Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1364
ราชันวิหกได้ตกตายลงไปแล้วเหลือไว้เพียงร่างกายหยาบเปล่าๆเท่านั้น
หลินเทียนโบกมือของเขาออกไปเก็บเอาร่างๆนี้เอาไว้
นี่เป็นความตั้งใจแต่แรกของเขาอยู่แล้วเพราะถึงอย่างไรเลือดเนื้อของอีกฝ่ายเองก็ถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากๆและหากว่าเขาหล่อหลอมเข้ากับมันแล้วก็คงทำให้ระดับพลังของเขาตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 9 ได้อย่างแน่นอน
“ไอ้นกเฒ่าจากดินแดนนิรันดร์สามตัวทิ้งไข่เอาไว้ภายในโลกนี้แบบนี้นี่มัน…….”
พยัคฆ์ขาวได้แต่ผงะไป
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้มันก็เคยได้เห็นความแข็งแกร่งของทั้งสามคนมาก่อนแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะเป็นลูกหลานของผู้เชี่ยวชาญจากดินแดนนิรันดร์ที่อยู่บนโลกใบนี้
“ดินแดนนิรันดร์ สรวงสวรรค์ ”
มันถอนหายใจออกมา
หลินเทียนเองก็ไม่ต่างกันเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีโลกอันกว้างใหญ่ที่อยู่เหนือโลกใบนี้อยู่ด้วย
“ไม่รู้เลยว่ามันจะกว้างใหญ่ขนาดไหนกัน อยากจะก้าวข้ามไปในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ ”
เซียนเซียนส่งเสียงออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายอย่างมาก
หลินเทียนถอนหายใจของเขาออกมาและเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วก็อดเขกหัวนางพลางพูดออกมาไม่ได้ว่า
“เจ้าหนูน้อย อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นอยู่เลย ควรจะคิดถึงเรื่องตัดผ่านเขตแดนเพื่อสามารถออกไปท่องในห้วงจักรวาลให้ได้เสียก่อน ”
แม้ว่าการบ่มเพาะจะเป็นสิ่งที่ดูลึกลับและไร้เทียมทานสำหรับผู้คนธรรมดาทว่าหลังจากที่ก้าวเดินบนเส้นทางนี้แล้วจะรู้ว่ามันเป็นเส้นทางที่ทรหดและยากเย็นแสนเข็นอย่างมากดังนั้นเขาถึงไม่อยากจะให้นางตั้งเป้าหมายสูงเกินไปเพราะถึงอย่างไรนางก็ยังเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนวิญญาณนิรันด์เท่านั้น การที่คิดถึงเรื่องการก้าวข้ามไปยังดินแดนนิรันดร์มันมีแต่จะทำให้รากฐานการบ่มเพาะของนางไม่มั่นคงเท่านั้น
เซียนเซียนเองที่เป็นคนมีไหวพริบเองก็รู้ดีว่าหลินเทียนนั้นเป็นห่วงนางดังนั้นถึงได้รีบคว้าแขนของเขาแกว่งไปมาอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า
“ขอบคุณท่านอาจารย์มากๆ ข้าจะตั้งใจและไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน ”
“ข้าไม่ใช่อาจารย์ของเจ้า ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยสีหน้าที่หมดคำพูด
เซียนเซียนได้หัวเราะออกมาว่า
“แหม ท่านก็ยังเขินอายอยู่เหมือนเคยเลยนะ ”
หลินเทียนได้แต่หันหน้าหนีโดยที่ไม่ตอบกลับแม้แต่น้อย
“พวกเจ้าศิษย์อาจารย์สนิทกันดีหนิ ”
พระสันตะปาปาส่งเสียงออกมาด้วยรอยยิ้ม
หลินเทียนเองก็อยากจะอธิบายว่าเขาไม่ใช่อาจารย์ของแม่หนูน้อยคนนี้ทว่าหลังจากที่คิดๆดูแล้วก็ทิ้งความคิดนี้ไป
พระสันตะปาปาหัวเราะออกมาก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจังและเคารพว่า
“ต้นตอแห่งหายนะได้ถูกทำลายลงแล้ว ต้องขอขอบคุณสหายจากดินแดนศูนย์กลางจริงๆที่ช่วยพวกเราถอนรากถอนโคนพวกมัน ไม่สิ ต้องบอกว่าขอบคุณที่ช่วยโลกใบนี้เอาไว้ ”
เป็นเพราะว่าจากแผนการอันชั่วร้ายของอีกฝ่ายนั้นอยากจะใช้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเป็นเครื่องสังเวยและหากว่าไม่ได้หลินเทียนช่วยเอาไว้แล้วเขาก็ไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมาเลยแม้แต่น้อย
หลินเทียนโบกมือของเขาพร้อมกับพูดว่า
“พระสันตะปาปา ท่านเองก็สุภาพเกินไป การที่สังหารพวกมันเป็นหน้าที่ของข้าและเป็นสิ่งที่ควรจะพึงกระทำอยู่แล้ว ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดต่อว่า
“ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าไม่ใช่เพราะท่านแล้วข้าก็คงจะตกตายลงไปนานแล้ว ”
นี่ไม่ใช่การตอบกลับอย่างถ่อมตัวทว่าความเป็นจริงมันเป็นเช่นนั้นจริงๆเพราะหากว่าไม่ได้รับพลังจากพระสันตะปาปามาในตอนที่อีกฝ่ายฟื้นคืนพลังจากการดูดกลืนเลือดเนื้อของเหล่าศิษย์แล้วเขาก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตไปแล้ว
หลังจากนั้นเขาก็ได้เก็บเอาศิลาหินกลับไปพร้อมทั้งหันมองออกไปพลางถามด้วยท่าทางที่สุภาพว่า
“อ่อใช่ โปรดช่วยชี้แนะข้าเกี่ยวกับเรื่องพลังแห่งความเชื่อด้วย ”
เป็นเพราะว่าเขาให้ความสำคัญกับพลังอันลึกลับนี้มากๆ
“สหาย เจ้าเองก็สุภาพเกินไปแล้ว ชี้แนะอะไรกัน เรียกว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่า ”
พระสันตะปาปาส่ายศีรษะของเขาพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“พลังแห่งความเชื่อก็เป็นอย่างที่มันว่าเอาไว้ หากว่าใครคนใดเกิดรู้สึกเชื่อและบูชาคนนั้นจริงๆแล้วพลังนี้ก็จะถือกำเนิดขึ้น”
“ความเข้มข้นของพลังก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ศรัทธาซึ่งจะทำให้พลังเหล่านี้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังให้กับผู้ถูกศรัทธา”
พระสันตะปาปาอธิบายเรื่องราวต่างๆออกมารวมถึงวิธีการใช้งานมันอย่างละเอียด
“พลังแห่งความเชื่อนี้เกิดจากผู้ให้ความศรัทธา แล้วมันจะมีผลข้างเคียงอะไรกับพวกเขาไหม ? ”
หลินเทียนถามออกมา
“ไม่ สำหรับมนุษย์ธรรมดาแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีผลเสียอะไร ”
พระสันตะปาปาส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า
“แถมหากว่าศรัทธาถึงจุดหนึ่งแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะหรือผู้คนธรรมดาก็จะได้รับประโยชน์ทางด้านจิตใจไม่น้อยทำให้เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าเลยก็ว่าได้ ”
หลินเทียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพราะเขาเองก็เคยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบเดียวกันมาก่อนในสวรรค์สิบชั้นซึ่งเขาเองก็ตรวจสอบผู้คนที่ส่งถ่ายพลังแห่งความเชื่อมาให้เขาแล้วว่าไม่ได้รับผลเสียอะไรและคำพูดของพระสันตะปาปาก็เป็นเหมือนการยืนยันเรื่องนี้
เขานั่งขัดสมาธิลงกับที่ก่อนที่จะเริ่มการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อนี้ซึ่งพระสันตะปาปาเองก็อธิบายให้กับฟังอย่างละเอียดในแต่ละหัวข้อโดยที่ไม่หมกเม็ดแม้แต่น้อย
ไม่นานเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าหนึ่งวันเต็ม
วันนี้เป็นวันที่เขาได้รับประโยชน์มาอย่างมากมายก่ายกองซึ่งระหว่างที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนี้เขาก็ได้ชี้แนะในด้านต่างๆให้อีกฝ่ายเช่นกัน
“ขอบคุณมากๆ ”
เขาได้ยืนขึ้นพร้อมทั้งส่งเสียงออกมาอย่างจริงจัง
ในหนึ่งเดือนมานี้ให้ความรู้สึกเสมือนว่าเขาได้เปิดเส้นทางใหม่ขึ้นเลยก็ว่าได้