Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1312
สายตาของบรรพบุรุษที่ 16 ในตอนนี้อัดแน่นไปด้วยโทสะและจิตสังหารอันเข้มข้นถึงขีดสุด
“ข้าประมาทเกินไปหน่อย ไม่คิดเลยนะว่าเจ้ามด……..”
เขาได้พูดออกมาระหว่างที่กำลังจ้องมองไปทางหลินเทียนก่อนที่จะเงียบไป
เพราะถึงอย่างไรเขาที่เพิ่งโดนตบหน้ามาจังๆก็ไม่สามารถพูดคำที่น่าอายนี้ออกมาได้
อย่างไรก็ตามหลินเทียนเป็นฝ่ายพูดต่อให้ว่า
“หมายถึงโดนตบงั้นรึ ? ”
คำพูดนี้เป็นการตั้งใจให้สีหน้าของอีกฝ่ายเดือดดาลขึ้นยิ่งกว่าเก่า
“เจ้ามดปลวก ! ”
ชายชรากัดฟันพูดออกมาก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่ด้วยร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายยมโลกอันเข้มข้นพลางสังเวยทักษะเทวะออกมาปกคลุมม่านฟ้าพร้อมกดทับลงมาอย่างไม่ปราณี
“ข้าจะฉีกปากเจ้าออกเป็นชิ้นๆ ! ”
หลินเทียนหันมองออกไปพลางแสยะออกมาพร้อมทั้งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายภายในชั่วพริบตา
ภาพเหล่านี้ส่งผลให้สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงถึงขั้นที่อุทานออกมาว่า
“นี่เจ้า…….”
“เพรี้ย ! ”
เสียงตบดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาอีกครั้งขณะที่ฝ่ามือนี้กระแทกเข้าเต็มแก้มของอีกฝ่าย
ชายชราลอยเคว้งออกไปไกลอีกครั้งด้วยสภาพที่เลือดโชกไปทั้งใบหน้า
“นี่มัน ?! ”
“ท่านบรรพบุรุษเขา…….”
“มัน…..เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก
บรรพบุรุษที่แข็งแกร่งเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 2 ของพวกเขากลับถูกตบแล้วตบอีกจนอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ขนาดนี้
บรรพบุรุษคนอื่นๆเองก็ถึงกับมีดวงตาที่หดเล็กลงอย่างมากไม่เว้นแม้กระทั่งบรรพบุรุษสูงสุดที่กำลังจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่ล้ำลึกเพราะหากบอกว่าก่อนหน้านี้ที่ถูกตบเป็นเพราะไม่ระวังทว่าครั้งนี้มันใช้ข้ออ้างนี้ไม่ได้แล้วเพราะว่าตัวของหลินเทียนนั้นแข็งแกร่งมากๆ !
“ตู้มม ! ”
กลิ่นอายทำลายล้างอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างของบรรพบุรุษที่ 16 ขณะที่ดวงตาของเขาอัดแน่นไปด้วยเปลวเพลิงโทสะ
เขาที่เป็นถึงตัวตนระดับจ้าวสวรรค์ใช้ชีวิตมาอย่างเนิ่นนานกลับถูกตบซ้ำติดๆกันถึงสองครั้ง ! ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนๆเดียวกัน !
นี่มันเป็นความอับอายขนาดไหนกัน !
“เจ้ามนุษย์ ! ”
เขาได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่โกรธจัดถึงขีดสุดพลางกำหมัดเอาไว้แน่นก่อนที่จะก้าวออกไปด้วยร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร
“พอได้แล้ว อย่าเสียเวลา ”
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาจากทางบรรพบุรุษสูงสุดก่อนที่จะก้าวเข้าหาทางหลินเทียน
นี่ทำให้บรรพบุรุษที่ 16 ได้แต่กัดฟันเอาไว้แน่นพร้อมทั้งหยุดเท้าลงเพราะดูเหมือนว่าบรรพบุรุษสูงสุดตั้งใจจะจับตัวหลินเทียนด้วยตัวเอง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์ทั้งหลายเองก็ต่างมองออกไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายออกมา
“ท่านบรรพบุรุษสูงสุดจะจัดการด้วยตัวเอง ! เจ้านั่นต้องถูกสยบแน่ๆ ! ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ! ”
“ท่านเป็นถึงจ้าวสวรรค์ตอนปลาย ไม่มีใครเทียบเคียงท่านได้อย่างแน่นอน ! ”
เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์พากันหันมองไปทางหลินเทียนพร้อมทั้งแสยะออกมาเสมือนว่ากำลังมองไปยังศพที่ยังมีชีวิต
สายตาของชายชราบรรพบุรุษสูงสุดในตอนนี้ล้ำลึกถึงขีดสุดเสมือนว่าสามารถเข้าใจได้ทุกสรรพสิ่งพลางก้าวเท้าออกไป
มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงเนื่องจากไม่สามารถแบกรับแรงกดดันเหล่านี้เอาไว้ได้
หลินเทียนหรี่ตาของเขาลงเล็กน้อยเพราะเขาเองก็สัมผัสได้ถึงพลังอันหนักหน่วงที่ส่งออกมา
อีกฝ่ายยังคงจ้องมองมาทางเขาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบก่อนที่ร่างของอีกฝ่ายจะมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขาอย่างฉับพลันพร้อมทั้งซัดฝ่ามือเข้าใส่โดยที่มิติโดยรอบถูกปิดกั้นเอาไว้ทั้งหมด
มันเป็นการโจมตีที่รวดเร็วและทรงพลังอย่างมากแต่สีหน้าของหลินเทียนกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยเพราะเขาเองก็ได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้วเนื่องจากเขารู้ดีว่าจ้าวสวรรค์ตอนปลายมันแข็งแกร่งขนาดไหน
“ทึ้มม ~!! ”
เขาไม่เสียเวลาแม้แต่น้อยพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลกลับออกไปด้วยดวงตาที่ส่องประกายตรามังกรออกมา
หมัดนี้เป็นหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังทั้งหมดของเขาก่อนที่มันจะปะทะเข้ากับฝ่ามือของชายชราอย่างจัง
ตู้มมม ~! มิติโดยรอบระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ร่างกายของบรรพบุรุษสูงสุดสั่นสะท้านไปก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะถูกกระแทกกลับมา
ทางฝ่ายหลินเทียนเองก็รู้สึกชาไปทั้งตัวถึงขั้นที่เลือดลมติดขัดอยู่ในร่าง
“จ้าวสวรรค์ตอนปลายมันน่ากลัวจริงๆแหะ ”
เขาส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะเขาสัมผัสได้เลยว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้สำแดงพลังออกมาถึงสามในสิบส่วนด้วยซ้ำทว่าเขากลับจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านการโจมตีนี้แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตามที
ชายชรายังคงมองมาทางเขาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบพลางพูดต่อว่า
“เก่งมากที่สามารถรับฝ่ามือนี้ได้ สมแล้วจริงๆที่เป็นถึงกายที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ! ”
เขาพูดออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายก่อนที่กลิ่นอายจะพุ่งสูงขึ้นๆจนถึงเขตแดนจ้าวสวรรค์ตอนปลายพร้อมทั้งพูดขึ้นว่า
“ข้าจะไม่เปิดโอกาสให้เจ้าได้ทำอะไรอีกต่อไป ”
ตู้มม ! โลกทั้งใบสั่นสะท้านอย่างรุนแรงขณะที่มิติที่รายล้อมอยู่ได้ถูกผนึกเอาไว้อย่างสมบูรณ์โดยที่แม้แต่สัจธรรมเองก็ยังสั่นไหว
แน่นอนว่าเขาเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทำลายล้างที่รุนแรงจากแรงกดดันนี้ถึงขั้นที่ปวดไปทั่วร่างเสมือนมีภูเขายักษ์กำลังกดทับลงมาเหนือศีรษะอย่างไรอย่างนั้น
“ดี เป็นอะไรที่ทรงพลังไม่เบา ! ”
เขาส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ยังคงราบเรียบพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“งั้นข้าเองก็คงจะต้องแสดงสุดฝีมือเหมือนกัน ”
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ปลดผนึกการยับยั้งพลังของตัวเองโดยทันที
ตู้มมม ~! เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาพร้อมๆกับประกายแสงสีทองเจิดจรัสที่สาดส่องออกมาจากร่างของเขาทำให้ระดับพลังของเขาตัดผ่านไปยังเขตแดนใหม่ที่สูงขึ้น
“นี่มัน ?! ”
“เขตแดนจ้าวสวรรค์ ?! ”
เหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายต่างพากันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์ที่อยู่โดยรอบเองก็ต่างมีสีหน้าที่โง่งมออกมาตามๆกัน
“นี่มันตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้แล้ว ?! ”
“ไม่แปลกใจจริงๆว่าทำไมก่อนหน้านี้พวกเราถึงไม่สามารถทำอะไรมันได้แถมยังสามารถสังหารพวกเราได้ถึงสามคนได้อย่างง่ายดาย ! ”
“ที่แท้ปกปิดระดับพลังของตัวเองนี่เอง ! ”
เหล่ากึ่งจ้าวสวรรค์ต่างมีสีหน้าที่น่าเกลียดเป็นอย่างมาก
ระหว่างนี้เองที่บรรพบุรุษที่ 16 เองก็ได้แต่มีสีหน้าที่ตกต่ำถึงขีดสุดพลางสบถออกมาว่า
“ไอ้ระยำเอ้ย ! ”
ก่อนหน้านี้เขายังดูถูกว่าหลินเทียนเป็นเพียงแค่มดปลวกทว่าตอนนี้หลินเทียนกลับอยู่ในเขตแดนเดียวกันกับเขา
ในตอนนี้ร่างกายของหลินเทียนรายล้อมไปด้วยประกายแสงสีทองเจิดจรัสอย่างเข้มข้น
มันเป็นพลังที่อัดแน่นไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว !
แววตาของบรรพบุรุษสูงสุดยังคงแสดงให้เห็นถึงสีหน้าที่ราบเรียบระหว่างที่พูดออกมาว่า
“ไม่แปลกใจจริงๆที่สามารถรับฝ่ามือของข้าได้ ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดต่อด้วยสีหน้าที่ราบเรียบเช่นเคยว่า
“แต่จ้าวสวรรค์ระดับ 1 มันจะไปทำอะไรได้ ต่อให้เจ้าเป็นกายสังสารวัฏที่แข็งแกร่งที่สุดแต่ด้วยความต่างชั้นนี้แล้วผลลัพธ์เดียวของเจ้าในตอนนี้คือการพ่ายแพ้เท่านั้น ”
ระหว่างที่พูดแรงกดดันที่เขาส่งออกมาก็ยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีกขั้น
“งั้นรึ ? ”
หลินเทียนแสยะออกมา
เมื่อสิ้นเสียงของเขาแล้วเสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่นหวั่นไหวก็ถูกส่งตามออกมา
“ทึ้มม ~! ”
พริบตานี้เองที่โลกทั้งใบได้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุดขณะที่กลิ่นอายทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวกดทับลงมาจากฟากฟ้าทำให้ร่างกายของผู้คนทั้งหมดสั่นไหวไปตามๆกัน
เมื่อมองขึ้นไปแล้วจะพบได้กับเกลียวคลื่นสายฟ้าที่ก่อตัวขึ้นกลายเป็นวังน้ำวนขนาดใหญ่เสมือนมังกรที่พิโรธกำลังส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความต้องการที่จะทำลายล้างโลกใบนี้ “นี่มัน….ทัณฑ์สวรรค์ ?! ”
ราชายมโลกทั้งหลายถึงกับโง่งมไปทันที
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่บรรพบุรุษที่เหลือเองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่ต่างกันถึงขั้นที่ขนาดบรรพบุรุษสูงสุดเองก็ยังต้องสั่นสะท้านไป
“ตู้มมม ~! ”
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่พื้นที่แห่งนี้มืดสนิทอย่างสมบูรณ์
เกลียวคลื่นสายฟ้าที่โลดแล่นผ่านอากาศกลายเป็นภาพแห่งการทำลายล้างที่ให้ความรู้สึกน่าสยดสยอง
“นี่มันตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ก็ยังนำพามาซึ่งทัณฑ์สวรรค์อีกงั้นรึ ?! ไม่ใช่ว่ามีเพียงแค่เขตแดนวิญญาณนิรันด์หรือไงกัน ?! ”
หลายๆคนส่งเสียงออกมา
“ก็เป็นเพราะว่ามันเป็นกายสังสารวัฏยังไงล่ะ ! ”
“ก่อนหน้านี้ตอนมันตัดผ่านเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลเองก็ยังนำพาทัณฑ์สวรรค์มาเช่นกัน ”
“ระยำเอ้ย นี่มัน………จงใจชักนำทัณฑ์สวรรค์มาที่นี่ ?! มันคิดจะทำลายล้างที่นี่ ! ”
เหล่าชายชราพากันส่งเสียงออกมาด้วยร่างกายที่สั่นไม่หยุด
เป็นเพราะคลื่นสายฟ้า ณ ตอนนี้มันทรงพลังถึงขั้นที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากหลุมดำขยาดใหญ่ที่สามารถบดขยี้ดวงวิญญาณของพวกเขาลงได้ง่ายๆ
ขนาดบรรพบุรุษสูงสุดเองก็ยังรู้สึกขนหัวลุกไปไม่ต่างกัน
“หนีเร็ว ! รีบหนีออกจากระยะของทัณฑ์สวรรค์นี้ ! ”
ชายชราส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งพยายามพุ่งหนีไปหลังจากที่สัมผัสได้ถึงอันตรายนี้เพราะแม้เขาจะอยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ตอนปลายแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความตายที่กำลังเข้ามาใกล้
“คิดหนี ? สายไปแล้ว ! ”
หลินเทียนแสยะออกมา
เมื่อคำพูดของเขาจบลงนั้นคลื่นสายฟ้าระลอกแรกก็ได้ผ่าลงมา
ลำแสงสายฟ้าขนาดใหญ่และยาวกว่าหลายกิโลเมตรปกคลุมพื้นที่แถบนี้เอาไว้ทั้งหมด
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบได้ว่าสภาพพื้นที่ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นทะเลสายฟ้าไปแล้ว
มิติรอบข้างแหลกสลายไม่มีเหลือขณะที่ตำหนักยมโลกถูกบดขยี้กลายเป็นซากปรักหักพัง
“มาดื่มด่ำไปกับงานเลี้ยงฉลองทัณฑ์สายฟ้าไปด้วยกันเถอะ ! ”
หลินเทียนส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างดัง