Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1403
อสูรเขตแดนอนันตกาลนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างมากเพราะเพียงแค่เสียงคำรามของมันก็สามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ถึงขั้นที่แทบจะตกตายลงกับที่
หลินเทียนที่เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้วได้สังเวยวงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏและอาวุธอื่นๆออกมาป้องกันเอาไว้แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสเสมือนว่าร่างกายกำลังจะแหลกสลายอยู่ดี
เขากัดฟันเอาไว้แน่นพร้อมทั้งพุ่งพ่านออกไปจากสถานที่แห่งนี้ด้วยความเร็วที่สูงถึงขีดสุดซึ่งสิ่งที่เขาไม่คาดคิดคืออสูรตัวนั้นกลับไม่ได้เปิดฉากโจมตีเข้าใส่ทางเขา
จนถึงตอนที่เขาพุ่งผ่านออกไปแล้วก็ได้แต่หันหลังกลับไปพร้อมทั้งพบว่าอสูรที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อันเข้มข้นไม่ต่างจากทวยเทพ
“มันไม่ได้จำศีลทว่ากำลัง..ตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์แท้จริง ?! ”
หัวใจของเขาถึงกับสั่นไหวอย่างรุนแรง !
แววตาของเขาหดเล็กลงอย่างมากหลังจากที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงที่ปั่นป่วน
“การโจมตีเมื่อครู่นั้นเป็นเพราะว่ากำลังตัดผ่านเขตแดนอยู่ถึงไม่สามารถเปิดฉากโจมตีได้จึงไม่ได้โจมตีใส่เราอย่างเต็มกำลังแล้วปล่อยให้เราหนีออกมาได้…..”
พริบตานี้เขาก็เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์
เหลาเหลาที่ได้รับการปกป้องเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร นางได้หันมองกลับเข้าไปภายในและเมื่อยืนยันบางสิ่งได้แล้วนางก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
“นี่มันกำลังตัดผ่านเขตแดน ?! ”
นางส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ
ผู้นำตระกูลฟานและคนอื่นๆที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ยังมีชีวิตรอดเองก็ได้แต่จ้องมองไปยังอสูรที่อยู่ภายในส่วนลึกด้วยสายตาที่หวาดหวั่น
“ท่าน…ผู้อาวุโส…พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะก่อกวนท่าน ได้โปรดอภัยให้เราด้วย ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายไท่หลิงได้ส่งเสียงสั่นๆออกมาเพราะว่าเพียงแค่กลิ่นอายที่อสูรตรงหน้าส่งออกมาก็ทำให้ดวงวิญญาณของพวกเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงแล้ว
นี่น่ะคือตัวตนระดับอนันตกาลตอนปลายที่กำลังจะตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์แท้จริงดังนั้นถึงได้ไร้เทียมทานภายใต้เขตแดนนิรันดร์แท้จริงเลยก็ว่าได้และนี่ทำให้แม้แต่ผู้นำตระกูลฟานเองก็ยังหวาดหวั่น
“ได้…โปรด…..อภัยให้กับความอวดดีของพวกเราที่รบกวนท่าน พวกเราจะรีบกลับออกไปโดยทันที ! ”
ผู้นำตระกูลฟานส่งเสียงออกมาพลางทำความเคารพแล้วก้าวถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
ณ ตอนนี้กลิ่นอายนิรันดร์ที่ส่งออกมาก็ยังคงปั่นป่วนขณะที่สายตาของมันจับจ้องไปทางทั้งสองคนด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกเพราะการโจมตีเมื่อครู่สร้างผลกระทบให้กับมันไม่น้อย
“โร๊วว ~! ”
มันหันมองออกไปทางพวกเขาพร้อมๆกับส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังเนื่องจากไม่สามารถส่งการโจมตีออกมาได้
คลื่นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาอย่างรุนแรง
“อ๊ากก ~!”
เสียงกรีดร้องถูกส่งตามออกมาขณะที่ร่างกายของผู้อาวุโสสี่คนของตระกูลฟานที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักได้ระเบิดออกก่อนที่ดวงวิญญาณจะสูญสิ้นไป
ผู้อาวุโสสูงสุดและคนอื่นๆที่อยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายยังคงรักษาชีวิตเอาไว้ได้แต่ร่างกายของพวกเขาก็แหลกสลายหายไปเช่นเดียวกันส่วนดวงวิญญาณเองก็แตกร้าวไปทั่ว
“น่ากลัวจริงๆ นี่ขนาดแค่เสียงคำรามนะ……… ”
เหลาเหลาที่อยู่ด้านนอกได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกา
หลินเทียนเองก็ผงะไปไม่ต่างกันพลางพบว่ากลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงของมันยิ่งปั่นป่วนขึ้นไปอีกและนี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเองก็ได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้นไปอีก
อสูรร้ายที่อยู่ภายในส่วนลึกได้กวาดสายตาอันเย็นยะเยือกเข้าใส่ทางหลินเทียนเล็กน้อยก่อนที่ร่างของมันจะเลือนรางหายไป
หลินเทียนได้แต่รู้สึกขนหัวลุกเพราะสายตาเมื่อครู่นั้นมันทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวโดยทันที
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาก็ได้ส่องประกายออกมาพร้อมทั้งพึมพำว่า
“ภายในส่วนลึกของสถานที่แห่งนี้จะต้องมีข่ายอาคมที่แข็งแกร่งอยู่แน่ๆไม่งั้นก็คงไม่มีทางที่จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการโจมตีเมื่อครู่ ”
ในตอนนี้เองที่มีเสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลายต่างถูกกระแทกปลิวออกมาไกลด้วยอาการบาดเจ็บที่ยากจะรักษา
หลินเทียนหันมองตามออกไปยังสภาพที่ได้รับบาดเจ็บของอีกฝ่ายพร้อมทั้งแสยะออกมาพลางก้าวเดินออกไป
ผู้นำตระกูลฟานและคนอื่นๆที่กำลังฟื้นฟูอาการและเห็นว่าหลินเทียนกำลังเดินเข้ามาใกล้เองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธจัดออกมา
“เจ้าตั้งใจจะล่อพวกเราเข้าไป ?! ”
ผู้นำตระกูลฟานส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังเพราะเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่หลินเทียนจะบังเอิญเข้าไปเนื่องจากพวกเขาล้วนไม่ใช่คนโง่
“แล้วไง ”
หลินเทียนแสยะออกมา
ผู้นำตระกูลฟานได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธจัดออกมาเพราะว่าการที่หลินเทียนล่อพวกเขามาที่นี่นั้นทำให้ต้องสูญเสียผู้อาวุโสของตระกูลไปถึงสี่คนแถมเขาเองก็ยังเกือบตายลงไปด้วย
“ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียนพร้อมซัดฝ่ามือที่รายล้อมไปด้วยประกายแสงเจิดจรัสอย่างจัง
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะยกเท้าถีบอัดเข้ากลางหน้าอกของเขาอย่างไม่ปราณี
นี่ทำให้ผู้นำตระกูลฟานได้แต่กระอักเลือดออกมาคำโตขณะที่ร่างของเขาลอยเคว้งออกไปไกล
“ด้วยสภาพของเจ้าในตอนนี้แล้วต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนต้นก็สามารถสังหารเจ้าได้ง่ายๆ ยังกล้ากระโดดเข้ามาหาข้าด้วยตัวเองอีก ? ”
หลินเทียนแสยะออกมา
“เจ้า !! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงออกมาด้วยความโกรธ
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายเฮอเฉินและนิกายไท่หลิงเองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกันเพราะพวกเขาต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสทว่าหลินเทียนในตอนนี้มีพลังอยู่เหนือกว่าพวกเขามาก !
ณ ตอนนี้พวกเขาต่างรีบหันหลังพร้อมทั้งพุ่งหนีไปด้วยความเร็วที่สูงถึงขีดสุด
ระหว่างนี้ผู้นำตระกูลฟานเองก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งตามไปเพราะแม้ว่าเขาจะอยากฆ่าหลินเทียนขนาดไหนแต่ก็รู้ถึงสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของตัวเองดีว่าหากยังคงรั้นอยู่ต่อก็จะเป็นเขาที่ตกตายลงด้วยเงื้อมมือของหลินเทียน