Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1311
ข่าวเรื่องที่ชายเพียงคนเดียวที่ทำลายทุกชีวิตที่อยู่ในเส้นทางของเขาโดยที่ไม่มีใครคนไหนสามารถหยุดยั้งได้แม้แต่น้อยได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งดินแดนแห่งนี้ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่
“นี่มัน……..”
“เป็นเจ้ามนุษย์คนนั้นจริงๆ ?! เจ้ากายสังสารวัฏ ?! มันมาที่นี่อีกแล้ว ?! ”
“ไม่มีใครในเผ่าพันธุ์เราสามารถขวางทางมันได้เลย ? จ้าวเมืองถูกสังหารไปแล้วกี่คนกัน ? นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ? ”
ผู้เชี่ยวชาญเผ่ายมโลกพากันส่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึง
และมันเป็นตอนนี้เองที่หลินเทียนก็ยังคงพุ่งผ่านออกไปโดยที่ไม่มีใครสามารถขวางทางของเขาได้จนไปถึงห้องโถงขนาดใหญ่
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบว่ามันเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ค่อนข้างมืดส่งกลิ่นอายเก่าแก่ออกมา
“ตำหนักยมโลก ”
หลินเทียนแสยะยิ้มออกมา
เขาก้าวเดินออกไปจนถึงพื้นที่ด้านหน้าของตำหนักแห่งนี้
สามารถเรียกได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของเผ่ายมโลกเนื่องจากเป็นที่อยู่ของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพราะอ่อนแอที่สุดก็อยู่ในเขตแดนกึ่งจ้าวสวรรค์แล้ว
วิ้สส ~!
วิ้ส !
วิ้สสส !
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ปรากฏร่างหลายสิบร่างที่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายอันเข้มข้น
คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนระดับกึ่งจ้าวสวรรค์ที่พากันปรากฏตัวออกมาทันทีหลังจากที่ตระหนักได้ถึงการมาของหลินเทียน
แน่นอนว่าพวกเขารู้จักหลินเทียนเป็นอย่างดี
“เจ้ามนุษย์กายสังสารวัฏ ! กล้านักนะถึงกล้าบุกมาที่นี่ ! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
“จับมัน ! ”
อีกคนส่งเสียงออกมาเช่นกัน
พริบตาที่สิ้นเสียงนี้พวกเขาทั้งหมดต่างพากันกระโจนเข้าใส่อย่างไม่รอช้า
แน่นอนว่าสำหรับพวกเขาแล้วหลินเทียนก็ไม่ต่างอะไรไปกับศัตรูคู่อาฆาต
อีกอย่างหลินเทียนก็เปรียบเสมือนเหยื่อชั้นดีเนื่องจากมันเป็นคำสั่งสูงสุดของบรรพบุรุษที่ให้จับตัวหลินเทียนไปให้ได้
ดังนั้นเมื่อเห็นว่าหลินเทียนปรากฏตัวออกมาแบบนี้แล้วพวกเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะลงมือเปิดฉากโจมตี
“จัดการมันให้เร็วที่สุด ! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงออกมา
เสียง ตู้มม ~! ถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายพากันสังเวยทักษะมากมายออกมาจากรอบทิศทาง
หลินเทียนหันมองออกไปทางกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบโดยที่ไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่น้อยพลางตวัดมือออกไป
แกร๊ง ! เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่อันทรงพลังพุ่งผ่านอากาศเข้าทำลายทุกสิ่งพร้อมทั้งกระแทกร่างเหล่าศัตรูปลิวออกไปไกลขณะที่ศัตรูที่อยู่ใกล้ที่สุดถึงกับตกตายลงอย่างสมบูรณ์
“นี่มัน……..เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์ที่ถูกกระแทกกลับไปไกลได้แต่พากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาถึงขีดสุด
พวกเขาแต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนระดับกึ่งจ้าวสวรรค์กันหมดแถมยังลงมือพร้อมๆกันแบบนี้แต่กลับถูกหลินเทียนตวัดมือเพียงครั้งเดียวกระแทกกลับมาหมดโดยที่มีหนึ่งในนั้นตกตายลงกับที่ !
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว !
“เจ้า…..”
ทันใดนั้นเองที่เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์ต่างรู้สึกขนหัวลึกไปตามๆกัน
หลินเทียนหันมองออกไปเล็กน้อยพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังออกไปยังผู้พูดคนนั้น
แกร๊ง !
คลื่นกระบี่สีทองอร่ามพวยพุ่งผ่านอากาศออกไปพร้อมๆกับเสียงกระบี่คำรามดังสนั่นหวั่นไหว
อีกฝ่ายถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมทั้งรีบพยายามสร้างม่านพลังขึ้นมาป้องกันเอาไว้พร้อมทั้งสังเวยสัจธรรมออกมารับคลื่นกระบี่นี้
เป็นเพราะคลื่นกระบี่ของหลินเทียนมันทรงพลังเกินไปทำให้ทักษะเทวะและการป้องกันทั้งหมดของอีกฝ่ายสลายหายไปก่อนที่จะทะลวงผ่านม่านพลังพร้อมทะลุผ่านหน้าผากของอีกฝ่ายไป
พุฟฟ ~!
เลือดสาดกระจายออกมารอบทิศทางก่อนที่ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายจะระเบิดออกไม่เหลือชิ้นดี
พริบตานี้กึ่งจ้าวสวรรค์ก็ได้ตกตายลงแล้วอีกคน
และมันเป็นเพียงแค่การโจมตีเดียวเท่านั้น
“นี่……”
สายตาที่เคยเย็นยะเยือกของกึ่งจ้าวสวรรค์ที่ยังเหลืออยู่ถูกแทนที่ไปด้วยความหวาดหวั่นถึงขั้วหัวใจพร้อมทั้งอดก้าวถอยหลังไปไม่ได้
หลินเทียนหันมองออกไปทางพวกเขาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบพลางตวัดนิ้วออกไปยังชายอีกคน
ตอนนี้ระดับพลังของเขาสูงกว่าคนเหล่านี้อยู่มากแถมยังเป็นกายสังสารวัฏที่แข็งแกร่งที่สุดดังนั้นการโจมตีของเขาถึงได้สามารถสังหารกึ่งจ้าวสวรรค์ลงได้สบายๆไม่ต่างกับตัดหญ้าด้วยซ้ำ
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่สีทองพวยพุ่งผ่านอากาศเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายพร้อมบดขยี้ร่างของมันอย่างเฉียบพลัน
ครั้งนี้เองที่เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์ได้แต่พากันสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เพียงแค่ตวัดนิ้วก็สามารถสังหารเขตแดนกึ่งจ้าวสวรรค์ได้นี่มันไม่ใช่พลังที่พวกเขาจะสามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
หลินเทียนตวัดนิ้วออกไปทางอีกคนก่อนที่คลื่นกระบี่จะถูกส่งออกไป
“เหอะ ! “
เสียงแสยะอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาขณะที่ปรากฏร่างของชายชราหน้าคนขึ้นตรงหน้าของเขา
ทั้งห้าคนนี้ล้วนแล้วแต่ส่งกลิ่นอายอันทรงพลังออกมาซึ่งบ่งบอกได้เลยว่าอยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์กันทุกคน
ระหว่างนี้ที่ด้านหลังของพวกเขาเองก็รายล้อมไปด้วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเขตแดนกึ่งจ้าวสวรรค์หลายสิบคน
“ท่านบรรพบุรุษ ! ”
เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์พากันส่งเสียงออกมาด้วยใบหน้าที่มีความสุขพร้อมทั้งโค้งคำนับเพื่อทำความเคารพ
หลินเทียนหันมองออกไปยังร่างทั้งห้าร่างนี้ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
เขาเคยพบกับทั้งห้าคนนี้มาก่อนเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ซึ่งแต่ละคนเองก็แข็งแกร่งไม่น้อย
“กล้าโผล่ออกมาด้วยตัวเองแบบนี้นี่เก่งจริงๆเลยนะเจ้ามนุษย์ ! ”
หนึ่งในบรรพบุรุษส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
เมื่อสองปีก่อนหน้านี้พวกเขาสูญเสียพรรคพวกเขตแดนจ้าวสวรรค์ไปกว่า 11 คนและทั้งห้าคนนี้ล้วนไม่สามารถก้าวข้ามไปช่วยได้เนื่องจากผนึกที่หลินเทียนได้สร้างเอาไว้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฝีมือของหลินเทียนดังนั้นการที่ได้พบกับอีกครั้งแถมยังพบว่าหลินเทียนเป็นฝ่ายบุกมาที่นี่เองแบบนี้แล้วจะให้รู้สึกดีได้อย่างไรกัน นี่ทำให้แววตาของพวกเขาต่างส่องประกายจิตสังหารอันเข้มข้นออกมา
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นแววตาที่ต่างกันออกไปเพราะว่าหลินเทียนนั้นเป็นถึงกายสังสารวัฏที่เรียกได้ว่าเป็นสมบัติที่ทุกคนรอคอย……..หากว่าได้รับแก่นสังสารวัฏมาแล้วจะต้องแข็งแกร่งและได้ประโยชน์ในหลายๆด้าน !
หลินเทียนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับอีกฝ่ายนั้นได้แต่จ้องมองไปยังสายตาที่มองมาเสมือนว่าเขาเป็นเหยื่อของมัน
“เป็นสายตาที่น่ารังเกียจจริงๆ ”
เขาส่งเสียงออกมา
เมื่อสองปีก่อนหน้านี้แม้จะอยู่ห่างกันคนละห้วงมิติทว่าเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของอีกฝ่ายได้อย่างดีถึงขั้นที่ว่ามันทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายทว่าตอนนี้มันต่างออกไปแล้วเพราะเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันเลยด้วยซ้ำ
แววตาของชายชราบรรพบุรุษสูงสุดยิ่งส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมา
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงออกมา
“กล้าบุกมาที่นี่ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมตัวตายไว้แล้วสินะ ”
“ก็จริงที่เตรียมตัวไว้แล้ว ”
หลินเทียนได้ตอบกลับไปพลางพูดว่า
“แต่เตรียมที่จะส่งพวกเจ้าไปลงนรก ”
น้ำเสียงของเขาฟังดูราบเรียบอย่างน่าเหลือเชื่อ
นี่ทำให้สีหน้าของฝ่ายตรงข้ามตกต่ำลงยิ่งกว่าเก่าโดยทันที
“ปากดีนักนะ ! ”
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลินเทียนพร้อมทั้งพูดว่า
“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าก่อนที่จะสูบเอาแก่นสังสารวัฏออกมาแต่อย่าหวังเลยว่าจะได้อยู่ดี ”
เมื่อคำพูดของเขาได้สิ้นสุดลงแล้วก็เหวี่ยงฝ่ามืออันทรงพลังอัดเข้าใส่หน้าของหลินเทียนเพื่อที่จะเหยียดหยามเขา
มันเป็นฝ่ามือที่ทรงพลังถึงขั้นทำให้ห้วงมิติสั่นไหวอย่างรุนแรง
หลินเทียนไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยพร้อมทั้งแสยะออกมาก่อนที่จะโบกมือซ้ายออกไปจับฝ่ามือของอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมทั้งเหวี่ยงมือขวาตบกลับไป
“เพรี้ย ~!! ”
เสียงตบดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ฝ่ามือของเขากระแทกเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายจนร่างลอยเคว้งออกไปไกลด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเลือด
นี่ทำให้สีหน้าของอีกฝ่ายถึงกับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
เหล่าบรรพบุรุษล้วนพากันส่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึง
บรรพบุรุษของเขาคนนี้อยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 2 แถมยังเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อนทว่ากลับถูกป้องกันเอาไว้ได้ยังไม่พอ นี่ยังสามารถตบสวนกลับมาได้ทำให้ฟันหลายซี่กระเด็นกระดอนไปทั่ว
นี่ทำให้บรรพบุรุษที่อยู่รอบข้างต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่เว้นแม้แต่ชายชราบรรพบุรุษสูงสุดเขตแดนจ้าวสวรรค์ตอนปลาย
“ตู้มม ~! ”
กลิ่นอายยมโลกอันทรงพลังระเบิกออกมาจากชายชราที่ถูกตบปลิวออกไปด้วยสีหน้าที่โกรธถึงขีดสุด
“เจ้ามนุษย์ ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ตัวเขาที่เป็นถึงตัวตนระดับจ้าวสวรรค์กลับถูกตบหน้าท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย !