Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1395
ประกายแสงสีทองส่องประกายออกมารอบทิศทางขณะที่หมัดจักรพรรดิโกลาหลอันทรงพลังพุ่งผ่านอากาศออกไปบดขยี้ม่านสวรรค์ออกเป็นเสี่ยงๆ ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่โดยรอบได้แต่สั่นสะท้านไปด้วยความสะพรึงกลัว
“นี่มัน….แข็งแกร่งมากๆ ! กลิ่นอายระดับนี้มัน….”
สีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
หมัดนี้มันน่าสะพรึงกลัวเสมือนว่าสามารถทำลายได้ทุกสิ่งเลยก็ว่าได้
น่าตกตะลึง ~
ระหว่างนี้เหลาเหลาและวิหกเพลิงเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาเพราะว่าการโจมตีที่หลินเทียนส่งออกมาในตอนนี้มันแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีของฟานเจิ้งเย่เลยแม้แต่น้อย
แม้กระทั่งตัวของฟานเจิ้งเย่เองก็ยังได้แต่ผงะไปเพราะว่าเขาเองก็ตระหนักดีว่าหลินเทียนนั้นอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนปลายเท่านั้นทว่าแรงกดดันและพลังทำลายล้างที่ส่งออกมามันไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเขาเลย
และมันเป็นตอนนี้เองที่การโจมตีของเขาได้ปะทะเข้ากับฝ่ามือของฟานเจิ้งเย่อย่างจัง
เสมอกัน !
ฟานเจิ้งเย่ถึงกับแข็งค้างไปพร้อมทั้งสังเวยเอาการโจมตีที่รุนแรงยิ่งกว่าเก่าออกมาซึ่งมันคือทักษะเทวะของเขตแดนนิรันดร์อมตะอันทรงพลัง
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบไม่แยแสขณะที่เขาเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่อีกครั้ง
“ตู้มม ! ”
ตู้มม ~!
ตู้ม !
หมัดและฝ่ามืออันทรงพลังอัดเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งส่งเสียงดังกึกก้องออกไปรอบทิศทาง
ภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบได้แต่สั่นสะท้านไป
“นี่เขา…สามารถรับมือฟานเจิ้งเย่ได้ ?! ”
“ไม่คิดเลยว่าจะสามารถต่อกรกับฟานเจิ้งเย่ได้ด้วยเขตแดนนิรันดร์อมตะแบบนี้ นี่มัน……”
“เป็นไปได้….อย่างไรกัน ?! ”
แรงกดดันนี้หลินเทียนส่งออกมานั้นทำให้คนโดยรอบตระหนักดีว่าเขาอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าทว่าด้วยระดับพลังนี้กลับสามารถต่อกรกับฟานเจิ้งเย่ที่อยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะนี่มัน…
“แข็งแกร่งมากๆ ! ”
เหลาเหลาเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน
นางรู้ดีอยู่แล้วว่าหลินเทียนนั้นแข็งแกร่งมากถึงได้ให้ฉายาเขาว่าสัตว์ประหลาดทว่าก็ไม่คิดเลยว่าด้วยเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนปลายกลับสามารถต่อกรกับนิรันดร์อมตะตอนต้นได้ มันทำให้ดวงตาของนางเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมา
เป็นเพราะว่าความต่างชั้นของสองเขตแดนมันยิ่งใหญ่อย่างมากถึงขั้นที่เรียกได้ว่าอยู่คนละโลกกันเลยก็ว่าได้ทว่าตอนนี้หลินเทียนกลับสามารถรับมือโดยที่ไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย
“ตู้มม ! ”
“ตู้ม ! ”
“ตู้มม ! ”
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดัง
ฟานเจิ้งเย่ที่มีสีหน้าที่เย็นชาได้เหวี่ยงฝ่ามือของเขาออกไปสร้างการโจมตีสังหารขึ้นบดบังม่านฟ้าเอาไว้แต่ก็ยังไม่สามารถแตะต้องร่างของหลินเทียนได้เลยแม้แต่น้อย
“ก็ดี ! ใช้ได้หนิ ! ”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
หลินเทียนที่เหวี่ยงหมัดสวนกลับมาได้ตอบกลับไปว่า
“เจ้าเองก็ไม่เห็นเท่าไหร่หนิ เขตแดนนิรันดร์อมตะแต่กลับทำได้แค่นี้ คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานหรือไงกัน ? กล้าทำลายความบริสุทธิ์ของผู้หญิงแล้วยังอวดเบ่งไปทั่วนี่คิดว่าไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ ? หรือคิดว่ามีตระกูลฟานหนุนหลังเลยคิดว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเจ้า ? ”
“อวดดีนักนะ ! ”
ฟานเจิ้งเย่ส่งเสียงคำรามออกมาพลางโบกมือขวาของเขาซัดฝ่ามือที่รายล้อมไปด้วยอักขระอันหนักหน่วงเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่ปราณี
ฟึ้บบ ~!
มิติโดยรอบถูกลบหายไปอย่างสิ้นเชิงพร้อมทั้งเผยให้เห็นห้วงความโกลาหลที่อยู่ภายใน
แน่นอนว่านี่คือการโจมตีที่ทรงพลังอย่างมาก !
“ทักษะแกนหลักของตระกูลฟาน ทักษะกลืนหัวใจ ! ”
“หากว่าสัมผัสเข้ากับอักขระพวกนั้นแล้วทุกสรรพสิ่งจะตกตายลงทันที ! ”
“มันเป็นทักษะสังหารเขตแดนนิรันดร์อมตะ ! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่อยู่โดยรอบต่างรู้จักทักษะนี้เป็นอย่างดี
สำหรับพวกเขาแล้วหากว่าสำแดงทักษะนี้แล้วจะต้องสามารถสยบได้ทุกสรรพสิ่งอย่างแน่นอน
ตู้มม ~!
ทักษะสังหารอันทรงพลังได้กดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
“ตาย ! ”
ฟานเจิ้งเย่ส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาขณะที่อักขระมากมายสั่นไหวพร้อมทั้งแผดพลังที่สูงยิ่งกว่าเก่าออกมา
หลินเทียนที่สัมผัสได้ถึงพลังทำลายที่แข็งแกร่งของมันยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบไม่แยแสออกมาอย่างเคย
“แกร๊ง ! ”
เสียงกระบี่คำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งตามกลับออกมาขณะที่คลื่นกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกไปรับการโจมตีเอาไว้
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เขาได้เหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลส่องประกายแสงเจิดจรัสออกไปพร้อมๆกัน
โร๊วว ~~~!
กรี้ ~~!
เสียงกู่ร้องคำรามของมังกรและฟินิกซ์ดังกึงก้องถูกส่งออกมาขณะที่ภาพร่างของสัตว์เทวะพวยพุ่งเข้าใส่ทางฟานเจิ้งเย่ภายในชั่วพริบตา
ตู้มมม ~!
คลื่นพลังทำลายอันหนักหน่วงได้บดขยี้ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ระหว่างทางของมัน
คลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์อันทรงพลังได้ทำลายอักขระทั้งหลายลงขณะที่หมัดจักรพรรดิโกลาหลอัดเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย
ตู้มม !
ร่างของฟานเจิ้งเย่ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าโดยทันที
สายตาของอีกฝ่ายยังคงความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดขณะที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงพวยพุ่งออกมาจากร่างพร้อมทั้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ที่ฟาดฟันเข้าใส่ทางศีรษะของหลินเทียน
หลินเทียนที่ยืนอยู่กับที่ทำเพียงแค่เหวี่ยงหมัดสวนกลับไปเท่านั้น
แกร๊งง ~!
หมัดของเขาได้อัดกระแทกเข้ากับกระบี่ของอีกฝ่ายพร้อมทั้งส่งเสียงโลหะปะทะกันออกมา
“ ฆ่า ! ”
ฟานเจิ้งเย่ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างเย็นชา
ตู้มม ~!
กระบี่ในมือของเขาได้สั่นไหวพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังนับไม่ถ้วนออกมา
มันเป็นคลื่นกระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างเสมือนว่าแต่ละเล่มสามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง
แน่นอนว่านี่ก็ถื่อเป็นหนึ่งในทักษะเทวะของตระกูลฟานซึ่งหากพูดกันแล้วมันแข็งแกร่งกว่าทักษะกลืนหัวใจเสียอีก
คลื่นกระบี่มากมายปิดกั้นพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้
แน่นอนว่าหลินเทียนก็ยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยพลางเหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลออกไป
“ตู้มม ~! ”
คลื่นพลังอันหนักหน่วงได้บดขยี้คลื่นกระบี่เหล่านั้นออกเล่มแล้วเล่มเล่า
ไม่นานทักษะเทวะของฟานเจิ้งเย่ก็ได้สลายหายไป
“นี่มัน………”
“สามารถต่อกรกับการโจมตีของนิรันดร์อมตะได้ด้วยเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่านี่มัน….”
“พรสวรรค์ไร้เทียมทานเกินไปแล้ว ! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพากันสั่นสะท้านไปตามๆกัน
เหลาเหลาเองก็ได้แต่ผงะไปพลางส่งเสียงออกมาว่า
“นี่มัน….แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! ”
“ตู้มม ~! ”
คลื่นพลังอันหนักหน่วงระเบิดออกมาเป็นระลอกๆขณะที่การโจมตีของทั้งสองอัดเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง
สายตาของฟายเจิ้งเย่จ้องเขม็งไปที่ร่างของหลินเทียนขณะที่จิตสังหารอันเข้มข้นพวยพุ่งออกมา
“คิดจริงๆรึว่าด้วยระดับพลังของเจ้ามันสามารถรับมือกับข้าได้ ?! อย่าอวดดีให้มันมาก ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ตู้มม ~! สิ้นสุดคำพูดของเขาแล้วเตาพลังวิญญาณอันทรงพลังได้ถูกสังเวยออกมาจากร่างของเขาพร้อมส่องประกายแสงเจิดจรัสออกไปรอบทิศทาง
“นี่มัน…….อาวุธวิญญาณ ! ”
สีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปโดยทันที
ฟานเจิ้งเย่ได้สังเวยอาวุธวิญญาณออกมาด้วยพลังทำลายที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง
“สำหรับข้าแล้วยังไงเจ้าก็ต้องตาย ! ”
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาขณะที่เตาพลังวิญญาณส่องประกายแสงพร้อมแผดแรงกดดันอันหนักหน่วงออกมา
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เขาได้สังเวยเอาทักษะเทวะที่แข็งแกร่งออกมาปิดกั้นพื้นที่โดยรอบเอาไว้พร้อมทั้งกดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่รอช้า
คลื่นพลังทำลายล้างที่อัดแน่นไปด้วยแรงกดดันที่หนักหน่วงกวาดเข้าใส่ทางหลินเทียนทำให้มิติโดยรอบไม่สามารถฟื้นตัวได้
“คิดว่าเจ้ามีอาวุธวิญญาณอยู่คนเดียว ? ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่เขาสังเวยเอากระบี่ที่ได้รับมาจากสุสานก่อนหน้านี้ออกมาพลางสังเวยเพลงกระบี่ศุกลสวรรค์ออกไป
“กระบี่อาวุธวิญญาณ ! ”
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนได้แต่ผงะไป
แกร๊ง !
ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้แล้วต่อให้เขายังไม่สามารถสำแดงพลังทั้งหมดของมันออกมาได้แต่ก็ยังน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
เขาก้าวออกไปพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่อัดเข้าใส่เตาพลังวิญญาณของอีกฝ่ายอย่างจัง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เขาได้สังเวยวงเวทย์สังสารวัฏที่ส่องประกายแสงและกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ออกมากดทับเข้าใส่พร้อมๆกัน
การโจมตีผสานนี้ได้บดขยี้ทุกสิ่งอย่างที่ขวางทางของเขาเอาไว้
ตู้มมม ~!
ร่างกายของฟานเจิ้งเย่ได้ถูกวงเวทย์สังสารวัฏอัดกระแทกจนปลิวออกไปไกล
“นี่เขา……..สามารถสร้างบาดแผลให้กับฟานเจิ้งเย่ได้ ?! ด้วยเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่า ?! …….”
ผู้เชี่ยวชาญพากันโห่ร้องออกมาด้วยความตกตะลึง
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาขณะที่ใช้ก้าวย่างแห่งสวรรค์พุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่าย
“ไอ้ชาติชั่ว ในที่สุดก็หาเจ้าพบ ! ”
มันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่มีเสียงอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมา
ห่างออกไปไม่ไกลปรากฏร่างสองร่างที่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายอันทรงพลังกำลังจ้องมองมาทางหลินเทียนด้วยสายตาที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหารอันเข้มข้นก่อนที่พวกเขาจะคว้ามือเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่รอช้า