Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตนอที่ 1376
เตาพลังวิญญาณได้แหลกสลายหายไปขณะที่เลือดสีแดงสดฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่
สองในเจ็ดคนที่ยังเหลือรอดได้ตกตายลงอย่างสมบูรณ์ขณะที่หลายๆคนได้แต่พากันก่อสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ด้วยสภาพที่น่าสังเวชพลางก้าวถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่……สมแล้วจริงๆที่เป็นถึงอาวุธที่สร้างขึ้นจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาล เพียงแค่แรงปะทะกลับสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าลงได้ง่ายๆถึงสองคน ”
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปไกลได้แต่กลืนน้ำลายกลับลงไป
“เตาพลังวิญญาณของข้า ! ”
อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธถึงขีดสุดออกมาจนดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
เป็นเพราะว่าเตานี้คือไพ่ตายของเขาทว่ากลับถูกทำลายลงแบบนี้
นี่มันไม่ต่างกับควักหัวใจของเขาเลยด้วยซ้ำ !
คนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปได้แต่จ้องมองไปยังเจดีย์ราชันอมตะด้วยสายตาที่หวาดหวั่นก่อนที่จะหดเล็กลงเพราะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของประกายแสงสีม่วงที่มัดส่องประกายออกมา
“นั่นมัน…..?! กลิ่นอายโกลาหล ?! ”
“นี่มันสร้างขึ้นจากกลิ่นอายโกลาหลในตำนาน ?! หรือว่า…….คริสตัลโกลาหลบรรพกาล ?! ”
“ด้วยความเข้มข้นของกลิ่นอายระดับนี้มัน…..ต้องหลอมขึ้นจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาลแน่ๆ ! ”
หลายๆคนได้แต่ผงะไป
เจดีย์ราชันอมตะยังคงล่องลอยอยู่ด้วยร่างกายที่รายล้อมไปด้วยอักขระและคลื่นสายฟ้าอันศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาอย่างเข้มข้น
ชายชุดดำเองก็ตระหนักได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาของเจดีย์นี้ดีดังนั้นถึงได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงและโลภออกมาพลางกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียน
“ลงมือ ! ”
เป็นเพราะว่าอาวุธที่สร้างขึ้นจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาลนี้ถือเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอนแถมยังสามารถวิวัฒนาการได้อย่างไร้ขีดจำกัดดังนั้นมันถือเป็นอาวุธในฝันของทุกคนเลยก็ว่าได้
“อีกฝ่ายได้คว้ามือออกไปพร้อมทั้งสังเวยการโจมตีมากมายเข้าใส่ทางเจดีย์นี้ ”
ไม่ว่าใครที่เห็นมันก็ต้องรู้สึกอิจฉาเป็นธรรมดาและต้องการจะชิงเอามันมาเป็นของตัวเองทั้งนั้น
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาพลางส่งความคิดออกไปทำให้เจดีย์ขยายตัวออกกว่าหลายสิบเมตรพร้อมทั้งกดทับเข้าใส่ทางฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ปราณี
การโจมตีที่อีกฝ่ายส่งออกมาได้ถูกบดขยี้สลายหายไปอย่างฉับพลัน
และการกดทับยังคงดำเนินต่อไปด้วยแรงกดดันที่ไม่ต่างจากการกดทับของห้วงจักรวาลเลยก็ว่าได้
อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาพร้อมทั้งรีบพุ่งถอยหลังกลับไป
“สายไปแล้วล่ะ ”
หลินเทียนส่งเสียงแสยะออกมาอย่างเย็นชาขณะที่เพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกพร้อมกระแทกร่างของอีกฝ่ายอย่างจัง
ชายวัยกลางคนชุดดำคนนั้นได้แต่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดังขณะที่ดวงวิญญาณพุ่งหนีไปอย่างน่าสังเวช
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งส่งความคิดออกไปทำให้เจดีย์ส่องประกายแสงเจิดจรัสพลางสูบวิญญาณของอีกฝ่ายเก็บไว้
“ไอ้ระยำ ! ปล่อยข้าออกไป ! ”
เสียงคำรามด้วยความโกรธถูกส่งออกมาก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นเสียงกรีดร้องอย่างรวดเร็ว
“ไม่ ~~~! ”
เสียงกรีดร้องนี้ได้สิ้นสุดลงเมื่อดวงวิญญาณของอีกฝ่ายถูกหลอมไปอย่างสมบูรณ์
ตกตายลงอย่างสมบูรณ์ !
“พี่ใหญ่ ! ”
“นี่มัน…เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน ?! ”
“ไม่ ! …มันเป็นไปไม่ได้ ! พี่ใหญ่จะไป…..”
หลายๆคนพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดออกมา
เป็นเพราะว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขากลับถูกสังหารลงได้อย่างง่ายดาย
“ไม่…มันเป็นไปไม่ได้ ! เราได้ตรวจสอบที่นี่มาหมดแล้วว่ามันมีผู้เชี่ยวชาญอยู่เป็นจำนวนน้อยมากๆและคนส่วนใหญ่มันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆเท่านั้นแล้วทำไม….ถึงได้มีตัวตนระดับนี้อยู่กัน ! ”
ทั้งสี่คนได้แต่แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา
พวกเขาพากันหันมองไปทางหลินเทียนด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านพลางอดก้าวถอยกลับไปด้วยความกลัวไม่ได้
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปเองก็ได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก
“เขตแดนกึ่งนิรันด์อมตะกลับถูกสังหารลงได้ง่ายๆแบบนี้นี่มัน…..”
ดวงตาของพยัคฆ์ขาวส่องประกายออกมาโดยทันที
“ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมท่านอาจารย์ถึงได้ถูกทัณฑ์สวรรค์ผ่าใส่บ่อยๆ ความแข็งแกร่งนี้มัน….ผิดมนุษย์เกินไปแล้ว ! ”
เซียนเซียนกลืนน้ำลายกลับลงไป
บนยอดเขาแห่งนี้หลินเทียนได้หันมองออกไปทางทั้งสี่คนพร้อมทั้งซัดเจดีย์เข้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า
“ไม่….อย่าเข้ามา ! ”
ทั้งสี่คนได้แต่หวาดผวาไป
“รีบหนีไปเร็ว ! ”
“แต่ผนึกเส้นทางดินแดนนิรันด์มัน…….”
“ตอนนี้ยังจะไปสนเรื่องนั้นอีกเรอะ ! ชีวิตมันสำคัญที่สุด ! ”
ทั้งสี่คนส่งเสียงออกมาก่อนที่จะพากันพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปก็อดส่งเสียงก่นด่าออกมาไม่ได้ว่า
“ก่อนหน้านี้ไอ้พวกระยำนี่มันอวดเก่งและดุร้ายไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ได้แต่วิ่งหนีหางจุกตูด ! ”
ไม่รู้เลยว่าหลายวันก่อนหน้านี้อีกฝ่ายได้สังหารผู้คนไปมากมายขนาดไหนถึงขั้นทำให้สถานที่แห่งนี้แทบจะชโลมไปด้วยเลือดทำให้ผู้คนรู้สึกโกรธและหวาดกลัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป
ทว่าการกลับมาของหลินเทียนนี้ได้สังหารศัตรูลงอย่างรวดเร็วกว่าสิบสองคนไม่เว้นแม้กระทั่งพี่ใหญ่ของพวกมันและภาพที่มันกำลังพยายามหนีหางจุกตูดนี้ก็อดทำให้พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนรู้สึกสะใจไม่ได้
วิ้สส วิ้ส วิ้สส วิ้สสส !
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาอย่างดัง
ทว่ามันเป็นตอนนี้เองที่มิติโดยรอบได้สั่นไหวพร้อมๆกับปรากฏม่านพลังขึ้นมารายล้อมพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้
ตู้ม ตู้ม ตู้มม ! พวกเขาทั้งสี่คนถูกกระแทกกลับลงมายังถูเขาไท่อีกครั้ง
“ย่ำเข้ามาในที่คนอื่นแถมยังสังหารผู้คนไปมากมายแล้วยังคิดว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปได้อีก ? ”
หลินเทียนถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
เขายังคงปกป้องภูเขาไท่เอาไว้ด้วยศิลาหินพร้อมทั้งป้องกันไม่ให้ใครสามารถเหาะหนีไปได้
“เจ้า…….”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาของหลินเทียนแล้วพวกเขาก็ได้แต่สั่นสะท้านไปตามๆกัน
ในหมู่พวกเขาเหลืออยู่เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนปลายสองคนและตอนกลางอีกสองคนเท่านั้นทว่าหลินเทียนสามารถสังหารได้แม้กระทั่งพี่ใหญ่ของพวกเขาแล้วจะไม่ให้สั่นกลัวได้อย่างไรกัน ?
ณ ตอนนี้พวกเขาต่างสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปหมดแล้ว
“ไม่ ! อย่าฆ่าพวกเราเลย ! ข้า………….เราสำนึกผิดแล้ว ! เราขอโทษ ! โปรด…ไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะ ! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงสั่นๆออกมา
“สังหารผู้คนบริสุทธิ์ไปมากมายขนาดนั้นแล้วยังคิดว่าจะจบง่ายๆ ? ในโลกนี้มันไม่มีเรื่องแบบนั้นอยู่หรอก ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกก่อนที่จะตวัดนิ้วออกไป
มันเป็นการตวัดนิ้วธรรมดาๆทว่ามันคือทักษะปรุงยาอันทรงพลังที่ทะลวงผ่านร่างของอีกฝ่ายไป
พุฟฟ !
ร่างกายของอีกฝ่ายได้ระเบิดออกไปพร้อมๆกับดวงวิญญาณ
นี่ทำให้ผู้คนทั้งหลายยิ่งหวาดหวั่นเข้าไปอีก
“เจ้า….กล้าโหดเหี้ยมกับพวกเรางั้นึ ?! ”
หนึ่งในพวกเขากัดฟันพูดออกมา
“เจ้าทำกับคนอื่นอย่างไรข้าก็จะปฏิบัติต่อเจ้าแบบเดียวกัน ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
เขายกมือขึ้นมาพร้อมทั้งโบกมือสร้างวงเวทย์หยินหยางขึ้นมาพลางบดขยี้ร่างและดวงวิญญาณของอีกฝ่ายสลายหายไป
หลังจากนั้นก็ยังคงก้าวเดินออกไปหาผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าอีกสองคนที่ยังเหลืออยู่
“เจ้า…..”
อีกฝ่ายที่กำลังแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมาเองก็อดก้าวถอยกลับไปด้วยความกลัวไม่ได้
หลินเทียนโบกมือส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังออกไป
เปรี้ย ~!
มันเป็นตอนนี้เองที่เพียงปริแตกถูกส่งออกมาจากภายในก่อนอักขระทั้งหลายจะส่องประกายออกมาพร้อมทั้งปรากฏประตูแสงสีขาวบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เลยว่ามันจะนำไปสู่สถานที่แห่งใด
นี่ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“นั่นมัน….?! หรือว่า…..เส้นทางไปสู่ดินแดนนิรันด์ที่ถูกผนึกไว้ ?! ”
“พวกมันทำอะไรกันถึงได้สามารถเปิดผนึกนั้นได้ ?! ”
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันอดสั่นสะท้านไปไม่ได้
“เส้นทางไปยังดินแดนนิรันด์ได้ถูกเปิดออกแล้ว ! ”
ทั้งสองคนพากันส่งเสียงอันตื่นเต้นออกมาไม่หยุด
หลินเทียนเองก็ได้ผงะไปเล็กน้อยเพราะกลิ่นอายที่ส่งออกมามันทรงพลังถึงขั้นทำให้รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
“วิ้สส ! ”
“วิ้ส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกไปขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนพุ่งเข้าใส่รอยแยกนั้นอย่างไม่ลังเล
“ไอ้คนจากดาวขยะ ในอนาคตข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้ ! ”
พวกเขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาพร้อมทั้งหายไปจากระยะสายตาของหลินเทียน
“นี่พวกมันหนีไปยังดินแดนนิรันดร์ ?! ”
เซียนเซียนถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตามมันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่มีเสียงกรีดร้องโหยหวนถูกส่งตามกลับมา
เสมือนว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับเรื่องร้ายแรงบางอย่างที่น่าหวาดหวั่น
“อ๊ากก ~! ”
“ไม่ ~~~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาอย่างดังก่อนที่มันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลินเทียนที่กำลังจ้องมองไปทางรอยแยกนี้ถึงกับผงะไม่น้อย
ดวงตาของพยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนเองก็อดเบิกกว้างขึ้นไม่ได้
“ดูเหมือนว่าทั้งสองคนที่หนีไปมันจะ……….ตายหมดแล้ว ”
เซียนเซียนส่งเสียงออกมา