Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1413
เจียงเหลาเหลาได้แต่คอหดไปขณะที่หลินเทียนเองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่น้อยเพราะว่ามันมีกลิ่นอายของอสรพิษร้ายที่กำลังตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์แท้จริงอยู่ แล้วนี่มันมาทำอะไรที่นี่กัน ?
“หากว่ามันกำลังตัดผ่านก็น่าจะอยู่ที่ถ้ำนั่นและไม่น่าจะมาที่นี่ถึงจะถูก หรือว่ามันตัดผ่านได้แล้วถึงได้มาที่นี่กัน ? ”
เขาคิดอยู่ภายในใจก่อนที่จะส่ายศีรษะของเขาเพราะว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่ต่ำมากๆ
จากสถานการณ์ที่เขาเห็นนั้นอีกฝ่ายมันไม่สามารถตัดผ่านได้ง่ายแบบนั้น
“ตู้มม ~! ”
มันเป็นตอนนี้เองที่กลิ่นอายอสูรอันเข้มข้นได้ระเบิดออกมาพร้อมๆกับปรากฏงูหลามยักษ์ที่มีสายตาที่ล้ำลึกรายล้อมไปด้วยเปลาเพลิงปีศาจบรรพกาลเสมือนว่ากำลังสังเวยทักษะที่แข็งแกร่งออกมา
“เป็น……มันจริงๆด้วย ! ”
เหลาเหลาถึงกับโง่งมไปทันที
หลินเทียนเองก็ประหลาดใจไม่น้อยเพราะว่าอีกฝ่ายมาที่นี่จริงๆด้วย
“ดูเหมือนว่ามันกำลังพยายามทำลายข่ายอาคมบางอย่าง เรารีบหนีกันเร็ว ! ”
เหลาเหลากลืนน้ำลายของตัวเองกลับไปพร้อมทั้งส่งเสียงออกมา
เมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้พวกเขาได้ล่อผู้นำตระกูลฟานและคนอื่นๆเข้าไปภายในถ้ำของมันเพื่ออาศัยพลังของอีกฝ่ายในการฆ่าล้างศัตรูแต่มันก็เป็นการรบการการตัดผ่านของอีกฝ่ายดังนั้นหากว่าอีกฝ่ายพบพวกเขาเข้าก็คงจะต้องตกตายลงอย่างแน่นอน
หลินเทียนพยักหน้าของเขาและไม่ได้พูดอะไรก่อนที่จะหันหลังจากไป
พลังอสูรอันเข้มข้นที่ผสมผสานไปด้วยกลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงถูกส่งออกมาและแทบจะในเวลาเดียวกันนี้เองที่สายตาของมันได้จับจ้องไปที่ร่างของหลินเทียนและเหลาเหลา
“เจ้ามนุษย์ ! เป็นเจ้า ! ”
มันได้ส่งเสียงออกมาด้วยแววตาที่ไม่แยแสพร้อมทั้งตวัดหางส่งประกายแสงอันทรงพลังเข้าใส่ทางหลินเทียนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
เมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้มันอุส่ากำลังจะตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์แท้จริงทว่าเป็นเพราะการชี้นำของหลินเทียนได้ล่อเอาผู้บุกรุกเข้าไปภายในถ้ำทำให้มันจดจำใบหน้าของเขาได้อย่างดี
ณ ตอนนี้หลังจากที่ได้พบกับหลินเทียนอีกครั้งก็ได้ส่งคลื่นพลังอัดเข้าใส่ทางเขาอย่างไม่ลังเล
มันเป็นการโจมตีของเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงที่ผสมผสานจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวเอาไว้ถึงขั้นที่ต่อให้เป็นเขตแดนอนันตกาลก็ไม่มีทางรับมือได้
สีหน้าของหลินเทียนเปลี่ยนไปโดยทันทีถึงขั้นที่ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้สั่นกลัวพร้อมรีบสังเวยก้าวย่างแห่งสวรรค์และทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าออกมาเพื่อเบี่ยงหลงการโจมตีนี้
วิ้สส ~!
มิติโดยรอบได้แหลกสลายหายไปขณะที่จุดที่หลินเทียนและเหลาเหลาเคยอยู่ได้กลายเป็นผุยผงอย่างฉับพลัน
อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาไม่น้อย
เป็นเพราะมันอยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงแล้วและแม้การโจมตีเมื่อครู่จะเป็นการโจมตีธรรดมาๆทว่าความเร็วของมันนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างมากแต่ก็ไม่คิดเลยว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าจะสามารถหลบได้
หลังจากนั้นมันก็สังเกตเห็นประกายสายฟ้าสีเงินที่รายล้อมร่างของหลินเทียนเอาไว้ทำให้ร่างกายของมันได้แต่สั่นสะท้านอย่างไม่หยุดหย่อน
“นี่มัน ?! ”
ดวงตาของมันแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อและได้แต่จับจ้องไปทางหลินเทียนอย่างไม่วางตา
หลินเทียนที่นำเหลาเหลาหลบการโจมตีนี้ไปไม่กล้าที่จะอยู่ต่อพร้อมทั้งเร่งความเร็วของเขาขึ้นไปอีก
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ทักษะทั้งสองผสานเข้าด้วยกันทำให้ความเร็วของเขาทวีคูณมากขึ้นไปอีก
“หยุดก่อนเจ้ามนุษย์ ! ”
น้ำเสียงนี้ถูกส่งออกมาจากอสรพิษตัวนี้ขณะที่มันพุ่งออกมาขวางร่างของหลินเทียนเอาไว้พร้อมทั้งใช้พลังอสูรปิดกั้นพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้
“ตาย ตาย ! ตายแน่ๆ ! ข้าบอกแล้วว่าที่นี่มันเป็นดินแดนปีศาจชัดๆ ! ”
เหลาเหลาอยากจะร้องไห้ออกมา
หลินเทียนเองก็รู้สึกขนหัวลุกไปไม่น้อยเช่นกัน เขาเสียดายอย่างมากที่ไม่ได้ไปจากที่นี่หลังจากที่ได้รับทักษะล้ำค่ามาทำให้ต้องมาพบกับอสูรร้ายตัวนี้อีกครั้ง …….นั่นน่ะอสูรเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานแล้วจะให้เขาต่อต้านได้อย่างไรกัน ?!
“เจ้ามนุษย์ เจ้าได้รับมรดกของเทพฟาง ?! ”
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่อสรพิษร้ายจับจ้องอยู่ที่ร่างของเขา
ณ ตอนนี้แววตาของมันไม่ได้แฝงไปด้วยความเย็นยะเยือกอีกต่อไปแต่กลับอัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจ
หลินเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเขาอีกต่อไปแถมยังให้ความรู้สึกเสมือนกำลังคาดหวังบางอย่าง
เขาได้นิ่งไปก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ข้าไม่รู้ว่าเทพฟางที่เจ้าว่าคืออะไรแต่ข้าได้รับทักษะควบคุมสายฟ้าที่แข็งแกร่งเมื่อไม่นานมานี้ ”
“ใช่แล้ว เป็นมรดกของเทพในตำนานผู้นั้น ! เจ้า…ได้รับมันมาจริงๆ ! ประกายแสงสายฟ้าของเจ้ามันเป็นแบบเดียวกันกับที่เทพฟางทิ้งเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าและคนอื่นๆออกไปจากที่นี่ ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้นถึงขีดสุดแม้ว่ามันจะเป็นอสูรที่มีชีวิตอยู่มาเนิ่นนานทว่าในตอนนี้กลับตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว
สีหน้าของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปอีกครั้งพร้อมทั้งหันมองไปทางมันแล้วพูดว่า
“มีพลังที่มองไม่เห็นปิดกั้นไม่ให้พวกเจ้าออกไปจากดินแดนแห่งนี้ ? ”
มันทำให้เขาระลึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของเหลาเหลาที่ว่าเป็นเพราะเหตุผลบางอย่างทำให้อสูรตัวนี้ไม่สามารถไล่ตามนางออกไปจากสวนแห่งนี้ได้แต่ที่แท้มันคือข่ายอาคมสายฟ้า ?
“ใช่แล้ว มันเป็นข่ายอาคมที่มีมาเนิ่นนานซึ่งทุกชีวิตที่เกิดและเติบโตขึ้นที่นี่จะได้รับผลกระทบนี้ทำให้ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ”
อีกฝ่ายได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพลางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังว่า
“เจ้ามนุษย์ได้โปรดช่วยข้าออกไปทีเถอะ ! มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยข้าได้ ! ”