Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1357
กระบี่สีทองอร่ามที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างได้พุ่งผ่านอากาศออกไปเข้าประชิดร่างของราชันวิหก
กระบี่นี้ได้ทำลายทุกสรรพสิ่งที่ขวางเส้นทางของมันเอาไว้
สายตาของอีกฝ่ายส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาขณะที่กระพือปีกด้านหลังสร้างคลื่นพลังทำลายออกไปบดขยี้คลื่นกระบี่นี้
“อวดดีนักนะ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าแล้วจะช่วยบรรเทาความโง่งมของเจ้าที่คิดว่าตัวเองไร้เทียมทาน ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและหยิ่งผยองถึงขีดสุด
ตู้มม !
คลื่นพลังสัจธรรมอันหนักหน่วงระเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างเข้มข้นพร้อมทั้งโอบร่างของเขาเอาไว้ทำให้ไม่ต่างกับพระอาทิตย์ขนาดย่อมก่อนที่มิติโดยรอบจะสั่นไหวพร้อมๆกับประกายแสงสีเงินที่โถมลงมาจากฟากฟ้า
มันเป็นประกายแสงสีเงินที่อัดแน่นไปกลิ่นอายที่เข้มข้นส่งผลให้หัวใจของทุกผู้คนสั่นไหวอย่างรุนแรง
“นี่มัน….พลังจากดวงดาว ! ทักษะอันไร้เทียมทานของท่านราชันสามารถสูบเอาพลังของหมู่ดาวมาใช้ได้ ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
สายตาของหลินเทียนเปล่งประกายออกมาเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่ยังคงราบเรียบอยู่อย่างเคย
เขารู้ดีอยู่ก่อนแล้วว่าหลังจากที่ตัดผ่านเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าได้นั้นจะสามารถดึงเอาพลังของหมู่ดาวมาหล่อหลอมร่างกายตัวเองให้แข็งแกร่งถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นอมตะได้ดังนั้นการที่อีกฝ่ายสามารถดึงเอาพลังของดวงดาวมาใช้จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอะไร
เขาโบกมือของเขาสังเวยเอาคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ออกมาพร้อมทั้งส่งมันออกไป
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาก่อนที่มันจะพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายอย่างฉับพลัน
ราชันวิหกแสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่เขาจะโบกมือขวาออกไปทำให้ดวงดาวสั่นไหวพร้อมทั้งบดขยี้คลื่นกระบี่เหล่านี้
“เป็นเพียงแค่เขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 ริอาจกล้าต่อกรกับข้างั้นรึ ! ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสก่อนที่มือทั้งสองจะผสานเข้าหากันพร้อมทั้งสูบเอาพลังของหมู่ดาวมารวมกันแล้วจุดประกายเปลวเพลิงสีเงินขึ้นมา
“นี่คือเปลวเพลิงจากแกนดาว มันสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่ง ”
ตู้มมม !
เปลวเพลิงนี้อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างที่ทรงพลังอย่างมากถึงขั้นที่แผดเผามิติโดยรอบจนวอดวายโดยที่ไม่มีอะไรสามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย
แรงกดดันที่มันกดทับลงมาทำให้อุณหภูมิภายในสถานที่แห่งนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน
หลินเทียนโบกมือส่งคลื่นกระบี่พุ่งผ่านออกไปกระแทกเข้ากับเปลวเพลิงนี้
อย่างไรก็ตามมันเป็นการโจมตีที่ทรงพลังถึงขั้นที่เผาทำลายคลื่นกระบี่ของเขาไปภายในชั่วพริบตา
“ไอ้โง่เอ้ย คิดจะต่อกรกับท่านราชันของพวกเรางั้นรึ กลายเป็นผุยผงไปซะ ! ”
ศิษย์ของนิกายพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมา
ตู้มมม ! เปลวเพลิงอันทรงพลังยังคงกดทับลงมาอย่างต่อเนื่อง
มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเผาวนวอดวาย
พริบตามันก็เข้าประชิดร่างของหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
“ตาย !!! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงออกมาอย่างเย็นยะเยือก
หลินเทียนหันมองออกไปด้วยสีหน้าที่ราบเรียบก่อนที่จะโบกมือทำให้กระบี่พลังเทวะสลายหายไปพร้อมทั้งจุดประกายเปลวเพลิงสีทองอร่ามขึ้นมา
มันเป็นเปลวเพลิงที่ส่องสว่างโชติช่วงขณะที่พุ่งเข้าปะทะกับเปลวเพลิงสีเงินที่กำลังกดทับลงมา
ฟึ้บบ ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่เปลวเพลิงสีทองได้ป้องกันการโจมตีของเปลวเพลิงสีเงินเอาไว้ได้ทั้งหมด
“นี่มัน.เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ ?! ”
สายตาของอีกฝ่ายถึงกับหดเล็กลงอย่างใหญ่หลวง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่สีหน้าของทุกคนที่อยู่ที่นี่เองก็ล้วนเปลี่ยนไปไม่ต่างกัน
“ไอ้หนูนี่มันไปเอาเปลวเพลิงในตำนานนี้มาจากที่ไหนกัน ?! ”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปส่งเสียงออกมา
“สุดยอด ! ”
เซียนเซียนตอบกลับ
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเปลวเพลิงที่ก่อกำเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติและได้ชื่อว่าสามารถเผาผลาญได้ทุกสรรพสิ่งซึ่งหากว่าผู้เชี่ยวชาญสามารถดูดกลืนมันได้ก็จะสามารถสังเวยมันออกมาใช้ในการต่อสู้ได้และพลังทำลายของมันสามารถเผาได้แม้กระทั่งสัจธรรมและที่สำคัญที่สุดคือมันสามารถวิวัฒนาการได้เรื่อยๆทำให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
“บึ้สสส ! ”
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่เปลวเพลิงสีทองแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบ
ด้วยระดับพลังของเขาผนวกกับกายสังสารวัฏแล้วทำให้ปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์นั้นมีพลังทำลายที่สูงขึ้นอย่างมากถึงขั้นที่เริ่มกลืนกินเปลวเพลิงสีเงินของอีกฝ่าย
ฟึ้บบบ ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาอีกครั้งก่อนที่เปลวเพลิงสีจะถูกกลืนกินไปอย่างสมบูรณ์
“นี่น่ะรึคือพลังที่แท้จริงของจักรพรรดิว่างเปล่า ? ”
หลินเทียนส่งเสียงที่เย้ยหยันออกมา
เขาพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอีกฝ่ายพร้อมทั้งซัดเปลวเพลิงเข้าใส่อย่างไม่รอช้า
“เจ้ามนุษย์ อย่าได้ใจเกินไปหน่อยเลย ! เจ้ามันก็เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น ! ”
ราชันวิหกส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาขณะที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงกวาดเข้าใส่ทางหลินเทียนจากรอบทิศทาง
พริบตานี้เองที่มิติโดยรอบได้แหลกสลายหายไปขณะที่ภูเขาและแม่น้ำเองก็เหือดแห้งลงอย่างฉับพลัน
ในตอนนี้เองที่หลินเทียนได้ซัดเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ออกไปพร้อมๆกับหมัดจักรพรรดิโกลาหลทำให้ม่านฟ้าระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ระหว่างนั้นเขาก็ได้สังเวยเอาการสรรสร้างทั้งหลายทั้งปวงออกมากดทับไปในเวลาเดียวกัน
ตู้มม !
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของอีกฝ่ายถูกกระแทกปลิวออกไปไกล
“ท่านราชันวิหก ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนเองก็อดผงะไปไม่ได้เพราะว่าหลินเทียนที่อยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์กลับสามารถกระแทกร่างจักรพรรดิว่างเปล่าจนปลิวออกไปได้
“เจ้าหนูนี่มันผิดมนุษย์เกินไปแล้ว ถึงขั้นสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญต่างเขตแดนได้ถึงขนาดนี้ ! ”
พยัคฆ์ขาวกลืนน้ำลายกลับลงไป
มิติรอบข้างได้สั่นไหวขณะที่คลื่นกระบี่และการสรรสร้างทั้งหลายยังคงกดทับลงไป
ณ ตอนนี้สภาพผมเผ้าของอีกฝ่ายยุ่งเหลิงไปหมดก่อนที่จะสูบเอาพลังจากหมู่ดาวเข้ามาอีกครั้งพร้อมทั้งเหวี่ยงการโจมตีอันทรงพลังเข้าใส่ทางหลินเทียน
ตู้มม !
ตู้มมม !
ตู้ม !
การปะทะกันแต่ละครั้งของพวกเขาส่งผลให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปทันที
ตู้มม ! ราชันวิหกที่ได้สูบเอาพลังจากหมู่ดาวมาก่อสร้างเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่กดทับเข้าใส่ทางหลินเทียน
มันเป็นทักษะที่ไม่ใช่ทักษะเทวะซึ่งทรงพลังอย่างมากถึงขั้นที่สามารถทำลายได้ทุกสิ่ง
หลินเทียนไม่ได้เบี่ยงหลบไปไหนทว่ากลับใช้เปลวเพลิงปกป้องร่างกายเอาไว้ขณะที่เหวี่ยงหมัดสวนกลับไป
ทึ้มม !
การปะทะกันของพวกเขาสร้างแรงสั่นสะเทือนออกไปรอบทิศทางพร้อมทั้งส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมา
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์และพลังจากหมู่ดาวได้ปกคลุมพื้นที่โดยรอบเอาไว้ทั้งหมด
หลายๆคนที่กำลังมองอยู่ถึงกับอ้าปากค้างไปตามๆกัน
“วิ้สส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่หลินเทียนพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่อย่างจัง
สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงพลางอุทานออกมาว่า
“เจ้า……”
“พุฟฟ ! ”
หมัดนี้กระแทกร่างของอีกฝ่ายปลิวออกไปไกลด้วยสภาพใบหน้ากว่าครึ่งที่ถูกทำลายทำให้ร่างกายของเหล่าศิษย์นิกายสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง
หลินเทียนยังคงพุ่งผ่านออกไปก่อนที่จะส่งการโจมตีกดทับเข้าใส่ศัตรูอย่างไร้ความปราณี
มันเป็นการโจมตีที่ทรงพลังถึงขั้นที่แม้แต่ราชันวิหกเองก็ยังไม่สามารถต่อต้านได้ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชด้วยร่างกายกว่าครึ่งที่แหลกสลายหายไปก่อนที่จะถูกซัดปลิวออกไปกระแทกกับภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมทั้งฟาดฟันคลื่นกระบี่พุ่งผ่านอากาศตามออกไป
อีกฝ่ายพุ่งขึ้นไปอยู่กลางอากาศพร้อมทั้งรักษาบาดแผลอย่างรวดเร็วก่อนที่จะซัดฝ่ามือเข้าทำลายคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ของหลินเทียนไป
อย่างไรก็ตามมันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่ร่างของหลินเทียนได้เข้าประชิดร่างของเขาพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลเข้าใส่อย่างจัง
“เจ้า………”
ตู้มมม !
หมัดจักรพรรดิโกลาหลอันทรงพลังอัดกระแทกเข้าใส่ร่างของเขาทำให้เลือดสาดกระเซ็นออกไปรอบทิศทาง
หลินเทียนยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งเข้าประชิดร่างของเขาอีกครั้งก่อนที่จะส่งการโจมตีชุดต่อไปออกมา
เป็นเพราะว่ายิ่งอยู่ในเขตแดนที่สูงขึ้นความต่างชั้นของแต่ละระดับเองก็จะยิ่งมากขึ้นแต่สำหรับเขามันต่างกันออกไปเพราะเขาคือกายสังสารวัฏที่แข็งแกร่งที่สุดดังนั้นหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์ที่อันตรายแต่ละครั้งก็ทำให้เขาสามารถต่อสู้ข้ามเขตแดนได้อย่างแท้จริง
ตู้มมม !
หมัดอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวของเขาได้อัดกระแทกร่างของอีกฝ่ายลอยเคว้งออกไปไกล
หลังจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าประชิดร่างของมันพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดชุดออกไปอย่างต่อเนื่อง
“ตู้มม ! ”
“ตู้ม ! ”
“ตู้มมม ! ”
นี่ทำให้ราชันวิหกได้รับบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงขั้นที่เลือดชโลมไปทั่วม่านฟ้า
“ระยำเอ้ย ! พอกันที ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ตู้มมม !
พลังเทวะอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมากระแทกร่างของหลินเทียนถอยกลับไป
หลังจากนั้นอาการบาดเจ็บของราชันวิหกก็ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อีกครั้ง
ดวงตาที่สามกลางหน้าผากของเขาส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาเสมือนว่าเป็นเนตรแห่งความตายที่สามารถทะลวงวิญญาณของผู้คนได้ง่ายๆ
“ฝังทวยเทพ ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ตู้มม !
ร่างกายของเขายิ่งแผดประกายแสงสีเงินออกมาอย่างเข้มข้นขณะที่เนตรที่สามของเขาสร้างปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาพร้อมปรากฏร่างของดวงวิญญาณร้ายที่พากันส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาระหว่างที่เคลื่อนที่ไปรายล้อมร่างกายของหลินเทียนเอาไว้
“เจ้าจะต้องตายภายในอาณาเขตนี้ ! ”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางของอาณาเขตแห่งนี้ถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงหลังจากที่สัมผัสได้ถึงอันตรายของมัน