Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1342
เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่ร่างกายของชายชราแหลกสลายหายไปกลายเป็นผุยผง
“นี่มัน……..”
ภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนทั้งหลายได้แต่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเพราะพวกเขาล้วนไม่มีใครเห็นว่าหลินเทียนเคลื่อนไหวแม้แต่น้อยทว่าเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำกลับทำลายการโจมตีที่ทรงพลังและสังหารอีกฝ่ายลงได้อย่างง่ายๆ
“ใช้สัจธรรมเป็นคำพูดนี่มัน……”
หลายๆคนพากันสั่นสะท้านไป
ถูเซียนเซียนที่ตกตะลึงถึงขีดสุดเองไม่ก็คิดเลยว่าหลินเทียนจะสามารถสังหารศัตรูทั้งสี่คนลงได้ง่ายๆทำให้ตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งของเขาเกินกว่าที่นางจะจินตนาการเอาไว้มาก
ผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกทั้งหลายเองก็พากันแสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมาเพราะว่าหนึ่งในผู้นำของพวกเขากลับถูกสังหารลงได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตามมันเป็นตอนนี้เองที่สีหน้าของพวกเขายิ่งเย็นยะเยือกเข้าไปอีก
“ไอ้พวกคนแปลกแยกพวกเจ้าจะต้องได้รับการลงทัณฑ์จากทวยเทพ ! ”
ชายชราผมสีน้ำตาลส่งเสียงออกมา
ตู้มม !!
คลื่นพลังอันหนักหน่วงของเขตแดนจ้าวแห่งเต๋าระดับ 3 แผดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่พลังสัจธรรมอันเข้มข้นทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง
“แกร๊ง ~! ”
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาจากพลังสัจธรรมที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นหอกสายฟ้าอันแข็งแกร่ง
นี่คือการผสานของพลังเทวะและสัจธรรมอย่างไม่สมบูรณ์จากลายเป็นทักษะเทวะที่ทรงพลังถึงขั้นทำให้หัวใจของผู้คนโดยรอบสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว
แม้กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดขุนเขาคุนหลุนเองก็ยังได้แต่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“ตาย ! ”
ชายชราผมสีน้ำตาลได้ส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาพลางส่งหอกสายฟ้าอัดเข้าใส่ทางหลินเทียนด้วยพลังทำลายที่ฉีกมิติโดยรอบออกเป็นชิ้นๆ
หลินเทียนที่กำลังถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับถูเซียนเซียนเองก็ยังไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยก่อนที่หอกสายฟ้าจะพุ่งเข้าประชิดร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
ฟึ้บบบ ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่มันแหลกสลายหายไปตรงหน้าของเขา
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ประกายแสงสีทองถูกส่งออกมาจากร่างของเขาพุ่งเข้าใส่ทางฝ่ายตรงข้าม
พุฟฟ ~!
ชายชราผมสีน้ำตาลได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นหมอกเลือดโดยที่ไม่มีโอกาสจะได้ส่งเสียงกรีดร้องด้วยซ้ำ
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงอีกครั้ง
“เขตแดนจ้าวแห่งเต๋าระดับ 3 กลับ….”
“นี่….พระเจ้าช่วย…..”
“เขาเป็นบรรพบุรุษคนไหนกัน ?! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวแห่งเต๋ากลับถูกสังหารลงได้ง่ายๆโดยที่ไม่สามารถส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยซ้ำ
ต้องรู้ก่อนนะว่าผู้เชี่ยวชาญระดับนี้สามารถเดินเบ่งไปทั่วโลกทั้งใบได้อย่างง่ายดาย
“นี่มัน…….เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญจากยุคกาลก่อนที่ยังมีชีวิตหรือไงกัน ?! ”
ผู้คนพากันกลืนน้ำลายกลับลงไป
ถูเซียนเซียนเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมายิ่งกว่าเก่าเพราะว่าชายตรงหน้าของนางแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวแห่งเต๋าได้ทั้งๆที่นั่งอยู่เฉยๆทว่าก่อนหน้านี้นางกลับเพิ่งท้าเขาประลองแถมยังต้องการจะตีก้นของหลินเทียนหากว่าเป็นฝ่ายชนะนี่มันทำให้คอของนางหดลงด้วยความกลัวโดยทันที
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางก็พบว่าท่าทางของหลินเทียนในตอนนี้เปลี่ยนไปจากช่วงที่สู้กับนางอย่างใหญ่หลวงเพราะตอนนี้เขาให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเทพปีศาจจากยุคบรรพกาลเลยก็ว่าได้
เหล่าผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกทั้งหลายที่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมากพากันก้าวถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวแห่งเต๋ากลับถูกสังหารลงได้ง่ายๆแบบนี้แถมในยังอยู่ในสถานการณ์ที่หลินเทียนไม่ได้ลุกขึ้นยืนเลยด้วยซ้ำ
“เจ้า…….เป็นใครกัน ?! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
หลินเทียนส่งเสียงอันราบเรียบออกมาว่า
“ข้าเป็นใครเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้เรื่องนั้น”
เมื่อคำพูดของเขาได้สิ้นสุดลงแล้วมิติโดยรอบได้สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่ร่างกายและดวงวิญญาณของผู้พูดจะแหลกสลายหายไป
นี่ทำให้ร่างกายของผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกที่อยู่โดยรอบพากันสั่นสะท้านไปยิ่งกว่าเก่า
“สังเวยอาวุธเทวะ ! ”
ชายชราชุดเทาส่งเสียงกัดฟันพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
เขาคนนี้อยู่ในเขตแดนจ้าวแห่งเต๋าระดับ 4
เมื่อคำพูดของเขาได้สิ้นสุดลงแล้วก็สังเวยเอาอาวุธอันทรงพลังที่รายล้อมไปด้วยประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อันเข้มข้นออกมา
มันคืออาวุธเทวะที่ส่งกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกมาโดยรอบ
มันส่งผลให้สถานที่แห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดภายในชั่วพริบตา
ตู้มมม ~!
ปรากฏวังน้ำวนสีดำเข้มรายล้อมไปด้วยคลื่นสายฟ้าขึ้นกลางม่านฟ้าด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ได้ต่างไปจากทัณฑ์สวรรค์ซึ่งกลิ่นอายทำลายล้างของมันทรงพลังกว่าหอกสายฟ้าก่อนหน้านี้ตั้งไม่รู้กี่เท่าตัว
เป็นเพราะว่ามันเป็นการสังเวยการโจมตีโดยอาศัยพลังของทุกคน
หลังจากนั้นเองที่อาวุธเทวะอันทรงพลังนี้ได้กดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่รอช้า
เปรี้ยยย !
เปรี้ย !
เปรี้ย !
มิติโดยรอบปริแตกขณะที่คลื่นพลังทำลายล้างโถมเข้าใส่อย่างหนักหน่วง
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาก่อนที่จะโบกมือส่งคลื่นกระบี่สีทองพวยพุ่งผ่านอากาศออกไปบดขยี้อาวุธเทวะชิ้นนี้ลง
“นี่มัน…..เป็นไปไม่ได้ ? ! ”
“อาวุธเทวะ….กลับถูกทำลาย ?! นี่มัน…..พระเจ้าชัดๆ ! ”
“อาวุธเทวะที่ผสานการโจมตีของจ้าวแห่งเต๋าถึงสามคนกลับ……..”
ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์กลางพากันใจสั่นอย่างรุนแรง
ระหว่างนี้ผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกทั้งหลายได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่นถึงขีดสุดเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนระดับนี้ปรากฏตัวขึ้นภายในสถานที่แห่งนี้
“หนีเร็ว ! ”
หนึ่งในผู้นำของพวกเขาส่งเสียงออกมาขณะที่ทั้งห้าคนหันหลังพุ่งหนีไป
“ในเมื่อมาแล้วก็อย่าหวังเลยว่าจะหนีรอดกลับไปได้ ”
หลินเทียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
เป้าหมายในการมาของเขาก็เพื่อดักรอกลุ่มคนเหล่านี้
การที่กล้ามาอวดดีภายในดินแดนศูนย์กลางมันต้องสังหารให้เกลี้ยง !
เขายังคงนั่งอยู่กับที่ก่อนที่คลื่นกระบี่สีทองอันทรงพลังจะพวยพุ่งออกไปรวบทิศทาง
“ระยำเอ้ย ! รอก่อนเถอะ พวกเราจะส่งกองกำลังมาบดขยี้ดินแดนศูนย์กลางของพวกเจ้าให้สิ้นซาก พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย ! ”
พวกเขาตระหนักดีว่าตัวเองต้องตายอย่างแน่นอนถึงได้ส่งเสียงคำรามออกมา
“งั้นรึ ? ในเมื่อพวกเจ้าอวดดีกันขนาดนี้งั้นข้าขอเอาอย่างบ้างแล้วกัน ข้าจะไปฆ่าล้างผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกให้สิ้นซากเช่นกัน ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
หลังจากที่คำพูดของเขาได้จบลงแล้วคลื่นกระบี่อันทรงพลังก็ได้ฉีกร่างและดวงวิญญาณของอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
กองกำลังผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกได้ตกตายลงอย่างสมบูรณ์ทำให้สถานที่แห่งนี้ตกอยู่ในความเงียบสงบโดยทันที
นี่ทำให้สายตาของทุกผู้คนหยุดอยู่ที่ร่างของหลินเทียนเป็นสายตาเดียวกัน
“อึกกก ”
พวกเขาพากันกลืนน้ำลายกลับลงไปด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก
ไม่เว้นแม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดขุนเขาคุนหลุนเองก็ไม่ต่างกัน
ถูเซียนเซียนได้แต่จ้องมองไปยังร่างของหลินเทียนด้วยความรู้สึกที่หวั่นเกรง
เป็นเพราะศัตรูที่บุกเข้ามาเมื่อครู่ล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งกันทุกคนถึงขั้นติดอาวุธเทวะเข้ามาด้วยทว่ากลับถูกสังหารลงด้วยเงื้อมมือของหลินเทียนทั้งหมด
มันเป็นความแข็งแกร่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก
“แม่หนูน้อย บอกแล้วไงว่าอย่าเสียสมาธิ ตั้งใจเรียนรู้เคล็ดวิชานี้ ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
เขายังคงนั่งอยู่กับที่พร้อมทั้งสังหารเหล่าศัตรูระหว่างที่ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับนางไปด้วยโดยที่ไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่น้อย
“โอ้ ~~ ”
นางพยักหน้าซ้ำๆพร้อมๆกับตอบรับอย่างเชื่อฟัง
หลังจากนั้นนางก็ตั้งใจไปกับการเรียนรู้เคล็ดวิชาต่างๆอยู่ภายในทะเลความรู้ของตัวเอง
นี่ทำให้พลังอสูรของนางยิ่งเข้มข้นและพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนพยักหน้าของเขาเพราะต้องยอมรับเลยว่าพรสวรรค์ของนางนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ
“บึ้สส ~! ”
ประกายแสงอันเข้มข้นที่ผสมผสานไปด้วยพลังสัจธรรมได้โถมเข้ามา
ถูเซียนเซียนที่กำลังทำความเข้าใจเคล็ดวิชานี้ทำให้กลิ่นอายของนางพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่โดยรอบต่างพากันจ้องมองไปทางนางด้วยสายตาที่อิจฉาจาพูดไม่ถูก
เป็นเพราะพวกเขาล้วนตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของหลินเทียนที่สามารถสังหารศัตรูลงได้ง่ายๆนี่มันไม่ต่างจากผู้เชี่ยวชาญจากยุคกาลก่อนหรือแม้กระทั่งอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำทำให้เรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานในยุคปัจจุบันซึ่ง ณ ตอนนี้การที่ตัวตนระดับนี้กำลังถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับถูเซียนเซียนด้วยตัวเองนั้นมันเป็นเหมือนความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
“สหายถู ดูเหมือนว่าองค์หญิงของตระกูลเจ้านี่จะมีโชคชะตาที่น่าอิจฉาจริงๆเลยนะที่สามารถได้รับความโปรดปรานขนาดนี้ ”
ผู้อาวุโสสูงสุดขุนเขาคุนหลุนส่งเสียงออกมา
ผู้นำตระกูลจิ้งจอกครามเองก็ได้แต่ส่งเสียงสั่นๆออกมาว่า
“โชคชะตา ! ……..โชคดีจริงๆ ! ”
เป็นเพราะว่าความแข็งแกร่งของหลินเทียนนั้นเหนือกว่าพวกเขาทุกคนที่อยู่ที่นี่จนอยู่ในระดับที่เรียกว่าน่ากลัวเลยก็ว่าได้ทว่าตอนนี้ตัวตนระดับนั้นกำลังถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับผู้มีพรสวรรค์ของตระกูลนางด้วยตัวเองนี่ทำให้นางรู้สึกเหมือนฝันไปเลยก็ว่าได้
“บึ้สส ~! ”
ประกายแสงส่องสว่างออกไปรอบทิศทางขณะที่นางทำความเข้าใจกับเคล็ดวิชาที่หลินเทียนถ่ายทอดให้อย่างตั้งใจทำให้กลิ่นอายพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ไม่นานหลังจากนั้นคลื่นพลังอันหนักหน่วงก็ได้ระเบิดออกมาจากร่างของนางขณะที่นางตัดผ่านเขตแดนวิญญาณนิรันดร์
นี่ทำให้มิติโดยรอบเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมๆกับทัณฑ์สวรรค์ที่เริ่มก่อตัวขึ้นเหนือม่านฟ้า
เป็นเพราะว่าการตัดผ่านของนางนำพามาซึ่งทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้
“เปรี้ยงง ~! ”
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่กลิ่นอายทำลายล้างแผดขยายไปทั่วพื้นที่
มันเป็นกลิ่นอายทำลายล้างที่ทำให้แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดขุนเขาคุนหลุนเองก็ยังได้แต่สั่นกลัว
“เขตแดนวิญญาณนิรันดร์ ”
ผู้นำตระกูลจิ้งจอกครามส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจเพราะว่าตอนที่ถูเซียนเซียนอยู่ในเขตแดนจักรพรรดินภานั้นสามารถเอาชนะผู้อาวุโสสูงสุดเขตแดนวิญญาณนิรันดร์ได้แล้วตอนนี้ที่ตัดผ่านเขตแดนวิญญาณนิรันดร์ไปได้แล้วจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน ?! เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้นางตื่นเต้นขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตามตอนนี้นางก็อดแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมาไม่ได้เพราะว่าทัณฑ์สวรรค์ที่ถูเซียนเซียนนำพามานั้นมันทรงพลังอย่างมาก
“เยี่ยม ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งอดพยักหน้าให้ไม่ได้
เป็นเพราะว่าทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้มันทรงพลังถึงขั้นที่คนธรรมดาไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยด้วยซ้ำซึ่งนี่เป็นการยืนยันถึงความมีพรสวรรค์ของนาง
เป็นเพราะยิ่งมีพรสวรรค์ก็ยิ่งชักนำทัณฑ์สวรรค์ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น