Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1358
อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธจัดถึงขีดสุดออกมาพร้อมๆกับสร้างอาณาเขตที่ไม่ต่างจากโลกใบเล็กขึ้นมาพร้อมๆกับฝูงวิญญาณร้ายที่พากันโถมเข้าใส่ทางหลินเทียน
นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปอย่างมากก่อนที่ร่างกายของเขาจะแผดคลื่นพลังสีทองออกมาเผชิญหน้ากับดวงวิญญาณเหล่านั้น
“ฟึ้บบ ! ”
“ฟึ้บ ! ”
“ฟึ้บบ ! ”
เปลวเพลิงอันทรงพลังได้แผดเผาดวงวิญญาณวนวอดวายอย่างง่ายดาย
ทว่าดวงวิญญาณภายในอาณาเขตนี้มันมีจำนวนมากเกินไปแถมทุกตัวเองก็ยังมีดวงตาสีแดงก่ำและรายล้อมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย
หลินเทียนไม่ได้ประมาทแม้แต่น้อยก่อนที่จะโบกเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ออกไปรับการโจมตีเหล่านั้นเอาไว้พร้อมๆกับส่งการสรรสร้างทั้งหลายเข้าบดขยี้ร่างวิญญาณของพวกมัน
“ไม่มีใครที่อยู่ในอาณาเขตนี้แล้วสามารถรอดกลับออกไปได้ ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
เมื่อคำพูดของเขาได้จบลงแล้วหลุมฝังศพทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ก็ได้ส่องประกายแสงออกมาก่อนที่ดวงวิญญาณมากมายจะพากันผุดขึ้นมา
ดวงวิญญาณเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังแถมยังพากันโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างบ้าคลั่งเสมือนหลุดออกมาจากขุมนรกอย่างไรอย่างนั้น
มันเป็นการโจมตีที่อันตรายและน่าสะพรึงกลัวอย่างมากถึงขั้นที่แม้เขาจะมีเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์และการสรรสร้างทั้งหลายแต่ก็ยังไม่เพียงพอจึงได้สังเวยเอาวงเวทยฺหยินหยางหกชั้นออกมาปกป้องร่างกายเอาไว้
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่พวยพุ่งออกไปรอบทิศทาง
คลื่นกระบี่สีทองอร่ามนี้พุ่งผ่านอากาศออกไปขณะที่เขาใช้ก้าวย่างแห่งสวรรค์เบี่ยงหลบการโจมตีทั้งหลายจนไปถึงที่สุดขอบอาณาเขตนี้
บึ้สสส ! ! มันเป็นตอนนี้เองที่มีอักขระสีเลือดปรากฏขึ้นมากลางอากาศพร้อมทั้งกระแทกร่างของเขาถอยกลับไป
มรเวลาเดียวกันนี้เองที่มีกรงเล็บที่ทรงพลังไม่ต่างจากกระบี่อาวุธสวรรค์คว้าเข้าใส่ทางเขาจากใต้พื้นดิน
ตู้มม ! ร่างของเขาได้ถูกกระแทกปลิวออกไปด้วยร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ
“ท่านอาจารย์! ”
เซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปอดส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่ได้
ระหว่างนี้เหล่าศิษย์นิกายทั้งหลายพากันส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นพลางกำหมัดเอาไว้แน่น
“กล้าคิดจะต่อกรกับท่านราชันวิหกมันรนหาที่ตายเองแท้ๆ ! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงออกมา
หลินเทียนที่อยู่ภายในอาณาเขตแห่งนี้ได้พยุงตัวเองกลับขึ้นมาพร้อมทั้งใช้ทักษะเทวะทั้งหลายบดขยี้ร่างวิญญาณที่รายล้อมอยู่รอบทิศทางก่อนที่จะพบว่าอากาศโดยรอบนั้นมีสามารถกัดกร่อนไม่ต่างจากพิษศพจักรพรรดิที่ทำให้เสื้อผ้าของเขาเริ่มย่อยสลาย
ราชันวิหกได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาว่า
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ ไม่มีใครสามารถหนีออกไปได้ ”
เป็นเพราะมันคือทักษะที่แข็งแกร่งซึ่งต้องอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าถึงจะสามารถใช้งานได้
เขาหันมองไปทางหลินเทียนพร้อมทั้งประสานมือเข้าหากันทำให้เนตรที่สามกลางหน้าผากส่องประกายแสงที่เข้มข้นกว่าเก่าออกมา
นี่ทำให้อาณาเขตเบื้องหน้าสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่ผีร้ายทั้งหลายจะพากันส่งเสียงคำรามออกมาด้วยกลิ่นอายที่พุ่งสูงขึ้นถึงเขตแดนกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าพร้อมทั้งโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่เกรงกลัว
ดวงวิญญาณเหล่านี้อันตรายและร้ายกาจอย่างมากซึ่งไม่นานก็สามารถทำลายการป้องกันของเขาได้ก่อนที่จะกัดเข้าที่ร่างของเขา
ฟึ้บบ ! วินาทีที่มันได้กัดเข้าที่หัวไหล่ของเขาก็ทำให้เลือดมากมายไหลทะลักออกมาโดยทันที
สีหน้าของเขายังคงราบเรียบขณะที่ประกายแสงสีทองระเบิดออกมาฉีกร่างของวิญญาณเหล่านั้นสลายหายไป
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถกส่งออกมาอีกครั้งพร้อมทั้งเข้าทำลายร่างศัตรูที่อยู่รอบทิศทาง
แคร๊ง !
เสียงเสียดสีกันถูกส่งออกมาก่อนที่จะปรากฏโซ่ตรวนมากมายขึ้นรอบทิศทาง
โซ่ตรวนเหล่านี้มีสีแดงฉานให้ความรู้สึกไม่ต่างจากโซ่ตรวนวิญญาณจากขุมนรกที่พุ่งเข้าหาร่างของเขาจากรอบทิศทาง
“พุฟฟ ! ”
เลือดได้สาดกระจายออกมาและถึงแม้ว่าจะมีวงเวทย์หยินหยางคอยปกป้องร่างเอาไว้โซ่นี้ก็สามารถทะลวงผ่านหน้าท้องของเขาไปได้ง่ายๆ
เลือดสีแดงสดไหลเยิ้มออกมาชโลมร่างของเขาเอาไว้
“ไอ้โง่เอ้ย รู้หรือยังว่าตัวเองมันอ่อนแอขนาดไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านผู้นั้น ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงแสยะออกมา
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมาอย่างมาก
และแม้จะเป็นกังวลทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะระดับพลังของพวกเขามันต่ำเกินไปซึ่งหากว่าก้าวออกไปแล้วไม่เพียงแค่จะไม่ช่วยอะไรแต่ยังเป็นภาระให้กับหลินเทียน
โร๊วว !
เสียงร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ผีร้ายทั้งหลายพากันแผดกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่โซ่ตรวนทั้งหลายได้สั่นไหวอีกครั้ง
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางการโจมตีเหล่านี้ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ร่างของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด
มันทำให้คิ้วของเขาถึงกับขมวดเข้าหากันและต้องยอมรับเลยว่าเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่านี้มันแข็งแกร่งจริงๆ
“แกร๊ง! ”
เขาฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปทำลายโซ่ตรงหน้าก่อนที่จะพุ่งผ่านออกไป
พริบตาฝูงวิญญาณก็พากันโถมเข้าใส่ทางเขาอย่างต่อเนื่อง
“จุดจบเดียวของเจ้าเมื่ออยู่ท่ามกลางอาณาเขตนี้คือการที่เจ้าจะต้องถูกพวกมันกลืนกินหรือไม่ก็ถูกทะลวงผ่านดวงวิญญาณโดยโซ่ตรวนเหล่านั้น ”
ราชันวิหกส่งเสียงออกมา
สายตาของเขายังคงความเย็นยะเยือกขณะที่กำลังก้มมองลงไปยังร่างของหลินเทียนด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้ได้หันมองออกไปทางฝ่ายตรงข้ามเล็กน้อยก่อนที่จะฟาดฟันคลื่นกระบี่เข้าใส่ฝูงผีร้ายและโซ่ตรวนทั้งหลาย
“อย่าเพิ่งได้ใจไปหน่อยเลย ”
เขาส่งเสียงออกมาก่อนที่จะเบิกเนตรแห่งสัจธรรมขึ้นมา
วินาทีนี้เองที่ตรามังกรมากมายได้รายล้อมดวงตาของเขาเอาไว้
มันทำให้เขาสามารถทำความเข้าใจอาณาเขตแห่งนี้ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการก่อตัวขึ้นของโซ่ตรวนหรือว่าไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทั้งหลายที่ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
เขาเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเริ่มทำการวิเคราะห์จุดเปราะที่สุดของอาณาเขตนี้
โร๊ววว !
เสียงกู่ร้องคำรามถูกส่งออกมาอีกครั้งขณะที่โซ่ตรวนสีเลือดมากมายพากันโถมเข้าใส่จากทุกทิศทาง
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาก่อนที่จะเบี่ยงหลบพวกมันอย่างง่ายดายโดยที่มันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เขาได้อีก
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบถึงกับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงเพราะไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะยังใจเย็นอยู่ได้แถมโซ่ตรวนทั้งหลายก็เหมือนจะหมดสภาพไป
สายตาของราชันวิหกได้จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินเทียนก่อนที่จะจดจ่อไปยังดวงตาคู่นั้นพร้อมทั้งตระหนักได้ถึงความพิเศษของมัน
“พอกันที ! วิญญาณทั้งหมดโจมตีพร้อมกัน ! ตายไปซะ ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังและไม่คิดจะเปิดโอกาสให้หลินเทียนได้ตอบโต้แม้แต่น้อย
นี่ทำให้ดวงวิญญาณทั้งหลายพากันผุดขึ้นมาจากหลุมศพก่อนที่จะรายล้อมสถานที่แห่งนี้ทั้งหมดเอาไว้พลางโถมเข้าใส่ทางหลินเทียน
มันเป็นการโจมตีที่ทรงพลังและน่ากลัวอย่างมากถึงขั้นที่มีความสามารถพอที่จะสังหารหลินเทียนได้ง่ายๆ
แน่นอนว่าหลินเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของมันดีแต่สีหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งสังเวยเอาวงเวทย์สังสารวัฏออกมารับเอาไว้
เสียงฟึ้บบ ! ถูกส่งออกมาก่อนที่ดวงวิญญาณทั้งหมดจะแหลกสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“เป็นไปไม่ได้ ! ”
ราชันวิหกส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
เป็นเพราะว่าเขาได้รีดศักยภาพที่สูงที่สุดของมันออกมาแล้วทว่ากลับถูกทำลายลงภายในชั่วพริบตาเท่านั้น
เขาได้แต่แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมาขณะที่มองออกไปยังวงเวทย์สังสารวัฏตรงหน้าด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
“นี่มัน…….”
ด้วยความที่เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าดังนั้นถึงได้สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของวงเวทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
ระหว่างนี้เองที่สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบเองก็ต่างจดจ่ออยู่กับวงเวทย์วงนี้
“นี่มันเป็นวงเวทย์ที่แข็งแกร่งมากๆ ! ความรู้สึกมันเหมือนกับ……..มันเป็นเหมือนกับโลกที่สมบูรณ์ทั้งใบเลยก็ว่าได้ ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
เซียนเซียนเองก็แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาเช่นเดียวกัน
ตู้มมม !
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางอาณาเขตแห่งนี้ที่ได้สังเวยเอาวงเวทย์หยินหยางออกมานั้นปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังไม่ต่างจากทวยเทพออกมา
“อย่างที่เจ้าว่า พอกันที ”
เขาหันมองออกไปก่อนที่สายตาจะหยุออยู่ที่จุดที่เปราะบางที่สุดพร้อมทั้งซัดวงเวทย์สังสารวัฏออกไปทันที
เสียงปริแตกถูกส่งตามออกมาก่อนที่ทักษะนี้จะพังทลายลงอย่างง่ายดาย
ราชันวิหกได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงว่า
“เจ้า…..”
“วิ้สส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งตามออกมาขณะที่ร่างของหลินเทียนได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขาพร้อมทั้งซัดวงเวทย์สังสารวัฏเข้าใส่อย่างจัง
มันคือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาทำให้สามารถบดขยี้ร่างกายของอีกฝ่ายลงได้อย่างง่ายดาย
ภาพเหล่านี้ทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหลายได้แต่สั่นสะท้านไปตามๆกันไม่เว้นแม้กระทั่งบรรพบุรุษที่สองของพวกเขา
“ไอ้มนุษย์ชาติชั่ว! ”
ราชันวิหกส่งเสียงคำรามออกมาขณะที่ดวงวิญญาณของเขาส่องประกายพร้อมทั้งสร้างกายหยาบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายแล้วซัดวงเวทย์สังสารวัฏเข้าใส่อีกครั้งก่อนที่จะสังเวยสัจธรรมของตัวเองออกมาสถานมันเอาไว้
“พุฟฟ ~! ”
เลือดฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ระหว่างที่เศษเนื้อและกระดูกมากมายกระจายไปทุกหย่อมหญ้า