Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1330
การกลับมาหลังจากที่จากไปหลายปีนี้ทำให้เขาอยากจะกลับมาในที่ๆเขาเคยอยู่เพื่อไหว้หลุมศพของผู้มีพระคุณของเขาแต่สิ่งที่รอเขาอยู่คือการที่บ้านพักของชายชราได้หายไปก่อนที่จะรู้มาว่าอีกฝ่ายถูกจ้างวานฆ่ายกครัวแถมยังได้เห็นภาพของหญิงสาวที่เป็นลูกหลานของชายชรากลายเป็นร่างวิญญาณอยู่ตรงหน้าตัวเองนี่มันทำให้เขาโกรธถึงขีดสุด
เขายืนยันได้เลยว่ามันจะต้องเป็นบริษัทกิเลนที่ลุงทั้งสองได้พูดถึงก่อนหน้านี้แต่ก็ยังอยากจะถามจากปากของนางว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเมื่อสามปีก่อนจะได้รับรู้ความจริงที่แท้จริง
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเทียนแล้วนางก็ได้แต่ผงะไปก่อนที่ร่างกายจะสั่นสะท้าน
“สามปีก่อน…..”
นางระลึกถึงภาพเหตุการณ์อันเจ็บปวดก่อนที่จะเล่าเหตุการณ์แบบเดียวกันกับที่เขาได้ยินมาเพียงแค่ละเอียดกว่า…….เป็นเพราะพ่อแม่ของนางไม่ต้องการจะขายที่แห่งนี้ให้กับทางบริษัทกิเลนด้วยราคาที่ต่ำกว่ามาตรฐานกว่าสิบเท่าเพราะนี่คือบ้านของพวกเขา
หลังจากนั้นพวกอันธพาลก็เริ่มมาก่อกวนเป็นพักๆพร้อมทั้งข่มขู่พวกเขาซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำให้ขาของพ่อเธอต้องหักไปแต่ครั้งนี้พวกมันไม่ได้มาข่มขู่อีกแล้วเพราะพวกมันลงมืออย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเก่า
“พวกมันใช้ยาบางอย่างทำให้พวกเรารู้สึกชาไปทั้งตัวทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้ก่อนที่จะเข้าไปในห้องครัวของเราแล้วเปิดแก๊สทิ้งไว้ก่อนที่จะ……จุดไฟ……”
นางส่งเสียงสั่นๆออกมา
หากว่าร่างวิญญาณสามารถร้องไห้ได้นางก็คงจะร้องไห้ไปแล้ว
ระหว่างนี้ดวงตาของเขาก็แสดงให้เห็นถึงแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความแค้น
ครอบครัวของนางถูกทำลาย พ่อแม่ถูกสังหารไปพร้อมๆกัน
ทว่านางกลับไม่ได้สลายไปอย่างสมบูรณ์แต่กลับหลงเหลือร่างวิญญาณที่แปรเปลี่ยนไปด้วยความแค้นจนกลายเป็นผีร้าย
“คุณพ่อ คุณแม่ ”
นางส่งเสียงสะอื้นออกมา
การที่ต้องเสียพ่อแม่ไปจะให้ใครไม่รู้สึกเศร้าบ้าง
อย่าว่าแต่เรื่องที่ทั้งสองถูกสังหารลงอย่างโหดเหี้ยมจนตายทั้งเป็น
สายตาของหลินเทียนส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมา
เป็นเพราะเขาเองก็พอเดาได้จากคำพูดของลุงทั้งสองคนก่อนหน้านี้ไปแล้วแต่หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็อดทำให้เขาโกรธไม่ได้
“เธอมีชื่อว่าอะไร ? ”
เขาถามออกไป
“เฉิน….เฉินหลิน ”
หญิงสาวตอบกลับ
“อื้ม ”
หลินเทียนพยักหน้าพร้อมทั้งพูดว่า
“ยืนอยู่นิ่งๆอย่าขยับไปไหน ”
“อื้ม อื้ม ”
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าหลินเทียนจะให้นางยืนนิ่งทำไมแต่เป็นเพราะกลิ่นอายอันแข็งแกร่งของหลินเทียนที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากภูเขาใหญ่ทำให้นางเชื่อฟังอย่างมาก
เมื่อเห็นว่านางกำลังยืนนิ่งแล้วเขาก็ได้โบกมือส่งประกายแสงสีทองออกไปโอบร่างของนางเอาไว้ทั้งตัว
ประกายแสงสีเลือดส่องประกายออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นเลือดเนื้อให้กับนางอย่างช้าๆ
“นี่มัน…..?! ”
เฉินหลินส่งเสียงสั่นๆออกมา
นางเห็นกับตาตัวเองเลยว่าเลือดเนื้อกำลังเติบโตขึ้นตามร่างวิญญาณของนางอย่างช้าๆ
“อย่าขยับไปไหน ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่านางตกตายลงไปกว่าสามปีแต่ดวงวิญญาณยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ดังนั้นด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้การจะช่วยนางก่อสร้างร่างกายก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากนักแถมนางเองก็ไม่ถือว่าตายอย่างแท้จริงแต่ต้องเรียกว่าสูญเสียกายหยาบไปดังนั้นมันก็เหมือนกับผู้บ่มเพาะที่การจะสร้างร่างใหม่อีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
อย่างน้อยๆสำหรับเขาที่อยู่ในระดับพลังนี้ก็ถือเป็นเรื่องง่ายๆ
เขาแค่ต้องช่วยนางก่อสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
“บึ้สส ~! ”
ประกายแสงโอบร่างของนางเอาไว้พร้อมทั้งส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาก่อนที่จะจุดประกายเปลวเพลิงสีแดงฉานทำให้เลือดเนื้อก่อตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม
“เรียบร้อย ”
เขาพูดออกมาพลางวางมือลง
ร่างกายของนางได้ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์แล้วดังนั้นนางในตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากคนปกติเลยด้วยซ้ำแถมเสื้อผ้าที่สวมใส่ยังถูกสร้างขึ้นจากพลังเทวะของเขา
นางได้แต่ผงะไปพร้อมทั้งมองไปยังมือทั้งสองของตัวเองด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุด
เป็นเพราะนางได้ตายลงไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้วเหลือไว้เพียงดวงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในอากาศแต่ตอนนี้นางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งไม่ต่างจากเมื่อสามปีก่อนเลยด้วยซ้ำ
“นี่ฉัน…..มีชีวิตอีกครั้ง ?! ”
นางส่งเสียงออกมา
“อื้ม ”
หลินเทียนตอบกลับไป
ร่างกายของนางยิ่งสั่นสะท้านเข้าไปอีกเพราะมันเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการอย่างมาก
แม้นางที่เคยเป็นวิญญาณจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งที่ลี้ลับอยู่มากมายและรู้ว่าหลินเทียนไม่ใช่คนธรรมดาแต่เรื่องพวกนี้มันก็ยังน่าตกตะลึงอย่างเคย
“ขะ….ขอบคุณ ! ”
นางขอบคุณเขาซ้ำๆก่อนที่จะจะขอร้องออกมาด้วยใบหน้าที่มีความหวังว่า
“คุณ….ช่วยชุบชีวิตให้กับพ่อแม่ของฉันด้วยได้ไหม ? ได้…….ได้โปรด ! ”
นางคิดว่าในเมื่อหลินเทียนสามารถช่วยนางได้ก็คงจะสามารถช่วยพ่อแม่ของนางได้เช่นกัน
เขาได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งตอบกลับไปว่า
“สถานการณ์ของเธอและพ่อแม่มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะเธอยังไม่ถูกนับว่าตายอย่างสมบูรณ์แต่เป็นการสูญเสียกายหยาบไปเท่านั้นดังนั้นฉันถึงสามารถช่วยสร้างกายหยาบใหม่ได้แต่ดวงวิญญาณของพ่อแม่เธอได้สลายหายไปอย่างสมบูรณ์แล้วทำให้หมดโอกาสที่จะคืนชีพกลับมาได้”
เขาได้แต่คิดถึงความกตัญญูของนางดังนั้นถึงได้อธิบายออกมาอย่างระมัดระวัง
ร่างกายของนางได้แต่สั่นสะท้านไปก่อนที่จะร้องไห้ออกมา
แม้ว่านางจะรู้ดีว่ามันเป็นคำขอที่เป็นไปได้ยากแต่เมื่อได้ยินคำตอบที่สิ้นหวังนี้แล้วนางก็ยังคงเศร้าอย่างเคย
หลินเทียนได้แต่มองไปทางนางที่กำลังร้องห่มร้องไห้อยู่กว่าสองชั่วโมงก่อนที่จะพูดขึ้นหลังจากที่นางสงบสติได้ว่า
“ตามข้ามา ”
เขาพูดออกมาพร้อมทั้งหันหลังเดินออกจากห้องนี้ไป
เฉินหลินที่กำลังสะอื้นอยู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาแต่ก็สงบสติลงได้แล้วจึงเดินตามหลังเขาไปอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนได้เดินมาถึงที่หน้าประตูทางเข้าก่อนที่จะส่งพลังเทวะออกไปเล็กน้อยทำให้ข่ายอาคมปิดกั้นสลายหายไปก่อนที่ประตูจะเปิดออกด้วยตัวเอง
เขาก้าวเดินออกไปพร้อมทั้งมุ่งหน้าไปยังบันไดที่อยู่ห่างออกไป
“เจ้าหนุ่ม……….ไม่เป็นอะไรแน่นะ ?”
ผู้คนทั้งหลายที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกและเห็นว่าเขาเดินออกมาจากบ้านผีสิงโดยที่ยังอยู่ดีได้ถามออกมาด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ
ทว่าหลังจากนั้นเองที่สีหน้าของพวกเขาได้เปลี่ยนไปอีกครั้งหลังจากที่เห็นร่างของเฉินหลินที่เดินตามออกมา
“ผี ! เป็น…ผีตัวนั้น ! ”
“มัน….ออกมาแล้ว ! ”
“เป็นคนๆนั้น …..”
ผู้คนพากันส่งเสียงโหวกเหวกออกมา
แม้ว่าเฉินหลินในตอนนี้จะแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้มากเพราะนางไม่ได้เป็นผีร้ายที่มีเล็บยาวเป็นตะเกียบหรือร่างกายที่เน่าเปื่อยอีกต่อไปก็จริงแต่ผู้คนเองก็ยังจดจำรูปลักษณ์ของนางได้อย่างดี
พวกเขาเองก็เคยได้เห็นวิญญาณร้ายของนางมาก่อนแล้วดังนั้นถึงได้จดจำได้อย่างแม่นยำแม้ว่ารูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปอย่างมากแต่โดยรวมก็คล้ายๆกัน
นี่ทำให้ใบหน้าของผู้คนพากันเปลี่ยนเป็นซีดเผือดด้วยขาที่สั่นไม่หยุดจนไม่สามารถขยับไปไหนได้
หลินเทียนได้หยุดเท้าลงพลางหันมองไปทางกลุ่มคนเหล่านี้แล้วหันมองไปทางคู่สามีภรรยาก่อนที่จะพูดว่า
“หลังจากนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลแล้วนะ ”
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็ได้ก้าวเดินออกไปโดยทันที
เฉินหลินที่กำลังเดินตามหลังเองก็ยังพอจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ้างถึงได้หันมองไปทางคู่สามีภรรยาแล้วพูดขึ้นว่า
“ขอโทษที่สร้างปัญหาให้พวกคุณนะคะ ”
เมื่อพูดจบแล้วนางก็รีบเดินตามหลังหลินเทียนไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลินเทียนก็เดินลงบันไดไปจากชั้นนี้
จนถึงตอนนี้เองที่ผู้คนทั่วทั้งทางเดินต่างถอนหายใจออกมา
“นี่หนุ่มน้อยคนนั้น……สามารถสยบผีร้ายได้ ?! ”
“ดูเหมือน..จะเป็นแบบนั้นนะ ! ”
“นี่มัน..สุดยอดไปเลย ! เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ?! ”
“นี่……..”
ผู้คนพากันส่งเสียงออกมา
“หลังจากนี้……เราไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว ?”
ทั้งสองสามีภรรยาต่างพากันส่งเสียงอันตื่นเต้นออกมา
…….
หลินเทียนเดินตามเส้นทางออกไปจนออกไปนอกตึกโดยที่มีเฉินหลินเดินตามหลังเขามา
เขาหันมองกลับไปยังตึกที่เคยเป็นบ้านพักที่ลับเลี้ยงเขาก่อนที่ลูกหลานของผู้มีพระคุณจะถูกวางแผนฆ่าตายกันหมด
สายตาของเขาเย็นยะเยือกถึงขีดสุด
เขาจ้องมองอยู่นานก่อนที่จะหันมองกลับมาทางเฉินหลินพร้อมทั้งพูดขึ้นว่า
“หลุมศพของปู่ทวดเธออยู่ที่ไหนกัน ? ฉันอยากจะไปกราบไหว้เสียหน่อย ”