Dawn of a new era รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ - ตอนที่ 89
ตอนที่ 89 หนู
เจ้าของบ้านวางกับข้าวที่ทำเสร็จแล้วบนโต๊ะ พลางแกะผ้ากันเปื้อนพลางพูดว่า
” ช่างนึกไม่ถึงจริงๆว่าเด็กหนุ่มที่ดูเรียบร้อยและละเอียดละอ่อน ไม่คิดว่าจะกลายเป็นจอมยุทธได้”
“แม่พูดหลายรอบแล้วนะ” โจวเสวี่ยตักอาหารให้แม่ของเธอและอดไม่ได้ที่จะได้ยินและพูดออกไป
” นี่คือผู้หญิงที่เป็นจอมยุทธ ฉันเคยเห็นในทีวีมาก่อน”
” แล้วยังไง นี้เกี่ยงข้องยังไงกับพวกเราเหรอ? ” โจวเสวี่ยพูด
เจ้าของบ้านหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วพูดว่า ” ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันมันไม่สำคัญถ้าจะให้พูดก็คือเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน มีความเกี่ยวข้องกันตั้งเยอะยังไงก็ต้องดูแลและให้เกียรติกันกัน หลังจากนี้ถ้าหนูมีมารยาทสักนิดนึง เวลาเห็นเฉินโจวอี้ให้เรียกเขาว่าพี่ด้วย เข้าใจแล้วใช่มั้ย”
โจวเสวี่ยเบะปากแสดงอาการดูถูก “ยังไงหนูก็ไม่เรียน พึ่งคนอื่นยังไงก็ไม่ดีเท่าพึ่งตัวเอง แม่วางใจเถอะ หลังจากนี้ฉันก็จะสามารถเป็นจอมยุทธให้ได้”
” เด็กคนนี้นี้ นิสัยเย็นชาแล้วยังก้างร้าวอีก ต่อำแจะแต่งงานออกเรือนได้ยังไงกัน”
“หนูไม่อยากแต่งงาน หลังจากนี้ก็จะใส่ชีวิตอยู่กับแม่ด้วยกัน ” โจวเสวี่ยพูดเสียงต่ำออกมา
เจ้าของบ้านได้ยินก็รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจและตื้นตัน เธอยิ้มแล้วพูดว่า: ตอนนี้หนูยังเด็กอยู่ เลยคิดแบบนี้อยู่ ลองหนูโตเป็นสาวกว่านี้ หนูจะไม่รีบหาแฟนเหรอ?
….
กินข้าวเสร็จ เฉินโจวอี้ก็ขึ้นห้องนอนเปลวไฟจากเทียนไม่หยุดที่จะส่องไสวเหมือนดาวอังคารระเบิดออกมาทำให้ห้องสว่างบ้างสลัวบ้าง
จากเหอตงจนมาถึงที่นี่อีกครั้ง คล้ายว่ามีความรู้สึกจากที่ที่มีอารยธรรมมาสู่ดินแดนที่ไกลและไร้ความเจริญ
เขาหยิบดาบชายในคืนเดือนมืดออกมาและเช็ดเบา ๆ ด้วยผ้าไหม จากนั้นเขาก็รวบรวมสมาธิของเขาและตวัดดาบออกไป เทียนถูกตัดออกทันทีด้วยแรงที่มองตามแทบไม่ทัน ยังไม่ทันที่เทียนครึ่งหนึ่งจะหล่นลงเขารีบก้าวเข้าไปและจับมัน จากนั้นใช้เทียนล่นไฟแล้วเทขี้ผึ้งร้อนๆเพื่อละลายเทียนแล้วติดมันเข้าด้วยกัน
ทำไมฉันอดไม่ได้ที่จะต้องทำลายมัน?
นิสัยแบบนี้มันชักจะไม่ค่อยดีซะแล้วซิ
ในใจของเฉินโจวอี้เต็มไปด้วยความคิด
เมื่อเขายุ่งกับทุกสิ่ง เขาเพิ่งระลึกถึงดาบที่เขามีอยู่ในตอนนี้และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าดาบของเขาดูเหมือนจะแตกต่างจากเดิมออกไปเล็กน้อย
เขาพบสิ่งบางอย่างทันทีและลองตวัดดาบออกไปหลาย ๆ ครั้งและพบการเปลี่ยนแปลงในทันที
“พละกำลังของดาบ” พัฒนาขึ้นจากความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรและตอนนี้ก็ใกล้เคียงกับสองเซนติเมตร
และมันก็ยิ่งคมยิ่งขึ้น
ช้อนเหล็กของการทดลองครั้งสุดท้ายเขายังไม่ได้ทิ้งมันไป
เมื่อพิจารณาจากรอยฟันที่เหลืออยู่ของการฟันของวันนี้ลึกเกือบเป็นสองเท่าของตอนนั้น หรือว่าเราไม่ได้ใช้มันมานาน หลังจากพิจารณาผ่านไปครู่นึงเขาจึงเอาช้อนโลหะพวกนั้นทิ้ง
ในใจเขาเริ่มไม่แน่ใจ
ในช่วงเวลาสั้นๆที่เหอตง เขาไม่ได้ทดสอบ “พละกำลังของดาบเลย” เมื่อคืนก่อนเขาก็เลยลองมาใช้สองสามครั้ง แต่พลังและความยาวของดาบกับครั้งแรกนั้นไม่แตกต่างกันมากนัก
ในสามวันนี้ ถ้าหากบอกว่าคุณสมบัติพิเศษเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง ถ้าอย่างนั้นมันคือความตั้งใจ
หลังจากการประเมินการต่อสู้จริงในตอนเช้าจบลง ความตั้งใจของเขาก็เพิ่งจะเพิ่มขึ้น 0.3 คะแนน ทำให้มีคะแนน12.5 คะแนน
” หรือว่า พละกำลังของดาบ จะ เกี่ยวข้องกับความตั้งใจ”
ในใจเขาคิดอย่างไตร่ตรอง
ที่ผ่านมา เขาไม่ได้คิดหรือสนใจเกี่ยวกับความตั้งใจ แน่นอนว่าความตั้งใจนั่นสำคัญ แต่เมื่อมาเปรียบเทียบกับคุณสมบัติพิเศษที่เขามี ความตั้งใจก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
ด้วยความมุ่งมั่นที่สิบเอ็ดคุณสามารถรับมือกับฉากส่วนใหญ่และคุณจะไม่สูญเสียการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของคุณ
ความตั้งใจ12คะแนน ก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าคนโดยเจตนาได้ เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตราย ความหวาดกลัวก็ไม่สามารถมาครอบงำได้และมีสติตลอดเวลา ความแข็งแกร่งของความตั้งใจนี้เป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมของจอมยุทธ
และมันไม่มีวิธีที่จะฝึกฝนเพื่อที่จะพัฒนาเพิ่มขึ้น ทำได้แค่เพียงต้องใช้ประสบการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า มันไม่ใช่ความสุขที่จะพัฒนาไปอย่างสมบูรณ์และไม่มีสิ่งใดที่เป็นสติปัญญา
แต่อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้คิดว่าความตั้งใจมันจะมีความแข็งแกร่ง
คล้ายกับความแข็งแกร่งของจิตใจ
แต่น่าเสียดายที่ความยาวสองเซนติเมตรนั้นยังสั้นไปหน่อย ถ้าหากมันสามารถยาวได้ถึงสองเมตรแล้วละก็
คือความแข็งแกร่งที่แท้จริง!
เฉินโจวอี้จินตนาการถึงฉากที่ตัวเองกำลังดึงดาบออกมา ฟาดดาบลงไป วัตถุภายในสี่หน้าเมตรถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน
เขาเก็บความดีอกดีใจไว้ภายในจิตใจ ในมือถือดาบรวบรวมสมาธิอีกครั้ง ภายใต้แสงเทียนสลัวๆ อากาศที่ปลายดาบดูเหมือนจะเลือนราง นิ้วมือของเขาที่แยกออกจากกันค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันจนชิดติดสนิทเหมือนเดิม
“ห้ะ? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่”
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ คือ ไม่ต้องบอกว่านิ้วของเขาแยกออกจากกัน แม้แต่การสัมผัสก็ไม่มี ราวกับว่าที่ปลายดาบไม่มีอะไรเลย
“พละกำลังของดาบ” ชนิดนี้สามารถตัดเทียนให้แยกออกจากกันได้ สามารถทิ้งรอยขีดข่วนบนช้อนโลหะแต่ไม่สามารถตัดผิวของเขา?
เขาไม่คิดว่าผิวหนังของเขาจะแข็งแกร่งกว่าช้อนเหล็กนี่
ความแข็งแกร่งนี้ไม่สามารถทำร้ายเขาได้!
ไม่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตได้!
เฉินโชวอี้มองดูเด็กหญิงเปลือกที่กำลังเล่นลูกบอลคริสตัลอยู่บนเตียง คิดไปคิดมาก็ละทิ้งความคิดที่จะเอาเธอไปทดสอบ
มันดูโหดร้ายเกินไปที่จะตัดนิ้วเล็กของเธอ
เด็กหญิงเปลือกหอยหลบซ่อนจากการโดนบังคับ และมีความสุขอยู่กับตัวเองได้แปปเดียวโดยไม่รู้สึกอะไร เธอถามด้วยสีหน้าที่อ่อนแรง “คนตัวยักษ์ทำไมเราต้องอยู่ที่นี่? “
วันนี้เธอนอนในกระเป๋าเอกสารนั่นหนึ่งวันพอตื่นขึ้นมาและพบว่าเธอกลับมาที่สถานที่ก่อนหน้านี้ที่เธอเกลียดมัน
” ที่นี่มันไม่ดีเหรอ?” เฉินโชวอี้ถาม ดวงตาพลางกวาดมองไปรอบ ๆ และพยายามหาสัตว์หรือแมลงที่สามารถใช้ในการทดสอบ
“ที่นี่ไม่มีเป๊ปป้า!” เด็กหญิงเปลือกหอยเงยหน้าขึ้นมาและพูด
” เธอไม่ได้ดูมันมานานแล้วใช่มั้ย?” เฉินโจวอี้พูดหลอก” เป๊ปป้าเหนื่อยแล้วและมันกำลังพักผ่อน”
“คุณโกหก ฉันรู้แล้วว่านี่เป็นของไม่จริง พวกเขาไม่เหนื่อย คุณแค่ต้องกดเปิด พวกเขาถึงจะออกมา” เด็กหญิงเปลือกหอยลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้นและทำท่าทางเขี้ยวลากดิน
เฉินโจวอี้ไม่ได้ประหลาดใจอะไรมากมาย เขาดูการ์ตูนมาเมื่อนานมากแล้วแต่เขาก็ไม่เข้าใจมันก็เป็นแค่เรื่องโง่
ในที่สุดเขาก็พบกับหนูตัวเล็ก ๆ ที่มุมห้อง เขาหยิบทิชชู่เปียกออกมาแล้วเดินอย่างรวดเร็วและอย่างระมัดระวัง แต่น่าเสียดายที่ก่อนเขาจะได้เข้าไปใกล้มัน เจ้าหนูนั่นก็รีบมุดเข้าไปในตู้แล้ว
เจ้าหนู ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะจับแกไม่ได้?
เขารีบย้ายตู้ออกทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือ เจ้าหนูนั่นก็ได้วิ่งหนีเข้าไปที่ใต้เตียงอีก
เฉินโจวอี้รู้สึกหงุดหงิดจนโกรธเลือดขึ้นหน้า เขาเหลือบมองไปที่ธนูที่แขวนไว้บนกำแพง เขาอยากจะง้างคันธนูนั่นแล้วยิงเจ้าหนูให้ตาย
คนตัวยักษ์คุณกำลังทำอะไรอยู่? สาวเปลือกหอยถามด้วยความสงสัย
จับหนู!
ในภาษาของอีกโลกไม่มีคำศัพท์ของคำว่าหนู เฉินโจวอี้เลยใช้ภาษาจีนพูดออกไป
” หนู ที่เป็นหนูที่อยู่ในเป๊ปป้าใช่มั้ย” เด็กหญิงเปลือกหอยมีสีหน้าที่สงสัยและถามอย่างรวดเร็ว
ในการ์ตูนมีหนูมั้ย?
ในใจของเฉินโจวอี้เริ่มไม่แน่ใจ เขาทิ้งทิชชู่เปียกนั่นลงถังขยะไป และล้มเลิกที่จะจับหนู เขาเดินเข้าไปในครัวเพื่อดูว่าจะหาแมลงหรือตัวอะไรได้บ้าง
” ให้ฉันดู!” ดวงตาของเด็กหญิงเปลือกหอยเป็นประกายตอนที่พูดออกมา แล้วเธอก็วิ่งไปที่ขอบเตียงแล้วกระโดดลงมาจากเตียงใหญ่นั่น
“เดี๋ยวก่อน อย่า!” ก่อนที่เฉินโจวอี้จะพูดจบเด็กหญิงเปลือกหอยก็วิ่งด้วยน่องเล็กๆของเอไปที่ใต้เตียง