Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1355
ประกายแสงเจิดจรัสถูกส่งออกมาจากกระบี่เหนือศีรษะก่อนที่คลื่นพลังจะกดทับลงมาอย่างรุนแร ง
มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปขณะที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะปกคลุมร่างของทุกคนเอาไว้
“ตาย ! ”
เสียงนี้ถูกส่งออกมาอย่างราบเรียบเสมือนว่าเป็นเสียงของราชันผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง
เมื่อคำพูดของเขาได้สิ้นสุดลงแล้วมิติที่อยู่รอบข้างก็ได้ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่ก่อนที่ดวงตาของเขาจะส่องประกายแสงสีทองพุ่งผ่านอากาศออกไปปะทะเข้ากับการโจมตีนี้
“ฟึ้บบ ~! ”
ประกายแสงอันทรงพลังนี้ได้บดขยี้กระบี่ยักษ์กลางม่านฟ้าไปโดยทันที
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงโดยทันที
“นี่มัน…….”
“สามารถป้องกันได้ ?! ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ! ”
เหล่าผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดออกมา
มนุษย์ปีกอีกสองคนที่ยืนอยู่กลางม่านฟ้าเองก็ต่างพากันจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่ส่องประกายออกมาเล็กน้อย
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ด้านหลังได้แต่ผงะไป
“สามารถรับการโจมตีของกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าได้ง่ายๆแบบนี้นี่มันต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
หลินเทียนไม่ได้พูดอะไรพร้อมทั้งหันมองออกไปยังมนุษย์ปีกที่อยู่ห่างออกไป
อีกฝ่ายเองก็มีสีหน้าที่ประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบยิ่งกว่าเก่าว่า
“ก็พอมีน้ำยาอยู่บ้าง ข้ายอมรับเลยว่าข้าประเมินเจ้าต่ำไปแต่ถึงอย่างไรเจ้าก็……”
“ไสหัวลงมา ! ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
พลังสัจธรรมอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงพร้อมทั้งกระแทกร่างของอีกฝ่ายลงมากองอยู่แทบเท้าของเขา
นี่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาพร้อมทั้งอุทานว่า
“เจ้า……”
“ตู้มม ~! ”
หลินเทียนยกเท้ากระทืบลงไปกลางหน้าอกของเขาอย่างจัง
อ๊ากก ~!
อีกฝ่ายส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดังขณะที่เลือดไหลทะลักออกมาจากปาก
นี่ทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างพากันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“ท่านทวยเทพ ! ”
“นี่มัน ?! ”
“เป็นไปไม่ได้ ! ”
เหล่าศิษย์ต่างสั่นสะท้านไปตามๆกัน
เป็นเพราะว่าชายคนนั้นถือเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งที่พวกเขาเคารพบูชาทว่าชายหนุ่มจากดินแดนศูนย์กลางกลับสามารถกระแทกร่างของอีกฝ่ายลงมาจากท้องฟ้าได้แถมยังเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนถึงกับมองตาค้างไปด้วยร่างกายที่สั่นไม่หยุด
“ท่านอาจารย์เปิดสูตรโกงหรือเปล่า ! ”
เซียนเซียนอดส่งเสียงอุทานคำสมัยใหม่ออกมาไม่ได้
“แม่เจ้าโว้ย ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมาพลางกลืนน้ำลายกลับลงไป
พวกเขาล้วนแล้วแต่ผวาไปกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่ากลับดูไร้น้ำยาเมื่ออยู่ต่อหน้าของหลินเทียนก่อนที่จะกองอยู่ใต้ฝ่าเท้าของหลินเทียนไม่ต่างกับชายชุดดำวัยกลางคนก่อนหน้านี้
“ไอ้ระยำ ! ไปไกลๆไป ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังหลังจากที่โกรธจัดเมื่อต้องอยู่ใต้เท้าของหลินเทียน
ตู้มม ! คลื่นพลังอันหนักหน่วงระเบิดออกมาจากร่างของเขาเพื่อพยายามจะดิ้นให้หลุดจากฝ่าเท้าของหลินเทียน
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์เท่านั้นเพราะเท้าที่เหยียบหน้าอกของเขาเอาไว้กลับให้ความรู้สึกไม่ต่างจากขุนเขาบรรพกาลที่ไม่มีวันสั่นคลอนทำให้พลังเทวะของเขาไม่สามารถทำอะไรได้
“ระยำเอ้ย ! ปล่อยข้า ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
การที่ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าแบบนี้มันทำให้ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธถึงขีดสุด
“หุบปาก ! ”
หลินเทียนพูดออกมาพร้อมทั้งกระทืบซ้ำลงไปอย่างจัง
“อ๊ากก ~! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดังขณะที่เลือดไหลทะลักออกมาจากปากมากยิ่งกว่าเก่า
นี่ทำให้คนอื่นๆได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
มันรวมถึงมนุษย์ปีกทั้งสองเองก็ด้วย ถึงขั้นที่ดวงตาของพวกเขาพากันหดเล็กลงอย่างมาก
“เจ้ามนุษย์ รีบปล่อยเขาซะ ”
น้ำเสียงอันราบเรียบถูกส่งออกมา
บรรพบุรุษที่หนึ่งได้ส่งเสียงออกมาซึ่งเขาถือเป็นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดและได้ฉายาว่าราชันวิหกซึ่งตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ราบเรียบและล้ำลึกอย่างเคย
เพียงแค่เสียงของเขากลับทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ไอ้……หนู ไอ้มนุษย์ปีกนี่มันแข็งแกร่งมากๆ ! ”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงออกมา
“น่ากลัวมากๆ ”
เซียนเซียนเองก็ส่งเสียงออกมาเช่นเดียวกัน
หลินเทียนนั้นสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้อย่างดีเพราะนี่คือคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันตั้งแต่มาเหยียบโลกใบนี้
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เขากระทืบเท้าขวาลงไปพร้อมๆกับส่งตรามังกรเข้าบดขยี้
พุฟฟ !
ร่างของอีกฝ่ายระเบิดออกกลายเป็นหมอกเลือดไปโดยทันที
“ไม่!!! ”
ดวงวิญญาณของมันส่งเสียงกรีดร้องออกมาก่อนที่ตรามังกรมากมายจะเริ่มกัดกินร่างวิญญาณของเขาอย่างรวดเร็ว
ตกตายลงอย่างสมบูรณ์ !
“ท่านทวยเทพ ! ”
“นี่มัน…..เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่น
เป็นเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งของเขากลับตกตายลงในชั่วพริบตา
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนเองก็ได้แต่สั่นสะท้านไปเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่ากลับ….ถูกกระทืบจนตาย !
หลินเทียนที่กำลังแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาได้หันมองออกไปยังมนุษย์ปีกที่อยู่ห่างออกไป
“เจ้ามนุษย์ ! ”
สายตาของราชันวิหกส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมาพร้อมๆกับแผดกลิ่นอายอันทรงพลังออกไปรอบทิศทาง
ทั้งๆที่เขาสั่งให้หลินเทียนปล่อยมือออกจากคนของเขาแล้วทว่าหลินเทียนกลับสังหารผู้เชี่ยวชาญของเขาแบบนี้มันเป็นการหักหน้าอย่างร้ายแรง !
ตู้มมม !
ประกายแสงสีเทาแผดออกไปรอบทิศทางก่อนที่กลิ่นอายอันหนักหน่วงจะทำให้มิติโดยรอบสั่นคลอนอย่างต่อเนื่อง
“จักรพรรดิ…..ว่างเปล่า !”
พยัคฆ์ขาวถึงกับผวาไป
เซียนเซียนได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดออกมาเพราะไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะก้าวข้ามเขตแดนจ้าวสวรรค์ไปแล้ว !
ราชันวิหกยืนอยู่กลางฟากฟ้าโดยที่มีปีกสามคู่ของกลางหลังพร้อมๆกับปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกมาทำให้สัจธรรมที่อยู่รอบๆสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ท่านราชันวิหก ! ”
“ได้โปรดล้างแค้นให้กับท่านทวยเทพที่สามด้วยขอรับ ! ”
“ท่านจะต้องสามารถทำความฝันของพวกเราให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันกำหมัดเอาไว้แน่นก่อนที่จะส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกสรรเสริญ
ตู้มมม ! มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างต่อเนื่องขณะที่คลื่นพลังอันรุนแรงแผดออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง
อีกฝ่ายยังคงจดจ่ออยู่กับร่างของหลินเทียนเสมือนว่าเป็นเทพผู้ซึ่งควบคุมความเป็นและความตาย
จิตสังหารอันเข้มข้นที่แผดออกมาทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกปิดกั้นเอาไว้ทั้งหมด
หลินเทียนที่กำลังยืนอยู่เองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีว่าอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนต้น
นี่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนระดับนี้อยู่บนโลกใบนี้ได้
“จิ้งจอกน้อย ไอ้เสือโง่ รีบถอยห่างออกไปให้ไกล ”
เขาส่งเสียงออกมา
คำพูดนี้ทำให้ทั้งสองคนได้แต่ผงะไป
“ไอ้หนู นี่เจ้าคิดสู้กับมัน ? ไม่มีปัญหาแน่ ?! นั่นน่ะเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าเลยนะ ! มันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถต่อกรได้ ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะแม้ว่าหลินเทียนจะสามารถสังหารกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าลงได้แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายนั้นอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าที่แท้จริงจึงไม่ใช่อะไรที่กึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าจะเทียบชั้นได้
“ข้าจะฆ่ามัน ทำลายล้างที่นี่ ชิงเอาศิลากลับมาแล้วกลับบ้านกัน ”
หลินเทียนพูดออกมา
น้ำเสียงของเขาฟังดูราบเรียบแค่อดทำให้พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนผงะไปไม่ได้
ศิษย์ทั้งหลายต่างพากันแสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมาพร้อมทั้งคำรามว่า
“อย่างเจ้าน่ะหรือ กล้าคิดจะสังหารท่านราชันวิหก ! ”
“ไอ้พวกโง่ ! ”
“แค่นิ้วเดียวของท่านผู้นั้นก็เพียงพอจะบดขยี้เจ้าแล้ว ! ”
พวกเขาเหล่านี้พากันส่งเสียงออกมา
หลินเทียนยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบโดยที่ไม่ได้สนใจคนเหล่านี้แม้แต่น้อย
“ถอยออกไป ”
เขาพูดกับพยัคฆ์ขาวและเซียนเซียน
ทั้งสองคนต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปขณะที่ดวงตาส่องประกายออกมา
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต่างพากันเหาะทิ้งระยะออกไป
“ท่านอาจารย์ ท่านต้องสามารถจัดการมันได้อย่างแน่นอน ! ”
นางพูดออกมา
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ทิ้งระยะออกไปไกลกว่าหลายกิโลเมตรขณะที่สายตาจดจ่ออยู่ที่ร่างของหลินเทียน
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่และสัมผัสได้ว่าเซียนเซียนและพยัคฆ์ขาวได้ทิ้งระยะออกไปไกลแล้ว
เขาหันมองกลับไปทางฝ่ายตรงข้ามด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างเคย
ตู้มมม ~~~!
กลิ่นอายจักรพรรดิอันเข้มข้นระเบิดออกมาพร้อมๆกับคลื่นพลังสีทองอร่ามที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาหลังจากที่กลับมาถึงโลกนี้ทำให้คลื่นพลังอันหนักหน่วงพุ่งทะลวงม่านฟ้าขึ้นไปเสมือนว่ากำลังจะฉีกดินแดนลับแห่งนี้ออกเป็นเสี่ยงๆ
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“จ้าวสวรรค์ระดับ 8 ? เจ้าหนูนี่อยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 ?! แถมกลิ่นอายระดับนี้มัน………”
พยัคฆ์ขาวได้แต่ส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่าระดับพลังของหลินเทียนทำให้มันรู้สึกตกตะลึงอย่างมาทว่ากลิ่นอายที่หลินเทียนส่งออกมานั้นถึงกับทำให้มันแข็งค้างไปทันทีเพราะว่านี่มันใช่กลิ่นอายที่เขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 มีได้ ?
เป็นเพราะความเข้มข้นของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิว่างเปล่าเลยด้วยซ้ำ
ท้ายที่สุดมันถึงเข้าใจได้ว่าทำไมขนาดกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าเองก็ยังเปราะบางขนาดนี้ …….ด้วยแรงกดดันที่หลินเทียนส่งออกมานี้อีกฝ่ายจะเป็นคู่มือของเขาได้อย่างไรกัน ?!
“แข็งแกร่งมากๆ ! นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของท่านอาจารย์ ? นี่มัน…….แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! ”
ดวงตาอันงดงามของนางเปล่งประกายความตื่นเต้นออกมา
เป็นเพราะว่ากลิ่นอายที่หลินเทียนแผดออกมาในตอนนี้มันทรงพลังและยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากการจุติของทวยเทพเลยด้วยซ้ำ
กลิ่นอายระดับนี้ทำให้บรรพบุรุษที่สองของนิกายแห่งนี้อดสั่นสะท้านไปไม่ได้
สายตาของราชันวิหกเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าเองก็หดเล็กลงเล็กน้อยก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความไม่แยแส
“เป็นกลิ่นอายที่รุนแรงดีหนิแต่สุดท้ายก็เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 ”
เขาพูดต่อขณะที่แรงกดดันแผดออกไปโดยรอบว่า
“ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องตายในวันนี้ ! ”