Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1389
เมื่อได้ยินว่าหลินเทียนยอมให้นางติดตามไปด้วยแบบนี้แล้วนางจึงแสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมาเพราะอย่างน้อยๆนางก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลกที่ไม่รู้จักนี้แถมยังดูออกว่าหลินเทียนไม่ใช่คนไม่ดีอะไร
“แล้วเราจะไปที่ไหนกันดี ? ”
นางถามออกมาขณะที่ยืนอยู่ข้างเขาไม่ต่างกับข้ารับใช้
หลินเทียนก้าวเดินออกไปพร้อมกับพูดว่า
“ก็ไปเรื่อยๆ หาที่เหมาะๆแก่การบ่มเพาะ ”
เขาพูดออกมาก่อนที่จะถามต่อว่า
“แล้วเจ้ามีชื่อว่าอะไร ? ”
“เจียงเหลาเหลา ”
หญิงสาวตอบพร้อมถามกลับว่า
“แล้วเจ้าล่ะ ? ”
“หลินเทียน ”
เขาตอบกลับไป
ตัวเขาได้เดินนำทางไปอยู่กว่าสี่ชั่วโมงก่อนที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้ไป
และมันเป็นตอนนี้เองที่กลิ่นอายอันทรงพลังที่ต่างกันออกไปหกรูปแบบได้พุ่งเข้ามาจากรอบทิศทางพร้อมทั้งเผยให้เห็นร่างหกร่างที่แผดกลิ่นอายเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะออกมาพร้อมๆกับจิตสังหารอันเข้มข้น
“นี่มัน ?! ”
เหลาเหลาถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยทันที
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพลางพูดว่า
“พวกมาสร้างปัญหา ”
เขาหันมองออกไปพร้อมทั้งสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยแบบเดียวกันกับชายชราชุดเทาที่เป็นผู้คุ้มกันของเฉินซวนเนื่องจากอีกฝ่ายบ่มเพาะด้วยเคล็ดวิชาพื้นฐานเดียวกัน
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกมันมาเพราะเรื่องที่เฉินซวนได้ถูกสังหารไป
“สร้างปัญหาให้กับเจ้า ? ”
เหลาเหลาผงะไปพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“พวกนี้มันอยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะเลยนะ เจ้าไปทำอะไรกันถึงได้ล่วงเกินพวกมันได้ ? แล้วจะรับมือไหว ? ”
“หลายชายของผู้อาวุโสสูงสุดพวกมันอยากจะชิงเอาสมบัติของข้ายังไม่พอแล้วยังกล้าคิดจะสังหารข้าและครอบครัวของข้าดังนั้นมันถึงได้ตายไปแล้ว ”
หลินเทียนพูดต่อว่า
“ส่วนพวกมันน่ะรึ แค่พวกไส้เดือนดินเท่านั้นแหละ ”
“เขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะเนี่ยน่ะไส้เดือนดิน ?”
เหลาเหลาได้แต่จ้องมองมาทางเขา
“อย่างน้อยๆในสายตาข้าพวกมันก็เป็นเพียงไส้เดือนเท่านั้น ”
หลินเทียนตอบกลับไป
เหลาเหลาได้แต่จ้องมองตาค้างไปเพราะแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับกึ่งนิรันดร์อมตะพร้อมๆกันถึงหกคนทว่าหลินเทียนก็ยังมีความมั่นใจขนาดนี้
ทั้งหกคนที่กำลังจ้องมองมาทางเขานั้นมาจากนิกายไท่หลิงจริงๆซึ่งพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้อาวุโสที่สามถึงแปดของนิกายซึ่งได้รับมอบหมายให้มาจับตัวหลินเทียนกลับไปทว่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินเทียนแล้วมันทำให้สีหน้าของพวกเขายิ่งเย็นยะเยือกขึ้นไปอีก
“กล้าสังหารหลานชายของท่านผู้อาวุโสสูงสุดแบบนี้เจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้ผุดได้เกิดอีก ! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
“ไม่ต้องไปเสียเวลากับมัน รีบๆจับตัวมันกลับไปรอให้ท่านผู้อาวุโสสูงสุดจัดการกับมันด้วยตัวเอง ”
อีกคนส่งเสียงอันเย็นชาออกมา
เมื่อคำพูดของเขาได้จบลงแล้วกลิ่นอายอันทรงพลังก็ได้ปะทุออกมาพลางโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
ฟึ้บบ ~!
มิติโดยรอบได้แหลกสลายหายไปภายในชั่วพริบตา
หลินเทียนยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบก่อนที่ตรามังกรจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่มังกรที่ฟาดฟันเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างฉับพลัน
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ผู้อาวุโสที่เจ็ดที่เป็นผู้ลงมือก็ได้ถูกกระแทกถอยกลับไปโดยทันที
เหลาเหลาได้แต่ผงะไปเพราะนางไม่เชื่อในคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาว่าทั้งหกคนนี้เป็นเพียงไส้เดือนดินเท่านั้นแต่หลังจากที่เห็นเขาสามารถกระแทกร่างอีกฝ่ายถอยกลับไปได้ง่ายๆแบบนี้แล้วนางก็เชื่ออย่างสุดใจโดยทันที
“เจ้านี่แข็งแกร่งจริงๆ ”
นางพึมพำออกมา
อีกฝ่ายเองก็ได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ตกต่ำลงอย่างมาก
ในตอนนี้เองที่ผู้อาวุโสอีกห้าคนที่อยู่ที่นี่ต่างผงะไปเหมือนๆกัน
พวกเขารู้อยู่แล้วว่าหลินเทียนนั้นสามารถสังหารผู้อาวุโสเฮ่ยเขตแดนเดียวกันกับพวกเขาได้แต่ก็ไม่คิดเลยว่าการโจมตีธรรมดาๆของหลินเทียนจะสามารถกระแทกร่างของผู้อาวุโสที่เจ็ดไปได้ง่ายๆแบบนี้
หลินเทียนหันมองกลับไปพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“เฉินซวนและผู้คุ้มกันของมันสมควรตายแล้ว อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสพวกเจ้าดังนั้นรีบๆกลับไปซะแล้วข้าจะไว้ชีวิต หากว่ายังกล้าลงมืออีกข้ารับประกันเลยว่าพวกเจ้าจะได้ตายกันทั้งหมด ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบทว่ากลับทำให้สีหน้าของทั้งหกคนยิ่งตกต่ำลงไปอีก
ผู้อาวุโสที่สามที่ร่างกายรายล้อมไปด้วยประกายแสงเจิดจรัสได้ส่งเสียงอันเย็นชาออกมาว่า
“เรารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะทว่าแล้วมันยังไงล่ะ เจ้ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่เรามีถึงหกคน ! อย่างเจ้าน่ะรึคิดจะรับมือกับพวกเราพร้อมกันหกคน ? ”
“ต่อให้มีมดมากมายขนาดไหนก็ไม่มีทางสั่นคลอนต้นไม้ใหญ่ได้ ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่แยแส
คำตอบของเขายิ่งทำให้จิตสังหารที่ทั้งหกคนปลดปล่อยออกมาพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว
เป็นเพราะว่าหลินเทียนกำลังดูถูกพวกเขา !
“อวดดีนักนะ ! ”
“จับมันเร็ว ! ”
“รุมมัน ! ”
ทั้งหกคนต่างพากันสังเวยทักษะอันทรงพลังออกมาโจมตีอัดเข้าใส่ทางหลินเทียนไปพร้อมๆกับเหลาเหลา
พลังของมันทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะกวาดออกไปรอบทิศทาง
เหลาเหลาที่อยู่ข้างๆเขาแม้จะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งมากแต่ก็อดคอหดไปไม่ได้
เพราะถึงอย่างไรทักษะเทวะที่ทั้งหกคนสังเวยออกมานั้นมันทรงพลังอย่างมาก
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับไปไหนก่อนที่ร่างกายจะเปล่งประกายแสงสีทองออกมาปกป้องเหลาเหลาเอาไว้
เขาหันมองออกไปด้วยสีหน้าที่ราบเรียบพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ข้าให้โอกาสพวกเจ้าแล้วแต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่คว้ามันเอาไว้ งั้นก็ตายๆไปแล้วกัน ”
เขากระทืบเท้าขวาลงไปทำให้ตรามังกรมากมายพวยพุ่งออกมา
โร๊วว ~~~!
เสียงมังกรคำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่ตรามังกรมากมายแปรเปลี่ยนกลายเป็นมังกรยักษ์ที่ตวัดหางเข้าใส่ทั้งหกคนอย่างไม่ปราณี
ฟึ้บบ ~!
ทักษะเทวะที่ทั้งหกคนสังเวยออกมาได้แหลกสลายหายไปก่อนที่พวกเขาแต่ละคนจะถูกกระแทกลอบเคว้งกลับหลังไปพร้อมทั้งกระอักเลือดออกมาคำโต
“โร๊วว ~! ”
มังกรยักษ์ส่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้งก่อนที่จะพุ่งผ่านอากาศกระแทกเข้าใส่ร่างของพวกเขาอย่างจัง
“อ๊ากกก ~~~! ”
ผู้อาวุโสที่เจ็ดที่ถูกกระแทกเข้าได้ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาก่อนที่ร่างกายและดวงวิญญาณของเขาจะถูกกลืนกินเข้าไป