Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1323
ผู้คนทั่วทั้งสวรรค์ชั้นที่ 9 นี้ต่างพากันสั่นสะท้านไปกันหมด
“นี่ท่านราชันอมตะได้…….ก้าวข้ามไปยังสวรรค์ชั้นที่ 10 แล้ว ?! ”
เหล่าผู้คนพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน
สวรรค์ชั้นที่ 10 นั้นเป็นเหมือนกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่งที่สุดและเปรียบเสมือนดั่งตำนานที่เป็นเป้าหมายของผู้บ่มเพาะทุกคนซึ่ง ณ ตอนนี้มีคนสามารถก้าวข้ามไปได้แล้ว
ก้าวข้ามไปยังสถานที่ในตำนาน !
“ท่านราชันอมตะเขา….”
หัวใจของใครหลายๆคนพากันสั่นสะท้าน
“นี่ม่านพลังในสวรรค์ชั้นที่ 10 จะปลดผนึกออกมา ? ท่านราชัมอมตะเขาเป็นคนที่ปลดผนึกมัน ? ”
“เขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายสามารถก้าวข้ามไปได้ ?! ”
“นี่มัน …..”
เหล่าผู้คนทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นพากันแหงนมองกลับขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งส่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึง
ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นความตื่นเต้น
“เป็นเสียงของท่านราชันอมตะจริงๆ ! ท่านต้องพูดความจริงอย่างแน่นอน ! ”
“เมื่อผนึกได้ถูกคลายออกแล้วเราก็มีความหวังที่จะก้าวข้ามไปยังสถานที่แห่งนั้น ! ”
“นี่มัน……ดีจริงๆ ! ”
เหล่าผู้คนพากันส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น
ไม่เพียงแค่ผู้คนในสวรรค์ชั้นที่ 9 เท่านั้นแต่เสียงของหลินเทียนได้แพร่สะพัดไปทั่วสวรรค์แต่ละชั้น
นิกายอาทิตย์ผลาญฟ้า นิกายพิณใต้พิภพ ตระกูลไป่ สำนักหยูฮัวและอื่นๆที่มีความสัมพันธ์กับเขาต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมา
“นี่ศิษย์พี่หลินได้ก้าวข้ามไปยังสวรรค์ชั้นที่ 10 ในตำนานแล้ว ?! ศิษย์สำนักของเราสามารถก้าวข้ามไปยังสวรรค์ชั้นที่ 10 ได้แล้ว ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายของนิกายอาทิตย์ผลาญฟ้าพากันส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่าสวรรค์ชั้นที่ 10 นั้นเปรียบเสมือนสถานที่ในตำนานซึ่งเก็บซ่อนความลับของชีวิตอันเป็นนิรันดร์เอาไว้
………
สวรรค์ชั้นที่ 10 ……..
หลินเทียนกำลังยืนอยู่กับที่ด้วยร่างกายที่รายล้อมไปด้วยประกายแสงสีทองที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
ระหว่างนี้สายลมที่พัดผ่านเข้ามาก็ยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีกโดยที่อักษรโบราณภายในทะเลความรู้เหลืออยู่เพียงกลิ่นอายของมันเท่านั้นและจากทักษะฝังมังกรของเขาก็ทำให้ม่านพลังของสวรรค์ชั้นนี้ค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆส่งผลให้มันกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
“บึ้สส ~! ”
ประกายแสงเจิดจรัสส่องสว่างไปทั่วสวรรค์ชั้นนี้ขณะพลังฉีทั้งหลายแปรเปลี่ยนกลายเป็นคลื่นพลังที่โถมเข้าใส่ร่างของเขาพร้อมทั้งส่งผลให้กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขายังคงหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันต่อไปพลางดูดกลืนพลังฉีอันเข้มข้นทั้งหมดและค่อยๆปรับสภาพม่านพลังของสวรรค์ชั้นนี้ไปในเวลาเดียวกันทำให้ม่านพลังของสวรรค์ชั้นนี้รายล้อมไปด้วยตรามังกรนับไม่ถ้วน
เขาประมาณการณ์เอาไว้ว่าขั้นตอนทั้งหมดต้องใช้เวลาประมาณสามวันเต็มๆซึ่งหลังจากที่ปลดผนึกไปแล้วก็ยังต้องใช้เวลาประมาณ 40 วันเพื่อให้ม่านพลังทรงตัวอีกครั้ง
ระหว่างนั้นเขาก็ยังคงดูดซับพลังงานอันเต็มเปี่ยมทำให้ระดับพลังของเขาพุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เขาได้ส่งข้อความเสียงไปทั่วสวรรค์ทุกชั้นอีกครั้งว่า
“เส้นทางการบ่มเพาะมีทั้งหมด 22 เขตแดนใหญ่ เขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ชีพจรเทวะ ผู้รอบรู้ จักรพรรดินภา วิญญาณนิรันดร์ ปลุกพลัง ปรินิพพานและจักรพรรดิโกลาหล……”
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเป็นจังหวะที่ไพเราะว่า
“จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า นิรันดร์อมตะ อนันตกาล นิรันดร์ที่แท้จริง นิรันดร์ทองคำ นิรันดร์ล้ำลึก นิรันดร์สวรรค์ ราชาแห่งนิรันดร์ เทพที่แท้จริง เทพสวรรค์ ราชาเทพ มหาเทพและจักรพรรดิแห่งทวยเทพ ”
เขาส่งเสียงเหล่านี้ข้ามม่านพลังของสวรรค์แต่ละชั้นลงไปทั่วรวมถึงอธิบายเกี่ยวกับแก่นแท้ของเขตแดนต่างๆอย่างละเอียดทำให้ผู้คนทั้งหลายเข้าใจแนวทางการบ่มเพาะได้มากขึ้น
นี่ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วสวรรค์ทุกชั้นโดยทันที
“นี่ท่านราชันอมตะกำลังเสี้ยมสอนเราข้ามม่านสวรรค์ ?! ”
“เขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ชีพจรเทวะ ผู้รอบรู้ จักรพรรดินภา วิญญาณนิรันดร์ ปลุกพลัง ปรินิพพานและจักรพรรดิโกลาหล…….จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า นิรันดร์อมตะ อนันตกาล นิรันดร์ที่แท้จริง นิรันดร์ทองคำ นิรันดร์ล้ำลึก นิรันดร์สวรรค์ ราชาแห่งนิรันดร์ เทพที่แท้จริง เทพสวรรค์ ราชาเทพ มหาเทพและจักรพรรดิแห่งทวยเทพ นี่มัน…..”
“หลังจากเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลแล้วยังมีเขตแดนอยู่อีกมากมายขนาดนี้ ?! นี่มัน……”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อออกมา
เป็นเพราะพวกเขาล้วนคิดว่าเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลนั้นเป็นปลายทางของเส้นทางบ่มเพาะแล้วแต่ตอนนี้กลับได้รู้ว่ายังมีอีก 13 เขตแดนใหญ่รออยู่ซึ่งเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลนั้นยังถึงกึ่งกลางระหว่างเส้นทางบ่มเพาะด้วยซ้ำ นี่มันทำให้พวกเขาพากันโง่งมไปตามๆกัน
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่พวกเขาก็ต่างผงะไปกับคำอธิบายเกี่ยวกับเขตแดนต่างๆที่หลินเทียนป่าวประกาศออกมา
“ตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลแล้วจะสามารถมีอายุขัยเทียบเท่าดาวเคราะห์ ?!”
“นี่มัน…..คือความลับที่ซ่อนอยู่ภายในสวรรค์ชั้นที่ 10 ?! ท่านราชันอมตะได้พบกับมันหลังจากที่ก้าวข้ามไป ? ”
“พวกเราสามารถมีชีวิตเป็นอมตะได้โดยที่ไม่มีวันดับสูญ ! ”
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายพากันสั่นสะท้านไป
เป็นเพราะว่าการมีชีวิตเป็นอมตะนั้นสร้างแรงกดดันที่ใหญ่หลวงอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างพากันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเป้าหมายในการเป็นอมตะแต่มนุษย์อย่างพวกเขาจะเป็นอมตะได้อย่างไรกัน ? นี่คือความสงสัยแม้จะมีข่าวลือว่าภายในสวรรค์ชั้นที่ 10 เก็บซ่อนความลับเหล่านี้เอาไว้แต่ก็ไม่มีใครเคยได้เห็นมันทำให้พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
ทว่าตอนนี้สิ่งที่หลินเทียนป่าวประกาศออกมานั้นทำให้พวกเขาได้เข้าใจแก่นแท้ของเขตแดนต่างๆรวมถึงเรื่องที่หากว่าพวกเขาตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลแล้วก็จะมีชีวิตเป็นนิรันดร์นั้นมันทำให้พวกเขาล้วนพากันแสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นถึงขีดสุดออกมา
เป็นเพราะเรื่องนี้มันมีความหมายกับพวกเขาอย่างใหญ่หลวง
“ราชันอมตะทำลายผนึกของสวรรค์ชั้นที่ 10แล้วยังเสี้ยมสอนพวกเรานี่มัน……”
ร่างกายของผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างสั่นสะท้านไปตามๆกัน
การกระทำของหลินเทียนนั้นคือเป็นบุญคุณครั้งใหญ่ของพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะไม่สามารถตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลหรือแม้กระทั่งเขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลายได้ก็จริงแต่คำพูดของหลินเทียนได้จุดประกายความหวังให้กับพวกเขาว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์หรือคนธรรมดาก็ล้วนเป็นอมตะได้ นี่คือการให้เป้าหมายในการบ่มเพาะแก่พวกเขา
มันเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่
นี่จะทำให้การบ่มเพาะมีความหมายมากยิ่งขึ้น !
“ราชันอมตะ ! ”
“ราชันอมตะ ! ”
“ราชันอมตะ ! ”
ผู้คนทั้งหลายทั่วสวรรค์ทุกชั้นต่างพากันส่งเสียงสรรเสริญออกมาอย่างดัง
……………
หลินเทียนในตอนนี้ยังคงควบคุมตรามังกรมากมายเพื่อปลดผนึกม่านพลังของสวรรค์แต่ละชั้นซึ่งระหว่างที่เขากำลังถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้คนทั้งโลกใบนี้มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขามไม่ต่างจากจักรพรรดิแห่งทวยเทพแม้แต่น้อย
พลังฉีพวยพุ่งเข้ามาจากรอบทิศทางและหลังจากนั้นเองที่ประกายแสงสีขาวบริสุทธิ์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นก็พากันโถมเข้ามาสู่ร่างของเขาพร้อมๆกับประกายแสงเจิดจรัสทั้งหลาย
นี่ทำให้กลิ่นอายของเขายิ่งพุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วที่มากขึ้นไปกว่าเท่าตัว
“นี่มัน ?! ”
เขาได้แต่ผงะไปด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยทันที
เป็นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นประกายแสงสีขาวนี้เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เคยเห็นมันหลังจากที่หยุดยั้งการฆ่าล้างผู้คนของเหล่าจักรพรรดิทั้งหลายซึ่งพลังในครั้งนี้เข้มข้นและมีจำนวนมากกว่าครั้งก่อนมากแถมยังให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่กว่าพลังฉีของทั้งโลกใบนี้ด้วยซ้ำ
แม้ว่าการปลดผนึกของเขายังไม่ได้สมบูรณ์ทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพในสวรรค์ชั้นอื่นๆได้แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถสัมผัสได้เลยว่าประกายแสงเหล่านี้มันเคลื่อนที่มาจากสวรรค์แต่ละชั้น
มันเป็นประกายแสงที่เคลื่อนที่ผ่านข้ามม่านพลังในสวรรค์แต่ละชั้นมาโดยที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งได้
“นี่มัน …….”
เขาได้แต่ผงะไป
เป็นเพราะว่ามันเป็นอะไรที่น่าทึ่งอย่างมาก
“เป็นเพราะการถ่ายทอดความรู้ของข้าทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายรู้สึกซาบซึ้งจึงให้กำเนิดพลังเหล่านี้ ? ”
เขาคาดเดาออกมา
เป็นเพราะว่านี่คือครั้งที่สองที่เขาได้รับมันทำให้พอมีความเข้าใจจากครั้งก่อนอยู่บ้างว่าเป็นเพราะการช่วยเหลือของเขาทำให้ผู้รอดชีวิตในครั้งก่อนรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งจนก่อให้เกิดพลังเหล่านี้
นี่ทำให้เขายิ่งประหลาดใจเข้าไปอีกหลังจากที่ตระหนักได้ถึงความน่าเหลือเชื่อและคุณค่าของมันพลางหมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะให้เร็วมากขึ้นกว่าเก่าเพื่อดูดกลืนพลังเหล่านี้เข้าไปภายในร่าง