Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1384
ด้านหลังประตูทางเข้านั้นมีพื้นที่กว้างมากๆแถมตามผนังยังรายล้อมไปด้วยอักขระเก่าแก่ไม่ต่ำกว่าแสนๆปีมากมาย
สายตาของหลินเทียนได้หยุดอยู่ที่อักขระเหล่านี้พร้อมทั้งอดมีดวงตาที่เปล่งประกายออกมาไม่ได้
เป็นเพราะว่ามันคืออักขระเฉพาะของทักษะปรุงยาที่ไม่ได้เป็นของเคล็ดวิชาปรุงยาแขนงอื่น
“นี่มัน….”
เขาได้แต่คิดถึงเรื่องที่ได้ยินมาก้อนหน้านี้ว่าเจ้าของสุสานแห่งนี้บังเอิญได้พบกับตำราปรุงยาที่ไม่สมบูรณ์เข้าทำให้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านนี้แต่เมื่อได้เห็นตัวอักขระเหล่านี้แล้วเขาก็อดมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่ได้เพราะว่าสิ่งที่อีกฝ่ายได้รับไปคือโครงร่างของทักษะปรุงยา ?
“หากว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆก็แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่จ้าวโอสถออกมาจากสวรรค์สิบชั้นแล้วก็บังเอิญทิ้งตำราเอาไว้ก่อนที่เจ้าของสุสานคนนี้จะไปพบเข้า ? ”
เขาได้แต่แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
เป็นเพราะว่าจ้าวสวรรค์จากสวรรค์สิบชั้นนั้นเป็นที่รู้จักกันดีซึ่งเขาเคยคิดว่าเคล็ดวิชาของคนเหล่านั้นล้วนอยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ด้วยกันทั้งหมดทว่าหลังจากที่เขาออกเดินทางอยู่กว่าหลายปีก็ยิ่งเรียนรู้ได้ว่าทักษะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่พัฒนาตัวเองไปอย่างต่อเนื่องทำให้เขาพบว่าความเข้าใจของเขาเป็นสิ่งที่ผิดและทักษะเหล่านี้ก้าวข้ามระดับจ้าวสวรรค์ไปไกลมากแล้ว
จ้าวโอสถนั้นถือเป็นหนึ่งในเก้าจ้าวสวรรค์ซึ่งแม้ว่าสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้จะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของมันเท่านั้นแต่มันก็ยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแก่นแท้ของทักษะ
การที่เขาได้พบกับโครงร่างของทักษะนี้ภายในสุสานแหล่งนี้ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะคิดไม่ออกเลยว่ามันมาอยู่ได้อย่างไรกัน
เมื่อมองไปแล้วเขาได้แต่พบว่ามันเป็นอักขระที่ดูยุ่งเหยิงอย่างมากทำให้แม้จะมองมันก็ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้
“วิ้สสส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาก่อนที่ผู้คนหลายคนจะพุ่งฝ่ากองกำลังทหารหยินเข้าไปภายใน
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่ก่อนที่จะหันหลังเดินเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของเขาไม่ได้ถือว่าสูงมากแต่ก็ไม่ได้ช้าซึ่งยิ่งก้าวลึกเข้าไปก็จะสัมผัสได้ถึงความเย็นในอากาศที่กำลังสูงขึ้น
ปรากฏปีศาจกรงเล็บขนาดใหญ่คว้าเข้าใส่ทางเขาจากที่มืดด้วยพลังทำลายที่ทำให้แม้แต่มิติโดยรอบยังบิดตัวอย่างรุนแรง
หลินเทียนไม่หลบไม่หลีกแม้แต่น้อยพร้อมทั้งก้าวต่อไปโดยที่ทำเพียงแค่แผดคลื่นพลังออกมาเบาๆเท่านั้น
“พุฟฟ ! ”
กรงเล็บของมันได้สลายหายไปก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นกองเลือดที่กระจายไปทั่วพื้นที่
เสียงกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งตามออกมาขณะที่ผีร้ายหันหลังพุ่งหนีไปด้วยความกลัว
ทว่าอีกฝ่ายก็ได้แต่สั่นสะท้านไปเนื่องจากคลื่นพลังที่หลินเทียนส่งออกมายังคงพุ่งตามมันไปแม้ว่าจะทำลายกรงเล็บของมันไปก่อนหน้านี้
ร่างกายของมันได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆอย่างฉับพลัน
หลินเทียนก้าวเดินต่อไปด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับฝูงผีร้ายมากมายแต่ก็ถูกสังหารโดยกลิ่นอายของเขาทั้งหมด
เขาก้าวเดินผ่านทางแยกไปมากมายพร้อมทั้งมาถึงสถานที่ๆอัดแน่นไปด้วยพลังหยินอันเข้มข้น
สีหน้าของเขายังคงราบเรียบขณะที่ก้าวเดินต่อเข้าไปภายในส่วนลึกแห่งนี้
ไม่นานก็มีแม้กระทั่งผีร้ายเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลโผล่ออกมาแต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอยู่ดี ทุกตัวล้วนถูกสังหารจนสิ้น
เขาใช้เวลาอยู่กว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มถึงจะได้ยินเสียงกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาจากพื้นที่ด้านหน้า
เขาก้าวเดินต่อไปพร้อมทั้งพบกับห้องโถงกว้างๆที่เต็มไปด้วยทางแยกมากมายและเมื่อมองออกไปแล้วจะพบกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่กำลังรับมืออยู่กับกองกำลังทหารหยินที่กำลังกระโจนเข้าใส่ทางผู้เชี่ยวชาญอย่างบ้าคลั่งซึ่งหนึ่งในพวกมันไม่แม้แต่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นแต่ยังกินแม้กระทั่งพวกของตัวเอง
“ผีร้ายเขตแดนจ้าวสวรรค์ ”
หลินเทียนหันมองออกไปด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีผีร้ายระดับนี้อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่ดีเพราะถึงอย่างไรแล้วมันก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
“อ๊ากก ~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่ผู้เชี่ยวชาญตกตายลงอย่างรวดเร็ว
นายน้อยขุมพลังต่างๆเองก็อยู่ที่นี่และแม้พวกเขาจะอยู่ในเขตแดนกึ่งจักรพรรดิแต่ก็ยังไม่สามารถสังหารผีร้ายระดับนี้ได้เช่นกันและทำได้เพียงการรักษาชีวิตของตัวเองไว้เท่านั้น
“พวกไร้ค่า กับขยะพวกนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ”
น้ำเสียงนี้ถูกส่งออกมา
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบกับชายหนุ่มอายุประมาณ 15 ปีกำลังมองมาทางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้วยสีหน้าที่ดูถูกและหยิ่งผยอง
ด้านหลังของเขามีชายชราชุดเทาที่ส่งกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา
“กึ่งนิรันดร์อมตะ ”
หลินเทียนหันมองออกไปพร้อมทั้งสัมผัสได้ถึงระดับพลังของอีกฝ่ายโดยทันที
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนตกตายลงเนื่องจากการโจมตีของกองกำลังทหารหยินและผีร้ายเขตแดนจ้าวสวรรค์ซึ่งพวกเขาต่างพากันหันมองไปทางชายหนุ่มคนนั้นด้วยความโกรธทว่าหลังจากที่เห็นหน้าชัดๆของอีกฝ่ายแล้วความโกรธแค้นก็ได้สลายหายไปเหลือไว้เพียงความหวาดกลัวไม่เว้นแม้กระทั่งนายน้อยของขุมพลังระดับสามทั้งเก้าคน
“หลานชายแท้ๆของผู้อาวุโสสูงสุดนิกายไท่หลิง เหล็งเฉินซวน ”