Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1359
เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่ร่างของราชันวิหกแหลกสลายกลายเป็นชิ้นๆ
“ท่านราชันวิหก ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
บรรพบุรุษที่สองเองก็ได้แต่โง่งมไปไม่ต่างกัน
“โร๊ววว ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่เศษชิ้นเนื้อก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
หลินเทียนได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่วงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏกดทับลงไปด้านหน้า
“เปลวเพลิงสัจธรรม ! ”
ราชันวิหกได้กระพือปีกของเขาก่อนที่จะสังเวยทักษะสังหารอันทรงพลังผสานกับสัจธรรมนับสิบชนิดซึ่งแต่ละชนิดเองก็ทรงพลังอย่างมากพร้อมทั้งกดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปขณะที่ประกายแสงแห่งความโกลาหลพวยพุ่งออกไปรอบทิศทาง
หลินเทียนยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบขณะที่ดวงตาของเขามองทะลุผ่านทักษะนี้พร้อมทั้งทำลายมันก่อนที่วงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏของเขาจะกดทับเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย
พุฟฟ ! เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่ร่างกายของราชันวิหกแหลกสลายหายไปอีกครั้ง
“เจ้ามนุษย์ ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังเพราะว่าตั้งแต่ที่เขาใช้ชีวิตมานี้ตัวเขาเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานอย่างมากถึงขั้นที่ขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดทางตะวันตกยังไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำทว่าตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์กลับสามารถทำลายร่างกายของเขาได้หลายต่อหลายครั้ง
นี่มันเป็นการความอับอายอย่างถึงที่สุด !
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่ทักษะสังหารอันทรงพลังสูบพลังจากหมู่ดาวก่อนที่จะซัดเข้าใส่ทางหลินเทียน
คลื่นพลังอันหนักหน่วงจากรอบทิศทางได้ระเบิดออกมาทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าเอาไว้
หากว่าไม่ได้เป็นเพราะดินแดนแห่งนี้มั่นคงเพียงพอแล้วก็คงจะแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว
หลินเทียนเบิกเนตรแห่งสัจธรรมของเขาขึ้นมาพร้อมทั้งจ้องมองไปยังแก่นแท้ของการโจมตีนี้ก่อนที่จะซัดวงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏออกไป
ตู้มม !
ตู้ม !
ตู้มมม !
คลื่นพลังทำลายอันหนักหน่วงได้กดทับลงไปก่อนที่จะทำลายมิติที่อยู่รอบข้างสลายหายไปทั้งหมด
และมันเป็นตอนนี้เองที่การโจมตีของเขาได้กระแทกเข้าใส่ร่างของมันอีกครั้ง
พุฟฟ
เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่ร่างกายของอีกฝ่ายแปรเปลี่ยนกลายเป็นกองเลือดที่ฟุ้งอยู่ในอากาศ
ระหว่างนี้เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเพราะถึงอย่างไรการที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในสภาพที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
“ระยำเอ้ย !!! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่กายหยาบก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
ร่างกายของหลินเทียนตอนนี้ชโลมไปด้วยเลือดก็จริงแต่ทว่าสีหน้าของเขากลับยังคงความเย็นยะเยือกเอาไว้พลางก้าวเดินออกไปพร้อมทั้งซัดวงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏเข้าใส่อย่างไม่ปราณี
พุฟฟ !
ร่างกายของอีกฝ่ายแหลกสลายหายไปอีกครั้ง
“อ๊ากก ! ”
ราชันวิหกส่งเสียงกู่ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธถึงขีดสุดก่อนที่จะรีบก่อสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
สายตาของหลินเทียนในตอนนี้ยังคงราบเรียบและเป็นเพราะว่าสูญเสียพลังเทวะไปเป็นจำนวนมากทำให้เขาเก็บเอาวงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏกลับไปพร้อมทั้งพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายแล้วเหวี่ยงหมัดรัวเข้าใส่อย่างจัง
“ตู้ม ม ! ”
“ตู้ม ! ”
“ตู้มมม ! ”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของอีกฝ่ายร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“ท่านราชันวิหกเขา…….พ่ายแพ้ ?! ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
“ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ ท่านผู้นั้นจะต้องเอาชนะได้อย่างแน่นอน พวกเราจะไม่มีทางแพ้ให้กับพวกดินแดนศูนย์กลาง ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงออกมาเพราะว่าทวยเทพที่พวกเขาบูชาจะแพ้ได้อย่างไรกัน ?!
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดเพราะดูเหมือนว่าหลินเทียนกำลังเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบในตอนนี้ !
ตู้มมม !
เสียงระเบิดถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ราชันวิหกปลดปล่อยคลื่นพลังออกไปรอบทิศทางทำให้มิติโดยรอบฉีกขาดออกจากกัน
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังของเขาอัดเข้าใส่แก้วของอีกฝ่ายทำให้ใบหน้ากว่าครึ่งแหลกสลายหายไปทั้งแถบขณะที่ฟันและกองเลือดกระจัดกระจายไปทั่ว
นี่ทำให้ราชันวิหกได้แต่ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังว่า
“ไอ้ระยำ……”
ตู้มม !
เขาที่เพิ่งจะส่งเสียงออกมาได้ถูกหลินเทียนต่อยอัดไปอีกครั้งทำให้ใบหน้าอีกครึ่งที่เหลือแหลกสลายหายไปกลายเป็นสภาพที่น่าสยดสยองอย่างมาก
โร๊ววว !
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมๆกับรีบฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็วขณะที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธถึงขีดสุด
หลินเทียนไม่ได้สนใจอะไรก่อนที่จะเหวี่ยงขาของเขาเตะร่างของอีกฝ่ายพุ่งออกไปกระแทกเข้ากับภูเขาที่อยู่ห่างออกไปจนระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ต่อจากนั้นก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวพร้อมทั้งโบกมือส่งคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์จำนวนมากพวยพุ่งตามออกไป
พุฟฟ !
พุฟ !
พุฟฟ !
อีกฝ่ายที่เพิ่งพยุงตัวเองกลับขึ้นมาได้ถูกคลื่นกระบี่เหล่าทะลวงผ่านจนร่างพรุนเป็นรูโหว่
หลินเทียนซัดฝ่ามือซ้ำออกไปก่อนที่จะใช้เท้ากระทืบอัดลงบนหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างจัง
นี่ทำให้ราชันวิหกได้แต่กระอักเลือดออกมาคำโตขณะที่ร่างกายแหลกสลายด้วยสภาพที่น่าสังเวชถึงขีดสุด
“ระยำเอ้ย ! ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้ ! ข้าจะฆ่าเจ้า ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
หลังจากนั้นเองที่ประกายแสงเจิดจรัสได้ส่องประกายออกมาจากร่างของเขาก่อนที่มิติโดยรอบจะสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมๆกับกลิ่นอายที่ปะทุออกมาจากร่างของเขาเสมือนดั่งภูเขาไฟระบิด
นี่ทำให้สีหน้าของหลินเทียนเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงพร้อมทั้งรีบเหวี่ยงหมัดอัดเข้าใส่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างจัง
เสียงแตกหักถูกส่งออกมาขณะที่ราชันวิหกกระอักเลือดออกมาคำโต
อย่างไรก็ตามกลิ่นอายที่พวยพุ่งออกมากลับเข้มข้นยิ่งกว่าเก่า
“ตาย !!! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาด้วยสีหน้าที่ดุร้ายถึงขีดสุด
มันเป็นตอนนี้เองที่กลิ่นอายที่แผดออกมาเริ่มส่งผลให้มิติโดยรอบบิดตัวอย่างรุนแรงหลินเทียนที่อยู่ข้างๆถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงหลังจากที่สัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่เสมือนว่าอสูรร้ายกำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาทำให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง
เขาไม่ลังเลเลยที่จะกระทืบร่างของอีกฝ่ายอย่างจังพร้อมทั้งพุ่งทิ้งระยะห่างถอยออกไปไกล
“ตู้มมม ! ”
มันเป็นตอนนี้เองที่ร่างกายของอีกฝ่ายได้ระเบิดประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังออกมาบดขยี้ทั้งมิติและอากาศที่อยู่โดยรอยอย่างฉับพลัน
มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวถึงขั้นที่แม้แต่หลินเทียนเองก็ยังรู้สึกขนหัวลุก
“เจ้ามนุษย์ ! ”
อีกฝ่ายยืนกลับขึ้นมาด้วยสายตาที่ดุร้ายขณะที่ประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ล่องลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา
มันเป็นประกายแสงที่ทรงพลังซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากศิลาหินที่รายล้อมไปด้วยอักขระมากมาย
สีหน้าของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปอีกครั้งเพราะศิลานี้มันทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวไม่หยุด
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่พยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงโห่ร้องออกมาว่า
“นั่นมัน…….ศิลาหินที่ผุดออกมาจากใต้ภูเขาไท่ !! ”