Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1320
ทัณฑ์สวรรค์เขตแดนจ้าวสวรรค์ได้สลายหายไปจากการโจมตีก่อนหน้านี้ของเขาและแม้เขาจะออกมาจากดินแดนผนึกยุคบรรพกาลแล้วแต่สัจธรรมทั้งหลายก็ยังรับรู้ถึงที่อยู่ของเขาได้ดังนั้นจึงได้ส่งเมฆเจ็ดสีนี้มา
ร่างกายของเขาได้สั่นไหวเล็กน้อยขณะที่แหงนหน้ามองขึ้นไปยังหมู่เมฆพร้อมทั้งตั้งสติของตัวเองแล้วหมุนวนพลังเพื่อดูดซับพลังทั้งหมดเข้ามาในร่างของเขา
นี่ทำให้ประกายแสงที่ส่องออกมาจากร่างของเขายิ่งส่องประกายเจิดจรัสขึ้นยิ่งกว่าเก่า
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงขณะที่ประกายแสงที่ลุกโชนออกมาจากร่างของเขาทำให้มิติโดยรอบถูกย้อมไปด้วยแสงสีทอง
ตู้มม ~!
กลิ่นอายอันหนักหน่วงระเบิดออกมาจากร่างของเขาและกวาดออกไปรอบทิศทาง
ด้วยความสามารถของพลังอันเข้มข้นนี้ทำให้เขาตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 2 ไปได้
แถมพลังของมันยังคงไม่ลดน้อยลงและทำให้กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนถึงช่วงที่ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงกลิ่นอายของเขาจึงสงบลงและอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 2 ตอนปลาย
เขากำหมัดเล็กน้อยเพื่อสัมผัสถึงพลังของตัวเองและตระหนักได้เลยว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนมากแถมยังไม่จำเป็นต้องปรับสภาพความสมดุลของรากฐานแม้แต่น้อย
“เยี่ยมจริงๆ ”
เขาพึมพำออกมา
นี่คือประโยชน์ที่ได้รับหลังจากผ่านทัณฑ์สวรรค์มาได้ซึ่งยิ่งมันรุนแรงเท่าไหร่ประโยชน์ก็จะยิ่งมากตามไปเท่านั้น
ฟึ้บบ ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาก่อนที่หมู่เมฆจะสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนหันมองตามออกไปก่อนที่จะถอนสายตาของเขากลับมาแล้วกวาดสายตาไปรอบๆ
เขาสำรวจสถานที่แห่งนี้ทั่วทุกหนทุกแห่งและพบว่ามันปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าและพลังฉีที่เข้มข้นเท่านั้น
“สวรรค์ชั้นนี้เป็นแบบนี้เอง ”
เขาพึมพำออกมา
ตัวเขาไม่พบเห็นขุนเขาขนาดใหญ่หรือแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อยแต่ก็ยืนยันได้เลยว่าที่นี่คือสวรรค์ชั้นที่สิบเนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ดีว่าอย่างน้อยๆก็ใหญ่กว่าสวรรค์ชั้นที่เก้าเป็นร้อยๆเท่าและส่วนที่สำคัญที่สุดคือกลิ่นอายที่แตกต่างกันออกไป
กระบี่เทวะพุ่งกลับเข้าไปภายในทะเลความรู้ของเขาก่อนที่เขาจะเริ่มก้าวเท้าออกไป
ฟู้วว ~!
ระหว่างที่ก้าวเดินอยู่นั้นสายลมอ่อนๆก็พัดผ่านเข้ามาโดยให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเกลียวคลื่นของมหาสมุทร
เมื่อมองออกไปรอบๆแล้วจะพบว่าแม้จะเดินทางไปไกลแค่ไหนแต่แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆแม้แต่น้อย
เขาก้าวเดินออกไปอย่างนุ่มนวลโดยที่เสื้อผ้าและผมสีดำยาวของเขาโบกสะบัดไปตามสายลม
แม้ว่าเขาจะเดินทางมาไกลขนาดไหนก็ยังไม่สามารถพบเห็นขุนเขาหรืออื่นๆแม้กระทั่งเสียงร้องของสัตว์อสูรหรือเสียงกระพือปีกของแมลงก็ไม่สามารถพบได้
“ทั้งโลกมีอยู่แค่นี้ ”
เขาได้แต่โง่งมอยู่กับที่
เป็นเพราะว่าสวรรค์ชั้นนี้มันช่างเรียบง่ายจริงๆ
บึ้สส ~!
มันเป็นตอนนี้เองที่กระบี่เทวะภายในทะเลความรู้ของเขาได้สั่นไหวพร้อมทั้งชี้นำเขาไปยังทิศทางตะวันออกของสถานที่แห่งนี้
นี่ทำให้เขาหยุดเท้าลงก่อนที่จะหันมองตามออกไป
“ตะวันออก ”
เป็นเพราะว่าตราบใดที่กระบี่เทวะนี้ตอบสนองต่อสิ่งใดแล้วจะต้องไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาๆอย่างแน่นอน
ในเมื่อครั้งนี้มันตอบสนองและชี้นำไปยังทิศตะวันออกเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้เหาะไปแต่ใช้การเดินเท้าด้วยความเร็วที่สูงไม่ต่างกับสายฟ้าโดยที่ทิ้งไว้เพียงภาพติดตาเท่านั้น
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าสองชั่วโมง
สายลมอ่อนๆยังคงพัดผ่านโลกแห่งนี้ซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกันกับตอนที่เขาได้หยุดเท้าลง
เป็นเพราะว่าห่างออกไปจากจุดที่เขายืนอยู่มันมีศิลาหินขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายอันเก่าแก่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
“นี่มัน ?! ”
เมื่อมองออกไปแล้วสีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง
เพราะไม่รู้เลยว่ามันคงอยู่มาเนิ่นนานขนาดไหนเสมือนว่ามีมาตั้งแต่ที่โลกนี้ได้ถูกสร้างขึ้นและอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งกาลเวลาที่น่าเกรงขามทำให้จิตใจของเขาต้องสั่นไหวโดยที่มันสลักตัวอักษรโบราณอันวิจิตรงดงามเอาไว้
“เขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ชีพจรเทวะ ผู้รอบรู้ จักรพรรดินภา วิญญาณนิรันดร์ ปลุกพลัง ปรินิพพานและจักรพรรดิโกลาหล……..”
ด้านใต้ของศิลานี้สลักตัวอักษรเหล่านี้เอาไว้ก่อนที่จะหันมองต่อไปพร้อมทั้งส่งเสียงออกมาว่า
“จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า นิรันดร์อมตะ อนันตกาล นิรันดร์ที่แท้จริง นิรันดร์ทองคำ นิรันดร์ล้ำลึก นิรันดร์สวรรค์ ราชาแห่งนิรันดร์ เทพที่แท้จริง เทพสวรรค์ ราชาเทพ มหาเทพ และจักรพรรดิแห่งทวยเทพ ”
“นี่มัน……..”
เมื่อมองออกไปยังคำจาลึกเหล่านี้แล้วเขาก็ได้แต่ผงะไป
นี่คือชื่อเขตแดนทั้งหมดของเส้นทางบ่มเพาะ ?!
“เขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ชีพจรเทวะ ผู้รอบรู้ จักรพรรดินภา วิญญาณนิรันดร์ ปลุกพลัง ปรินิพพานและจักรพรรดิโกลาหล…….จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า นิรันดร์อมตะ อนันตกาล นิรันดร์ที่แท้จริง นิรันดร์ทองคำ นิรันดร์ล้ำลึก นิรันดร์สวรรค์ ราชาแห่งนิรันดร์ เทพที่แท้จริง เทพสวรรค์ ราชาเทพ มหาเทพและจักรพรรดิแห่งทวยเทพ”
เขามองออกไปยังคำจาลึกเหล่านี้พร้อมทั้งส่งเสียงออกมาว่า
“หลังจากเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลแล้วยังมีอีก 13 เขตแดนใหญ่ ?! ”
“นี่มัน…ใครเป็นคนจาลึกเอาไว้กัน ?! ”
เขาได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
เป็นเพราะว่าตัวอักษรเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งอย่างมากทำให้เขาตระหนักดีว่าทุกตัวอักษรถูกสลักด้วยนิ้วเนื่องจากเขาพบรอยนิ้วมือที่จุดตัดของคำว่า ‘จักรพรรดิแห่งทวยเทพ’ แถมยังมีรอยเล็กๆเสมือนว่าอยากจะจาลึกอะไรบางอย่างลงไปแต่ท้ายที่สุดก็ยกเลิกความคิดนี้ไป