Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1367
เป็นเพราะว่าคริสตัลโกลาหลบรรพกาลนั้นเป็นสมบัติที่หาได้ยากยิ่งโดยที่ถือว่าเป็นสมบัติที่เหมาะแก่การนำมาหลอมเป็นอาวุธโดยที่ไม่มีวัสดุไหนเทียบเคียงได้ดังนั้นในเมื่อเขาได้รับมันมาแล้วก็อยากจะเอามันไปหลอมเป็นอาวุธโดยทันที
เขาได้หันไปพูดกับทั้งสองคนก่อนที่จะเหาะออกไปยังสันเขาแห่งหนึ่ง
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบได้กับต้นไม้มากมายที่เหี่ยวเฉาเป็นส่วนใหญ่แถมพื้นดินเองก็ยังแตกระแหงอยู่รอบทิศทาง
“ท่านอาจารย์มาที่นี่ทำไมกัน ? ”
เซียนเซียนได้ถามออกมา
“หลอมอาวุธ ”
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้เปิดโลกใบเล็กของตัวเองเพื่อหยิบเอาวัตถุดิบออกมาอย่างรวดเร็ว
คริสตัลโกลาหลบรรพกาลขนาดเท่ากำปั้นรายล้อมไปด้วยตรามังกรมากมายส่องประกายแสงเจิดจรัสสีม่วงออกมาเสมือนว่าเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆก็สามารถบดขยี้ขุนเขาได้อย่างง่ายดาย
“นี่แหละคือมรดกอย่างแท้จริง หากว่าหลอมขึ้นด้วยเจ้าสิ่งนี้แล้วต่อให้แหลกเป็นเสี่ยงๆก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ง่ายๆ ”
ดวงตาของพยัคฆ์ขาวส่องประกายออกมาโดยทันที
เป็นเพราะว่าหากอาวุธธรรมดาถูกทำลายลงนั้นก็ยังต้องใช้เวลาและสังเวยแก่นชีวิตและดวงวิญญาณของผู้ใช้เพื่อฟื้นฟูดังนั้นจึงได้ไม่เท่าเสียทว่ามันต่างออกไปกับคริสตัลโกลาหลบรรพกาลนี้เพราะแม้ว่ามันจะก่อตัวขึ้นจากกลิ่นอายโกลาหลทำให้แทบจะไม่มีอะไรสามารถทำลายมันได้และต่อให้มันถูกทำลายก็สามารถฟื้นฟูตัวเองดือย่างรวดเร็วโดยที่ไม่จำเป็นต้องสังเวยดวงวิญญาณหรือแก่นชีวิตแม้แต่น้อย นี่ทำให้มันถูกเรียกว่าเป็นอาวุธมรดกเลยก็ว่าได้
“พวกเจ้าถอยห่างออกไปหน่อย ”
หลินเทียนหันมองไปทางเซียนเซียนและพยัคฆ์ขาว
เป็นเพราะตอนนี้เขาต้องเริ่มการหลอมอาวุธขึ้นแล้วซึ่งในระหว่างนี้จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดไปกับมันและไม่มีเวลาพอที่จะให้ความสนใจกับทั้งสองคนนี้ซึ่งการที่พวกเขาอยู่ใกล้เกินไปก็อาจจะไม่สามารถต้านทานกลิ่นอายของมันได้
ทั้งสองคนเองก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะรีบพากันถอยห่างออกไป
หลินเทียนที่เห็นว่าพวกเขาถอยห่างออกไปไกลแล้วก็ได้สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเริ่มลบล้างตรามังกรทั้งหลายออกไป
“เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ ”
เขาพึมพำอยู่กับตัวเองก่อนที่จะส่งความคิดออกไปทำให้เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ลุกโชนขึ้น
มันคือเปลวเพลิงเทวะที่แข็งแกร่งอย่างมากก่อนที่จะโอบตัวคริสตัลนี้เอาไว้
และในเวลาเดียวกันนี้เองที่ตรามังกรเริ่มสลายหายไป
ทันใดนั้นเองที่เกิดเสียงระเบิดขึ้นมาอย่างดังขณะที่กลิ่นอายอันทรงพลังไหลทะลักออกไปรอบทิศทางทำให้มิติแห่งนี้สั่นไหวอย่างรุนแรง
“นี่มัน…….”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปได้แต่แข็งค้างไป
“นี่มัน…..น่ากลัวเกินไปแล้ว ! ”
เซียนเซียนเองก็ได้แต่คอหดอยู่กับที่
เป็นเพราะก่อนหน้านี้หลินเทียนได้ผนึกกลิ่นอายของมันเอาไว้ทำให้พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันรุนแรงของมันมากนักทว่าหลังจากที่หลินเทียนได้ปลดปล่อยตรามังกรแล้วกลิ่นอายที่ไหลทะลักออกมาก็อดทำให้พวกเขารู้สึกขนหัวลุกไปไม่ได้
เป็นเพราะว่ากลิ่นอายที่รายล้อมมันเอาไว้ช่างทรงพลังเหลือเกินและแม้พวกเขาจะอยู่ห่างออกไปไกลหลายกิโลเมตรทว่าก็ยังรู้สึกเสมือนว่าร่างกายกำลังจะแหลกสลายหายไปอยู่ดี
“บึ้สสส ! ”
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ได้ส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาก่อนที่คริสตัลโกลาหลบรรพกาลจะเริ่มผสานเข้ากับมัน
เป็นเพราะว่าสิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำคือการหลอมละลายมัน
แต่แน่นอนว่าด้วยความที่มันมีความแข็งอย่างมากดังนั้นการจะหลอมมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยและต่อให้ใช้เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ด้วยระดับพลังของเขาแล้วก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้เวลามากๆ
นี่ทำให้เขาหมุนวนเปลวเพลิงอยู่อย่างเต็มกำลังขณะที่เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าสามเดือนเต็มซึ่งสามเดือนมานี้เขาก็สามารถทำให้มันหลอมละลายได้เสียที
เมื่อมองออกไปยังของเหลวสีม่วงตรงหน้าที่ไม่มีสิ่งสกปรกอะไรผสมอยู่แล้วมันให้ความรู้สึกที่ดูงดงามเป็นอย่างมาก
“ขนาดใช้เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ก็ยังกินเวลาไปถึงสามเดือนเต็ม ! ”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงออกมา
เพียงแค่จุดนี้ก็เพียงพอจะอธิบายได้ถึงความไม่ธรรมดาของมันแล้ว
“ไม่รู้เลยว่าท่านอาจารย์คิดจะหลอมอาวุธแบบไหนกัน ”
ดวงตาของเซียนเซียนจับจ้องอยู่กับภาพเบื้องหน้า
เป็นเพราะว่าอาวุธในโลกนี้มีอยู่มากมายหลายแขนงไม่ว่าจะเป็น ดาบ กระบี่ ง้าว กระบอก เตาพลังวิญญาณและอื่นๆอีกมากมายหลายชนิดดังนั้นถึงได้รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก
“บึ้สส ! ”
เปลวเพลิงหยางยังคงส่องประกายแสงสีทองโชติช่วงอยู่อย่างต่อเนื่อง
ของเหลวสีม่วงที่ผสมผสานไปด้วยเปลวเพลิงนี้ให้ความรู้สึกที่งดงามเป็นอย่างมาก
หลินเทียนที่กำลังจ้องมองไปทางมันเองก็ตัดสินใจเอาไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
เป็นเพราะว่าเขาคิดจะใช้มันหลอมขึ้นมาเป็นเจดีย์ !
มันเป็นสิ่งที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายโปรดปรานตั้งแต่อดีตเพราะสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการโจมตีและการสยบศัตรู
“หล่อหลอม ! ”
ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาก่อนที่จะส่งเสียงออกมาเบาๆ
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ของเขายิ่งแผดกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมาขณะที่หน้าผากส่องประกายแสงพร้อมๆกับเริ่มการหล่อหลอมและบีบอัดของเหลวทั้งหลายขึ้นเป็นรูปทรงอาวุธ
“บึ้สส ! ”
กลิ่นอายสีม่วงแผดขยายออกไปรอบทิศทางขณะที่แสงสะท้อนส่องประกายไปทั่ว
ไม่นานกลิ่นอายอันทรงพลังก็ได้พวยพุ่งออกมาส่งผลให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงเสมือนว่าทุกสิ่งกำลังจะถูกบดขยี้ไป
“นี่มัน…..คือคริสตัลโกลาหลบรรพกาล ขนาดยังไม่เสร็จสมบูรณ์กลับยังสามารถส่งกลิ่นอายขนาดนี้ออกมาได้ ! ”
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์สั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่หลินเทียนกำลังตั้งใจอยู่กับการบีบอัดมันอย่างเต็มที่
หลังจากนั้นเขาก็ได้เบิกเนตรแห่งสัจธรรมขึ้นมาพร้อมทั้งตั้งใจสังเกตทุกความเปลี่ยนแปลงของมัน
ตู้มมม !
ประกายแสงที่ส่งออกมายิ่งเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่พลังของมันจะพุ่งสูงถึงจุดสูงสุด
“กลิ่นอายระดับนี้มันก้าวข้ามระดับอาวุธสวรรค์ตอนปลายไปแล้ว ! ”
สายตาของพยัคฆ์ขาวหดเล็กลงโดยทันที
ความจริงที่ว่าแม้อาวุธของหลินเทียนยังไม่ก่อรูปขึ้นมาแต่พลังทำลายที่มันส่งออกมาไม่ได้ด้อยไปกว่าอาวุธสวรรค์ตอนปลายเลยด้วยซ้ำนี้ทำให้มันได้แต่ใจสั่นไปเพราะกลิ่นอายที่รุนแรงขนาดนี้แล้วหากว่ามันเสร็จสมบูรณ์แล้วจะทรงพลังขนาดไหนกัน ?
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ก็ยังคงส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาอย่างต่อเนื่อง
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่า 14 ชั่วโมงเต็ม
“บีบอัดขึ้นรูป ! ”
น้ำเสียงนี้ถูกส่งออกมาจากปากของหลินเทียน
ไม่นานเปลวเพลิงที่ทรงพลังก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีกก่อนที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะระเบิดออกมา
มันทำให้สันเขาแห่งนี้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีทองอร่ามขณะที่ประกายแสงสีม่วงระเบิดออกไปรอบทิศทางและเผยให้เห็นรูปลักษณ์ของมัน
มันเป็นเจดีย์สีม่วงเก้าชั้นที่มีความใสบริสุทธิ์ไม่ต่างจากน้ำรายล้อมไปด้วยอักขระมากมายส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาเสมือนว่าสามารถสยบได้ทุกสรรพสิ่ง
เจดีย์นี้ให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงไม่ต่างจากห้วงจักรวาลส่งผลให้มิติโดยรอบปริแตกโดยทันที
“ดีมาก ! ”
ดวงตาของหลินเทียนส่องประกายออกมาเพราะสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของมันดีว่ามันสามารถทำลายได้แม้กระทั่งห้วงจักรวาล
ทั้งสองคนที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันผงะไปเพราะพวกเขาเองก็ตกตะลึงไปกับกลิ่นอายของมัน
“สมบูรณ์แล้วงั้นรึเจ้าหนู ? ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
“ยังขาดอยู่นิดหน่อย ”
หลินเทียนพูดออกมา
เขาได้มองออกไปทางมันก่อนที่จะแย่งดวงวิญญาณและแก่นโลหิตของตัวเองออกไปผสานเข้ากับมันพร้อมทั้งเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์หล่อหลอมมันอีกครั้ง
เป็นเพราะสิ่งที่เขากำลังจะหลอมคืออาวุธวิญญาณของตัวเองดังนั้นจึงจำเป็นต้องสังเวยดวงวิญญาณและแก่นพลังชีวิตส่วนหนึ่งให้กับมันเพื่อให้มันสามารถวิวัฒนาการไปพร้อมๆกับเขาได้
อีกอย่างมันก็ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุชั้นเลิศอย่างคริสตัลโกลาหลบรรพกาลดังนั้นมันจึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาและหากว่าเขายังไม่ตายมันก็จะไม่ถูกทำลายเด็ดขาด
“บึ้สสส ~! ”
สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูสุขุมอย่างมากขณะที่เปลวเพลิงหล่อหลอมมัน
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปอีกกว่าหนึ่งเดือนเต็ม
ตู้มมม !
วันนี้มันเป็นวันที่กลิ่นอายอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมาทำให้โลกทั้งใบสั่นไหวอย่างรุนแรง
เปลวเพลิงได้สลายหายไปก่อนที่เจดีย์นี้จะล่องลอยเข้ามาอยู่เหนือศีรษะของเขาส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาปกคลุมร่างของเขาเอาไว้
หลินเทียนมองกลับขึ้นไปด้วยความรู้สึกที่ใกล้ชิดเสมือนว่าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของเขา
หลังจากนั้นเขาก็ได้โบกมือและส่งความคิดออกไปทำให้มิติโดยรอบสลายหายไปพร้อมแปรเปลี่ยนกลายเป็นห้วงความโกลาหลขณะที่เจดีย์ขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็นหลายสิบเมตรสร้างความรู้สึกที่สามารถสยบได้ทุกสิ่งออกมาก่อนที่จะสั่งให้มันหดและกลับมาอยู่เหนือศีรษะของเขาอีกครั้ง
เพียงแค่ความคิดของเขาก็สามารถควบคุมมันได้ประหนึ่งว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
ทว่าพลังทำลายของมันนั้นเรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวเลยก็ว่าได้
“เยี่ยม ”
ดวงตาของเขาส่องประกายความสุขออกมา
เป็นเพราะว่านี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้