดวกและสะอาดที่สุดสำหรับมวลมนุษย์อยู่ดี
ถ้าหากพลังจากโลกที่แตกต่างยังคงรุกราน หากไฟฟ้ายังคงใช้การไม่ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ความเจริญรุ่งเรืองและความสะดวกสบายของยุคแห่งไฟฟ้าและสารสนเทศเท่านั้นที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของอารยธรรมอันสมบูรณ์ แต่อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นโลหะและเคมีก็จะประสบภาวะถดถอยอย่างรุนแรงเช่นกัน
ทั้งโลกกำลังเปลี่ยนแปลงสู่ความมืดมิด
เขามองปล่องควันที่พ่นควันสีขาวอยู่นอกหน้าต่าง ราวกับกำลังมองดูอารยธรรมที่กำลังถดถอยลง
ในใจของเฉินโจวอี้เกิดความรู้สึกเศร้าใจ
….
รถขับต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร
เฉินโจวอี้และโจเสวี่ยลงจากรถพร้อมกัน พวกเขาเดินออกมาจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร ก็เห็นด้านนอกมีรถแท็กซี่เต็มไปหมด
“ไปด้วยกันไหม? ” เฉินโจวอี้ถามขึ้น
โจวเสวี่ยพยักหน้าพลางพูดขึ้น ” อืม นั่งไปด้วยกันจะได้ประหยัดเงิน!”
เป็นแค่เด็กสาวอายุสิบห้าปี คงไม่เคยมาที่เมืองหนิงโจวสินะ
แน่นอนว่าเขาเองก็เช่นกัน แต่ความกล้าของเขามีมากกว่าเธอ เขาเอากระเป๋าเป้ที่สะพายมาด้านหลังวางไว้กระโปรงท้ายรถ แล้วเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่
“โชเฟอร์ ไปศูนย์กลางการทดสอบชาวยุทธฝึกหัด “
คนขับรถแท็กซี่รีบสตาร์ทเครื่องพลางพูดขึ้น ” วันนี้รับผู้โดยสารไปหลายรอบแล้ว ทุกคนไปศูนย์กลางการทดสอบชาวยุทธฝึกหัดหมดเลย “
” คนเยอะมากเลยเหรอครับ? ” เฉินโจวอี้ถาม
” เยอะ! ส่วนใหญ่ก็รีบมาจากที่อื่นนั่นแหละ ได้ยินมาว่าการทดสอบครั้งนี้จะลดมาตรฐานลง “คนขับรถพูดราวกับว่าเรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดี
” จริงเหรอ? ” โจวเสวี่ยได้ยินดังนั้นจึงรีบถามขึ้น
” แน่นอนสิ เธอคิดดูนะ คนมาเยอะขนาดนี้ กว่าจะสอบแต่ละคนเสร็จต้องใช้เวลาถึงเมื่อไร พอถึงตอนนั้นเขาต้องลดมาตรฐานลงอย่างแน่นอน “
โจวเสวี่ยไม่เข้าใจเรื่องการทดสอบเลยแม้แต่น้อย พอได้ยินข่าวดีเช่นนี้ เธอจึงเผยสีหน้าแห่งความสุขออกมาโดยไม่รู้ตัว
เฉินโจวอี้ไม่ได้สนใจว่าครั้งนี้มันจะยากหรือง่าย จึงเอ่ยถามขึ้น
” บริเวณใกล้ๆ ที่นั่นมีโรงแรมไหม? “
” มีเยอะแยะ แต่ฉันคิดว่าน่าจะเต็มทุกที่แล้วแหละ! “
” ลองไปดูที่นั่นก่อนแล้วกัน พอถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน “
ไม่นานรถก็ขับมาถึงที่หมาย
” อาคารด้านหน้าคือศูนย์กลางการทดสอบชาวยุทธฝึกหัด ค่าโดยสารทั้งหมด 125 หยวน “
” แพงขนาดนี้เลยเหรอ! ” โจวเสวี่ยที่อยู่ด้านหลังอุทานขึ้น
” ปกตินี่นา ตอนนี้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวแล้ว อีกอย่างตอนนี้ปริมาณการใช้น้ำมันก็กำลังเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เธอดูสิฉันกดมิเตอร์ให้แล้วนะ ” คนขับรถแท็กซี่พูดท้วงขึ้น
เฉินโจวอี้ไม่ได้เถียง เขาหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่าย
หลังจากรับเงินทอนแล้ว เขาจึงหยิบกระเป๋าของตัวเองและของโจวเสวี่ยออกมาจากกระโปรงหลังรถ รอให้เธอลงรถ
” แพงมากเลย รู้งี้นั่งรถเมล์ดีกว่า ” หลังจากที่โจวเสวี่ยรับกระเป๋าสัมภาระของตัวเองมาพลางบ่นอุบอิบด้วยท่าทีเป็นทุกข์จากนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ” เอาไป 70 หยวน! ทอนฉันมา 8 หยวน 5 เหมาด้วย! “
หลังจากที่เฉินโจวอี้รับเงินมาจึงเอาใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์แล้วพูดขึ้น
” ไม่มีเงินทอน ติดไว้ก่อนแล้วกัน “
” เมื่อกี้เงินทอนที่นายพึ่งรับมาจากคนขับรถแท็กซี่มีเหรียญ 5 หยวนอยู่ เอามาให้ฉันก่อน “
เฉินโจวอี้เปิดกระเป๋าสตางค์ดูอีกครั้ง พบว่าข้างในมีเหรียญ 5 หยวนอยู่จริง จึงล้วงออกมายื่นให้เธอ ” เอาไป! “
” งั้นนายยังติดฉันอีก 3 หยวน 5 เหมานะ ” โจวเสวี่ยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
ผู้หญิงคนนี้งกจัง
เฉินโจวอี้หมดคำพูด ” วางใจเถอะ ” รอฉันแลกเงินก่อน เดี๋ยวจะเอามาคืนให้
….
ทั้งสองเริ่มมองหาโรงแรมในบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่ใช่ว่าห้องเต็มแต่อย่างใด มันแพงเกินไปต่างหาก
เฉินโจวอี้กลับไม่ได้สนใจอะไร ตั้งแต่ที่เขาได้ทองคำมา ชีวิตของเขาก็สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เวลาจับจ่ายใช้สอยสามารถใช้จ่ายเงินเกินตัวได้
แต่โจวเสวี่ยกลับไม่พอใจสักที
” โรงแรมนี้แพงกว่าด้านหน้าอีก ห้องเดี่ยวราคาตั้ง 300 หยวน ยังต้องอยู่อีกตั้งสองคืนแหน่ะ “
” หามาสองชั่วโมงกว่าแล้วนะ ให้ฉันช่วยจ่ายให้เธอไหม เธอไม่ต้องคืนฉันหรอก ” เฉินโจวอี้อดที่จะพูดไม่ได้
” ใครต้องการความใจดีของนาย ถ้าหากนายทนไม่ได้นายก็ไปซะ เพราะฉันก็ไม่ได้ต้องการให้นายมาอยู่กับฉันตลอดเวลาอยู่แล้ว ” สีหน้าของโจวเสวี่ยดูเย็นชาขึ้นทันที
ฐานะที่บ้านของเฉินโจวอี้ถือว่าไม่แย่มาตั้งแต่เด็ก ชีวิตไม่ต้องกังวลอะไร เขาไม่เคยต้องมากังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินมาก่อน จึงจินตนาการไม่ออกว่าครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่ง หรืออาจจะเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว การเลี้ยงดูชาวยุทธฝึกหัดคนหนึ่งเป็นอะไรที่กดดันมาก โดยเฉพาะเรื่องเงิน ซึ่งพวกเขาจะมีความอ่อนไหวมากกว่าคนทั่วไป
เฉินโจวอี้รีบขอโทษอย่างรวดเร็ว
” เอาล่ะ ถือว่าฉันพูดผิดแล้วกัน งั้นพวกเราหากันต่อเถอะ! “
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเขาเดินก้มหน้า บรรยากาศที่ค่อนข้างคุ้นเคยกันเล็กน้อยเปลี่ยนไปเย็นชาอีกครั้ง
จากนั้นพวกเขาหาโรงแรมต่ออีกเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดทั้งสองคนก็หาโรงแรมที่ราคาเหมาะสมเจอ
มองดูอายุของทั้งสองคน พนักงานคนสวยตรงแผนกต้อนรับไม่ได้แปลกใจอะไร ” ทั้งสองท่านต้องการห้องสวีตไหมคะ? “
ห้องสวีต!?
เห็นได้ชัดว่าแม่สาวน้อยไม่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาก่อน พอเธอได้ยินก็เบิกตากว้างทันที ใบหน้าขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว ดูราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังตกใจ เธอเริ่มพูดติดๆ ขัดๆ ” พะ……พวกเราไม่ได้มาด้วยกัน ขอเป็นห้องเดี่ยว ฉันจะพักสองคืนค่ะ “
” ขอบัตรประชาชนด้วย เงินมัดจำ 100 หยวน ค่าห้อง 200 หยวน รวมทั้งหมดเป็น 300 หยวน “
หลังจากที่โจวเสวี่ยดำเนินการเปิดห้องพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอหยิบคีย์การ์ดไปโดยไม่รอเฉินโจวอี้ จากนั้นถือกระเป๋าสัมภาระแล้วรีบเดินไปที่ลิฟต์ทันที ราวกับว่าอดใจรอไม่ได้ที่จะพิสูจน์ให้พวกแผนกต้อนรับเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน
จบตอน