Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1410
ประกายสายฟ้าสีเงินอันทรงพลังอาบร่างของเขาเอาไว้อย่างเข้มข้น
นี่ทำให้กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตู้มม ~!
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังจากทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าหมุนวนอยู่ภายในร่างขณะที่เขาหลับตาลงทำให้พลังแห่งสัจธรรมกระเพื่อมออกไปเป็นระลอกๆส่งผลให้ประกายแสงที่อาบร่างของเขายิ่งเจิดจรัสขึ้นไปอีก
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนเต็ม
หนึ่งเดือนมานี้กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุดแถมประกายสายฟ้าที่อาบร่างของเขาเอาไว้ยังให้ความรู้สึกเสมือนว่าเขาเป็นผู้ปกครองเหนือทัณฑ์สวรรค์ทั้งปวง
ระดับพลังของเขาพุ่งสูงถึงเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตตอนปลายและอีกเพียงแค่ครึ่งก้าวก็สามารถก้าวข้ามไปได้แล้ว
มันเป็นตอนนี้เองที่เขาได้ลืมตากลับขึ้นมาด้วยแววตาที่ส่องประกายกระแสไฟฟ้า
เขาใช้เวลาเรียนรู้อยู่กว่าสองเดือนเต็มทำให้พอเข้าใจความจริงเกี่ยวกับทักษะนี้ว่ามันถือเป็นทักษะสังหารระดับสุดยอดเลยก็ว่าได้เพราะมันมีความสามารถในการควบคุมสายฟ้าทั้งปวงส่งผลให้ช่วยแทรกแซงพลังทำลายล้างของทัณฑ์สวรรค์ได้
“ถึงเวลาที่ควรจะกลับออกไปได้แล้ว ”
เป็นเพราะเขาได้รับทักษะนี้มาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป
ยิ่งกว่านั้นเหลาเหลาเองก็รอเขาอยู่ด้านนอก
เขายืนขึ้นก่อนที่จะก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
สถานที่แห่งนี้ยังคงรายล้อมไปด้วยคลื่นสายฟ้าอันเข้มข้นที่สามารถสังหารทุกคนที่เข้าใกล้ได้อย่างง่ายดายไม่เว้นแม้กระทั่งเขตแดนนิรันดร์แท้จริง
เขาก้าวเดินออกไปโดยที่ไม่ได้รับแรงกดดันใดๆแม้แต่น้อยแถมยิ่งเขาที่เพิ่มสำเร็จทักษะสายฟ้ามาเองก็ทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้นไปอีกเพราะนอกจากจะไม่ได้รับแรงกดดันแล้วกลับผ่อนคลายเสมือนกำลังแช่บ่อน้ำพุร้อน
ไม่นานเขาก็ได้ก้าวเดินออกไปจนถึงพื้นที่ด้านนอกของสถานที่แห่งนี้
ตู้มมม ~!
มันเป็นตอนนี้เองที่กลิ่นอายอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมาจากสถานที่ๆอยู่ห่างออกไปพร้อมทั้งก้าวเข้ามา
หลินเทียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเองก็ได้แต่หันมองออกไปยังอีกฝ่ายพร้อมทั้งหยุดเท้าลง
เพราะแม้ว่านี่จะเป็นการพบกันครั้งแรกแต่เขาก็พอเดาที่มาของอีกฝ่ายได้ดี
“คนตระกูลฟาน ”
เขาพึมพำออกมา
เป็นเพราะสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยของอีกฝ่ายว่ามันมีกลิ่นอายแบบเดียวกันกับฟานเจิ้งเย่และผู้นำตระกูลฟานดังนั้นถึงได้ยืนยันสถานะของอีกฝ่ายได้ทันที
แน่นอนว่าร่างทั้งสามร่างนี้ล้วนเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลฟานที่อยู่ในเขตแดนกึ่งอนันตกาลซึ่งหลังจากที่ได้ยินเสียงของหลินเทียนแล้วพวกเขาก็ต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยทันที
“นี่เจ้ายังไม่ตายอีกงั้นรึ ?! ”
เป็นเพราะผู้นำตระกูล น้องชายผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสอีกหลายคนได้ตกตายลงด้วยเงื้อมมือของหลินเทียนทำให้ทั้งตระกูลฟานถึงกับโกรธจัดซึ่งพวกเขาเองก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่าหลินเทียนได้เดินทางเข้ามาที่นี่ถึงได้แห่กันมาเพื่อฆ่าหลินเทียนไปพร้อมๆกับเก็บเกี่ยวเอาทักษะล้ำค่าที่อยู่ที่นี่
พวกเขามาถึงที่นี่เมื่อหนึ่งเดือนก่อนและได้ยินมาว่าหลินเทียนได้ก้าวเข้าไปภายในทะเลสายฟ้าแถมยังมีความเป็นไปได้ที่จะตกตายลงไปแล้วดังนั้นถึงได้รออยู่กว่าหนึ่งเดือนเต็มซึ่งหลินเทียนก็ยังไม่กลับออกมาทำให้พวกเขาต่างคิดว่าหลินเทียนได้ตกตายลงไปแล้วจริงๆ
ช่วงหนึ่งเดือนที่พวกเขาทำการสำรวจนี้ก็สามารถเข้าใกล้ทะเลสายฟ้าในระยะประชิดได้ด้วยเขตแดนอนันตกลได้สำเร็จและเพิ่งได้ก้าวเข้ามา
แต่ไม่คิดเลยว่าก้าวแรกที่เข้ามาถึงจะได้พบกับฆาตกรที่สังหารผู้นำตระกูลของตัวเอง
นี่ทำให้พวกเขาได้แต่ผงะไปก่อนที่แววตาจะส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมา
ระหว่างนี้เองที่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่โดยรอบเองก็ได้แต่ผงะไปหลังจากที่เห็นท่าทางแปลกๆของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามพลางหันมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงยิ่งกว่าเก่าไม่เว้นแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสองนิกายใหญ่
“นี่เขา….ยังมีชีวิตอยู่ ?! ยังไม่ตาย ! ”
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะกลับออกมา ? นี่คงไม่ใช่ว่า…เขาได้รับทักษะนั้นไปแล้ว ?!
“นี่…..”
หลายๆคนที่อยู่ห่างออกไปได้แต่จ้องมองเข้าไปด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก
“ไม่เป็นอะไรจริงๆด้วย ! ”
เหลาเหลาเองก็ได้แต่แสดงท่าทางที่มีความสุขออกมา
แม้ว่านางจะเชื่ออยู่เต็มอกว่าหลินเทียนจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนแต่หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของผู้คนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้ก็ทำให้นางอดเป็นห่วงเขาไม่ได้จนในที่สุดก็โล่งอกเสียที
หลินเทียนที่เพิ่งก้าวออกไปได้สบสายตากับผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามคนด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างมาก
“พวกเจ้าอยากจะฆ่าข้า ? ”
เขาหันมองออกไปเนื่องจากสัมผัสถึงจิตสังหารได้อย่างชัดเจน
แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาก็รู้ถึงเป้าหมายการมาของอีกฝ่ายดีว่าอย่างแรกก็เพื่อทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าและฆ่าเขา
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนได้ส่งเสียงออกมาว่า
“พวกข้ามาเด็ดหัวเจ้า ! ”
หลังจากที่พูดจบแล้วพวกเขาก็ยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหนทว่ากลับโบกมือสังเวยทักษะเทวะอันทรงพลังออกมากดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่ปราณี
มันเป็นทักษะที่ลึกลับและทรงพลังอย่างมากถึงขั้นสามารถสังหารทุกคนที่อยู่ภายใต้เขตแดนอนันตกาลได้สบายๆ
ทว่าหลินเทียนก็ยังคงยืนอยู่กับที่โดยที่ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่หมุนวนทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าเล็กน้อยทำให้สถานที่แห่งนี้สั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมๆกับสร้างคลื่นสายฟ้าออกไปทำลายทักษะทั้งหมดไป
คลื่นพลังทำลายของประกายสายฟ้าเหล่านั้นยังคงพุ่งผ่านออกไปโอบร่างของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามคนเอาไว้อย่างฉับพลัน
พุฟ ~ !
พุฟ !
พุฟฟ !
ร่างของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามคนได้ถูกกระแทกลอยเคว้งออกไปด้านนอกอาณาเขตด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเลือดที่ไหลทะลักออกมาไม่หยุด