Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1400
เมื่อฟังจากคำพูดของเหลาเหลาแล้วหลินเทียนก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ยังไม่ได้ประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันแต่ก็ยืนยันได้บางเรื่องอย่างเรื่องที่ว่าที่นี่มันมีทักษะอัสนีที่แข็งแกร่งในตำนานถูกซ่อนเอาไว้จริงๆ ”
ที่ผนังเมื่อครู่นั้นไม่มีแม้แต่เคล็ดวิชาบ่มเพาะทำให้เขาไม่สามารถเรียนรู้มันได้แถมเมื่อทำความเข้าใจมันแล้วก็ยังไม่ได้ประโยชน์อะไรทว่าการที่มันอัดแน่นไปด้วยพลังสายฟ้านั้นยืนยันได้แล้วว่าภายในสถานที่แห่งนี้จะต้องมีทักษะล้ำค่านั้นอยู่อย่างแน่นอน
“หื้ม ? ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ ? ”
เหลาเหลาถามออกมาด้วยความสงสัย
หลินเทียนหันมองออกไปทางนางที่ยิ่งสงสัยมากกว่าเก่าพร้อมทั้งตอบกลับไปว่า
“เป็นเพราะแม้ว่าเจ้าจะไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ทว่าอย่างน้อยๆก็สัมผัสได้ถึงพลังของทัณฑ์สวรรค์ที่ไหลเวียนอยู่ภายในผนังใช่ไหม ? ”
“พลังของทัณฑ์สวรรค์ ? ไม่เห็นจะสัมผัสได้เลย ”
เหลาเหลาได้แต่ผงะไป
นี่ทำให้สีหน้าของหลินเทียนเปลี่ยนไปโดยทันที นี่นางไม่สามารถสัมผัสได้ ?
“สัมผัสไม่ได้จริงๆ ? ”
“แล้วข้าจะโกหกเจ้าไปทำไมกัน ? ”
เหลาเหลาส่งเสียงออกมาพลางพูดต่อว่า
“ระหว่างทำความเข้าใจก็ทำให้แก่นพลังของข้าได้รับความเสียหายอย่างหนักก็จริงแต่ก็ไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายทัณฑ์สวรรค์ได้เลย ”
คิ้วของหลินเทียนขมวดเข้าหากันเพราะดูเหมือนว่านางจะไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้จริงๆ
แล้วคนอื่นๆ ?
หรือว่าจะไม่สามารถสัมผัสได้เช่นกัน ?
นี่ทำให้เขาคิดว่ากลุ่มคนก่อนหน้านี้เองก็คงอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับนางและไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังแห่งสายฟ้า
เป็นเพราะว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ตกตายลงดังนั้นหากสัมผัสได้ถึงสายฟ้าแล้วก็คงจะต้องมีใครสักคนเปิดเผยเรื่องนี้ขึ้นมาและคงจะไม่จบลงแบบนี้
เขายังคงจดจำสีหน้าของผู้คนก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี
เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้แล้วเขาก็ได้แต่โง่งมไป
“นี่”
เหลาเหลาแตะเขาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“มันอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์จริงๆ ? ”
นางรู้สึกสงสัยอย่างมากเพราะถึงอย่างไรนั่นก็เกี่ยวข้องกับทักษะควบคุมอัสนีในตำนาน !
“ใช่ ”
หลินเทียนได้อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาทั้งหมดให้นางได้ฟัง
นี่ทำให้นางได้แต่แสดงสีหน้าที่ยิ่งประหลาดใจออกมา
“หากว่าเป็นตามที่เจ้าพูดแล้วผนังนั่นก็น่าจะเป็นมรดกหลังจากการสร้างทักษะนั้นจากยุคกาลก่อนจริงๆ ”
เหลาเหลาได้พูดออกมาพลางหันมองไปทางเขาแล้วพูดต่อด้วยสีหน้าแปลกๆว่า
“แต่ทำไมถึงได้มีเจ้าเพียงคนเดียวที่สามารถทำความเข้าใจมันได้ ? แถมพลังสายฟ้าเองก็มีเจ้าที่สัมผัสได้นี่มันแปลกๆไหม ? ”
หลินเทียนส่ายศีรษะของเขาเพราะเขาเองก็สงสัยเหมือนกันแต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากพร้อมทั้งเดินนำทางนางไปยังศูนย์กลางของสวนสวรรค์แห่งนี้
ไม่นานเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าหกชั่วโมงเต็มซึ่งพวกเขาก็ได้ก้าวผ่านพื้นที่ไปมากมาย
“พบแล้ว ? ”
ระหว่างที่กำลังออกเดินทางนั้นหลินเทียนก็ได้แผดจิตสัมผัสออกไปรอบๆดังนั้นเหลาเหลาถึงได้เอ่ยปากถามออกมา
ตัวนางเองก็ช่วยเหลือเขาเช่นกันแต่ก็ไม่ได้อะไร
“ไม่”
หลินเทียนตอบกลับ
เขากวาดจิตสัมผัสออกไปรอบๆพร้อมทั้งก้าวเดินต่อไป
และมันเป็นตอนนี้เองที่มีข่าวลือมากมายแพร่กระจายไปทั่วสถานที่แห่งนี้เนื่องจากการที่หลินเทียนที่อยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่ากลับสามารถสังหารผู้อาวุโสสองคนของนิกายไท่หลิงและน้องชายผู้นำตระกูลฟานลงแต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึงที่สุดก็คงจะเป็นเจดีย์ราชันอมตะของเขาที่สร้างขึ้นจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาล !
“นี่เขาหามันพบแล้วยังเอาไปหลอมอาวุธ ?! ”
เป็นเพราะว่าคริสตัลโกลาหลบรรพกาลนั้นได้ชื่อว่าเป็นวัสดุชั้นยอดที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ดังนั้นต่อให้เทพในตำนานได้เห็นมันก็คงไม่มีทางอยู่สุขได้
“ตอนนี้ภายในเกาะแห่งนี้มีตัวอ่อนของอาวุธเทวะอยู่ ! ”
หัวใจของใครหลายคนสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งหลายๆคนถึงกับอยู่ไม่สุขพร้อมทั้งปรากฏความคิดมากมายขึ้นภายในจิตใจของพวกเขา
ระหว่างนี้ข่าวลือเหล่านี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปยังโลกภายนอกด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ตระกูลฟาน…….
ตระกูลของพวกเขาสืบเชื้อสายกันมาอย่างยาวนานและมีที่ตั้งอยู่บนขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ไม่ต่างจากขุมพลังอื่นๆซึ่งตัวตำหนักล้วนแล้วแต่ผสมผสานไปด้วยทองคำและอัญมณีมากมาย
“ว่าไงนะ ?! ”
เสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาหลังจากที่ผู้นำตระกูลฟานได้รับข่าวการตายของน้องชายตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าเท่านั้น
“ไอ้ชาติชั่ว ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งพุ่งตรงไปทางสวนสวรรค์อย่างไม่รอช้า
ระหว่างนี้ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้นของตระกูลก็ติดตามเขาไปหลายคน
ฟานเจิ้งเย่ที่ได้รับมอบหมายให้ไปค้นหาทักษะในตำนานกลับถูกสังหาร !
มีใครในดาวดวงนี้บ้างที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลฟาน ? แถมยังเป็นน้องชายผู้นำตระกูล ! ต่อให้เป็นผู้นำขุมพลังต่างๆก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีกหากจะลงมือกับฟานเจิ้งเย่ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับถูกสังหารลงอย่างเลือดเย็น !
“รนหาที่ตาย ! ”
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนส่งเสียงคำรามออกมา
และแทบจะในเวลาเดียวกันนี้เองที่ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายไท่หลิงที่กลับออกมาจากการบ่มเพาะได้รับรู้ข่าวการตายของหลานชายตัวเองและคนอื่นๆทำให้ความโกรธปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้ระยำ ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมๆกับพุ่งออกไปจากตัวตำหนักอย่างรวดเร็ว
…………..
ภายในสวนสวรรค์ที่มีท้องฟ้าสีครามและแสงอาทิตย์อันอบอุ่น
หลินเทียนเดินนำทางเหลาเหลามุ่งหน้าไปยังสถานที่ต่างๆแต่ก็ยังไม่พบสถานที่ๆเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย
ตัวหลินเทียนไม่ได้รีบร้อนอะไรมากนักเพราะเขารู้ดีว่าการที่จะค้นหามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆอยู่แล้ว
เขาเดินนำเหลาเหลาข้ามผ่านภูเขาไปมากมายก่อนที่จะพบกับอุโมงค์ขนาดใหญ่
“หยุดก่อน ! ”
เหลาเหลาได้เปิดปากพูดออกมาพร้อมทั้งคว้าแขนของเขาเอาไว้ขณะที่จ้องมองเข้าไปด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
หลินเทียนได้แต่แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาก่อนที่จะหันมองไปทางนาง
“อย่าเข้าไปใกล้มัน ภายในนั้นมีอสูรเขตแดนอนันตกาลอยู่ ! ข้าเคยเห็นมันมาก่อนแล้ว ! ”
เหลาเหลาส่งเสียงกระซิบออกมา
หลินเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ได้แต่ผงะไป
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้นางเคยพูดเอาไว้ว่าช่วงที่เพิ่งตกลงมาถึงที่นี่นั้นก็ได้พบกับสัตว์อสูรเขตแดนอนันตกาลสองตัว นี่พวกมันอยู่ในอุโมงค์ด้านหน้านี้ ?
“สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอสูรบางๆเท่านั้น ”
คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบว่ามันไม่สามารถมองเห็นภายในส่วนลึกได้แถมยังแทบไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายอสูรได้เลยแม้แต่น้อย
“ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้มันจะอยู่ในสภาวะจำศีลซึ่งตอนที่ข้าบังเอิญผ่านมาก็สัมผัสได้ถึงพลังอสูรที่มันแผดออกมา นั่นจะต้องเป็นของเขตแดนอนันตกาลขึ้นไปอย่างแน่นอน ! ”
เหลาเหลาส่งเสียงกระซิบออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“เป็นเพราะหากว่าเป็นอสูรปกติแล้วจะต้องไม่มีกลิ่นอายอสูรทะลักออกมาช่วงจำศีลอย่างแน่นอน ”
หลินเทียนเองก็เข้าใจอย่างดีและไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนที่จะจูงมือนางถอยกลับออกไป
หลังจากนั้นไม่นานเวลาก็ได้ผ่านไปถึงเจ็ดวันเต็มซึ่งเขาและเหลาเหลาก็ยังคงมุ่งหน้าค้นหาทักษะในตำนานนั้นต่อไป
“มันซ่อนอยู่ที่ไหนกัน ”
เหลาเหลาพึมพำออกมา
“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ค่อยๆหาก็ได้ ระหว่างนี้จะได้สัมผัสถึงธรรมชาติไง ”
หลินเทียนตอบกลับ
นี่ทำให้เขามุ่งหน้าเดินต่อไปยังภูเขาที่อยู่ห่างออกไป
“วู้สส ~! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ลูกศรสังหารอันทรงพลังทะลวงผ่านม่านมิติเข้าใส่หน้าผากของหลินเทียน
สีหน้าของหลินเทียนถึงกับเปลี่ยนไปโดยทันทีเพราะมันเป็นลูกศรที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถสังหารเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้นได้สบายๆทำให้เขารู้สึกปวดร้าวไปทั่วหน้าผากเสมือนมีมีดกำลังคว้านผ่านร่างของเขาแม้มันจะยังไม่เข้าปะทะ
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเช่นนั้นทว่ามันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตอบสนองของเขาแม้แต่น้อย เขารีบคว้าร่างของเหลาเหลาเอาไว้พร้อมทั้งเบี่ยงหลบออกไปไกลด้วยก้าวย่างแห่งสวรรค์
ตู้มม ~!
ลูกศรสังหารอันทรงพลังพุ่งทะลวงผ่านพื้นดินลงไปสร้างหลุมลึกขนาดใหญ่ไม่ต่างจากหลุมดำ
“ฮื้ม ”
อีกฝ่ายได้ส่งเสียงออกมาเพราะว่าเขาที่ลงมือโจมตีทีเผลอนั้นรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยก่อนที่จะเหาะออกมาจากภูเขาโดยที่มือซ้ายกำคันธนูที่รายล้อมไปด้วยอักขระมากมายซึ่งแน่นอนว่าเป็นอาวุธวิญญาณตอนปลาย
แถมกลิ่นอายของเขาเองก็ยังแข็งแกร่งถึงขั้นที่อยู่ในเขตแดนนิรันด์อมตะตอนต้นที่กำลังจะตัดผ่าน
“มีอยู่น้อยคนในเขตแดนนิรันดร์อมตะนักที่จะสามารถหลบการโจมตีเมื่อครู่ได้ ใช้ได้หนิเจ้าหนู ”
เขาหันมองออกไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจและเย็นชาพลางพูดต่อว่า
“ส่งเจดีย์และศิลาหินนั่นมาซะ ! ”