Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1406
อมทั้งสัมผัสได้ว่าประกายสายฟ้าทั้งหลายนั้นสามารถสังหารเขตแดนอนันตกาลลงได้ง่ายๆเสมือนดั่งว่ามันเป็นประสงค์ของโลก
“ดูเหมือนว่ามรดกอย่างทักษะสายฟ้านั่นน่าจะอยู่ภายในจริงๆ แต่ด้วยสภาพแบบนี้ใครจะเข้าไปเอามันได้กัน ? ”
เหลาเหลาถามออกมา
แม้ว่านางจะไม่ได้แข็งแกร่งมากแต่ก็สัมผัสได้ดีว่ามันเป็นคลื่นสายฟ้าที่ทรงพลังอย่างมาก
วิ้สส !
วิ้ส !
วิ้สสส !
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ร่างสามร่างที่แผดกลิ่นอายอันทรงพลังปรากฏตัวขึ้น
“นั่นมันผู้อาวุโสที่ห้า หกและเจ็ดของนิกายเฉินเจียวที่อยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้นหนิ ! ”
มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งจดจำใบหน้าของพวกเขาได้
หลังจากนั้นเองก็มีเสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาอีกครั้งขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเขตแดนเดียวกันของนิกายจี่หยานปรากฏตัวขึ้นมา
“นั่นมัน……..ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้นจากนิกายจี่หยานถึงสามคน ! ”
หลายๆคนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“ไม่คิดเลยว่าคนของขุมพลังระดับ 1 ทั้งสองขุมพลังจะมาที่นี่ หรือว่าคนของตระกูลฟานก็มาด้วย ? ”
“ไม่มาแล้วหรอก น้องชายของผู้นำตระกูลฟานและผู้อาวุโสทั้งหลายรวมถึงผู้นำตระกูลเองก็ถูกสังหารไปหมดแล้ว ”
“อ่อใช่ เกือบลืมไปเลย ”
“ไม่รู้เลยว่าชายคนนั้นเป็นใครกันแน่ ? แข็งแกร่งเกินไปแล้วแถมยังกล้าบ้าบิ่นมากๆที่กล้าสังหารแม้กระทั่งคนของขุมพลังระดับนี้…….”
“ข้าเดาได้เลยว่ามันจะต้องทำให้บรรพบุรุษตระกูลฟานโกรธจนคลั่งอย่างแน่นอน ”
หลายๆคนส่งเสียงออกมา
ณ ตอนนี้หลินเทียนและเหลาเหลาล้วนยืนอยู่ในมุมๆหนึ่งที่ห่างออกไปทำให้ไม่มีใครพบตัวพวกเขา
“ไอ้แก่ตระกูลฟานนั่นจะโผล่ออกมา ? ตาเฒ่าเขตแดนอนันตกาลมันน่ากลัวมากๆเลยนะ”
เหลาเหลาได้ส่งเสียงออกมาหลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของกลุ่มคนโดยรอบ
“มันจะมาได้ไหมไม่รู้แต่ข้าเดาว่าผู้อาวุโสสูงสุดของพวกมันต้องแห่มากันแน่เพราะถึงอย่างไรผู้นำตระกูลของพวกมันก็ตกตายลงที่นี่ ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
การที่ผู้นำตระกูลถูกสังหารลงพร้อมๆกับคนอื่นๆภายในสถานที่ๆมีมรดกของทักษะสายฟ้านั้นไม่ว่าจะวิเคราะห์ด้านไหนแล้วอีกฝ่ายก็จะต้องส่งกองกำลังมาอย่างแน่นอน
ระหว่างที่พูดสีหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยพร้อมทั้งจ้องมองออกไปยังพื้นที่ด้านหน้า
สถานที่ด้านหน้ายังคงรายล้อมไปด้วยประกายสายฟ้าห้าสีที่ปกคลุมพื้นที่โดยรอบเอาไว้พร้อมส่งเสียงคลื่นสายฟ้าออกมาเป็นพักๆ
เขาจ้องมองออกไปพร้อมทั้งสัมผัสได้ว่ามันเป็นพลังงานแบบเดียวกันกับที่แฝงอยู่ภายในอักขระบนผนังหินเพียงแค่ในตอนนี้เขาสามารถสัมผัสได้มากยิ่งขึ้น
“คนของนิกายเฉินเจียวและนิกายจี่หยานก้าวออกไปแล้ว ”
น้ำเสียงหนึ่งถูกส่งออกมา
เมื่อมองออกไปแล้วจะเห็นว่าผู้อาวุโสของทั้งสองต่างก้าวเดินออกไปพร้อมทั้งสังเวยอาวุธวิญญาณออกมา
นี่ทำให้สายตาของพวกเขาต่างพากันจับจ้องไปยังทั้งสองคนโดยทันที
เป็นเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญของทั้งสองขุมพลังล้วนอยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้นซึ่งไม่นานพวกเขาก็อยู่ห่างจากทะเลสายฟ้าไม่ถึงสิบเมตรเท่านั้น
“เข้าใกล้ได้มากกว่าเขตแดนจ้าวสวรรค์คนก่อนหน้านี้อีก สมแล้วจริงๆที่เป็นถึงเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้น ! ”
เป็นเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวสวรรค์คนก่อนหน้านี้ได้ตกตายลงที่ระยะห่างสิบห้าเมตรทว่าทั้งสองคนนั้นกลับสามารถเข้าใกล้ระยะสิบเมตรได้นี่ทำให้ทุกคนต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาแต่มันก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นเพราถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นตัวตนระดับนิรันดร์อมตะที่แข็งแกร่งกว่าจ้าวสวรรค์จนเทียบไม่ได้
“ไม่รู้เลยว่าจะเข้าใกล้ได้ขนาดไหนกัน ”
“อย่างน้อยๆก็ยืนยันได้แล้วว่าภายในจะต้องมีมรดกทักษะสายฟ้าอยู่อย่างแน่นอนและตราบเท่าที่ได้รับมันมาแล้วขุมพลังแห่งนั้นจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่ๆ ! ”
“นั่นก็ยังไม่แน่หรอกนะ ต้องดูก่อนว่าจะสามารถรับมือกับคลื่นสายฟ้าเหล่านี้ได้หรือเปล่า ”
ผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงสนทนาออกมาขณะที่จ้องมองออกไปทางผู้อาวุโสทั้งหลาย
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ผู้อาวุโสคนอื่นๆเองก็ต่างจ้องมองไปยังพวกพ้องของตัวเองอย่างระมัดระวังพลางแผดคลื่นพลังออกมาจากร่างเพื่อเตรียมฉุดเอาพวกพ้องกลับมาหากเดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
“พวกเขาแข็งแกร่งก็จริงแต่ทำไมข้าถึงคิดว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้ได้กัน ”
เหลาเหลาที่กำลังมองออกไปได้แต่ส่งเสียงออกมาพลางส่ายศีรษะของนาง
หลินเทียนไม่ได้ออกความเห็นอะไรแม้แต่น้อยถึงขั้นที่ไม่ได้ให้ความสนใจอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำและได้แต่จับจ้องไปยังคลื่นสายฟ้าที่อยู่ตรงหน้า
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปหลายชั่วลมหายใจ
ผู้อาวุโสทั้งสองที่กำลังเดินเข้าไปใกล้ได้แต่สั่นสะท้านไปขณะที่อาวุธวิญญาณเหนือศีรษะสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมทั้งแตกร้าวอย่างรวดเร็ว
คลื่นสายฟ้าที่อยู่ด้านหน้าเองก็แผดคลื่นพลังทำลายล้างอันหนักหน่วงออกมาอย่างรุนแรง
นี่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองได้แต่สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่อาวุธวิญญาณจะแหลกสลายหายไปส่งผลให้พวกเขาต่างกระอักเลือดออกมาคำโตด้วยร่างกายที่แตกร้าวไปเท่า
“ถอยกลับมา ! ”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆที่ยืนรออยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงออกมาอย่างดังพร้อมทั้งพากันเหวี่ยงโซ่ที่สร้างขึ้นจากพลังเทวะออกไปลากร่างพรรคพวกตัวเองกลับมา
“ตู้มม ~! ”
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังเสมือนดั่งทัณฑ์สวรรค์ได้กระเพื่อมออกมาอย่างรุนแรง
“อ๊ากก ~! ”
“ไม่ ~~! ”
ผู้อาวุโสของทั้งสองขุมพลังที่อยู่ภายในคลื่นสายฟ้าต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมาก่อนที่จะถูกลบหายไปอย่างฉับพลัน
ไม่เพียงแค่ร่างกายเท่านั้นแต่ดวงวิญญาณเองก็สูญสิ้นเช่นกัน
“นี่มัน…………”
“ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะกลับตกตายลงแบบนี้โดยที่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ?! ”
“นี่ต้องมีระดับพลังสูงขนาดไหนกันถึงจะเข้าไปได้ ? ”
ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่โดยรอบได้แต่แข็งค้างไป
ผู้อาวุโสของทั้งสองขุมพลังที่อยู่รอบนอกได้แต่มีสีหน้าที่น่าเกลียดอย่างมากเพราะพวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่ามันอันตรายถึงได้ระมัดระวังอย่างมากและตราบเท่าที่คนของพวกเขาได้รับอันตรายก็จะรีบฉุดร่างกลับมาทว่าก็คิดไม่ถึงเลยว่าคลื่นพลังอันหนักหน่วงจะถูกซัดออกมาบดขยี้ร่างของผู้อาวุโสทั้งสองโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ฉุดร่างพวกเขากลับมา
“ข้าบอกแล้วว่าพวกเขาไม่มีหวังตั้งแต่แรก ”
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงกระซิบออกมา
หลินเทียนที่อยู่ข้างๆเองก็ได้แต่จ้องมองออกไปยังคลื่นสายฟ้าด้านหน้าด้วยแววตาที่ส่องประกายแสงสีทองออกมาอย่างเข้มข้นเสมือนว่ามีทัณฑ์สวรรค์กำลังก่อตัวขึ้นภายในม่านตาของเขา
“ข้าจะก้าวออกไปหน่อย ระหว่างที่ข้ายังไม่กลับออกมาเจ้าก็หาที่ซ่อนตัวก่อนแล้วกัน ”
เขาหันไปพูดกับนาง
“ว่าไงนะ ?! ”
เหลาเหลาได้แต่อ้าปากค้างพร้อมทั้งคว้าแขนของเขาเอาไว้แล้วพูดว่า
“ใจเย็นๆสิ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากได้มันมากแต่มันอันตรายเกินไป ! ”
“เจ้าเองก็เห็นแล้วว่าขนาดเขตแดนนิรันดร์อมตะยังไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เลยด้วยซ้ำแถมยังหนีไม่รอดอีก แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแถมมีอาวุธอนันตกาลและอาวุธที่สร้างจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาลก็จริงแต่ก็ไม่มีทางรับมือกับความน่าสะพรึงกลัวของมันได้แน่ๆ หากว่าเข้าใกล้เจ้าจะต้องถูกคลื่นสายฟ้าที่ต่อให้เป็นเขตแดนนิรันดร์แท้จริงก็ไม่มีทางต้านได้ขย้ำโดยทันที”
หลินเทียนเองก็รู้ว่านางเป็นห่วงเขาดังนั้นถึงได้พูดออกมาว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ข้าจะระวังตัว ”
หลังจากที่เขาได้ทำการสำรวจอย่างตั้งใจแล้วก็ตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของคลื่นสานฟ้านี้ดีทว่ายิ่งเวลาผ่านไปความอันตรายก็ยิ่งแผ่วลงถึงขั้นทำให้เขารู้สึกแปลกๆเสมือนว่า…….แม้จะไม่ป้องกันอะไรก็สามารถเดินทอดน่องผ่านไปได้ง่ายๆ
มันเป็นความรู้สึกที่ทะลักออกมาถึงขั้นที่แก่นชีวิตของเขาสั่นไหวไม่หยุดเสมือนว่ามันกำลังเรียกหาเขา
เขาพูดออกมาอีกครั้งเพื่อให้นางหาที่ซ่อนตัวเพราะว่าหากว่าผู้เชี่ยวชาญตระกูลฟานมาที่นี่และพบตัวนางเข้าระหว่างที่เขาอยู่ภายในก็จะเป็นอันตรายกับนางมากๆ
เหลาเหลาได้แต่มองออกไปทางหลินเทียนที่มีสายตาแน่วแน่และดูเหมือนว่าจะมั่นใจมากๆจึงได้พยักหน้าพลางพูดว่า
“เจ้าก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน ! ”
นางพูดออกมาพร้อมทั้งสยบกลิ่นอายของตัวเองเอาไว้แล้วก้าวออกไปยังพื้นที่ๆปลอดภัยอย่างรวดเร็ว
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆคนมักจะไม่ให้ความสนใจมากนัก
หลินเทียนที่กำลังหันมองออกไปได้พยักหน้าให้กับนางเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“นี่มัน ?! ”
“นั่นมันคนโฉดที่สังหารผู้นำตระกูลฟาน ?! มาที่นี่ด้วย !? ”
“นี่มาเพื่อทักษะนั่น ? คิดจะฝ่ามันไปจริงๆ ?! ”
ผู้เชี่ยวชาญโดยรอบพากันส่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึง