Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1322
ประกายแสงเหล่านี้ยังคงไหลเวียนเข้าสู่ร่างของเขาจากรอบทิศทางไม่ต่างจากเส้นชีพจรมังกรบรรพกาลที่ทำให้กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเสมือนดั่งภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุ
บึ้สส ~!
ร่างกายของเขายังคงรายล้อมไปด้วยประกายแสงสีทองเจิดจรัสขณะที่กลิ่นอายพุ่งสูงขึ้นไม่ต่างจากเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างบ้าคลั่งส่งผลให้มิติและต้นหญ้าโดยรอบถูกย้อมไปด้วยแสงสีทอง
เขายังคงยืนอยู่กับที่พร้อมทั้งสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ทั้งหลายของเขตแดนใหญ่พลางหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันอย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มระดับพลังของตัวเอง
หลังจากนั้นกลิ่นอายของเขาก็พุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด
ไม่นานหลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงกลิ่นอายอันทรงพลังก็ได้ระเบิดออกมาจากร่างของเขาขณะที่ตัดผ่านไปยังเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 5 จากระดับ 4
ระหว่างนี้ร่างกายของเขาก็ได้สั่นไหวเล็กน้อยขณะที่อักษรโบราณทั้งหลายที่ผสานเข้ากับร่างของเขาให้ความรู้สึกเสมือนว่าเขาสามารถควบคุมโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้
สิ่งที่เขาสัมผัสได้ชัดเจนที่สุดคือม่านพลังที่ขวางกั้นสวรรค์แต่ละชั้นเอาไว้
“เป็นเพราะพลังของศิลาที่คงอยู่มาอย่างยาวนานได้ส่งผลกระทบให้กับม่านพลังของสวรรค์ทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่ามากจนถึงขั้นที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนที่สามารถทำลายมันลงได้ ”
เขาพึมพำอยู่กับตัวเอง
ประกายแสงยังคงรายล้อมอยู่รอบทิศทางขณะที่ลำแสงอันทรงพลังพวยพุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เขายังคงหมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะด้วยดวงตาที่ส่องประกายแสงแสงทองอร่ามอยู่อย่างสงบ
“บางทีข้าอาจจะสามารถทำให้ม่านพลังเหล่านี้กลับมาอยู่ในสภาพปกติได้อีกครั้ง ”
เขาพึมพำออกมา
เหตุผลที่ม่านพลังของสวรรค์ชั้นนี้แข็งแกร่งกว่าชั้นอื่นๆถึงขั้นที่จ้าวสวรรค์ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้ก็เพราะว่าอักษรโบราณเหล่านี้มันอัดแน่นไปด้วยพลังงานมหาศาลทำให้ม่านพลังแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัวแต่เมื่ออักษรโบราณเหล่านี้ผสานเข้ากับร่างของเขาทั้งหมดแล้วเขาก็สามารถชี้นำพลังเหล่านั้นให้กลับไปอยู่ในสภาวะปกติได้ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นแล้วเขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายก็สามารถฉีกมิติข้ามมายังสวรรค์ชั้นนี้ได้แล้ว
ประกายแสงที่แผดออกมาจากร่างของเขายิ่งทรงพลังขึ้นมากกว่าเก่า
หลังจากนั้นเขาก็ได้โบกมือออกไปพร้อมทั้งประสานมือเข้าหากันเพื่อใช้ทักษะฝังมังกร
“โลกแห่งมังกร ! ”
เขาส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งปรับสมดุลพลังทั้งหมดของอักษรโบราณเหล่านี้โดยอาศัยพลังของทักษะฝังมังกรเป็นตัวกลาง
ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆม่านพลังทั้งหลายก็ยิ่งสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ม่านพลังของสวรรค์ชั้นนี้กำลังอ่อนแรงลง ”
ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาหลังจากที่สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้
หลังจากนั้นเขาก็ยิ่งหมุนวนทักษะฝังมังกรมากขึ้นกว่าเก่าก่อนที่จะทำให้กลิ่นอายของมันแผ่วลงอย่างรวดเร็ว
เขารู้ดีว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่อยู่ในสวรรค์ชั้นล่างๆต่างใฝ่ฝันว่าสักวันจะสามารถก้าวข้ามมายังสวรรค์ชั้นนี้เพื่อตัดผ่านเขตแดนที่สูงขึ้นและมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ได้แต่เป็นเพราะม่านพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากทำให้พวกเขาได้แต่สิ้นหวังอยู่กับความตาย
ในเมื่อเขาได้ก้าวข้ามมาที่นี่และรู้เหตุผลที่ทำไมม่านพลังมันถึงได้แข็งแกร่งผิดปกติแล้วแถมยังสามารถทำให้มันกลับเป็นแบบเก่าเพื่อจุดประกายความหวังให้กับผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายแล้วเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะทำมันแถมครอบครัวและพวกพ้องคนสำคัญของเขาเองก็อยู่ในสวรรค์ชั้นล่างดังนั้นเพียงแค่เพราะพวกเขาก็เป็นเหตุผลมากพอที่จะทำให้เขาทำมันแกล้ว
อย่าว่าแต่เรื่องที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาเลยด้วยซ้ำ
บึ้สส ~!
เขาหมุนวนทักษะฝังมังกรต่อไปขณะที่อักษรโบราณทั้งหลายค่อยๆสลายหายไปพร้อมทั้งปรับสภาพม่านพลังลงอย่างรวดเร็ว
…………..
สวรรค์ชั้นที่ 9 ………
ณ ตอนนี้อยู่ดีๆม่านฟ้าก็สว่างไสวขึ้นกว่าเก่าก่อนที่มันจะบิดตัวอย่างรุนแรงพร้อมทั้งเป็นระลอกคลื่นที่ซัดออกไปโดยรอบ
นี่ทำให้พลังฉีภายในสวรรค์ชั้นนี้พุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
สายลมอ่อนๆได้พัดผ่านไปทั่วสวรรค์ชั้นนี้
นี่ทำให้สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายพากันเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“นี่มัน ?! ”
“ท้องฟ้ากำลังส่องประกาย พลังฉีที่เพิ่มสูงขึ้นนี่มัน…….”
“เกิดอะไรขึ้น ?”
ผู้เชี่ยวชาญพากันแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
ยิ่งมีระดับพลังที่สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ท้องฟ้ากำลังอ่อนแรงลง ”
จักรพรรดิโกลาหลคนหนึ่งส่งเสียงออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
ประกายแสงพุ่งผ่านสวรรค์ลงมาอย่างเข้มข้นพร้อมทั้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นคลื่นพลังฉีและสัจธรรมที่เข้มข้นขึ้นกว่าเก่า
“นี่มัน……”
“เกิดอะไรขึ้นกัน ? ”
“โลกนี้มัน…….”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมากับความเปลี่ยนแปลงนี้
นี่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วสวรรค์ชั้นนี้ต่างพากันแหงนมองขึ้นไปยังฟากฟ้า
และมันเป็นตอนนี้เองที่มีเสียงอันทรงพลังได้แพร่สะพัดไปทั่วสวรรค์ชั้นนี้รวมถึงชั้นอื่นๆที่อยู่เบื้องล่าง
“ในอนาคตนี้ม่านพลังของสวรรค์ชั้นที่ 10 จะถูกปลดออกและตราบเท่าที่ตัดผ่านเขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายได้แล้วจะสามารถก้าวข้ามไปยังสวรรค์ชั้นที่ 10 ได้ ”
เสมือนว่าเป็นเสียงที่ถูกส่งออกมาจากอีกโลกและทำให้สีหน้าของเหล่าผู้คนทั้งหลายพากันเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
โดยเฉพาะเหล่าศิษย์สำนักนิรันด์ทั้งหลายที่กำลังแหงนหน้ามองขึ้นไปด้วยดวงตาที่เปล่งประกายเนื่องจากมันเป็นเสียงของจ้าวสำนักพวกเขา
หลินซี่และคนอื่นๆที่อยู่ภายในสำนักเองก็ต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
“นั่นมัน……..เสียงของท่านพี่ ! ”
หลินซี่ส่งเสียงออกมา
“ใช่แล้ว เป็นเสียงของเจ้าหนูหลินจริงๆ นี่เจ้านี่กำลังบอกว่าสวรรค์ชั้นที่ 10 กำลังจะถูกปลดผนึก ? ”
จระเข้เบญจธาตุได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงพร้อมๆกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อว่า
“นี่เขา……อยู่ในสวรรค์ชั้นที่ 10 ?! เขา……ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังดินแดนผนึกยุคบรรพกาลเพื่อก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์ ? นี่มัน……..”
เป็นเพราะก่อนหน้านี้พวกเขายังคงกังวลเรื่องการก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์ของหลินเทียนอยู่เลยแต่ก็ต้องประหลาดใจไปกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสวรรค์ชั้นนี้และไม่คิดเลยว่าจะได้ยินเสียงของหลินเทียนที่ส่งออกมาทั่วสวรรค์ทั้งชั้น
แต่ที่สำคัญที่สุดคือข้อความที่ม่านพลังของสวรรค์ชั้นที่ 10 จะถูกปลดผนึกและตราบเท่าที่อยู่ในเขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายก็สามารถก้าวข้ามไปได้
ต้องรู้ก่อนนะว่ามันเป็นสถานที่ๆไม่ต่างจากตำนานที่เป็นศูนย์รวมความหวังของผู้คนทั้งหลายว่าสักวันหนึ่งจะสามารถก้าวข้ามไปได้แต่เป็นเพราะว่าม่านพลังที่ขวางกั้นเอาไว้มันทรงพลังจนเกินไปทำให้จ้าวสวรรค์เองก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้แต่การที่หลินเทียนส่งข้อความออกมาว่าหลังจากนี้แค่เขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายก็สามารถก้าวข้ามไปได้นี่มันมีความหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก
“นี่เขา…..”
“เขาทำอะไรไป ?! ”
“นี่เขา……..ก้าวข้ามไปยังสวรรค์ชั้นที่ 10 ได้แล้ว ? สวรรค์ในตำนานนั่น ?! ”
ไป่เฉียวและจี่หยูต่างพากันส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ
ไป่จี่ฉี หยางฉีและคนอื่นๆต่างมีดวงตาที่หดเล็กลงขณะที่มองกลับขึ้นไปบนฟากฟ้า
ระหว่างนี้บรรพบุรุษของขุมพลังทั้งหลายทั่วสวรรค์ชั้นนี้ล้วนพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาถึงขีดสุดเพราะพวกเขาไม่มีทางลืมเสียงของหลินเทียนจากสงครามเมื่อสองปีก่อนได้
“นี่เสียงของราชันอมตะถูกส่งออกมาจากเบื่องบนของสวรรค์ชั้นที่ 9 ?! ”
“ในอนาคตม่านพลังของสวรรค์ชั้นที่ 10 จะถูกปลดผนึกและตราบเท่าที่อยู่ในเขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายก็จะสามารถก้าวข้ามไปได้ ?! ”
“การเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านี้เกี่ยวข้องกับราชันอมตะ ?! เป็นการปลดผนึกของเขา ? ”
“ในอนาคตข้าเองก็สามารถก้าวข้ามไปยังดินแดนในตำนานนั่นได้ ? สามารถก้าวข้ามไปยังเขตแดนที่สูงขึ้น ?! ”
เหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายพากันสั่นสะท้านไปตามๆกัน