Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1334
เมื่อฟังจากคำพูดของชายหนุ่มอมนุษย์แล้วประธานบริษัทได้พยักหน้าของเขาพร้อมกับพูดว่า
“ท่านเทพเจ้ามีช่างมีสายตาที่แหลมคมเสียเหลือเกิน ได้โปรดช่วยพวกเราจัดการด้วย ทั้งสองคนนี้มันไม่ใช่คนธรรมดา ”
ประธานเองก็รู้ดีว่าหลินเทียนนั้นตั้งใจจะมาสร้างปัญหาไม่งั้นจะพังกระจกเข้ามา ? อีกอย่างเขาเองก็รู้ดีว่าหลินเทียนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเพราะหากเป็นคนธรรมดามันจะเหาะได้อย่างไรกัน ?
“ข้าจะช่วยจัดการให้แล้วกันแต่ขอบอกก่อนเลยนะว่าสินค้าครั้งหน้าต้องดีกว่านี้ไม่งั้นเจ้าก็คงจะรู้ถึงผลที่ตามมาดีสินะ ”
อมนุษย์ส่งเสียงออกมา
ประธานพยักหน้าของเขาซ้ำๆพร้อมทั้งตอบกลับด้วยความเคารพว่า
“ไดโปรดวางใจได้เลยครับ เราจะคัดสรรค์เฉพาะหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์และงดงามเหมาะกับความต้องการของท่านแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นท่านไม่ต้องกังวลเรื่องเงินแม้แต่น้อยเพราะข้าน้อยเพิ่มให้อีกเป็นสองเท่าตัว ”
“อื้ม พูดได้ดี ”
ชายหนุ่มอมนุษย์ได้ส่งเสียงออกมาพลางพยักหน้าของเขา
เมื่อพูดจบแล้วก็เดินเข้าหาทางหลินเทียนและเฉินหลินด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสแม้แต่น้อย
หลินเทียนที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นเองก็ได้ส่งเสียงออกมาว่า
“สินค้าชั้นดี บริสุทธิ์ มีใบหน้าที่งดงาม ”
พลางถามต่อว่า
“เจ้ากำลังทำอะไรกันแน่ ? ”
จากคำพูดของอีกฝ่ายแล้วอมนุษย์คนนี้มันจะเอาตัวหญิงสาวเหล่านั้นไปทำอะไรกัน ?
ไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
อมนุษย์ได้ยิ้มพลางส่งเสียงอันชั่วร้ายออกมาว่า
“คนที่กำลังจะตายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ”
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็ได้โบกมือส่งประกายแสงสีดำที่อัดแน่นไปด้วยพลังอสูรเข้าใส่ทางหน้าผากของหลินเทียนอย่างไม่รอช้า
สีหน้าของหลินเทียนเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเก่าขณะที่การโจมตีของอีกฝ่ายแหลกสลายลงโดยที่เขาไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยเนื่องจากมันไม่สามารถแบกรับแรงกดดันของเขาได้
นี่ทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงเพราะตระหนักได้แล้วว่าหลินเทียนเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเพราะสามารถทำลายการโจมตีของเขาลงได้ง่ายๆ
“เจ้าเป็นใครกัน ?”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
หลินเทียนไม่ได้ตอบกลับอะไรขณะที่ประกายแสงสีทองพุ่งผ่านอากาศเข้าทะลวงใส่หน้าผากของอีกฝ่ายพลางอ่านความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับสินค้าชั้นเลิศทั้งหลาย
นี่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยทันที
เป็นเพราะว่าสินค้าที่พวกมันพูดถึงคือเด็กสาวอายุ 16 ปีที่ยังคงบริสุทธิ์ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งพลังของมันก่อนที่จะกลายเป็นอาหารในที่สุด
“กล้านักนะ ! ”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาขณะที่จิตสังหารอันเข้มข้นระเบิดออกมารอบทิศทางพร้อมกระแทกร่างของอีกฝ่ายกระเด็นออกไปไกล
นี่ทำให้สีหน้าของประธานและผู้จัดการต่างเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“ท่าน !!! ”
ประธานส่งเสียงออกมา
เขารู้ดีว่าชายหนุ่มอมนุษย์คนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนเพราะเคยได้เห็นความสามารถที่เหนือมนุษย์ของอีกฝ่ายมากับตาทว่าตอนนี้กลับถูกกระแทกปลิวออกไปด้วยร่างกายที่โลกไปด้วยเลือดเพียงเพราะคำพูดของหลินเทียนนี่มันทำให้เขาตัวสั่นไปทันที
“อั๊ก ~! ”
ชายหนุ่มอมนุษย์ที่อยู่ห่างออกไปได้กระแทกเลือดออกมาขณะที่อัญมณีกลางหน้าอกส่องประกายแสงออกมาเล็กน้อยพร้อมทั้งแหลกสลายหายไปหลังจากที่ป้องกันจิตสังหารของหลินเทียน
“เศษเสี้ยวอาวุธเทวะ ”
สีหน้าของหลินเทียนเย็นชายิ่งกว่าเก่า
จิตสังหารที่เขาปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ไม่ได้รุนแรงมากนักดังนั้นการเศษเสี้ยวอาวุธเทวะถึงได้ช่วยชีวิตของอีกฝ่ายเอาไว้
ชายหนุ่มได้ยืนกลับขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดเพราะเพียงแค่เศษเสี้ยวจิตสังหารของหลินเทียนกลับทำให้เขาได้รับบาดเจ็บขนาดที่ว่าอัญมณีป้องกันตัวที่เสี่ยงชีวิตจนได้รับมาจากสุสานโบราณกลับแหลกสลายนี่มันทำให้เขาได้แต่หวาดหวั่นไปทันทีเพราะว่าเขาไม่สามารถต่อต้านหลินเทียนได้อย่างแน่นอน
วิ้สสส ! เสียงพุ่งผ่านอากาศออกมาขณะที่เขาลุกขึ้นพร้อมทั้งพุ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนหันมองออกไปด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกแต่ก็ไม่ได้ไล่ตามไป
“ต่อให้หนีออกไปสุดขอบฟ้าก็หนีข้าไม่พ้นหรอก ! ”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
เป็นเพราะอายุ 16 ปีนั้นเป็นช่วงอายุที่กำลังเบ่งบานทว่าความบริสุทธิ์ของเด็กสาวทั้งหลายต้องกลับกลายเป็นพลังให้กับมันแถมหลังจากที่สูบพลังจนหมดแล้วก็ยังเอาร่างของพวกนางไปกลั่นไปยา !
เขาไม่มีทางไว้ชีวิตมันอย่างแน่นอน !
เขาหันมองออกไปทางประธานและผู้จัดการโดยที่ไม่ได้พูดอะไรก่อนที่ประกายแสงสีทองจะพุ่งผ่านร่างของพวกเขาและระเบิดออกกลายเป็นกองเลือดทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงถึงขั้นที่เป็นลมล้มพับไป
คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับแผนการฆ่ายกครัวตระกูลเฉินล้วนถูกสังหารลงโดยไม่มีเหลือ
เขาหันมองออกไปทางชายหนุ่มที่กำลังพุ่งหนีไปโดยที่ไม่ได้ล่าตามออกไปเพราะเขาจดจำกลิ่นอายของอีกฝ่ายได้ดีแถมยังรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ไหนเลยไม่ได้ไล่ตามไป
เป็นเพราะว่าเขาจำเป็นต้องทำให้เฉินหลินสงบสติลงก่อนที่จะฆ่าอีกฝ่ายลง
“ไปกัน ”
เขาหันมองไปทางนางพร้อมๆกับส่งประกายแสงสีทองออกไปห่อหุ้มร่างของนางเอาไว้ก่อนที่จะหายตัวไปทันที
หลังจากนั้นเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหลุมศพของเฉินฉีหยวนที่อยู่รอบนอกของเมืองแห่งนี้
เขาได้แต่มองออกไปก่อนที่จะคาราวะหลุมศพนี้
เฉินหลินเองก็ทำแบบเดียวกันก่อนที่จะโค้งคำนับให้กับเขา
“ขอบคุณมากๆ ! ”
เป็นเพราะหลินเทียนไม่เพียงแค่ชุบชีวิตเธอเท่านั้นทว่ายังช่วยชำระความแค้นของตระกูลให้ด้วย !
มันเป็นบุญคุณที่ทั้งชีวิตก็ไม่สามารถทดแทนได้
หลินเทียนส่ายศีรษะของเขาเพราะในอดีตปู่ของนางเคยช่วยชุบเลี้ยงเขามาก่อนดังนั้นมันจึงเป็นหน้าที่ของเขาที่จะดูแลลูกหลานของคนๆนั้น
“เธอเองก็น่าจะสังเกตได้ว่าฉันไม่ใช่คนธรรมดาและมีพลังที่เหนือมนุษย์ซึ่งนี่คือพลังจากการบ่มเพาะ ”
เขามองไปทางนางก่อนที่ร่างกายของเขาจะเปล่งประกายแสงอ่อนๆออกมา
“ตอนนี้ฉันจะถ่ายทอดการบ่มเพาะให้กับเธอ ”
เขาโบกมือส่งประกายแสงเหล่านั้นออกไปห่อหุ้มร่างกายของเฉินหลินเอาไว้พร้อมๆกับใช้พลังเทวะหล่อหลอมร่างกายของนาง
หลังจากนั้นเขาก็ถ่ายทอดเคล็ดวิชาจันทราที่ได้รับมาจากไป่เฉียวให้กับนางพร้อมช่วยหมุนวนพลังทำให้ร่างกายของนางเปล่งประกายแสงออกมา
หลังจากนั้นเขาได้โบกมือคว้าเอาก้อนคริสตัลวิญญาณขนาดใหญ่ออกมาให้นางดูดซึมพลังของมัน
จากการที่เขาช่วยหมุนวนพลัง หล่อหลอมร่างกายและให้ทรัพยากรบ่มเพาะอย่างคริสตัลวิญญาณทำให้ไม่นานระดับพลังของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บึ้สส ~!
ประกายแสงเจิดจรัสส่องประกายออกมาจากร่างของนางขณะที่ใบหน้าของเฉินหลินเปลี่ยนสีไปทันที
“นี่มัน……”
ร่างกายของนางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
เป็นเพราะนี่คือครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับการบ่มเพาะและหลังจากทีรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเองแล้วก็ได้แต่โง่งมไปทันที
“ตั้งสติเอาไว้แล้วจดจำสิ่งที่ฉันถ่ายทอดไปให้ดี ”
หลินเทียนพูดออกมา
เขาช่วยนางหมุนวนพลังอยู่เก้ารอบก่อนที่จะให้นางเริ่มหมุนวนมันด้วยตัวเอง
เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ธรรมดาของนางทำให้แม้เขาจะช่วยหมุนวนไปเก้าครั้งแล้วหลังจากนั้นเมื่อปล่อยให้นางหมุนวนด้วยตัวเองก็มีปัญหาอยู่หลายครั้งทว่าเขาก็ช่วยสั่งสอนด้วยตัวเองซึ่งหลังจากที่ผ่านไปได้ประมาณ 12 ชั่วโมงนางก็สามารถหมุนวนพลังด้วยตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
“เส้นทางบ่มเพาะมันยาวไกลมากๆ เขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ชีพจรเทวะ ผู้รอบรู้ จักรพรรดินภา วิญญาณนิรันด์ จ้าวแห่งเต๋า ปลุกพลัง ปรินิพพาน…..”
หลินเทียนอธิบายถึงเขตแดนต่างๆของระดับพลังขณะที่ช่วยนางเกี่ยวกับการบ่มเพาะ
บึ้สสส ~!
นางหมุนวนพลังต่อไปขณะที่ดูดกลืนพลังจากคริสตัลวิญญาณทำให้ระดับพลังของนางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งตัดผ่านเขตแดนหล่อหลอมร่างกายก่อนที่จะกลายเป็นชีพจรเทวะ ผู้รอบรู้และจักรพรรดินภาซึ่งหลังจากนั้นประมาณครึ่งเดือนก็สามารถตัดผ่านเขตแดนวิญญาณนิรันด์ได้ทำให้ชักนำทัณฑ์สวรรค์อันทรงพลังลงมา
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์พุ่งออกไปทำลายล้างทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้น
หลังจากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปอีกสามวันเต็มๆ
วันนี้เป็นวันที่เฉินหลินได้หยุดการบ่มเพาะด้วยร่างกายที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“นี่คือฉัน…..”
นางกำหมัดเอาไว้ด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านไม่หยุดหลังจากที่สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้
หลังจากนั้นก็หันมองมาทางหลินเทียนพร้อมทั้งรีบขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง
เป็นเพราะว่านางแตกต่างออกไปจากเมื่อเดือนก่อนอย่างลิบลับ
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ”
หลินเทียนส่ายศีรษะของเขาก่อนที่จะหยิบเอาแหวนมิติส่งให้นางแล้วพูดต่อว่า
“ภายในมียาทิพย์ คริสตัลวิญญาณ ทักษะเทวะและอื่นๆอยู่ เธอรับเอาไว้แล้วกัน ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้อธิบายเกี่ยวกับจิตสัมผัส การใช้แหวนมิติ การเหาะเหินเดินอากาศและอื่นๆให้กับนาง
“ขอบคุณมากๆ ! ”
เฉินหลินพูดขอบคุณออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เป็นเพราะการกระทำของหลินเทียนได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของนางอย่างสิ้นเชิง
นางได้เห็นโลกใบใหม่ !
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะของเขาพร้อมกับพูดว่า
“ฉันไม่สามารถให้เธอติดตามข้างกายได้ตลอด หลังจากนี้ก็อยู่ที่ตัวเธอแล้วล่ะ ”
การที่ทำให้นางอยู่ในเขตแดนวิญญาณนิรันด์ได้แถมยังมีทักษะต่างๆที่เขาถ่ายทอดไปซึ่งโลกนี้มีพลังฉีและสัจธรรมที่เบาบางดังนั้นคนที่เป็นอันตรายต่อนางจึงมีไม่มากนัก
“เราแยกกันตรงนี้แล้วกัน ”
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้หันมองไปยังป้ายหลุมศพของเฉินฉีหยวนด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเล็กน้อย
ไม่นานเขาก็ถอนสายตากลับมา
“ลาก่อน ”
เขาพูดออกมาก่อนที่จะเหาะออกไปก่อนที่ร่างของเขาจะหายลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
เฉินหลินที่กำลังมองมาทางเขาได้คุกเข่าลงพร้อมทั้งโขกศีรษะให้กับเขา
…………..
หลังจากที่บอกลาเฉินหลินมาแล้วเขาได้เหาะขึ้นไปยังจุดที่สูงถึงขั้นที่คนธรรมดาไม่สามารถสังเกตเห็นได้
เขาเหาะออกไปยังสถานที่แห่งหนึ่งโดยที่ใช้เวลากว่าหกชั่วโมงจึงไปถึงตรงหน้าของบ้านขนาดใหญ่หลังหนึ่ง
เป็นเพราะว่ากลิ่นอายของอมนุษย์หนุ่มที่หนีไปคนนั้นอยู่ภายในบ้านหลังนี้