Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1391
หลินเทียนที่กำลังเดินอยู่กับเหลาเหลาและได้ยินเรื่องราวเหล่านี้เองก็ได้แต่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
เป็นทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ทัณฑ์สวรรค์ ?! เมื่อคิดถึงจุดนี้แล้วมันอดทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายออกมาไม่ได้เลย
หากว่ามันเป็นอย่างที่ว่างไว้จริงๆแล้วหากได้รับมันมาก็จะเป็นตัวช่วยสำหรับเขาในอนาคต
“เหลาเหลา เราจะไปที่สวนสวรรค์นั่นกัน ”
เขาหันไปพูดกับนาง
“โอ้ว ”
นางได้ส่งเสียงตอบรับเล็กน้อยเพราะไม่ว่าหลินเทียนจะไปที่ไหนนางก็จะติดตามไปกับหลินเทียนด้วยอยู่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญตามเส้นทางนี้มีอยู่มากมายและกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกันดังนั้นหลินเทียนถึงไม่จำเป็นต้องรู้ถึงที่อยู่ของสวนสวรรค์นั้นเลยด้วยซ้ำและก้าวเดินตามหลังกลุ่มคนเหล่านี้ไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองออกไปแล้วเขาจะพบได้กับพื้นที่กว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลและใจกลางของมันมีเกาะขนาดใหญ่เกาะหนึ่งตั้งอยู่โดยที่บนตัวเกาะเต็มไปด้วยขุนเขาสูงเสียดฟ้ามากมายส่งกลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา
“นั่นคือสวนสวรรค์ ?! ”
เหลาเหลาได้แต่จ้องมองออกไปยังพื้นที่ด้านหน้าของนาง
หลินเทียนหันมองไปยังท่าทางที่สงสัยของนางพร้อมถามออกมาด้วยท่าทางสงสัยว่า
“เจ้ารู้จักที่นี่ด้วย ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะคุ้นเคยกับมัน ? หรือว่าถูกส่งมาที่นี่ ? ”
“ใช่ ! ข้าถูกส่งมาตกลงบนเกาะนั่นแหละ ! ”
นางส่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า
“มันเป็นสวนสวรรค์ตรงไหนกัน !? นั่นน่ะมันรังปีศาจชัดๆ ! มันเต็มไปด้วยสัตว์อสูรเขตแดนปรินิพพาน จักรพรรดิโกลาหลและแม้กระทั่งเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าก็ยังมี ข้าเกือบจะตายอยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ ! ”
นางได้แต่จ้องมองออกไปด้วยสีหน้าที่ยังโกรธไม่หาย
หลินเทียนได้แต่ผงะไปกับคำพูดของนางพร้อมกับพูดว่า
“นี่เจ้า….ตกลงบนเกาะนั่นจริงๆ ? ”
เป็นเพราะว่าเขาได้ยินจากคำพูดของผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายดีว่ามันมีอักขระรายล้อมเกาะเอาไว้ทำให้ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามไปได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญจากขุมพลังใหญ่ทว่าเหลาเหลากลับตกไปอยู่ที่นั่นแถมยังก้าวผ่านผนึกออกมาได้ง่ายๆ ?!
“ใช่ แถมยังถูกฝูงสัตว์อสูรไล่ล่าด้วย ! ”
เหลาเหลากัดฟันของนางพลางพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ถูกรังแกว่า
“เจ้ารู้บ้างไหมว่าข้าที่อยู่ในเขตแดนจักรพรรดินภาแต่กลับต้องเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูรและหากว่าไม่ได้เป็นเพราะจี้ที่ท่านปู่ให้เอาไว้ก็คงไม่รู้ว่าจะตายไปกี่รอบแล้ว ”
หลินเทียนได้แต่ผงะไปพร้อมทั้งพูดขึ้นว่า
“จากที่ผู้เชี่ยวชาญพวกนี้เล่ากันมันอธิบายได้ว่ารอบๆเกาะมันมีผนึกที่แข็งแกร่งอยู่ตั้งแต่อดีตโดยที่ไม่มีใครฝ่าเข้าไปได้แต่อยู่ดีๆมันก็สลายหายไปแบบนี้นี่หรือว่า…….มันคงไม่ได้เป็นฝีมือของเจ้าหรอกใช่ไหม ? ”
เหลาเหลาที่ได้ยินเช่นนี้ได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจว่า
“พูดอะไรกัน ! ข้าตัวหนักขนาดนั้นเลย ?! รูปร่างของข้าออกจะผอมบางสมส่วน ! ”
หลินเทียน
“………..”
เขาได้แต่ชี้ไปยังจี้ห้อยคอของนางพร้อมกับพูดว่า
“ข้าหมายความว่าระหว่างที่เจ้าร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าลงไปยังสวนแห่งนั้นจี้ห้อยคอของเจ้าอาจจะทำลายผนึกที่ปิดกั้นสวนเอาไว้”
เป็นเพราะว่ารอบนอกเกาะนั้นเต็มไปด้วยผนึกมากมายตั้งแต่ยุคอดีตทำให้ไม่มีใครที่สามารถฝ่าหรือมองเห็นด้านในได้ทว่าหลังจากที่เหลาเหลาได้ร่วงหล่นลงไปกลางเกาะแห่งนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ระหว่างนั้นจี้ห้อยคอที่ส่องประกายแสงเจ็ดสีออกมาจะทำลายผนึกรอบนอกของมัน
“เป็นเพราะจี้นี่ ? ”
เหลาเหลาได้แต่มองไปยังจี้ห้อยคอของนางพร้อมๆกับพูดว่า
“อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้เพราะมันมีความสามารถในการทะลุทะลวงอย่างมากเนื่องจากก่อนหน้านี้ข้าเองก็สามารถฝ่าเข้าไปภายในโบราณสถานที่มีผนึกแข็งแกร่งถึงขั้นที่ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้เหมือนกัน ”
หลินเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ยืนยันได้ทันทีว่าการที่ผนึกรอบนอกเกาะแห่งนี้ได้สลายหายไปต้องเป็นเพาะฝีมือของนางอย่างแน่นอน
“วิ้สส ! ”
“วิ้ส ! ”
“วิ้สสส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพากันพุ่งเข้าไปทางเกาะแห่งนั้น
เป็นเพราะข่าวลือหนาหนูเกี่ยวกับทักษะอัสนีอันแข็งแกร่งรวมถึงสมบัติมากมายที่แพร่สะพัดไปทั่วนั้นมีความยั่วยวนอย่างมาก
“พวกเราก็ไปกันเถอะ ”
หลินเทียนพูดออกมาพลางก้าวออกไป
“ไม่ ! ”
เหลาเหลาได้ส่งเสียงออกมาพลางคว้าร่างของเขาเอาไว้แล้วพูดออกมาว่า
“อย่าไปนะ ! ด้านในมันอันตรายมากๆ ! สัตว์อสูรเต็มไปหมดแถมยังมีแม้กระทั่งปีศาจเขตแดนอนันตกาลอยู่ด้วย ! ”
“นี่มันมีแม้กระทั่งเขตแดนอนันตกาลอยู่ด้วย ?! ”
หลินเทียนถึงกับแข็งค้างไป
“มีสิ ! ข้าเคยเห็นอยู่สองตัว ! พวกมันแข็งแกร่งมากๆถึงขั้นที่แม้จะมีจี้ห้อยคอของข้าแต่ก็ยังสามารถสังหารข้าได้ง่ายๆ ”
เหลาเหลาพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก
หลินเทียนได้แต่มองออกไปเพราะไม่คิดเลยเหมือนกันว่าภายในจะมีแม้กระทั่งอสูรเขตแดนอนันตกาลอยู่ด้วย
การที่อยู่ในระดับนั้นได้มันจะต้องแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ระดับเดียวกันด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเช่นนั้นแต่เขาก็ยังต้องไปอยู่ดี
เป็นเพราะว่าหากมันเป็นอย่างที่ข่าวลือว่าเอาไว้แล้วมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อการก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์ของเขามากๆ
“ยังไงข้าก็ต้องไป ”
เขาหันไปพูดกับนาง
เหลาเหลาได้แต่ผงะไปพร้อมกับแสดงสีหน้าที่หมดหนทางออกมา
“งั้นก็ไปสิไป ”
นางหันมองออกไปทางเกาะด้านหน้า
หลินเทียนเผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะลูบศีรษะของนางแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ”
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้หันมองออกไปพร้อมทั้งถามว่า
“หรือว่าเจ้าจะหาที่ปลอดภัยซ่อนตัวอยู่แถวนี้ก่อนไหม เอาไว้ข้ากลับออกมาแล้วจะไปหาเจ้า ? ”
“พูดอะไรกัน ! จะให้คนตรงๆอย่างข้าอยู่ที่นี่เฉยๆมองดูเจ้าเข้าไปภายในสถานที่อันตรายได้อย่างไรกัน ? จะไปก็ต้องไปด้วยกัน ”
เหลาเหลาส่งเสียงออกมา
“พูดได้ดีหนิ แต่มันเกี่ยวอะไรกับคนตรงๆกัน มันควรจะพูดว่าเป็นคนที่ซื่อสัตย์มากกว่าหรือเปล่า ? ”
หลินเทียนพูดออกมา
เหลาเหลาแสยะออกมาพลางตอบกลับว่า
“เหมือนกันนั่นแหละ !!! ”
หลินเทียนได้แต่เผยรอยยิ้มออกมาพร้อมทั้งก้าวเดินออกไป
สวนสวรรค์นั้นอยู่ในใจกลางของเกาะตรงหน้าดังนั้นแม้ว่าความเร็วของเขาจะสูงมากๆแต่ก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะไปถึง
“โร๊วว ~~! ”
ระหว่างทางก็มักจะมีเสียงสัตว์อสูรกู่ร้องคำรามออกมาเป็นพักๆ
“ก่อนหน้านี้ยังไม่มีเสียงพวกนี้เลยแม้แต่น้อยแล้วทำไมพอเข้ามาถึงได้ยินกัน ? หรือว่าเสียงไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ ? ”
หลินเทียนผงะไป
“น่าจะเป็นเช่นนั้นแหละ ”
เหลาเหลาที่กำลังคอหดได้พูดต่อว่า
“อีกอย่างมันดูเหมือนว่าอสูรพวกนี้ไม่สามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ด้วย มันน่าจะถูกพลังบางอย่างสะกดเอาไว้ภายในสถานที่แห่งนี้ ”
เสียงอสูรกู่ร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่กลิ่นอายอันหนักหน่วงแผดออกไปรอบทิศทาง
ตู้มมม !
คลื่นพายุอันทรงพลังได้พัดพาเข้ามาจากสถานที่ๆอยู่ห่างไกลออกไปขณะที่ปรากฏอสูรร่างยักษ์ถึงขั้นบดบังดวงอาทิตย์ขึ้นกลางฟากฟ้า
หลินเทียนได้แต่ผงะไปเพราะว่าวิหกตัวนี้มันมีขนาดใหญ่มากถึงขั้นที่เมื่อกางปีกแล้วมันมีความยาวกว่าหลายร้อยเมตร
“เขตแดนจ้าวสวรรค์ ! ”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
ทึ้มมม ~!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่วานรตัวใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปได้ปรากฏตัวออกมา
ห่างออกไปไม่ไกลก็ปรากฏอสูรรูปร่างเหมือนเต่าผสมงูขึ้นมาสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนโดยรอบ
“อ๊ากก ~~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมากมายพากันถูกฉีกร่างออกแล้วกัดกินเป็นอาหาร
“ไม่ ~~~! ”
“ช่วย…ด้วย ! ”
“อ๊ากก ! ”
เสียงกรีดร้องยังคงถูกส่งออกมาไม่หยุด
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนที่เข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้พากันตกตายลงไปมากมายภายใต้คมเคี้ยวของเหล่าสัตว์อสูร
พริบตาสถานที่แห่งนี้ก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้นขณะที่มีผู้เคราะห์ร้ายกว่าร้อยคน
“ที่นี่คือสวนสวรรค์หรือรังอสูรกันแน่ ? ”
หลินเทียนได้แต่มองออกไป
เป็นเพราะว่าสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตทั้งหลายล้วนน่าอนาถอย่างมาก
“ข้าบอกแล้วไงว่ามันใช่สวนสวรรค์ที่ไหนกัน นี่มันรังปีศาจ ! ”
เหลาเหลาได้ส่งเสียงออกมา
วิหกยักษ์เขตแดนจ้าวสวรรค์ที่อยู่บนฟากฟ้ายังคงกระพือปีกสร้างคลื่นพายุอันทรงพลังอัดลงมาเบื้องล่างเสมือนว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่เหยื่อของมันเท่านั้น
หลินเทียนได้จูงเหลาเหลาเข้ามาใกล้ก่อนที่จะพุ่งหลบการโจมตีของอีกฝ่ายไป
“เจ้าอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนปลายไม่ใช่หรือไง กระบี่เดียวก็ฆ่ามันได้แล้วจะหนีทำไม ? ”
เหลาเหลาถามออกมาด้วยสีหน้าที่สงสัย
“เป็นเพราะว่าอสูรที่อยู่รอบข้างมันมีมากเกินไป หากว่าข้าลงมือสังหารมันแล้วก็อาจจะดึงดูดความสนใจของตัวอื่นมาที่เราได้ หากว่าไม่ได้จำเป็นจริงๆข้าก็ไม่อยากจะลงมือ “
หลินเทียนตอบกลับ