Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1404
ผู้นำตระกูลฟานและคนอื่นๆนั้นต่างพากันหันหลังพุ่งหนีไปด้วยความเร็วที่สูงอย่างมากแถมยังพุ่งผ่านอากาศออกไปอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขารู้ดีว่าด้วยสภาพของพวกเขาในตอนนี้ไม่มีทางต่อต้านหลินเทียนได้แน่ๆ
หลินเทียนเองก็ยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาขณะที่คลื่นกระบี่อันทรงพลังพุ่งผ่านอากาศออกไป
ตู้มม ~! ตู้ม ~! ตู้มม ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่มันกระแทกเข้ากับร่างของทั้งสามคนอย่างจัง
“พวกเจ้าสามผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายกลับหันหลังหนีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่า ? ”
เขาหันมองออกไปก่อนที่จะก้าวเข้าหาทั้งสามคนอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ปิดบังจิตสังหารเลยแม้แต่น้อย
ณ ตอนนี้ทั้งสามคนล้วนแล้วแต่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักกันทั้งหมดแถมยังใกล้จะตายกันแล้วด้วยทำให้ระดับพลังของหลินเทียนในตอนนี้อยู่สูงกว่าทั้งสามคนมาก
“อย่าอวดดีให้มันมากนักนะ ! ต่อให้พวกข้าจะได้รับบาดเจ็บหนักแต่ก็อย่าหวังว่าจะฆ่าเราได้ง่ายๆ ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายไท่หลิงได้กัดฟันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“งั้นรึ ? ”
หลินเทียนตอบกลับไปก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายพร้อมทั้งเหวี่ยงเท้าเตะอัดกระแทกร่างของอีกฝ่ายลงกับพื้น
ผู้อาวุโสสูงสุดได้แต่กระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธพลางส่งเสียงกู่ร้องออกมาว่า
“ไอ้ระ……”
หลินเทียนยกเท้าขึ้นมากระทืบใส่ร่างของอีกฝ่ายเพื่อขัดจังหวะคำพูดนี้แล้วพูดต่อว่า
“ไอ้แก่เอ้ย ! ”
“เจ้า……”
“บึ้สส ~! ”
ศิลาหินส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาขณะที่หลินเทียนส่งถ่ายพลังออกไปเพื่อควบคุมมันอย่างเต็มกำลัง
“สำหรับข้าในตอนนี้แล้วการจะฆ่าเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากนัก ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
หลังจากที่พูดจบแล้วศิลาหินอันทรงพลังก็ได้กดทับเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายอย่างไม่ปราณี
พุฟฟ ~! เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของชายชราได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ
“อ๊ากก ~! ”
ดวงวิญาณของอีกฝ่ายยังไม่ได้แตกดับทำให้ได้แต่ส่งเสียงกู่ร้องออกมาด้วยความโกรธก่อนที่จะพุ่งหนีไปพร้อมๆกับเศษชิ้นเนื้อของตัวเองเพื่อพยายามรักษาตัวอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายเพราะเขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้มันได้ตั้งตัวอยู่แล้ว เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ลุกโชนขึ้นภายในฝ่ามือของเขาก่อนที่จะถูกซัดออกไปพร้อมๆกับวงเวทย์สังสารวัฏอัดเข้าใส่ทางชายชราอย่างจัง
“ไม่ ~~~ ”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนถูกส่งตามออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่ร่างกายของชายชราจะถูกแผดเผาจนวอดวายส่วนดวงวิญญาณก็แตกดับกลายเป็นประกายระยิบระยับไปอย่างสมบูรณ์
สูญสิ้นอย่างแท้จริง !
“สังหารเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลาย ! ”
เหลาเหลาได้แต่ผงะไป
แม้นางจะรู้ว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บอย่างหนักก็จริงทว่าการที่หลินเทียนสามารถสังหารอีกฝ่ายลงได้ก็ยังทำให้นางรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย
เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นถึงตัวตนที่แข็งแกร่งอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ผู้นำตระกูลฟานและผู้อาวุโสสูงสุดนิกายเฮอเฉินเองก็ได้แต่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
เสียง วิ้ส วิ้ส ถูกส่งออกมาหลังจากที่พวกเขาทั้งสองหันหลังพุ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งโบกมือส่งคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์พวยพุ่งออกไปขัดขวางการเคลื่อนไหวของพวกเขา
“พวกเจ้าหนีไปไหนไม่พ้นหรอก ”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
บึ้สส ~!
ประกายแสงสีทองแปรเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ที่ส่องประกายระยิบระยับอยู่ในมือของเขาซึ่งมันอัดแน่นไปด้วยพลังของศิลาหินที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถทำลายได้ทุกสรรพสิ่งก่อนที่เขาจะก้าวเดินเข้าไปหาทั้งสองคน
มันเป็นกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่สั่นสะท้านไปอย่างรุนแรงเพราะด้วยสภาพของพวกเขาในตอนนี้แล้วมันเพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของทั้งสองคน
“สหาย ข้าไม่ได้มีความคิดจะฆ่าเจ้าหรือแม้แต่แสดงจิตสังหารออกมาแม้แต่น้อยเพียงแค่หลงผิดไปชั่วขณะเท่านั้น โปรดเมตตาข้าได้รึไม่ ? ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงามไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไรทางเราก็จะรีบสนองให้เจ้าอย่างรวดเร็ว ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายเฮอเฉินได้ส่งเสียงออกมา
“เมตตา ? ”
หลินเทียนหันมองออกไปพร้อมทั้งถามว่า
“เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้ ? ”
พวกเขาถูกกำหนดให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตายตั้งแต่ที่อีกฝ่ายต้องการจะชิงเอาเจดีย์ราชันอมตะของเขาแล้ว
เขาไม่ลังเลเลยที่จะฟาดฟันกระบี่ในมือออกไป
พุฟฟ ~! ร่างกายของอีกฝ่ายระเบิดออกเป็นชิ้นๆทำให้เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทาง
ดวงวิญญาณของนางที่ยังไม่ดับสลายได้แต่ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธและหวาดกลัวว่า
“เจ้า……..”
“ตาย ! ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งกดทับศิลาหินเข้าใส่ร่างของนางอย่างจัง
พริบตานี้เองที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายได้ตกตายลงไปอีกคนและเหลือไว้เพียงแค่ผู้นำตระกูลฟานเท่านั้น
หลินเทียนยกกระบี่ในมือขึ้นพร้อมทั้งก้าวเดินออกไปทางอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า
“ถึงเวลาของเจ้าแล้ว ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
อีกฝ่ายที่มีสีหน้าซีดเผือดเองก็ได้แต่หันหลังแล้วพุ่งหนีต่อไป
ทว่าตอนนี้ความเร็วของเขาเพิ่มสูงขึ้นมากแถมกลิ่นอายเองก็ยังแข็งแกร่งขึ้นเสมือนว่าได้สังเวยทักษะต้องห้ามบางอย่างออกมา
“วิ้สส ~! ”
พริบตาเขาก็พุ่งหายลับขอบฟ้าไป
“เร็วมาก ! ”
เหลาเหลาส่งเสียงออกมา
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบขณะที่โอบร่างของนางเอาไว้ด้วยประกายแสงสีทองพร้อมทั้งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ของเขานั้นถือว่าสูงอย่างมากแถมยังไล่ตามหลังอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็วพลางสังเวยทักษะสุริยันปรินิพพานเพื่อจุดประกายเปลวเพลิงสีแดงฉานขึ้นมารักษาอาการบาดเจ็บ
“ก่อนหน้านี้ไล่ล่าข้ากันสนุกหนิ ถึงคราวของข้าบ้างล่ะ ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาขณะที่นำร่างของเหลาเหลาพุ่งไล่หลังของอีกฝ่ายไปพลางฟาดฟันคลื่นกระบี่อย่างต่อเนื่อง
สีหน้าของอีกฝ่ายในตอนนี้ดูน่าเกลียดถึงขีดสุดขณะที่ต้องพยายามเบี่ยงหลบการโจมตีของหลินเทียนและหนีไปพร้อมๆกัน
ณ ตอนนี้เขาได้สังเวยทักษะต้องห้ามของตระกูลที่จะช่วยเพิ่มระดับความสามารถชั่วขณะแล้วหลังจากนั้นกลิ่นอายของเขาก็จะแผ่วลงถึงขีดสุดดังแถมระดับพลังของเขาในตอนนี้ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับสภาวะที่สมบูรณ์ที่สุดได้อีกดังนั้นแม้จะรู้สึกโกรธกับคำพูดของหลินเทียนแต่ก็ไม่กล้าที่จะหยุดเท้าลง
หลินเทียนยังคงไล่ตามหลังของอีกฝ่ายไปขณะที่กวัดแกว่งกระบี่ในมือของเขาอย่างต่อเนื่อง
ผู้นำตระกูลฟานได้แต่กัดฟันเอาไว้แน่นขณะที่พุ่งหนีไปด้วยร่างกายที่ชโลมไปด้วยเลือด
พริบตาพวกเขาก็พุ่งผ่านภูเขามากมายหลายลูกพร้อมๆพบเจอกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมากมาย
“นั่นมัน ?! ”
“ผู้นำตระกูลฟาน ?……ส่วนนั่นมันคนที่สังหารฟานเจิ้งเย่และผู้อาวุโสทั้งสองไป ”
“ชายโฉดคนนั้นมัน…..กำลังไล่ล่าผู้นำตระกูลฟาน ?! ”
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ผู้นำตระกูลฟานเป็นฝ่ายไล่ล่าเขาหรือไงกัน ? ทำไมถึงได้กลายเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าซะเองได้ ?! ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีผู้อาวุโสคุ้มกันหรือแม้กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดของอีกสองนิกายอีก คนพวกนั้นหายไปไหนกัน ? ”
“จากสถานการณ์ตรงหน้านี้แล้วมันดูเหมือนว่าผู้อาวุโสทั้งหลายและผู้อาวุโสสูงสุดของสองนิกายน่าจะถูกชายคนนั้น……สังหารไปหมดแล้ว ?! ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! อีกฝ่ายนั้นเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายแถมผู้อาวุโสตระกูลฟานทั้งสี่คนก็เป็นนิรันดร์อมตะตอนต้นที่แข็งแกร่ง มันจะไปถูกชายคนนั้นสังหารได้อย่างไรกัน ? แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ขนาดไหนแต่ก็เป็นเพียงเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนปลายเท่านั้น มันจะไปต่อกรกับอีกฝ่ายได้ไงกัน ? ”
“แต่…….ตอนนี้ไม่ใช่ผู้นำตระกูลฟานที่กำลังถูกไล่ล่างั้นรึ แถมคนอื่นๆเองก็สูญหายไปดังนั้นนอกจากการที่ถูกชายคนนั้นสังหารไปแล้วยังมีความเป็นไปได้อื่นอยู่อีก ? ”
“นี่…..”
หลายๆคนได้แต่พากันผงะไป
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่หลินเทียนฟาดฟันคลื่นกระบี่อันทรงพลังพุ่งผ่านอากาศเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย
ผู้นำตระกูลฟานพยายามเบี่ยงหลบอย่างเต็มกำลังแต่ก็ไม่สามารถหลบได้พ้นก่อนที่หน้าท้องจะถูกทะลวงผ่านทำให้เลือดสาดกระจายออกไปทั่ว
สีหน้าของเขาซีดเผือดเป็นอย่างมากขณะที่พยายามหนีและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บไปในตัวก่อนที่จะส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังว่า
“สหายทั้งหลายโปรดช่วยข้าจัดการเจ้าคนชั่วช้านี่ด้วยแล้วหลังจากนี้ทางตระกูลของเราจะซาบซึ้งอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะ อาวุธวิญญาณ ทักษะเทวะหรืออื่นๆพวกเราก็มอบให้ได้ ! ”
คำพูดของเขาทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงขณะที่หลายๆคนมีดวงตาที่เปล่งประกายออกมาเพราะว่าหากให้การช่วยเหลือผู้นำตระกูลฟานแล้วก็จะเป็นการผูกไมตรีกับทั้งตระกูลทำให้เส้นทางบ่มเพาะในอนาคตไปได้ไกลขึ้น
แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่สีหน้าของพวกเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแถมยังไม่มีใครกล้าขยับแม้แต่น้อยเพราะถึงอย่างไรชื่อเสียงของหลินเทียนในช่วงหลายวันมานี้ก็โด่งดังเป็นอย่างมาก ชายผู้ที่ถือครองอาวุธอนันตกาลสามารถสังหารเขตแดนนิรันดร์อมตะได้แบบนี้แล้วใครจะกล้าล่วงเกิน ?
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครก้าวออกมาช่วยแล้วใบหน้าของผู้นำตระกูลฟานก็ยิ่งซีดลงไปอีก
และมันเป็นตอนนี้เองที่ร่างของหลินเทียนได้พุ่งเข้าประชิดอย่างรวดเร็ว
“เจ้า…..”
“บึ้สส ~! ”
หลินเทียนได้สังเวยเอาวงเวทย์สังสารวัฏออกมาผสานพลังเข้ากับศิลาหินพร้อมทั้งกดทับเข้าใส่ไปพร้อมๆกับวงเวทย์หยินหยางทั้งหกชั้น
อีกฝ่ายได้แต่ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาขณะที่วงเวทย์หยินหยางทะลวงเข้าใส่ทะเลความรู้ของตัวเอง
เขาพยายามดิ้นรนพร้อมๆกับส่งเสียงกู่ร้องออกมาว่า
“เจ้าคิดจะทำอะไรกัน หยุดนะ ! ได้โปรด ~~~ ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาครู่หนึ่งก่อนที่แววตาของเขาจะหม่นหมองลงขณะที่ดวงวิญญาณแหลกสลายหายไปและเหลือไว้เพียงกายหยาบเปล่าๆเท่านั้น