Dawn of a new era รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ - ตอนที่ 88
ตอนที่ 88 กลับบ้าน
ในรถก็เกิดความอลหม่านขึ้น พอประกาศชื่อตนเองออกมาก็ดีใจ พอไม่มีชื่อตนเองประกาศออกมาก็แสดงความเสียใจออกมาทางสีหน้า
ผู้ทดสอบสิบเจ็ดคนมีคนผ่านการทดสอบสิบสองคน สองในสามของคนที่ผ่านการทดสอบ
เมื่อเทียบกับการทดสอบจอมยุทธฝึกหัดกับการประเมินจอมยุทธแล้ว อัตราส่วนนี่สูงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
การประเมินที่แท้จริงของจอมยุทธ การสอนจะยิ่งเพิ่มทัศนคติของการต่อสู้และจิตใจแน่วแน่ในการต่อสู้ ฝีมือและทักษะอื่นๆรองลงมา ตราบใดที่พวกเขาไม่หวาดกลัวในการต่อสู้รวมถึงต่อสู้ได้ไม่แย่จนเกินไป โดยทั่วไปแล้วก็สามารถผ่านการประเมินได้
เฉินโจวอี้คิดมาเสมอว่าเขานิ่งสงบมาก
แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อของตัวเองในเวลานั้น เขาเองก็ยังรู้สึกถึงความดีใจที่เหมือนคลื่นลูกใหญ่ภายในใจ จนปรากฏความตื่นเต้นดีใจออกมา
จอมยุทธ!
ฉันกลายเป็นจอมยุทธจริงๆ
….
กลับไปที่ศูนย์ทดสอบศิลปะการต่อสู้
คนที่ไม่ผ่านก็เดินหน้าเศร้าออกไป
ส่วนที่เหลืออีกสิบสองคนรอกล่าวคำปฏิญาณและใบรับรอง
แต่ว่ามันยังไม่จบแค่นั้น
อีกเจ็ดวันให้หลัง จะมีการประชุมของจอมยุทธ เมื่อถึงเวลานั้นความตั้งใจของจอมยุทธก็จะได้รับการยืนยัน
….
เฉินโจวอี้เดินกลับไปที่โรงแรมพร้อมกับใบรับรองและลู่เหว่ยเฟิง
” ฉันเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน” เฉินโจวอี้พูดขึ้นมา
” ฉันก็ด้วย! จากบ้านมาจนสามารถเป็นจอมยุทธได้ยังไม่เคยได้กลับบ้านสักที เหมือนได้เอาเกียรติเอายศกลับไปบ้านด้วย อย่างนั้นก็ต้องต้อนรับกันอย่างรื่นเริงแล้ว” ลู่เหว่ยเฟิง กล่าวพูดอย่างตื่นเต้น
เฉินโจวอี้ยิ้มและไม่พูดอะไร นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ใช่เขาไม่เคยเป็น
เขาเปิดประตูห้องและเปิดกระเป๋าเอกสารเพื่อดูเด็กหญิงเปลือกหอย หยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังแล้วคืนห้องที่โรงแรมแล้วรีบตรงไปที่สถานีรถไฟความเร็วสูง
….
เมืองฉางเหมิน เขตผิงชิว
“พี่ชายของแกยังงี้แหละ นี่ก็เจ็ดวันเข้าไปแล้ว ข่าวคราวอะไรก็ไม่มี ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างเมื่อก่อนไม่มีโทรศัพท์ยังแอบส่งข่าวได้ เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์ยังไม่อยากจะโทร” แม่ของเฉินโจวอี้ลากไม้ถูพื้นไปด้วย ตะโกนบ่นไปด้วย
เฉินซิงเย่วกำลังเก็บเสื้อผ้าที่ด้านข้างระเบียงก็ได้ยินเข้า “แม่ ไม่ต้องห่วงพี่เขาเถอะ พี่หน่ะแข็งแกร่งและผ่านไปได้อย่างแน่นอน”
“ฉันไม่ได้กังวลกับการประเมินของเขา แต่ตอนนี้ความสงบเรียบร้อยของสังคมไม่ดีมากนักนี่เขาก็ไปนานแล้วด้วย … “
” คุณก็หลับหูหลับตาเป็นห่วง!” เฉินตาเหว่ยจับหนังสือพิมพ์และเงยหน้าขึ้นมอง เขาบอกด้วยเสียงเรียบๆ ” ลูกชายของคุณมีพลังของจอมยุทธยังจะต้องกังวลอะไรอีก “
เธอไม่เคยเห็นลูกชายที่ตอนนี้ฆ่าคนได้เหมือนฆ่าไก่ ไม่ว่าจะใครต่อใครก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุเขา เธอนี่ช่างผู้หญิงซะเหลือเกิน
แน่นอนว่าประโยคนี้ได้แค่ตำหนิอยู่เพียงในใจ
“ฉันพูดสองสามคำแล้วยังไง ? อ๋า ! ฉันว่าคุณมีอารมณ์โกรธมากเกินไป นี่ใช่ประโยคสุดท้ายที่ฉันควรจะพูดมั้ย ” แม่ของเฉินโจวอี้ปล่อยไม้ถูพื้นแล้วพูดด้วยโกรธ: ” ดู๊ว ดู ดูคุณซิ อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวันมันทำให้มีดอกไม้ออกมามั้ย มาเอาไม้ไปถูพื้น! “
ไขมันหน้าท้องที่ตุ้ยนุ้ยของเฉินต้าเหว่ยสั่นกระเพือมตามแรง เขาวางหนังสือพิมพ์ลงและยืนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
” ฉันพูดอะไร? ถูพื้นก็ถูพื้น ดูเหมือนจะเก่งเกินไปแล้วยังไงกับข้าวก็ยังเป็นฉันที่ทำทุกวันอยู่ดี “
“แล้วผักฉันไม่ได้เป็นคนซื้อเหรอไง?”
ในเวลานี้เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
แม่ของเฉินโจวอี้รีบไปเปิดประตู
คนที่มาเป็นภรรยาของเจ้าของบ้าน เธอถือกระถางต้นมัลเบอร์รี่อยู่ในมือแล้วใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้ม “แหม่ ครอบครัวสนุกครึกครื้นกันจริงๆ”
” เห๊อะ ครอบครัวของเรายิ่งอยู่ยิ่งขี้เกียจงานการก็ไม่ไปหาทำ อยู่บ้านได้ทั้งวัน ที่คุณพูดมาฉันไม่โกรธคุณหรอก ดูเขาสิ เดี๋ยวนี้อ้วนเอาอ้วนเอาจนกลมเป็นลูกบอลแล้ว” แม่ของเฉินโจวอี้พูดเล่นผสมความโกรธปนกันไป
เฉินต้าเหว่ยยิ้มด้วยขณะที่ถูพื้น “อย่าเพิ่งหัวเราะเยอะผม รีบเข้ามานั่งในบ้านก่อนครับ”
เป็นเหมือนพี่เฉินที่ดูแลบ้านแบบนี้ก็ดีแล้ว ตอนนี้หางานดีๆทำก็หายาก ไม่ต้องรีบ วันนี้ซื้อต้นมัลเบอร์รี่เหล่านี้ไว้มากๆ คุณก็จะได้ลิ้มรสมันด้วย
” เกรงใจคุณมากๆเลย!”
“ครั้งที่แล้วที่ลูกสาวผ่านการทดสอบจอมยุทธฝึกหัด ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของลูกชายคุณ นี่ลูกชายคุณที่ไปเมืองเหอตงยังไม่กลับมาเหรอ”
” เฮ้อ เพิ่งจะพูดถึงไปเอง ไอ้หนูตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่? นี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว”
“จริงสิ ฉันยังไม่ได้ถาม ลูกชายของคุณไปทำอะไรที่เมืองเหอตง “
แม่ของเฉินโจวอี้กำลังที่จะตอบ
ตอนนี้แหละ!
“พ่อ แม่ ผมกลับมาแล้ว!”
มีเสียงที่ตื่นเต้นดีใจแทรกเข้ามา จากนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น “คุณน้า คุณก็อยู่นี้เหมือนกันเหรอ?”
เมื่อเฉินซิงเยว่เห็นเฉินโจวอี้ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“พี่! กลับมาแล้ว ผ่านมั้ย?”
“แน่นอนฉันต้องผ่านสิ” เฉินโจวอี้ยิ้มตอบ พูดจบเขาก็หยิบใบรับรองออกมา
เฉินต้าเหว่ยหันไปมอง ทิ้งไม้กวาดลงอย่างรวดเร็วและเดินเข้าไปหาอย่างเร็ว
แต่มือแม่ของเฉินโจวอี้เร็วกว่าและเธอก็คว้ามันไว้ ” ให้แม่ดูสิ!”
ใบรับรองจะทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่แรกเห็น ด้านบนเป็นตราประทับสัญลักษณ์ขององค์กรจอมยุทธแห่งเมืองเจียงหนาน
ภาพถ่ายและชื่อทั้งหมดถูกต้องไม่มีผิดพลาดและนี่ก็คือใบรับรองของลูกชายเขาแน่นอน
“มันคือของจริง แกทำได้จริง ๆ” เสียงที่ตื่นเต้นของแม่เฉินโจวอี้สั่นเล็ก ดวงตาของเธอชื้นไปด้วยน้ำตา!
ทุกวันนี้เธอไม่รู้ว่าทนรับแรงกดดันมาไม่รู่เท่าไหร่ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่นอนไม่หลับพลิกไปพลิกมาตอนกลางดึกและเดินออกไปดูข้างนอกจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวซ้ำๆ กลัวมากที่จะถูกคนเห็น แต่วันนี้ความกลัวที่เหมือนเมฆดำนั่นก็หายไปและแสงสว่างก็กลับมาส่องสว่างชัดเจน
“เร็วสิ เอามาให้ฉันดูบ้าง!” เฉินต้าเหว่ยพูดอย่างเร่งรีบ
“จะรีบไปทำไม ? ก็ฉันยังดูไม่เสร็จ ” แม่ของเฉินโจวอี้หมุนตัวของเธอกลับเพื่อปิดบังที่เธอกำลังเช็ตน้ำตาอยู่แล้วมองออกไปครู่นึงก่อนที่จะหันไปหาเฉินต้าเหว่ยในที่สุด
เฉินต้าหยิบใบรับรองมาดูเขายิ้มแล้วพูดว่า “ดีๆ วิเศษไปเลย ช่างเป็นอนาคตที่สดใสจริงๆ!”
“พ่อ พ่อดูมันมานานพอแล้ว ถึงตาฉันแล้ว!” เฉินซิงเยว่อดทนรนใจรอไม่ไหวแล้ว
ภรรยาเจ้าของบ้านมองไปที่ภาพที่เศร้าของครอบครัวนี้ หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ใบรับรองนี้คืออะไรเหรอ?”
“ใบรับรองของจอมยุทธ ตอนนี้พี่ชายของฉันเป็นจอมยุทธแล้ว!” เฉินซิงเยว่พูดอย่างภูมิใจ
ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น บุคลิกของเธอก็เงียบมากและเธอก็ไม่ค่อยยิ้มและหัวเราะ แต่ตอนนี้ในที่สุดเธอก็ยิ้มและหัวเราะออกมาจนได้
ดวงตาของภรรยาเจ้าของบ้านเบิกกว้าง เธอเงยหน้าขึ้นมามองขึ้นๆลงๆกับเฉินโจวอี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ” จริงๆเหรอ … จริงๆเหรอ … เธอเป็นจอมยุทธจริงๆเหรอ?”
….
ภรรยาเจ้าของบ้านเดินจากไปอย่างรวดเร็วและเธอก็ยังดูสับสนในตอนที่เธอเดินจากไป
หลังจากเวลานานมาก ความตื่นเต้นของทุกคนก็ค่อยๆสงบลง
” ใช่แล้ว ลูกกินอะไรมาหรือยัง?” แม่ของเฉินโจวอี้นึกขึ้นได้และถามทันที
“แม่ ไม่ต้องทำแล้ว ผมกินมาแล้วที่สถานีรถไฟ!” เฉินโจวอี้รีบตอบทันที รู้สึกถึงรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของพ่อแม่และเขาก็รู้สึกพึงพอใจที่ออกมาจากใจจริง
” พ่อแม่ ผมมีอะไรที่อยากจะปรึกษานิดหน่อย ก็เรื่องของการย้ายที่อยู่พ่อกับแม่จะมีปัญหามั้ย”
” เรื่องนี้พวกพ่อกับแม่ก็ไม่เข้าใจหรอก ให้ตัวลูกเป็นคนตัดสินเองดีกว่า” แม่ของเฉินโจวอี้กล่าว
เฉินต้าเหว่ยพยักหน้าและพูดว่า: “ลูกคิดอย่างไรหล่ะ?”
“ตอนนี้เมืองผิงชิงและเมืองตงหนิง ยังคงอยู่หยุดปล่อยกระแสไฟฟ้า ความสงบเรียบร้อยของสังคมก็ยังไม่ดี ที่ผมคิดคืออยากจะย้ายไปที่เมืองเหอตงหรือหนิงโจวด้วยกัน เมื่อถึงตอนนั้นชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยจะมั่นคง”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปที่เมืองเหอตง” เฉินต้าเหว่ยพูดออกมาว่องไวอย่างตรงไปตรงมา ต่อไปถ้ากลับไปเมืองตงหนิง ก็จะทำให้รู้สึกหดหู่ ที่ยิ่งไปกว่านั้น ที่นั่นมีพวกคนไม่ดียังไม่ถูกจำกัดออกไป ในเมื่อออกจากเมืองตงหนิง งั้นก็หาที่ที่ไกลๆไปเลย
จากประสบการณ์เรื่องราวที่มากมายหลายสิ่งหลายอย่าง ครอบครัวก็ไม่เคยคิดจะย้ายบ้านแต่ความปลอดภัยมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
มีเพียงแม่ของเฉินโจวอี้ที่ค่อนข้างเป็นกังวล
“ราคาที่อยู่อาศัยของเมืองเหอตงสูงมาก ได้ยินมาว่ามีราคามากกว่า 30,000 หยวนและอีกหนึ่งและก็ไม่รู้ว่าจะกู้เงินจากสินเชื่อบ้านได้เท่าไร ตอนนี้ฉันมีเงินฝากประมาณ 20,000หยวน เมื่อถึงเวลานั้นและบ้านหล่ะจะทำยังไง”
“ใช่ ถ้าบ้านเก่าสามารถขายมันทิ้งได้ แต่เงินจะพอหรือเปล่า?”
ราคาเดิมก็ 30,000หยวนแล้ว ตอนนี้มันคงมากกว่า 50,000 หยวนแล้วแหละ เฉินโจวอี้คิดในใจอย่างเงียบๆ
“พ่อ แม่ ไม่ต้องกังวล เมื่อถึงเวลานั้นจะมีเงินช่วยเหลือครอบครัว น่าจะได้ไม่น้อยเลยทีเดียว”